ผมไม่ใช่คนที่เดินทางบ่อย แต่ก็มีเที่ยวต่างประเทศบ้างปีละหนสองหน แล้วแต่โอกาสและเงินจะอำนวย (อย่างหลังเป็นปัจจัยสำคัญกว่า 🤣🤣) แต่ไม่ว่าจะเดินทางบ่อยหรือไม่บ่อยแค่ไหน แกดเจ็ตที่เรียกว่า Trave adapter หรือ อะแดปเตอร์แปลงหัวปลั๊กสำหรับใช้ตอนท่องเที่ยว เพราะว่าหัวปลั๊กของแต่ละประเทศมันไม่เหมือน แต่เดี๋ยวนี้คนเราก็มีอุปกรณ์ที่ต้องชาร์จแบตเตอรี่เยอะซะเหลือเกิน ทำให้ต้องพกอะแดปเตอร์โน่นนี่พะรุงพะรังไปหมด เจ้า Lencent GaN III 65W Universal Travel Adapter นี่ก็เลยน่าจะเป็นตัวปิดเกม พกตัวเดียวเอาอยู่ละนะ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
อะแดปเตอร์ Lencent GaN III 65W Universal Travel Adapter ที่รีวิวงวดนี้คือซื้อมาใช้เองครับ เพราะได้ใช้แน่นอน และดูๆ แล้ว ก็น่าจะอำนวยความสะดวกได้ไม่น้อยเลย
เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้จักอิยี่ห้อนี้หรอกนะครับ Lencent อะไรกัน แต่จากการไถฟีด Lazada เพื่อหาอุปกรณ์ประเภทนี้ ผมสังเกตว่า มันมีอะแดปเตอร์ดีไซน์แบบนี้ สเปกประมาณนี้ขายกันอยู่หลายยี่ห้อ รวมถึง Anker ด้วย แต่นั่นมันราคาพันต้นๆ แถมจ่ายไฟได้แค่ 30 วัตต์เอง ผมก็เลยตัดสินใจเลือกซื้อ Lencent นี่มาแหละ พิจารณาจากราคาและสเปกแล้ว ไม่น่าจะหลอกอะ แถมเป็น LazMall ด้วย แค่ว่ามันส่งจากต่างประเทศ ต้องรอขอ 7-10 วันครับ
กล่องผลิตภัณฑ์ดูธรรมดาๆ ครับ ตอนแรกนึกว่ากล่องเครื่องสำอางค์ ขนาดมันใช่ 🤣🤣 มันมีระบุยี่ห้อ มีระบุสเปกเอาไว้ ไม่ได้ดูพรีเมียมอะไรมาก ราคาแค่แปดร้อยปลายๆ อย่าคาดหวังอะไรมาก แต่ตอนแกะกล่องออกมาคือรู้สึกว่ามันให้มาเยอะกว่าที่คิดครับ คือ นอกจากจะมีตัว Lencent GaN III 65W Universal Travel Adapter กับคู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษแล้ว มันยังมีกระเป๋าสำหรับใส่ตัวอะแดปเตอร์มาให้ด้วย
อะแดปเตอร์ Lencent GaN III 65W Universal Travel Adapter เป็นดีไซน์แบบที่รองรับปลั๊กแบบ Universal ครับ ตอนผมอ่านคู่มือของมัน มันบอกว่าไม่รองรับ Type D, H, K, M และ O ซึ่งอิ Type O เนี่ย ก็คือหัวปลั๊กมาตรฐาน มอก. 166-2549 ที่เขาว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลก 🤣🤣 แต่ผมก็แปลกใจเว้ย เพราะดูจากรูปผลิตภัณฑ์ตอนเลือกซื้ออะ ตัวรูปลั๊กมันน่าจะรองรับ Type O อยู่นะ ซึ่งตอนผมได้ของมาแล้ว ผมก็ลองเอาปลั๊ก 3 ขา หัวกลม Type O ของไทยเสียบดู มันก็ใช้ได้อยู่นะ ด้านขวาของตัวอะแดปเตอร์ มีพอร์ต USB-C1 อยู่ครับ พอร์ตนี้รองรับ Power Delivery (PD) 65 วัตต์ตามสเปก
