Home>>รีวิว>>ดูมาแล้ว หนังอินดี้ Bezos: the Beginning ถอดรหัสตำนานสตาร์ทอัพ
โปสเตอร์หนังเรื่อง Bezos: the Beginning ถอดรหัสตำนานสตาร์ทอัพ เป็นรูปด้านข้างขวาของผู้ชายหัวล้านใส่สูทสีกรมท่า
รีวิว

ดูมาแล้ว หนังอินดี้ Bezos: the Beginning ถอดรหัสตำนานสตาร์ทอัพ

เมื่อวานได้รับชวนจาก Jitta ไปรวมพลคนสายลงทุนแนว VI ไปดูหนังอินดี้ประวัติสตาร์ทอัพในตำนานรายหนึ่ง นั่นก็คือ Amazon.com ครับ หนังเรื่อง Bezos: the Beginning ถอดรหัสตำนานสตาร์ทอัพ เป็นหนังความยาว 99 นาที ที่ได้คะแนนจาก IMDb ไป 5.9/10 ส่วน Rotten Tomatoes นี่ยังไม่มีรีวิวมากพอที่จะให้คะแนนได้ เลยคิดว่าเขียนเป็นรีวิวไว้ให้อ่าน เผื่อใครกำลังสนใจอยากจะไปดูครับ จะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่า ไปดูดี หรือไม่ไปดูดีวะเนี่ย 🤣🤣

ออกตัวล้อฟรีก่อน…

จะพยายามไม่เขียนรายละเอียดว่าในหนังมันเป็นยังไงนะ เพราะว่าจะได้ไม่สปอยล์ อีกอย่าง มันเป็นหนังแนวประวัติของบุคคลหรือองค์กรที่มีอยู่จริง ดังนั้นเราก็น่าจะรู้ตอนจบอยู่แล้วแหละว่ามันจะเป็นยังไง แต่ผมจะพยายามให้ข้อมูลเพื่อให้สรุปได้ว่า ควรจะไปดูหรือไม่ไปดูดี

อย่างที่ได้บอกไปใน ออกตัวล้อฟรีก่อน นั่นแหละครับ หนังแนวๆ นี้ เราก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะจบยังไง เพราะมันอยู่บนพื้นฐานของความจริง เป็นที่รู้กันว่า Amazon เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเคยมีมูลค่าของบริษัทขึ้นไปสูงสุดถึง 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปลายปี พ.ศ. 2564 และแม้ว่าในช่วงปี พ.ศ. 2565 มูลค่าของบริษัทจะร่วงลงมาเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ถดถอย และหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐนี่ร่วงเละเทะ แต่มูลค่าของบริษัท ณ ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านล้านบาท … มากน้อยแค่ไหน ให้คิดว่างบประมาณประเทศไทย พ.ศ. 2565 คือ 3.1 ล้านล้านบาท พูดง่ายๆ คือ มูลค่าของบริษัทนี้บริษัทเดียว มีประมาณงบประมาณประเทศไทย 10 ปีอะ

กราฟิกแสดงมูลค่าของบริษัท Amazon.com ระหว่างปี ค.ศ. 2009 - 2023

บอกตรงๆ ตอนเริ่มเรื่องนี่ผมว่าเท่ดีครับ ตัว Jeff Bezos ในหนัง กำลังแต่งตัว หัวเหม่งๆ หน้าตาดุดัน คือ ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง Hitman 47 🤣🤣 แหม่ เปิดตัวมายังกับหนังแอ็กชัน

