ของมันต้องมีสำหรับคนจัดโต๊ะคอม ปลั๊กรางไฟแบบมีกล่องเก็บสายในตัว LDNIO SC5309 Management Power Strip Box

สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดใจอย่างนึงสำหรับคนสายจัดโต๊ะคอมก็คือ พวกสายไฟที่รกรุงรังนั่นแหละครับ แต่ด้วยความที่มันเป็นโต๊ะคอมไง มีทั้งคอมพิวเตอร์ จอคอมพิวเตอร์ โคมไฟตั้งโต๊ะ ไหนจะที่ชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตอีก มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีสิ่งที่เรียกว่าปลั๊กรางไฟ เพื่อเพิ่มจำนวนเต้ารับสำหรับเสียบปลั๊กอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย และที่ตามมาก็คือสายไฟยั้วเยี้ย จัดเก็บยุ่งยาก หลายคนใช้วิธีเดินเก็บสายตามขอบโต๊ะหรือใต้โต๊ะ แต่หากมีข้อจำกัดทำให้ต้องวางปลั๊กรางไฟอยู่บนโต๊ะล่ะ จะทำยังไงดี? ลองปลั๊กรางไฟแบบมีกล่องเก็บสายในตัว LDNIO SC5309 Management Power Strip Box นี่ดูดีไหม?

ภายในกล่องของ LDNIO SC5309 Management Power Strip Box ตัวนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ ก็มีตัวกล่องเก็บสายไฟพร้อมปลั๊กรางไฟเท่านั้นแหละ ใครที่ไปค้นๆ ดูจะเห็นว่ามันมี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่นไม่มีที่ชาร์จไร้สาย ราคา 379 บาท ที่ผมซื้อมา อีกรุ่นนึงก็คือรุ่นมีที่ชาร์จไร้สาย ราคา 709 บาท ตัวนี้จะชาร์จไร้สายได้สูงสุด 15 วัตต์

ตัวกล้องจะมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขอบมนๆ ดูสวย ทำจากวัสดุเป็นพลาสติก ABS น้ำหนักเบาดี สัดส่วนก็ กว้าง×ยาว×สูง คือ 15×30×15 เซ็นติเมตร ไม่ได้กินพื้นที่บนโต๊ะมากมายนัก แต่ใครที่จะซื้อไปใช้ รู้สัดส่วนเอาไว้หน่อยก็ดี จะได้กะถูกว่าจะเอาไปวางแถวไหน เจ้านี่จะมีปลั๊กรางไฟที่ออกแบบเป็นรูปตัว U ฐานกว้าง มีช่องเสียบปลั๊กแบบ Universal มาให้ 5 ช่อง ออกแบบมาป้องกันเด็กเอานิ้วแหย่ด้วย พร้อมพอร์ต USB ที่รองรับ Quick Charge 3.0 จ่ายไฟสูงสุด 15.5 วัตต์ มาให้ด้วย ตัวสายไฟมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 มิลลิเมตร ไม่ได้ลองตัดสายไฟดูนะ เพราะกะใช้เนาะ ไม่ได้กะแงะรีวิวให้ดู ไม่มีใครสนับสนุนค่าใช้จ่ายงิ เขาบอกว่ามีความยาวสายไฟ 2 ขนาดให้เลือก คือ 2 เมตร กับ 5 เมตร แต่ผมค้นหาอันที่เป็น 5 เมตรไม่เจอ แต่ 2 เมตรก็เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของผมแล้วล่ะ

ถ้าเรายึดเอาตัวกล่อง LDNIP SC5309 Management Power Strip Box ที่มีสกรีนยี่ห้อเป็นด้านหน้า ด้านขวาของตัวกล่องจะมีช่องที่เปิดเอาไว้ให้ร้อยสายไฟออกมา พร้อมกับสวิตช์เปิดปิดรางไฟ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนเบรกเกอร์สำหรับตัดไฟเวลาไฟเกินด้วยในตัว ส่วนด้านขวาของตัวกล่องก็จะมีช่องเปิดให้ร้อยสายไฟออกมาได้เช่นกัน ปลั๊กใดๆ ที่เสียบกับรางไฟก็ร้อยสายออกมาได้สองทางนี้แหละ

