วันก่อนได้รีวิวเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 ไปแล้ว ซึ่งเขามีจัดโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 2 อีกสองชิ้นที่เขาแถม อันนึงคือเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V50 ที่ผมเคยรีวิวไปแล้ว และอีกชิ้นก็คือเจ้าเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 ที่จะรีวิวในบล็อกตอนนี้แหละครับ สนนราคาค่าตัวของมันตอนนี้อยู่ที่ 7,900 บาท ถ้าจะไม่ซื้อแพ็ก ซื้อ 1 แถม 2 อะนะ มาดูกันว่ามันดีไหม อย่างไร
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
เครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 ตัวนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อมาจากทางบริษัท วีต้าอินโน จำกัด ให้ยืมเอามาใช้งาน แล้วก็เขียนเป็นรีวิวให้ได้อ่าน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อครับ
แกะกล่องเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 สิ่งที่อยู่ในกล่องเลยก็จะมีตัวเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 ท่อดูดฝุ่น ไส้กรองแบบ HEPA และไส้กรอแบบหยาบ กับถังเก็บฝุ่นครับ ตัวนี้เป็นแบบมีสาย แต่สายปลั๊กยาวมาก ลองวัดแล้วประมาณ 4.8 เมตรเลยทีเดียว (สเปกบอกว่า 5 เมตร) ส่วนตัวท่อดูดฝุ่นนี่ยาวประมาณ 50 เซ็นติเมตร แต่เขาว่ายืดได้ยาวสุด 1.4 เมตร มีแปรงทำความสะอาด แล้วก็มีคู่มือการใช้งานให้อีก 1 เล่ม

แต่การใช้งานนี่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะกับคนที่คุ้นเคยกับพวกเครื่องดูดฝุ่น และเครื่องดูดไรฝุ่นอยู่แล้ว ผมนี่ก็ไม่ได้อ่านคู่มือเลยครับ ก็รู้สึกว่าสามารถถอดและประกอบเจ้าเครื่องดูดฝุ่นนี่เองได้สบายๆ ไม่ยากเย็นอะไร

ดีไซน์ตัวเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 มีความพิเศษกว่าพวกเครื่องดูดไรฝุ่นที่ผมเคยใช้และรีวิวมาอยู่ตรงที่ มันมีท่อดูดฝุ่นนี่แหละครับ ถ้าเราจะใช้งานเพื่อดูดไรฝุ่น เราจะต้องประกอบท่อนี้เชื่อมระหว่างตัวฐานกับถังเก็บฝุ่นก่อนครับ ทำไมต้องยุ่งยากแบบนี้? นั่นก็เพราะเจ้านี่มันมีโหมด ท่อดูดฝุ่นด้วย เผื่อใครต้องการทำความสะอาดอื่นๆ เช่น ขอบหน้าต่าง ซอกโซฟา ช่องแอร์ อะไรแบบเนี้ย ที่ไม่เกี่ยวกับการดูดไรฝุ่น ก็สามารถทำได้ เราก็แค่ถอดเอาหัวที่เชื่อมกับฐานที่ดูดไรฝุ่นออกมาใช้เท่านั้นเอง


ตัวปลายท่อดูดฝุ่นเนี่ย มีการออกแบบให้สามารถเลื่อนเอาแปรงปัดฝุ่นออกมาได้ เพื่อเอาไว้สำหรับปัดฝุ่นตามขอบหน้าต่าง ซอกโซฟา ช่องแอร์ใดๆ ที่เราเอามันไปดูดฝุ่นนั่นแหละ

ด้านใต้ของเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 เราจะเห็นลูกล้อเล็กๆ ที่เอาไว้ช่วยให้เราสามารถไถฐานเครื่องดูดฝุ่นไปตามพื้นผิวต่างๆ ได้สะดวกขึ้น และเราจะเห็นแผ่นกรอบพลาสติกใสที่ครอบปิดหลอด UV-C กำลังไฟ 4 วัตต์ อยู่ ตามสเปกแล้วนี่เป็นหลอด OSRAM ครับ ถัดลงมาจากหลอด UV-C ก็จะเห็นแปรงปัดฝุ่นแบบหมุนได้ขนาดใหญ่ เอาไว้สำหรับปัดพวกเส้นผมหรือขนสัตว์เข้ามาดูด และถัดลงมาก็คือเซ็นเซอร์จับระยะทาง ทำหน้าที่เป็น Safety sensor คือ หากเรายกตัวเครื่องขึ้น มันจะทำการปิดหลอด UV-C เพราะแสง UV-C แม้จะสามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ แต่มันก็เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ด้วยเช่นกัน