ผู้ชายใส่สูทสีดำ หัวล้าน กำลังทำหน้าเคร่งขรึม
Jeff Bozos ขณะกำลังแต่งตัว

แต่ตลอดระยะเวลาที่เราได้ดูหนังเนี่ย เราจะได้เห็น Jeff Bezos ในเวอร์ชันมีผมนะครับ แม้ว่าจะเริ่มเห็นเค้าลางว่าต้องหัวล้านในอนาคตแน่ ในเรื่องนั้นเป็นช่วงเวลาปี ค.ศ. 1994 ขณะที่ Bezos ยังคงทำงานอยู่ที่ D.E. Shaw & Co ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเงิน และได้ดำรงตำแหน่งเป็น Senior Vice President ในอายุ 30 ปี ซึ่งต้องบอกว่าโคตรประสบความสำเร็จอะ เพราะพี่แกได้ตำแหน่งใหญ่โต ในบริษัทที่มีชื่อเสียง เงินเดือน (อ้างอิงจากในหนัง) คือปีละสองแสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเยอะมากนะ ในปี ค.ศ. 1994

หนังก็ดำเนินเรื่องให้เห็นว่าตอนนั้น Bezos เขามีหน้าที่การงานรุ่งเรื่องยังไง แล้วอยู่ๆ เขาก็ได้รู้จักกับอินเทอร์เน็ต และได้ค้นพบว่าอินเทอร์เน็ตมีอัตราการเติบโต 2,300% ต่อปี เลยเกิดปิ๊งไอเดียว่าจะทำธุรกิจออนไลน์ และหลังจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ด้วยตัวเอง เขาก็รู้สึกว่า ร้านหนังสือออนไลน์นี่แหละ น่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ได้

ผู้ชาย 2 คนกำลังคุยกันในสวนสาธารณะ คนทางขวาดูเนิร์ดๆ หน่อย กำลังทำหน้าเคร่งเครียด ตั้งใจฟังผู้ชายอีกคนที่กำลังพูด
Jeff Bezos กำลังนั่งฟัง David เจ้านายของเขา ขณะกำลังเตือนเรื่องไอเดียการเปิดร้านหนังสือออนไลน์

ในตอนนั้น ร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษคือ Barnes & Noble แต่ Bezos เชื่อว่าร้านหนังสือออนไลน์ต่างหากที่จะมาเป็นอนาคต เพราะอินเทอร์เน็ตนอกจากจะเติบโตรวดเร็วแล้ว ร้านหนังสือเสมือนบนโลกออนไลน์ยังไม่มีข้อจำกัดด้านกายภาพ ทำให้สามารถวางจำหน่ายหนังสือนับล้านๆ ปกได้ ในขณะที่ร้านหนังสือแบบดั้งเดิมอย่างมากก็วางได้แค่หลักพันปก

แต่แน่นอนว่าของใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นอนาคตแบบเดียวกันกับ Bezos ยิ่งเฮียแกเป็นคนดี เตือนนักลงทุนที่จะมาลงทุนกับเขาทุกคนเลยว่า มีโอกาสมากถึง 70% ที่จะล้มเหลว ก็ทำให้การระดมทุนของเขานี่ยากลำบากใช่ย่อย ยังดีว่าเขายังได้เงินลงทุน 300,000 เหรียสหรัฐมาจากเงินเก็บทั้งชีวิตของคุณพ่อของเขา

ผู้ชายสูงอายุ สวมแว่น มีหนวดเคราสีขาว ผมสีขาว สวมเสื้อกันหนาวสีแดง กำลังคุยกับผู้ชายอีกคนอยู่
พ่อของ Jeff Bezos ขณะกำลังจะมอบเงินเก็บทั้งชีวิตเพื่อให้ลูกได้ไปเป็นทุน

ตัวเนื้อเรื่อง ต้องบอกว่าดำเนินไปค่อนข้างเนิบนาบพอสมควร เอาจริงๆ ก็ต้องบอกว่าพอผมกลับมาเทียบกับประวัติของ Jeff Bezos บน Wikipedia แล้ว บน Wikipedia ยังให้ข้อมูลประวัติของ Jeff Bezos และการกำเนิดบริษัท Amazon.com มากกว่าในหนังเลย ยกเว้นเฉพาะซีนที่ Bezos ต้องพยายามหานักลงทุนมาระดมทุนให้ กับตอนที่เขามีโอกาสได้คุยกับ Leonard Riggio ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Barnes and Noble ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตอนนั้น ธุรกิจดั้งเดิมอย่าง Barnes and Noble ปรามาสสตาร์ทอัพอย่าง Amazon.com (ซึ่งตอนนั้น Bezos ยังไม่ได้คิดจะใช้ชื่อนี้) อย่างมาก ทำให้พลาดโอกาสในการลงทุน และก็อย่างที่รู้กันว่าทำให้แม้ Barnes and Noble ยังไม่ล้มหายตายจาก แต่ก็มีขนาดธุรกิจที่ไม่ติดฝุ่น Amazon.com แม้แต่น้อย