ด้านใต้ของตัวกล่อง มีการเจาะเป็นช่องๆ เอาไว้ให้ช่วยระบายอากาศได้ด้วย เพราะเวลาเอาพวกปลั๊กต่างๆ ไปเสียบไว้ในนี้ แน่นอนว่ามันอบอ้าวแหงๆ โดยเฉพาะหากใช้กับอุปกรณ์ที่มีอะแดปเตอร์ที่กินไฟเยอะๆ เช่นอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่อาจจะจ่ายไฟสูงระดับ 250 วัตต์ แต่ตัวปลั๊กโดยรวมอะ มันรองรับกำลังไฟได้สูงสุด 2,500 วัตต์ นะ ซึ่งผมมองว่าใช้งานทั่วไปได้สบายๆ เพราะด้วยดีไซน์มันก็ไม่เหมาะเอาไปใช้กับพวก เตาอบ เตาย่างไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า หรือเตารีดแหละ ใช้กับโต๊ะคอมหรือชั้นวางทีวีคือดูดีสุด และอุปกรณ์พวกนี้กินไฟรวมๆ แล้วไม่ถึง 1,000 วัตต์

ตามสเปก ปลั๊กรางไฟตัวนี้ให้พอร์ต USB มา 3 พอร์ต ทุกพอร์ตรองรับ Quick Charge 3.0 ด้วย แต่ผมลองวัดดูด้วยอุปกรณ์วัดแล้ว พบว่า มันจ่ายไฟได้แถวๆ 5V 2A ครับ ไม่ถึงดีด้วย มันได้ 4.85V 1.87A ประมาณนั้น ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะผมเสียบ USB ของลำโพง Creative Pebble Plus เอาไว้อยู่ (แต่ปิดลำโพงนะ) เลยทำให้กระแสไฟตกไหมหว่า (คือมันอาจจะฉลาดมากขนาดที่ว่า เสียบสองพอร์ตพร้อมกัน ก็ตัดการจ่ายกระแสไฟลงเลย) แต่พอผมถอดสาย USB ออก มันก็ยังได้แรงดันไฟและกระแสไฟเท่าเดิมนี่แหละ ผมก็ เอ๊ะ ว่า เป็นเพราะสาย USB-A to USB-C ที่ใช้หรือเปล่า (แต่สายที่ผมใช้ มันรองรับการจ่ายกระแสไฟได้ระดับ 3.2A เลยนะ) ผมก็ลองไปเสียบกับอะแดปเตอร์ไฟอีกอัน ที่เป็น Quick Charge 3.0 ดู ปรากฏว่า มันก็วิ่งได้ 9V 2A (18 วัตต์) สบายๆ นะ เลยได้ข้อสรุปว่า พอร์ต USB ที่ให้มา มันไม่ได้ตามสเปกครับ เต็มที่ก็จ่ายไฟได้ 10 วัตต์ อะ แนะนำว่าไม่เอาไว้ใช้เสียบชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเหอะ แต่เอาไว้จ่ายไฟให้พวก โคมไฟ LED ไฟแขวนจอ หรือ ลำโพงที่ต้องการไฟ USB แบบผมก็โอเคอยู่ ส่วนใครจะชาร์จสมาร์ทโฟน แนะนำให้หาอะแดปเตอร์มาเสียบต่างหากดีกว่า มีรูปลั๊กไฟตั้ง 5 รู กลัวอะไร

อัปเดตเพิ่มเติม: หลังจากใช้งานได้ดีมาพักใหญ่ๆ มากๆ หลังๆ ผมพบว่าลำโพง Creative Pebble Plus นี่ ตัว Subwoofer มันมีปัญหาเสียงลั่นเป็นระยะๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นผลมาจาก Noise ที่มาจากพอร์ต Audio combo jack ที่เสียบกับโน้ตบุ๊ก แต่พอลองไม่เสียบอะไรใดๆ แต่อาการเสียงลั่นก็ยังมีอยู่ ผมก็เลยคิดว่างานนี้ต้องมาจากพอร์ต USB แล้วแหละ แบบว่าจ่ายไฟมาไม่ Clean แน่ๆ ลองเอาไปเสียบกับอะแดปเตอร์อีกตัวแทน ปัญหาหายไปเลยจ้า จบ… ไม่แนะนำให้เสียบอุปกรณ์ใดๆ กับพอร์ต USB ของปลั๊กนะครับ มีไว้ประดับพอแหละ แต่อื่นๆ ยังทำงานได้ดีตามปกติ

