ทาง VITAINNO เขาติดต่อมาว่ามีเครื่องฟอกอากาศให้ยืมมารีวิวครับ ผมก็เห็นว่าช่วงนี้มีจังหวะที่สภาพอากาศไม่ค่อยค่อย ยอด PM2.5 โหดร้ายเอาเรื่อง ก็เลยยินดีที่จะยืมมารีวิวให้ผู้ติดตามบล็อกของผมได้อ่านกัน เขาก็ให้ยืมรุ่นนี้มาครับ VITAINNO V80 เครื่องฟอกอากาศสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ 0-80 ตารางเมตร มาดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
เครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 นี่ผมได้ยืมมาใช้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เอามาเล่าประสบการณ์ให้ได้อ่านกันว่าใช้แล้วเป็นยังไงบ้างครับ อย่างไรก็ดี ผมไม่ได้มีอุปกรณ์ในการทดสอบเครื่องฟอกอากาศโดยเฉพาะ ก็อาจจะไม่สามารถทดสอบอะไรบางอย่างได้เต็มที่ ก็อาจจะเอาภาพการทดสอบจากเจ้าของแบรนด์มาให้ดูแทนนะครับ
แกะกล่องดูรูปร่างหน้าตา VITAINNO VITA-Health V80
ด้วยความที่ VITAINNO VITA-Health V80 นี่เป็นเครื่องฟอกอากาศสำหรับพื้นที่ขนาด 0-80 ตารางเมตร ซึ่งค่อนข้างใหญ่ (บ้านผม ห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ราวๆ 35 ตารางเมตร) กล่องมันก็เลยใหญ่เป็นเงาตามเครื่องเลยครับ 🤣🤣 เอาจริงๆ คือ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 2S กับ 3H ที่ผมมีใช้อยู่ที่บ้านอะ ดูเป็นลูกไปเลย

ตัวเครื่องมีขนาด 35×36×54 เซ็นติเมตร มีน้ำหนัก 10.8 กิโลกรัม ถือว่ามีขนาด เขื่อง พอสมควรครับ ดีไซน์เป็นตัวเครื่องแบบทาวเวอร์ กว้างและยาวพอๆ กัน เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูงประมาณนึง การออกแบบให้ด้านกว้างและยาวพอๆ กันนี่ทำให้เอาไปวางตรงไหนก็สะดวก และสีของตัวเครื่องที่เป็นสีขาว ก็เข้ากับการออกแบบห้องแบบต่างๆ ได้ไม่เลว เราจะเห็นโลโก้ VITAINNO ที่ด้านหน้า และมีหน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการทำงาน และปุ่มกดแบบสัมผัส 7 ปุ่ม



ด้านข้าง ซ้ายและขวาของตัวเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 เนี่ย จะเป็นฝาปิดที่มีช่องๆ สำหรับให้อากาศเข้า เพราะมันคือส่วนที่เอาไว้กรองอากาศครับ โดยหากเราแกะฝาปิดออกมา เราจะเห็นว่ามันมีกรอง 2 ชั้น คือ แผ่นกรองหยาบแบบที่เป็นตาข่ายไนล่อนตาห่างๆ ประมาณนึง เหมือนแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ที่เรียกว่า Pre-filter และด้านในเป็นแผ่นกรองใหญ่อีกชั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วย แผ่นกรอง HEPA H13 X2, Anti-bacterial cotton filter, คาร์บอนสำหรับดูดกลิ่น และ Photocatalyst filter รวมไว้เป็นแผ่นกรองใหญ่ๆ แผ่นเดียว

ด้วยความที่ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และค่อนข้างหนัก (10.8 กิโลกรัม) เขาก็ออกแบบให้มันมีล้อ 4 ชุด หมุนได้รอบทิศทางอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง ทำให้เราสามารถเข็นตัวเครื่องไปได้ตามใจชอบได้ เช่น เกิดต้องย้ายจากห้องนั้นไปห้องนี้ หรือมุมนั้นไปมุมนี้ ทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะย้ายข้ามชั้นแอบหนักนะครับ แต่ก็ยกไม่ยาก เพราะเขาออกแบบให้มีช่องเอาไว้สำหรับสอดมือเข้าไปจับตรงบริเวณด้านบนของฝาปิดด้านซ้ายและขวานั่นแหละ