ภาพของ Leonard Riggio จากในภาพยนตร์ Bezos (ซ้าย) และ Leonard Riggio ตัวจริง (ขวา)
(ซ้าย) Leonard Riggio จากในภาพยนตร์ Bezos (ขวา) Leonard Riggio ตัวจริง

ตอนดูหนังนี่คือผมรู้สึกว่า อิผู้ก่อตั้ง Barnes and Noble นี่โคตรหยิ่งอะ ดูหนังตาตัวละครแล้วแบบเป็นมนุษย์ลุงมาก แต่พอไปค้นๆ ดูรูปของ Leonard Riggio ตัวจริงจาก Google คือ พี่แกยิ้มตลอดเหอะ แล้วดูจากประวัติแกเหมือนจะเป็นคนใจบุญด้วย ทำโครงการสาธารณะกุศลหลายอย่าง ดูๆ แล้วเหมือนตัวหนังจะพยายามให้แกเป็นตัวร้ายในเรื่อง ซึ่งดูขัดๆ กับความจริงชอบกล

นอกจากนี้ ก็ยังรู้สึกได้ว่าการดำเนินเรื่องของหนังเนี่ย บางจุดก็ใส่ใจรายละเอียดมาก เช่น การแสดงความรู้สึกของ Bezos ที่มีต่อภรรยาตอนที่แกกำลังขับรถ การทะเลาะกันระหว่างตัวเขากับภรรยาในช่วงที่กำลังหมกมุ่นกับการพยายามผลักให้เว็บไซต์พร้อมจะเปิดตัว อะไรแบบนี้ แต่ในบางจุดก็แบบ ดูจะขาดรายละเอียดไปเช่นกัน เช่น การระดมทุน ที่ดูไปทั้งเรื่อง เหมือนเฮียแกได้แค่เงินจากพ่อมาแค่นั้นอะ เพราะไม่เห็นเลยว่ามีใครให้เงินแกอีก🤣🤣

ที่บ้าสุดคือ ตอนจบครับ … จบแบบตัดจบมาก เอาเป็นว่านั่งดูกันในโรงนี่คือแบบ ห๊ะ อะไรนะ จบแล้วเหรอ? จบเหมือนกับว่าเงินทุนสร้างหนังมันหมดแค่นี้แหละ อยากรู้ว่าต่อไปเป็นไง จริงๆ เรามีเนื้อเรื่องนะ แต่ไม่มีทุนสร้าง อ่านจากข้อความปิดท้ายหนังเอาแล้วกัน 🤣🤣 มันให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ หนังโคตรอินดี้

เอาตรงๆ ตั้งกะเริ่มมาจนถึงตอนจบอะ ไม่ได้รู้สึกว่าหนังมันแต่นะ แต่ถ้ามองเรื่องความรู้สึกว่า เออ ได้ดูจนจบจริงๆ เนี่ย ผมว่า The Social Network ที่เป็นประวัติของ Facebook (ตอนนี้ต้องเรียก Meta แล้วดิ) มันสมบูรณ์กว่าในมุมมองของผม

ผมให้คะแนน 2.5/5 ก็แล้วกัน สำหรับเรื่องนี้ คือ ไปดูเอาเพลินๆ ได้ แต่อย่าไปคาดหวังกับความสมบูรณ์แบบของการจบเนื้อเรื่องนัก อ่าน Wikipedia เอาดีกว่า ถ้าอยากรู้ประวัติแบบเต็มๆ 🤣🤣

คะแนน 🌕🌕🌗🌑🌑

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า