พูดถึงรูปลั๊กไฟ มาซูมดูกันชัดๆ ครับ ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้แงะรางไฟมันออกมาดูข้างในนะ ฉะนั้นผมก็ไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าอุปกรณ์ด้านในมันทำมาดีแค่ไหน ใครอยากรู้ ขอตังค์สนับสนุนหน่อย เดี๋ยวซื้อมาอีกตัวแงะให้ดู 🤣🤣 อันนี้ซื้อมาใช้อะ จะลงทุนแงะก็คงจะเกินไปเน้อ แต่ดูจากด้านนอก ก็ไม่ได้ดูแย่ ตัวปลั๊กมีการออกแบบป้องกันไม่ให้เด็กเอานิ้วแหย่ลงไป มีขาสายดินเรียบร้อย ตัวสายไฟของรางไฟนี่ก็มีหัวปลั๊กแบบขากลมตามมาตรฐาน มอก. แต่ตัวปลั๊กรางไฟไม่ได้มีการรับรองมาตรฐาน มอก. นะครับ เพราะรูปลั๊กไฟมันเป็นแบบ Universal ไง ซึ่งดีไซน์แบบนี้ ที่เราต้องระวังอย่างนึงคือ เวลาเสียบพวกปลั๊กหัวกลม มันอาจจะหลวมๆ ได้ในบางกรณี และการถอดปลั๊กเข้าๆ ออกๆ บ่อยๆ ก็อาจจะทำให้เต้ารับมันหลวมได้ แต่ของผม ไม่น่ามีปัญหา เพราะผมใช้ปลั๊กหัวแบนเป็นหลัก (พวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก กับอะแดปเตอร์ชาร์จพวกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต) และไม่ได้กะจะถอดออก

แต่ผมลองถอดๆ เสียบ ปลั๊กต่างๆ ดู ทั้งแบบหัวกลม หัวแบน มันก็ยังดูแน่นหนาดีอยู่ แต่ต้องบอกว่าในการใช้งานของผมจริงๆ อะ ผมเสียบแค่ 3 รูนะ จากรูปด้านบน ซ้ายไปขวาก็ อะแดปเตอร์ Quick Charge 3.0 เอาไว้ชาร์จสมาร์ทโฟน อะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก 65 วัตต์ (ผมใช้ของ HUAWEI แต่โน้ตบุ๊กผมอะ ASUS ZenBook 14 Duo UX482 นะ 🤣🤣 โน้ตบุ๊ก HUAWEI ผมไว้ใช้บนห้องนอน) และสุดท้ายคืออะแดปเตอร์ไฟของโคมไฟตั้งโต๊ะ Xiaomi Mijia LED Desk Lamp 1S ครับ แต่ในอนาคต อาจจะเพิ่มอะแดปเตอร์มาอีกอัน เพื่อเอาไว้ชาร์จ iPhone ด้วย (Quick Charge 3.0 เอาไว้ชาร์จ Samsung Galaxy Z Fold 2)

เอามาใช้งานจริง ก็ต้องบอกว่ามันโอเคในระดับนึงครับ คือ ใช้ได้ตามที่คาดเอาไว้ แต่มันก็มีข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ที่อยากสรุปทิ้งท้ายไว้ให้แบบนี้

⚠️ ตัวปลั๊กไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. ฉะนั้น ถ้าจะซื้อมาใช้ ก็ต้องมั่นใจว่าเราโอเคกับแบรนด์นี้นะ เพราะไม่มีใครมายืนยันได้ว่า คุณภาพการประกอบ มาตรฐานของสายไฟ มันได้ตามที่เขาอ้างไหม ให้คิดง่ายๆ ว่าขนาดความสามารถในการจ่ายกระแสไฟของพอร์ต USB ที่เขาว่า 5V 3.1A มันยังทำไม่ได้ตามสเปกเลย และผมขอย้ำว่าไม่แนะนำให้เสียบอุปกรณ์ใดๆ กับพอร์ต USB ที่ปลั๊กตัวนี้ให้มานะครับ