ด้านบนของเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 ก็คือช่องทางออกสำหรับอากาศที่ถูกกรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีดีไซน์ที่ออกแบบให้ลมสามารถกระจายไปได้ทุกทิศทางครับ
โดยรวม ก็เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ดูดีครับ ซื้อไปใช้แล้วก็จะเอาไปติดตั้ง ณ บริเวณไหน หรือมุมใดของที่บ้าน ก็ดูโอเคอยู่ และหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายมันก็เข็นได้ไม่ยาก จะยกก็ไม่ลำบากนัก (แค่หนักนิดๆ) จะมีข้อจำกัดก็น่าจะเป็นเรื่องของสายไฟที่ยาวไม่มากครับ ถ้าบ้านมีรูปลั๊กเยอะๆ กระจายหลายจุดก็อาจจะไม่มีปัญหานัก แต่บ้านที่ไม่ค่อยมีรูปลั๊กเท่าไหร่ อาจจะต้องพึ่งรางไฟครับ (แบบบ้านผม)
สเปกของเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80
มาดูกันว่าสเปกของเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 จะทำอะไรได้บ้างนะครับ โดยคร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ
สเปก | รายละเอียด |
---|---|
CADR กำจัด PM2.5 | 680 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง |
CADR กำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ | 400 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง |
รองรับพื้นที่ห้อง | 80 ตารางเมตร |
ระบบกรอง | 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย Pre-filter, HEPA filter, Anti-bacterial cotton filter, Carbon, Photocatalyst filter และ Ionizer |
กำลังไฟ | 60 วัตต์ |
ความดังขณะทำงาน | น้อยกว่า 62dB |
น้ำหนัก | 10.8 กิโลกรัม |
ทาง VITAINNO มีการอธิบายเรื่องขั้นตอนการกรองของแผ่นกรองมาให้ดูตามรูปด้านล่างนะครับ ขั้นตอนที่ 2-5 เนี่ย ถูกใส่รวมไว้ในแผ่นกรองใหญ่แผ่นเดียวเลย (อ้างอิงข้อมูลจากที่ทาง VITAINNO ให้ผมมา) หลายคนอาจจะเอ๊ะว่า มันมีแค่ 6 ขั้นตอนเอง ทำไมถึงโปรโมตว่าเป็น 7 ขั้นตอน ผมลองไปสอบถามมาแล้ว เขาบอกว่าเป็นเพราะมันมีกรอง HEPA 2 ชั้น แต่ละชั้นเขาก็นับเป็น 1 ขั้นตอนครับ มันก็เลยเป็น 7 ขั้นตอนนั่นเอง

ประสบการณ์ในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO V80
ในขณะที่เครื่องฟอกอากาศของหลายๆ แบรนด์เขามีฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป เพื่อใช้สั่งงานเครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 นี่มาแบบ Old school ครับ คือ การสั่งงานสามารถทำได้แบบง่ายๆ และเต็มรูปแบบผ่านปุ่มควบคุมต่างๆ ตรงบริเวณหน้าจอ LCD ด้านหน้าเลย โดยจะมีปุ่มดังต่อไปนี้ (เรียงตำแหน่งปุ่มตามตำแหน่งในตารางด้านล่างเลย)
ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง | ||
ปุ่ม Child lock ป้องกันเด็กมากด | ปุ่ม Sleep ปิดไฟของจอ LCD | ปุ่ม Timer ตั้งเวลาทำงาน |
ปุ่ม Speed เปลี่ยนความเร็วพัดลม | ปุ่ม Ion เปิดปิดการปล่อยประจุลบ | ปุ่ม Pattern สำหรับรีเซ็ตฟิลเตอร์ และแสดงอุณหภูมิห้อง |

ซึ่งการใช้งานแบบนี้เป็นอะไรที่ง่ายสำหรับทุกคนในบ้านจริงๆ ปุ่มต่างๆ มันแยกหน้าที่ของมันชัดเจน กดไม่ยาก ดูไม่ยาก ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านก็เข้าใจได้ง่าย ซึ่งจะผิดกับแบรนด์อย่าง Xiaomi ที่การสั่งงานพื้นฐานยังพอจะสั่งได้จากหน้าจอ แต่รายละเอียดอื่นๆ เช่น การตั้งเวลาปิด มันต้องสั่งผ่านแอปเท่านั้น ซึ่งผู้สูงอายุบางคนอาจจะไม่คุ้นเคย นอกจากนี้ ยังมีปุ่ม Child lock เอาไว้ล็อกการกดปุ่มหน้าจอใดๆ ที่เด็กๆ อาจจะซนมากดได้

และยังมีรีโมตคอนโทรลให้ใช้สั่งงานระยะไกลอีกด้วย โดยใช้แบตเตอรี่ CR2032 จำนวน 1 ก้อน สามารถใช้กดสั่งงานได้ในระยะค่อนข้างไกล เอาเป็นว่า ระยะจากหน้าบ้านไปท้ายบ้านของผมเนี่ย สั่งได้สบายๆ อะ มองแทบไม่เห็นจอ LCD แล้ว รู้แต่ว่าพอกดแล้วมันสั่งงานได้ (เห็นการเปลี่ยนของหน้าจอ)