ส่วนการเปลี่ยนหัวปลั๊กเป็นแบบของประเทศต่างๆ ก็จะใช้วิธีการเลื่อนตัวเลื่อนครับ มันจะมีมาตรฐาน US/AUS UK และ EU ครับ ซึ่งโดยรวมก็เรียกว่าครอบคลุมเกือบทุกประเทศแล้ว (ถ้าจะเอาเสียบปลั๊กประเทศไทย ให้ใช้มาตรฐาน EU จะใช้ร่วมกันได้ แต่ปลั๊กเสียบแล้วจะหลวมๆ ครับ)
ในกรณีที่ไปประเทศจีน ที่เขาใช้ขาแบน แต่เฉียงๆ ก็มีดีไซน์ให้ใช้กับมาตรฐาน US ครับ แล้วบิดขาแบนให้เฉียงได้ เพื่อใช้ในประเทศจีน ดูวิดีโอด้านล่างได้ครับ หลายๆ ยี่ห้อเขาก็ใช้ดีไซน์แบบนี้แหละ
ด้วยความที่เป็นอะแดปเตอร์แปลงหัวปลั๊ก และตัวมันเองก็ยังเป็นอะแดปเตอร์แบบ GaN III 65 วัตต์อีก ก็ต้องมีการป้องกันประมาณนึงครับ มันมีฟิวส์อยู่ เป็นขนาด 10 แอมป์ ก็ตามสเปกของอะแดปเตอร์ตัวนี้เลย ที่บอกว่ารองรับแรงดันไฟ 100-250 โวลต์ 50-60Hz 10A (กำลังไฟสูงสุดที่รองรับ 2,500 วัตต์) จุดสำคัญที่ต้องระวังคือ ดูจากขนาดของตัวอะแดปเตอร์แล้ว ไม่น่าจะเหมาะกับการเอาไปใช้จ่ายไฟเต็มเหนี่ยว 2,500 วัตต์แบบยิงยาวเป็นระยะเวลานานๆ นะครับ
แต่ถ้าเรามองว่านี่คืออะแดปเตอร์สำหรับใช้ตอนเดินทาง ที่ปกติเราก็เอาไว้ใช้ชาร์จพวกโน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต พาวเวอร์แบงก์ อะไรพวกนี้ ก็บอกได้เลยว่าเหลือพอครับ พวกนี้ใช้กำลังไฟรวมๆ กัน ยังไม่ถึง 500 วัตต์เลย
ตัวอะแดปเตอร์ยังมีพอร์ตให้อีก 4 พอร์ต คือ USB-A 2 พอร์ต และ USB-C อีก 2 พอร์ตแต่อย่างเพิ่งคิดว่าเราจะใช้งานทุกพอร์ตพร้อมๆ กันได้เต็มเหนี่ยวนะครับ สเปกของอะแดปเตอร์ตัวนี้คือ จ่ายไฟทุกพอร์ตรวมกันได้ไม่เกิน 65 วัตต์นะครับ นั่นหมายความว่า
✅ ถ้าใช้พอร์ต USB-C1 พอร์ตเดียว จ่ายไฟชาร์จโน้ตบุ๊กเต็ม 65 วัตต์ มันจ่ายไฟได้ 5V3A (15 วัตต์) / 9V3A (27 วัตต์) / 12V3A (36 วัตต์) / 15V3A (45 วัตต์) / 20V3.25A (65 วัตต์) ตามลำดับ
✅ ถ้าเสียบพอร์ต USB-C2 และ USB-C3 2 พอร์ตรวมกันจ่ายไฟได้ 5V3A (15 วัตต์)
✅ ถ้าเสียบพอร์ต USB-A1 และ USB-A2 2 พอร์ตรวมกันจ่ายไฟได้สูงสุด 5V2.4A (12 วัตต์)
✅ ถ้าเกิดเราเสียบชาร์จพอร์ต USB-C1 ไปพร้อมๆ กับพอร์ต USB-C2/C3 USB-A1/A2 ด้วย พอร์ต USB-C1 จะเหลือจ่ายไฟได้เต็มที่คือ 5V3A (15 วัตต์) / 15V3A (45 วัตต์) / 20V 2.25A (45 วัตต์) เท่านั้น ส่วน USB-C2/C3 ก็จ่ายได้สูงสุดรวม 5V3A (15 วัตต์) และ USB-A1/A2 ก็จ่ายได้สูงสุดรวมกัน 5V2.4A (12 วัตต์)