ด้านท้ายของเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 จะเป็นถังดักฝุ่นขนาด 0.57 ลิตร ที่มีระบบเปิดฝาถังดักฝุ่นได้ด้วยการกดปุ่มเดียว ให้เราสามารถเทฝุ่นที่อยู่ในถังทิ้งได้แบบง่ายๆ ไม่เลอะมือ ซึ่งพอเราบิดเพื่อถอดถังดักฝุ่นนี่ออกมา เราก็จะเห็นชุดไส้กรองครับ ที่แกะออกมาได้เป็น 2 ชิ้นอีก นั่นคือ ชุดกรองหยาบ (ล้างน้ำได้) กับชุดกรองละเอียด เป็นไส้กรองกระดาษ HEPA ที่จริงด้านในมันมีตัวกรองอีกอันเรียกว่า Motor net ครับ อันนี้ทาง VITAINNO เขาบอกว่าไม่แนะนำให้ล้างน้ำเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ไส้กรอง HEPA เปื่อยยุ่ย และอาจเกิดเชื้อราสะสมได้


มอเตอร์ของเครื่องดูดฝุ่นมีกำลัง 650 วัตต์ ตัวแปรงปัดฝุ่นด้านใต้นี่มีความเร็วในการหมุน 3,600 รอบต่อนาที โหมดการทำงานสามารถเลือกได้ 3 โหมด ผ่านสวิตช์เลื่อนที่อยู่ด้านบนครับ โดยโหมดที่หนึ่งคือ โหมดดูดไรฝุ่นพร้อม UV ฆ่าเชื้อโรค โหมดที่สองคือโหมดท่อดูดฝุ่น และโหมดสุดท้ายคือ โหมดแสง UV-C ฆ่าเชื้อเพียงอย่างเดียว

เอาล่ะ ทีนี้ได้เวลาลองใช้งานดูครับ ก็ได้จังหวะว่าผมต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนพอดี และก็ไม่ได้ดูดฝุ่นที่นอนมาพักใหญ่ๆ แล้วเหมือนกัน (ผมมีเครื่องดูดไรฝุ่นอยู่ แต่เป็นแบบไร้สาย) เครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 นี่สามารถใช้ดูดฝุ่นไปรอบๆ เตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ครับ แม้ว่าจะต้องเสียบปลั๊ก เพราะสายไฟมันยาวตั้งเกือบ 5 เมตร เรียกว่าในห้องนอนผมนี่ ขนาดปลั๊กอยู่ที่ริมกำแพงห้อง มันก็ยังลากสายไฟมาถึงเตียงได้พอไหวอยู่นะ

ระบบดูดฝุ่นของเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2 นี่เป็นแบบไซโคลน และมอเตอร์ก็แรงระดับ 650 วัตต์ แรงดูดนี่เหลือเฟือเลยครับ เสียงดังประมาณนึงเลย (ลองฟังได้จากคลิปด้านล่าง) แต่สิ่งที่ขาดหายไปเมื่อเทียบกับเครื่องดูดไรฝุ่นจากจีนนั่นก็คือ ระบบตบสั่นสะเทือนสูง ที่เขาว่าจะช่วยตบๆ พวกที่นอนเพื่อให้สามารถดูดไรฝุ่นได้ดีขึ้น แต่จากประสบการณ์ที่ผมเคยให้ทีมบริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่นอนมาดูดไรฝุ่น พวกเครื่องไฮโซๆ เนี่ย เขาก็ไม่ได้มีระบบตบสั่นสะเทือนความถี่สูงนะ แต่เขาจะเน้นที่แรงดูดแรงๆ มากกว่า ผมว่าอันนี้แล้วแต่คนชอบ แล้วแต่ความสบายใจ
แค่ดูดไปนิดเดียว ก็เห็นได้เลยว่ามีอะไรถูกดูดมาหมุนติ้วๆ อยู่ในถังดักฝุ่นครับ ดูดเสร็จเรียบร้อย ลองกลับมาดูดที่ถังดักฝุ่น และถอดพวกไส้กรองออกมาดู สิ่งที่พบก็คือแบบนี้ครับ ดูรูปด้านล่างประกอบนะ


