ถ้าถามผมว่า คีย์บอร์ดพกพาที่พิมพ์ถนัดมือ แต่ราคาไม่แพง ฟีเจอร์เพียบพร้อม ตัวไหนเวิร์กสุดเท่าที่เคยเจอมา ผมขอยกให้ตัวนี้เลยครับ DAREU EK868 เพราะเป็น Mechanical keyboard แบบ Low profile แบบ 68 ปุ่ม (65%) น้ำหนักแค่ 450 กรัม ไม่หนักมาก งานประกอบดี พิมพ์ถนัดมือมาก สมกับที่เป็น Mechanical keyboard สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 ตัว และสามารถเชื่อมต่อแบบมีสายได้ด้วย แต่ที่เจ๋งสุดคือ มันราคาแค่ 519 บาทเท่านั้นเองครับ (ไม่รวมค่าส่ง)
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
คีย์บอร์ดไร้สายแบบ Mechanical low profile DAREU EK868 ตัวที่รีวิวครั้งนี้ ซื้อมาลองเอง ใช้เองครับ ปัจจุบันเป็น 1 ในอุปกรณ์ที่จะใช้พกเวลาเดินทาง เพราะเอามาใช้คู่กับ Samsung Galaxy Z Fold 5 และแว่น XREAL air แล้ว มันคือครบเครื่องมาก ใช้แทนเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานทั่วๆ ไปไหวอยู่
แกะกล่องออกมา สิ่งที่เราได้ก็จะมีตัวคีย์บอร์ดไร้สาย DAREU EK868 ที่มีฝาครอบพลาสติกแบบบางๆ ครอบเอาไว้ มีคู่มือการใช้งาน และสาย USB-A to USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์มาให้อีกเส้นนึง ยาวประมาณ 180 เซ็นติเมตร แล้วก็มีตัวถอดคีย์แคปมาให้ด้วย เพราะมันคือ Mechanical keyboard อะนะ การเปลี่ยนคีย์แคปได้มันคือสิ่งที่ต้องมี

ตัวคีย์บอร์ด DAREU EK868 เนี่ยเป็นดีไซน์แบบ 68 ปุ่ม หรือมีขนาดราวๆ 65% ของคีย์บอร์ดเต็มรูปแบบ เพราะเขาต้องการความพกพาสะดวก ตัวคีย์บอร์ดทำจากพลาสติก ABS ทำให้มีน้ำหนักเบา 450 กรัม แม้จะมีแบตเตอรี่อยู่ภายในความจุ 2,000mAh คีย์แคปเป็น PBT แบบ Low profile ทุกอย่างดู Minimal สุดๆ ครับ บนตัวคีย์บอร์ด นอกจากแป้นพิมพ์ต่างๆ แล้ว ก็มีแค่ไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อ

ด้านใต้ของตัวคีย์บอร์ด เราจะเห็นแผ่นสติกเกอร์ติดเอาไว้สอนเราว่าจะเปิดโหมด Bluetooth paring ยังไง คือกด Fn + Q ค้างไว้ 3 วิ จนไฟ LED ใต้ปุ่ม Esc มันกระพริบ นอกจากนี้เราก็จะเห็นแผ่นยางกันลื่น 4 จุด แต่มันจะมี 2 จุดที่อยู่ด้านท้ายของคีย์บอร์ด (ฝั่งแป้นที่เป็นตัวเลข 1-9 นั่นแหละ) ที่จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ มันจะสามารถถอดออกมาได้ เพื่อจับตั้ง ทำให้ด้านท้ายของตัวคีย์บอร์ดมันถูกยกสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เอียงและพิมพ์สะดวกขึ้น

ใครนึกไม่ออกว่าแกะยังไง ดูวิดีโอด้านล่างได้ครับ
แต่อันที่ผมซื้อมามันตำหนินิดหน่อย คือ ไอ้ตัวกันลื่นสี่เหลี่ยมเนี่ย ข้างนึงมันดันทำมาไม่ดี สามารถแยกออกเป็นสองชิ้นได้ ทำให้แกะออกมาลำบาก เพราะมันถูกยึดติดไว้ด้วยแม่เหล็กครับ เวลาแกะออกมา ชิ้นนึงหลุดออกมาได้ แต่อีกชิ้นยังโดนแม่เหล็กดูดอยู่ แหม่ ถ้าไม่มีตำหนิตรงนี้นะ เจ้านี่คือเพอร์เฟ็กต์มาก แต่ผมคิดว่าไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกอันหรอก
ด้านท้ายของคีย์บอร์ด จะมีสวิตช์สำหรับเลือกระบบปฏิบัติการที่คีย์บอร์ดเชื่อมต่ออยู่ ก็มีให้เลือก Windows และ macOS และมีสวิตช์สำหรับเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ มี A, 1, 2 และ 3 ครับ โดยที่ A คือโหมดการเชื่อมต่อแบบใช้สาย และ 1-3 คือ การเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ 1-3 นั่นเอง และมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แบบใช้สายก็ได้