ในการทำงาน เราสามารถสั่งพัดลมทำงานได้ 4 ระดับ คือ เบา กลาง แรง และออโต้ ซึ่งเสียงดังในขณะการทำงานเนี่ยก็จะดังมากขึ้นตามความแรงพัดลมนั่นแหละ แต่ไม่ค่อยดังมากนะครับ ตามสเปกบอกว่าจะดังไม่เกิน 62dB ซึ่งผมลองเอาเครื่องวัดไปวัดแล้ว ก็ได้ประมาณ 65dB แต่ไม่ใช่ว่ามันดังเกินสเปกนะ แต่เพราะในห้องที่ผมใช้งานอยู่อะ มันก็มีแหล่งกำเนิดเสียงอยู่เช่น พัดลม และ ตู้ Rack ที่ใส่ NAS อยู่เต็ม ฉะนั้นผมก็ต้องขอถือว่าเสียงดังได้ไม่เกินสเปกที่กำหนด โอเคอยู่
ตอนผมได้มารีวิว สถานการณ์ของฝุ่น PM2.5 แถวบ้านผมก็ดีขึ้นเยอะมากแล้ว มันก็เลยไม่ได้มีโอกาสเห็นประสิทธิภาพมากนัก แต่ผมสังเกตอยู่ 2 เรื่อง นั่นคือ
🔹ถ้าเอามาใช้ที่ห้องนั่งเล่น มันจะสามารถฟอกอากาศจนอยู่ที่ระดับ AQI อยู่ที่ 20-22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรได้ ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวครับ เพราะห้องค่อนข้างใหญ่และก็ไม่ใช่ห้องปิดมิดชิด อากาศถ่ายเทได้ พวกอากาศพร้อมฝุ่น มันก็เข้ามาแทนที่อากาศปลอดฝุ่นที่เพิ่งสร้างได้
🔹ผมลองใช้งานดู พบว่ามันมีกลิ่นเปรี้ยวจางๆ ลอยออกมา เขาว่ามันเป็นช่วงแรกๆ ที่ใช้แผ่นกรองคาร์บอน แต่พอใช้งานไปซักระยะกลิ่นจะหายไป แต่หากต้องการกำจัดกลิ่นไวๆ อาจจะลองเอาแผ่นกรองไปตากแดดดูเพื่อกำจัดกลิ่น (อันนี้สอบถามทาง VITAINNO มา)
เรื่องการกำจัดกลิ่นด้วยแผ่นกรองคาร์บอนว่ามันทำงานยังไง ผมก็แนะนำให้อ่านบทความนี้ดูครับ How Does a Carbon Filter Work? (filtrete.com)
ตัวเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80 จะมีฟีเจอร์แจ้งเตือนให้ทำความสะอาดไส้กรอง (ไฟ LED จะขึ้นว่า A-1) ซึ่งจะเตือนประมาณเดือนละ 1 ครั้ง โดยเป็นการทำความสะอาดที่เรียกว่าขั้นต้น ซึ่งก็คือการล้างน้ำแล้วนำไปตากให้แห้ง แต่เมื่อไส้กรองหมดอายุ มันก็จะเตือนเป็นไฟ LED ว่า A-2 ในกรณีนี้คือให้เราซื้อไส้กรองอันใหม่มาเปลี่ยนเลย ซึ่งราคาไส้กรองของรุ่น V80 นี่คือ 4,900 บาท (เขาว่าได้ 2 ชิ้น เพราะเครื่องนึงต้องใช้ 2 ชิ้น)
แอบตินิดนึงตรงคู่มือมีบางจุดพิมพ์ผิด เช่น หน้า 5 ของฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่เขียนปุ่ม Sleep เป็นปุ่ม Speed เฉย และคู่มือไม่มีการสอนใช้งานรีโมตคอนโทรลด้วย
บทสรุปการรีวิวเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V80
เป็นเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องที่มีพื้นที่เยอะ มีความสามารถนอกจากแค่การฟอกอากาศลดฝุ่นแล้ว ก็ยังสามารถกำจัดกลิ่นได้ และมี ฟีเจอร์ปล่อยประจุไอออนมาทำให้อากาศสดชื่นได้ ใช้งานไม่ยาก ยิ่งตอนนี้ทาง VITAINNO เขามีจัดโปรโมชันการขายออนไลน์ผ่านช่องทางเพจ VITAINNO และ LINE Official โดยเป็นการขายเซ็ตเครื่องฟอกอากาศ VITAINNO VITA-Health V50, VITA-Health V80 ที่รีวิวนี่ และเครื่องดูดไรฝุ่น VITA-Health V2 รวมๆ แล้วราคาเต็ม 57,600 บาท เนี่ย เหลือ 19,900 บาท เท่านั้น ยิ่งคุ้มเลยถ้ามีแผนจะซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้ที่บ้านซัก 2 เครื่องอยู่แล้ว เพราะรุ่น V50 นี่รองรับพื้นที่ 57 ตารางเมตรได้สบายๆ แถมมีฟีเจอร์ฆ่าเชื้อด้วย UVC อีก ซึ่งผมเคยรีวิวมาแล้วก่อนหน้านี้ครับ ส่วนเครื่องดูดไรฝุ่น เดี๋ยวจะมีรีวิวออกมาอีกหลังจากนี้ด้วย ใครสนใจก็กดลิงก์ด้านล่างเพื่อติดต่อกับ VITAINNO เพื่อสั่งซื้อได้ครับ