ฝุ่นที่ถูกดูดขึ้นมาได้มันมีทั้งพวกเส้นใย เส้นผม หรือขนสัตว์ต่างๆ (ถ้าที่บ้านเลี้ยงสัตว์) เราจะเห็นเลยว่ามันเป็นฝุ่นใหญ่ๆ ที่อยู่ในถังดักฝุ่นครับ แต่ในนั้นเองก็จะมีฝุ่นที่มีความละเอียดสูง มีลักษณะเหมือนแป้งอยู่ในนั้นด้วย ถ้าที่นอนของเรามีไรฝุ่น มันก็จะถูกปะปนอยู่ในนี้ครับ ฝุ่นละเอียดนี้บางส่วนก็จะติดอยู่บริเวณฝาปิดและขอบๆ ของถังดักฝุ่นครับ แต่ส่วนใหญ่จะถูกดูดไปติดอยู่ตรงที่ไส้กรอง HEPA ต้องเอาออกมาปัดฝุ่นด้วยแปรงที่เขาแถมมา และเคาะๆ ออกมาก็จะเห็นครับ ดูรูปบนด้านขวา
โดยรวม ก็ต้องถือว่าใช้งานได้ดีทีเดียว เอาจริงๆ เทียบกับเครื่องดูดไรฝุ่นไร้สายที่ผมใช้อยู่ ซึ่งราคาถูกกว่าเยอะ คือประมาณ 2,000 บาทเนี่ย ผมว่าเจ้านี่ดูดได้ดีกว่า ใช้แรงน้อยกว่าครับ อันของจีนราคา 2,000 บาทเนี่ย ผมต้องออกแรงกดประมาณนึงเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะสามารถดูดพวกฝุ่นและไรฝุ่นได้เยอะๆ แต่ VITAINNO VITA-Health V2 นี่ผมแค่เอามาจับแล้วไถๆ ก็พออะ … ทีนี้รู้แล้วว่าส่วนต่างหลายพันนั่นมันเพราะอะไร

สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกว่า VITAINNO ควรจะปรับปรุงในเรื่องการออกแบบก็คือ ตัวพลาสติกที่เอาไว้ป้องกันหลอด UV-C และแปรงปัดฝุ่นครับ คือ มันก็จะมีความเป็นไปได้ ที่พวกเส้นผมยาวๆ อาจจะไปพัดติดอยู่กับแปรงปัดฝุ่นครับ ฉะนั้นถ้าจะให้ดี ควรจะออกแบบให้เราสามารถแกะแปรงปัดฝุ่นออกมาทำความสะอาดได้ง่ายๆ หน่อย แต่อันนี้ถอดยากพอสมควร เพราะต้องขันน็อต 3 ตัวอะ คือ เข้าใจได้นะว่ามันต้องป้องกันหลอด UV-C แต่ในกรณีนั้นผมว่า ออกแบบให้แผ่นพลาสติกป้องกันมันแยกออกเป็นคนละชุดเลยจะดีกว่า แล้วทำให้พลาสติกป้องกันของแปรงปัดฝุ่นมันแกะได้ง่ายๆ หน่อยจะดีมากเลย
บทสรุปการรีวิวเครื่องดูดไรฝุ่น VITAINNO VITA-Health V2
สนนราคาถือว่าประมาณนึงเลยครับ แต่นั่นก็แลกมาด้วยแรงดูดที่แรงและช่วยประหยัดแรงในการดูดไรฝุ่นบนเตียงของเราไปได้มาก นอกจากนี้ก็ยังเป็นได้มากกว่าแค่เครื่องดูดไรฝุ่น เพราะสามารถเอาไปใช้ดูดฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ ตามซอกโซฟา ขอบเตียง หรือแม้แต่พวกขอบหน้าต่าง ช่องแอร์ ในห้อง ในบ้าน ได้สบายๆ ด้วย
แต่แพ็กเกจจะคุ้มที่สุดก็ตอนซื้อเป็นเซ็ตพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 VITAINNO VITA-Health V50 นี่แหละ 19,900 บาท นี่คือครบเลย เอาตัวใหญ่สุด (V80) ไปใช้ในห้องนั่งเล่น เพราะรองรับพื้นที่ห้องกว้างมาก ส่วน V50 เอาไปไว้ในห้องนอน ซึ่งก็ครอบคลุมถึง 50 ตารางเมตรสบายๆ และสุดท้าย เครื่องดูดไรฝุ่น ไว้ดูดไร้ฝุ่นจากเตียง ดูดฝุ่นจากโซฟา อะไรพวกนี้ ก็โอเคอยู่
ถ้าสนใจ ก็ติดตามดูข้อมูลและทักแชทเพจ VITAINNO ไปนะครับ