พิจารณาจากสเปกแล้ว คือถ้าจะใช้งานจริงๆ คงต้องบอกว่าให้เลือกระหว่าง
✅ ใช้ชาร์จโน้ตบุ๊กอย่างเดียว เสียบแค่พอร์ต USB-C1 จ่ายไฟแบบ PD 65 วัตต์ ใช้งานไปเสียบชาร์จไปได้เลย
✅ ใช้ชาร์จโน้ตบุ๊กแบบปิดเครื่อง ไฟชาร์จแค่ 45 วัตต์จากพอร์ต USB-C1 ก็พอ แล้วเอา USB-C2 หรือ C3 ไปชาร์จสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง ส่วนพอร์ต USB-A1 หรือ A2 ก็ไปชาร์จอะไรอีกอย่าง ก็พอไหว ได้ 15 วัตต์ และ 12 วัตต์ ตามลำดับ เหมาะกับการชาร์จตอนกลางคืน ตื่นมาแบตเตอรี่เต็ม
ลองเอามาชาร์จโน้ตบุ๊กดูครับ โน้ตบุ๊ก Lenovo T14S ตามสเปกคือรองรับไฟ 20 โวลต์ 2.25 แอมป์ (45 วัตต์) หรือ 3.25 แอมป์ (65 วัตต์) ครับ ผลคือ เวลาชาร์จจริงด้วยพอร์ต USB-C1 เนี่ย ได้ไฟประมาณ 20 โวลต์ 2.52 แอมป์ (ประมาณ 50 วัตต์) ครับ ก็ไม่ได้ 65 วัตต์ ตามสเปกนะ
ทีนี้ลองไม่ชาร์จโน้ตบุ๊ก แล้วมาดูว่า ถ้าเสียบชาร์จ iPhone 14 Pro บนพอร์ต USB-A (ควรชาร์จได้ 12 วัตต์) กับ Samsung Galaxy Z Fold 5 (ควรชาร์จได้ 15 วัตต์) พร้อมๆ กัน จะเป็นยังไงบ้าง
ผลออกมาก็คือ ทั้งสองพอร์ตชาร์จด้วยกำลังไฟประมาณ 5 วัตต์ถ้วนๆ ครับ สรุปคือ แต่ละพอร์ต น่าจะจ่ายไฟได้แบบ 5V1A เป็นหลักเลยอะ ตอนแรกผมเข้าใจว่าสองพอร์ตรวมกัน จ่ายไฟได้ 12 วัตต์ และ 15 วัตต์ ตามลำดับ หากเสียบพอร์ตเดียวก็จะได้กำลังไฟไปเต็ม แต่ถ้าเสียบสองพอร์ตก็จะหารกำลังไฟกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มันจำกัดกำลังไฟของแต่ละพอร์ตแบบหารครึ่งเลย ประมาณนั้น
สุดท้ายคือ ลองชาร์จแบบสมาร์ทโฟนสองเครื่อง (USB-A กับ USB-C อย่างละพอร์ต) แล้วก็ชาร์จโน้ตบุ๊กไปพร้อมๆ กันด้วย ผลก็ออกมาแบบนี้ครับ คือ ตัวพอร์ต USB-C1 ที่เป็น PD 65 วัตต์ ที่ว่าตามสเปกจะจ่ายไฟได้ 45 วัตต์ หากมีการใช้พอร์ตอื่นๆ คู่ไปด้วย จ่ายไฟได้จริง 19.93V 1.9A หรือประมาณ 40 วัตต์ เท่านั้นเองนะครับ
แต่ความน่าสนใจคือ ผมสังเกตว่าทั้งแรงดันไฟและกระแสไฟของพอร์ต USB-A และ USB-C ที่กำลังชาร์จสมาร์ทโฟนอยู่ มันดันพุ่งขึ้นเว้ยเฮ้ย พอร์ต USB-A กลายเป็นจ่ายไฟ 5.1V 1.66A (ประมาณ 8.5 วัตต์) ส่วนพอร์ต USB-C จ่ายไฟ 5.16V 1.48A (ประมาณ 7.64 วัตต์) แรงกว่าตอนไม่ได้เสียบชาร์จโน้ตบุ๊กซะงั้นครับ