⚠️ เหมาะสำหรับเสียบอุปกรณ์ที่มีอุปกรณ์แปลงไฟ (อะแดปเตอร์) อยู่ภายในตัวอุปกรณ์เอง เช่น พวกทีวี หรือ จอคอมพิวเตอร์บางรุ่น หรือไม่งั้นก็ต้องเป็นพวกที่มีอะแดปเตอร์ขนาดเล็กที่เป็นหัวปลั๊กในตัว เพราะพื้นที่ในกล่องเก็บสายไฟมันค่อนข้างแคบ ถ้าเจอพวกอะแดปเตอร์เกมมิ่งโน้ตบุ๊กใหญ่ๆ มันจะเกะกะมาก

⚠️ อุปกรณ์ใดที่ถอดปลั๊กเคลื่อนย้ายบ่อย อย่างใช้รางไฟประเภทนี้ครับ มันไม่ได้ออกแบบมาแบบนั้น

⚠️ รูปลั๊กไฟแบบ Universal อาจจะดูสะดวก เพราะใช้กับอุปกรณ์อะไรก็ จะหัวปลั๊กแบบไหนก็ใช้ได้หมด แต่อย่างที่บอกว่ารูปลั๊กแบบนี้มันจะหลวมง่าย ให้ระวังเรื่องปลั๊กหลวม เกิดอาการสปาร์ก หรือ ช็อต ด้วยละกัน หากเสียบปลั๊กไม่แน่น

⚠️ ในกลุ่มจัดโต๊ะคอมมีคนคอมเมนต์ว่าเคยใช้ของ LDNIO แต่เป็นรุ่น SC3604 (ซึ่งผมเคยคิดจะซื้อมาใช้ แต่เพราะดีไซน์ไม่ตรงความต้องการ แถมพอร์ต USB ที่ให้มา 6 พอร์ต ก็จ่ายไฟได้กระจึ๋งนึง) เขาพบว่ามีปัญหา ทำอุปกรณ์เขาพังไป 2 หน เข็ดไปเลย ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นแจ็กพ็อตของเขาก็ได้ เพราะเพื่อนๆ ผม และคนในกลุ่มคนอื่นๆ ก็ใช้รุ่น SC5309 ที่ผมซื้อมานี่ ก็ไม่เจอปัญหาอะไร บอกว่าใช้ดีด้วยซ้ำ อันนี้ฟังหูไว้หู

บทสรุปการรีวิวปลั๊กรางไฟพร้อมที่เก็บสาย LDNIO SC5309 Management Power Strip Box

ในแง่ของการดีไซน์ การใช้งานตามวัตถุประสงค์การซื้อของผม ที่ต้องการปลั๊กรางไฟ มีหลายๆ รูหน่อย เจ้านี่ก็มีให้ 5 รู สายยาว 2 เมตร เพียงพอต่อการใช้งาน แถมมีที่เก็บสายในตัว ในราคา 379 บาท ซึ่งถ้าเกิดผมไปซื้อกล่องเก็บสายเฉยๆ ราคาก็เป็นร้อยแล้ว (ของ ORICO ก็ราคาเฉียดๆ 3 ร้อยปลายๆ เช่นกัน) ที่เขียนบล็อกตอนนี้อยู่ ก็ใช้อยู่เลยครับ หมวดห่วงเรื่องสายไปเยอะเลย ตอนนี้เหลือสายที่น่ารำคาญอยู่ชุดเดียว คือ สายลำโพง Creative Pebble Plus ที่มันเป็นสายแบบติดกับตัวลำโพง ถอดออกไม่ได้ เลยไม่รู้จะเก็บสายยังไงเลย

แต่มองในแง่ของประสิทธิภาพตามสเปก เนื่องจากไม่อยากแงะเลยตอบไม่ได้ว่าเป็นยังไง แต่จากที่วัดเรื่องการจ่ายไฟของพอร์ต USB ดูแล้ว มันก็ไม่ได้ตามสเปกอะ อันนี้ก็ควรตระหนักเอาไว้ด้วย ผมไม่แนะนำให้เสียบอุปกรณ์ใดๆ กับพอร์ต USB ที่มาให้กับปลั๊กนะครับ

สุดท้าย ใครอยากจะซื้อกดลิงก์ด้านล่างได้ ผมแปะให้สองรุ่นเลย