เวลาซื้อ เขาจะมีให้เลือก 3 สวิตช์เลย ที่เราคุ้นเคย คือ
🔵 บลูสวิตช์ สำหรับคนที่ชอบเสียงกริ๊กๆ เวลาพิมพ์ เวลาพิมพ์นี่จะรู้สึกได้ว่าปุ่มมันเด้งๆ รับดีมาก
🔴 เรดสวิตช์ สำหรับคนที่ต้องการความเงียบเวลาพิมพ์ แต่เวลาพิมพ์แล้วจะไม่รู้สึกว่าเด้งๆ เท่าไหร่
🟤 บราวน์สวิตช์ จะเหมือนทางสายกลางครับ คือปุ่มมันจะเด้งๆ หน่อยเวลาพิมพ์เหมือนบลูสวิตช์ แต่เสียงจะไม่ดังเท่า แต่ก็จะไม่ถึงกับเงียบกริบเท่ากับเรดสวิตช์
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเราจะสามารถถอดเปลี่ยนคีย์แคปได้ แต่สวิตช์จะเป็นแบบที่บัดกรีติดไปกับแผงวงจรนะครับ ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นอยากได้สวิตช์แบบไหน ก็ต้องเลือกให้ดีล่ะ และใครชอบคีย์บอร์ดแบบผสมสวิตช์นี่ จะทำไม่ได้ครับ

ผมเลือกซื้อแบบบราวน์สวิตช์มาครับ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ผมอยากลองหลายๆ แบบน่ะ ผมมีคีย์บอร์ด Keychron K10J2 ที่เป็นบลูสวิตช์ และ Keychron K4V2 ที่เป็นเรดสวิตช์แล้ว และ Kwumsy K3 ที่ผมได้มาล่าสุด ก็เป็นเยลโลว์สวิตช์ งวดนี้เลยขอแบบนี้ … บ้าบอ คีย์บอร์ด 4 ตัว สวิตช์ไม่เหมือนกันเลย 🤣🤣

คีย์บอร์ด DAREU EK868 นี่ ตัวคีย์แคปเป็นแบบภาษาไทยและอังกฤษ สกรีนตัวอักษรมาค่อนข้างสวยเลย ตัวคีย์แคปเป็นสีขาวซะส่วนใหญ่ มีเฉพาะแค่ปุ่มลูกศรกับปุ่ม Enter ที่เป็นสีฟ้า ตัวปุ่ม Windows key และ Alt นี่ มีการสกรีนไว้ว่าเป็นปุ่ม Opeion และ Command สำหรับคนใช้ macOS ด้วย ทำให้ไม่ต้องมาวุ่นวายหาคีย์แคปเวอร์ชัน macOS มาเปลี่ยนให้วุ่น เหมือนพวก Keychron เหมาะสำหรับคนที่มีคอมพิวเตอร์ทั้ง Windows และ macOS อย่างมาก