งงสิ เพราะในความเข้าใจผมอะ ถ้าเกิดมีโน้ตบุ๊กมาชาร์จด้วย มันควรจะแย่งกระแสไฟไปซะมากกว่า ทำให้กำลังไฟในการชาร์จตกลง แต่นี่กลายเป็นว่า พอชาร์จแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กไปด้วย มันกลับทำให้กำลังไฟในการชาร์จเพิ่มขึ้นซะงั้นแน่ะ
ผลจากการทดสอบจริงแล้ว ผมว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ครับ
🔵 ทุกพอร์ตที่มี จ่ายไฟได้ต่ำกว่าสเปกอยู่พอสมควร เช่น พอร์ต PD 65 วัตต์ จ่ายไฟได้จริงๆ ประมาณ 60 วัตต์ และในกรณีที่ใช้ชาร์จไปพร้อมๆ กับพอร์ต USB อื่น มันก็ได้แค่ 40 วัตต์ จากสเปก 45 วัตต์ แต่ก็เรียกว่าไม่ได้ส่งผลที่แตกต่างไปเวอร์วังมาก (กำลังไฟหายไปราวๆ 10%)
🔵 พอร์ต USB-A กับ USB-C อีกอย่างละสองพอร์ตที่เหลือนี่ตะหาก ที่จ่ายไฟได้ต่ำกว่าสเปกอยู่อักโข เรียกว่าหายไปราวๆ มากกว่า 50% เลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าเกิดไม่ได้ใช้งานพอร์ต USB-C1 ที่เป็น PD 65 วัตต์ แต่ที่ฮามากกว่าคือ พอชาร์จอุปกรณ์อื่นด้วยพอร์ต USB-C1 แล้ว กำลังไฟของพอร์ต USB-A และ USB-C พอร์ตอื่น ดันสูงขึ้น แต่ก็ยังเรียกว่าต่ำกว่าสเปกอยู่ 30% – 50% อยู่ดี
ลองใช้ชาร์จแบตเตอรี่แบบเต็มเหนี่ยว ทิ้งไว้พักใหญ่ๆ ในห้องที่เปิดแอร์ตามปกติ พบว่าอะแดปเตอร์ไม่ได้ร้อนอะไรมากมาย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ
บทสรุปการรีวิวอะแดปเตอร์ Lencent GaN III 65W Universal Travel Adapter
ถ้ามองว่าเป็นอะแดปเตอร์แบบ GaN III 65 วัตต์ ในราคาประมาณ 900 บาท ที่เพิ่มฟีเจอร์คือการเป็น Travel adapter ในตัวด้วย ก็ถือว่าไม่เลวนะครับ คือ แค่อะแดปเตอร์ GaN III 65 วัตต์ เนี่ย ก็ประมาณ 7-8 ร้อยบาทแล้วอะ เพิ่มอีกนิดเดียว ได้ Travel adapter ไปด้วยถือว่าคุ้ม แต่ที่เพิ่มเติมมาคือ เจ้านี่มีพอร์ต USB-A และ USB-C ให้ชาร์จอุปกรณ์อื่นได้ด้วยอีก แต่ข้อจำกัดคือ จ่ายไฟได้โคตรต่ำ ไม่ตรงปก 🤣🤣 ก็ต้องทำใจนะ ของราคาประหยัดก็แบบนี้ แต่ที่ฮาคือ พอใช้ชาร์จพร้อมกับโน้ตบุ๊ก กำลังไฟแรงขึ้นมาเฉยนี่สิ
โดยส่วนตัวผม มองในแง่ว่าเอามาเป็นอะแดปเตอร์ตัวเดียว ใช้ชาร์จโน้ตบุ๊กไปเลย แล้วใช้ช่วยแปลงหัวปลั๊กของรางไฟ เพื่อใช้เสียบอุปกรณ์อื่นเพิ่ม ก็ไม่เลวอยู่นะ ราคาไม่แพงด้วย หรือถ้าใครคิดว่าโอเคกับการที่มันจ่ายไฟได้ค่อนข้างน้อย ยกเว้นพอร์ต USB-C1 ที่เป็น PD 65 วัตต์ เพราะอุปกรณ์ที่ต้องชาร์จไม่ได้อยะ ก็จะกลายเป็นว่าพกเจ้านี่ตัวเดียวร่วมกับสายชาร์จคือจบนะ ก็ดีอยู่