ตัวคีย์บอร์ดมีไฟ LED ใต้แป้นด้วย แต่คีย์แคปไม่ใช่แบบไฟลอดนะ ไฟก็จะเป็นสีฟ้าครับ เลือกสีไฟไม่ได้นะ ไม่ใช่ไฟ RGB ด้วย แต่เราสามารถปรับความสว่างของไฟ LED ได้ 4 ระดับ คือ 25% 50% 75% และ 100% หรือปิดไฟ LED เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ก็ได้
โปรไฟล์ของคีย์แคป เป็นแบบ Sculpted profile ครับ คือความสูงของแต่ละแถวไม่เท่ากัน ซึ่งมันมีข้อดีตรงที่ลักษณะของคีย์แคปที่โค้งเว้า มันรับกับอุ้งมือเวลาพิมพ์ได้ดี โดยส่วนตัว ผมชอบโปรไฟล์แบบ Sculpted profile นี่มากกว่า
การใช้งานทำได้ไม่ยาก เชื่อมต่อได้ค่อนข้างไวดี ขนาดของคีย์แคปคือใหญ่ดีตามมาตรฐาน และแม้ว่าคีย์บอร์ดมันจะเป็นแบบ 65% ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าพิมพ์ไม่ถนัดเลย เอาจริงๆ คือ พิมพ์ถนัดดีมากครับ ไอ้ที่เขาตัดๆ ออกไป คือพวกปุ่มที่เราอาจจะไม่ค่อยได้ใช้มากซักเท่าไหร่ เช่น พวก Function key F1-F12 แล้วก็ Numpad อะ แต่พวกปุ่มอย่าง Delete, Insert, Page up, Page down นี่ก็ยังมีอยู่
เท่าที่ผมลองใช้งานมา การใช้งานจะสะดุดอยู่ที่ 2 จุดหลักๆ เท่านั้นเองครับ คือ
1️⃣ ปุ่มเปลี่ยนตัวอักษรที่คนไทยใช้กันบ่อยๆ คือ Grave accent ดันไปอยู่เป็นปุ่มเดียวกับปุ่ม Esc แล้วเวลากดมันต้องกด Fn + Esc ซึ่งไม่สะดวกเท่าไหร่ ปัญหานี้ผมไม่เจอตอนใช้งาน macOS หรือ Android เพราะว่าสองระบบปฏิบัติการนั้น ผมใช้วิธีกด Command + Spacebar หรือ Ctrl + Spacebar ในการเปลี่ยนภาษา อิ Windows นี่แหละ ตัวป่วน เพราะไม่สามารถตั้งปุ่มเปลี่ยนภาษาให้เป็นแบบเดียวกันได้ ทางแก้ที่ดีที่สุดที่ผมคิดได้คือ เปลี่ยนวิธีเปลี่ยนภาษาจาก Grave accent เป็น Ctrl + Shift แทน ยังพอไหว
2️⃣ ปุ่ม Home กับปุ่ม End ไม่มีนะ และปกติถ้าเป็นคีย์บอร์ดอื่นๆ มันจะใช้วิธีกด Fn + ลูกศรซ้าย หรือ ลูกศรขวา เพื่อแทน Home กับ End แต่กับเจ้า DAREU EK868 นี่ไม่มีครับ ทางแก้ก็พอมีนะ คือกด Ctrl + ลูกศรซ้ายหรือขวา จะเป็นการเลื่อนเคอร์เซอร์ทีละ 1 คำแทนครับ มันไม่เร็วเท่ากดปุ่ม Home หรือ End แต่ก็ยังดีน่ะ
แผ่นพลาสติกครอบคีย์บอร์ดที่เขาให้มา อย่าทิ้งนะครับ เอาไว้ใช้ครอบคีย์บอร์ดเวลาจะเก็บ หรือจะพกไปไหนมาไหนก็ได้ ไม่ต้องไปสั่งทำกรอบอะคลีลิกมาครอบ นอกจากนี้มันยังครอบพอดีเป๊ะ น้ำหนักก็เบา พกพาสะดวก ที่เหลือน่าจะเป็นการหาซื้อถุงผ้ามาใส่คีย์บอร์ดก็น่าจะดี
แบตเตอรี่ 2,000mAh นี่อึดพอสมควร ด้วยความที่มันเป็นคีย์บอร์ดแบบพกพา ผมก็ไม่ได้ใช้งานมันนานแบบคีย์บอร์ดทั่วไป เลยไม่ได้มีโอกาสจับเวลาว่ามันใช้งานต่อเนื่องได้นานแค่ไหน แต่เท่าที่ลองดู พกไปใช้งานบ้างเป็นครั้งคราว ก็ไม่ได้ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ นะ ใช้มาทั้งวัน กลับถึงบ้านก็ชาร์จแบตซักหน่อย มันก็โอเคแล้วแหละผมว่า แบตเตอรี่จะได้เต็มๆ เสมอๆ
บทสรุปการรีวิวคีย์บอร์ด DAREU EK868
ดีงามมาก บอกได้แค่นี้เลย มันคุ้มค่ามาก เป็นคีย์บอร์ดไร้สายแบบพกพาที่น้ำหนักไม่มาก ขนาดกะทัดรัด ฟีเจอร์ครบเครื่อง ใช้งานได้ระบบปฏิบัติการได้หลากหลาย ทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS สบายๆ แต่คนใช้ Windows อาจจะหงุดหงิดหน่อยตอนเปลี่ยนภาษาอะนะ อาจจะต้องฝืนตัวเองให้ชินซักนิดนึง ผมลองแล้วพอไหวอยู่ จุดเด่นสุดๆ ของมันคือเรื่องราคาที่น่ารักมาก 519 บาท (มีค่าส่ง 34 บาท แต่ถ้าซื้อตอนมีคูปองฟรีค่าส่งคือดีงาม) ใครสนใจ คลิกลิงก์ที่ปุ่มด้านล่างไปตำได้เลยครับ