รีวิว QNAP TS-262 NAS แบบ 2-bay แต่เหมือนมี 4-bay เอ๊ะ ยังไง

ผมเพิ่งปล่อยรีวิว QNAP TS-462 ไปหมาดๆ ในฐานะ NAS สเปกดี และยังมีช่องให้อัปเกรดได้อีกหลายอย่าง คราวนี้ถึงเวลารีวิวรุ่นที่รองลงมา คือ QNAP TS-262 บ้างครับ ตัวนี้จะเป็นรุ่น 2-bay ที่ยังมีจุดเด่นตรงที่มีช่องให้อัปเกรดได้ประมาณนึง ในราคาที่แน่นอนว่าย่อมเยามากกว่า และเหมาะกับผู้ใช้งานแบบ SOHO ที่ไม่ได้ต้องการเนื้อที่เก็บข้อมูลเยอะมากๆ หรือผู้ใช้งานตามบ้าน ที่ไม่ได้อยากไปถึงขั้นใช้ 4-bay เต็มรูปแบบ มันจะมีจุดเด่นอะไรยังไงบ้าง มาดูกันครับ

แกะกล่องของ QNAP TS-262 ออกมาแล้ว สิ่งที่เราจะได้ก็คือตัว NAS และกล่องใส่อุปกรณ์เสริมต่างๆ ครับ ซึ่งประกอบไปด้วยตัวอะแดปเตอร์แบบ 65 วัตต์ พร้อมสายไฟ สาย LAN RJ45 แบบ Cat 5E 1 เส้น น็อตสำหรับฮาร์ดดิสก์ 2 แพ็ก แพ็กนึงสำหรับขนาด 2.5 นิ้ว อีกแพ็กสำหรับ 3.5 นิ้ว และใบรับประกัน

ด้านหน้าของ QNAP TS-262 ก็เป็นดีไซน์คล้ายๆ กับ TS-462 ครับ เป็นดีไซน์สี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงสูง สีขาวตลอดตัวเครื่อง และมีแถบสีทองคาดทางด้านขวา ซึ่งมีปุ่ม Power กับ ไฟ LED แสดงสถานะต่างๆ ทั้งการทำงานของเครื่อง เน็ตเวิร์ก และฮาร์ดดิสก์ ที่มุมด้านล่างก็มีพอร์ต USB-A ที่เป็น USB 3.2 Gen 2 (แบนด์วิธ 10Gbps) เอาไว้สำหรับฟีเจอร์ USB One Touch Copy ที่เสียบพวกแฟลชไดร์ฟหรือ External HDD ที่นี่ กดปุ่ม USB One Touch Copy ที่อยู่ใกล้ๆ กับพอร์ต USB-A แล้วมันจะทำการก็อปปี้ข้อมูลทั้งหมดไปไว้ในจุดหมายปลายทางที่เราได้ทำการตั้งค่าเอาไว้ได้เลย

ดีไซน์นี้ ออกแบบให้ฝาด้านหน้ามันปิดอยู่ด้วยแรงแม่เหล็ก สามารถแกะออกมาได้ แล้วเราก็จะเห็นถาดใส่ฮาร์ดดิสก์ที่เป็นดีไซน์ Tooless คือ ถ้าใส่ฮาร์ดดิสก์แบบ 3.5 นิ้ว ก็จะไม่ต้องใช้น็อตใดๆ เลยครับ มันมีสลักเอาไว้ยึดตัวฮาร์ดดิสก์เข้ากับถาด แต่หากเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5 นิ้ว ก็ยังต้องใช้น็อตยึดอยู่นะครับ

ด้านหลังของ QNAP TS-262 จะเห็นว่ามันมีสล็อต PCIe Gen 3×2 ให้ 1 สล็อต สำหรับการ์ดขนาด 190×68.9×18.76 มิลลิเมตร มีพอร์ต USB-A ให้ 3 พอร์ต เป็นพอร์ต USB 3.2 Gen 2 พอร์ตนึง กับพอร์ต USB 2.0 (แบนด์วิธ 480Mbps) อีก 2 พอร์ต ซึ่งพอร์ต USB แบนด์วิธต่ำนี้เอาไว้สำหรับเสียบคีย์บอร์ดกับเมาส์ครับ เพราะมันมีพอร์ต HDMI 2.1 ที่เอาไว้ต่อจอแสดงผลภายนอกได้ ให้เราสามารถใช้งาน QNAP NAS ได้ โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์เลย มีพอร์ต RJ45 ที่เป็น 2.5GbE มาให้พอร์ตนึง มีช่องเสียบ DC in เอาไว้เสียบอะแดปเตอร์ ช่องสำหรับใส่ตัวล็อก Kensington และมีรูสำหรับรีเซ็ต NAS ด้วย โดยรูนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับพอร์ต USB-A ที่เป็น USB 3.2 (พอร์ตจะมีสีแดง)

ที่ผมบอกว่า QNAP TS-262 มันสามารถอัปเกรดได้นั้น ก็ได้ในระดับนึงครับ เราจะต้องแกะฝาเครื่องออกมาก่อน ทำได้ไม่ยาก แค่ขันน็อตด้านหลังออกแค่ 2 ตัวแล้วสไลด์ฝาเครื่องออกก็เท่านั้นเอง ส่วนที่เราสามารถอัปเกรดได้นั้นจะมี 2 จุด คือ ตัวสล็อต PCIe Gen 3×2 ที่เราสามารถเลือกใส่ได้หลากหลาย เช่น เพิ่มจำนวนพอร์ต RJ45 แบบ 2.5GbE เพิ่มความสามารถด้าน WiFi หรือ เพิ่ม M.2 SSD เป็นต้น เลือกเอาว่าต้องการอัปเกรดด้านไหน รายละเอียดเพิ่มเติมลองไปดูที่เว็บไซต์ของ QNAP ได้ครับ (เช็กเรื่อง Compatibility ด้วยว่าอันไหนใช้กับรุ่น TS-262 ได้นะครับ)

สเปกของ QNAP TS-262 ก็ตามตารางด้านบนเลยครับ ตัวนี้ใช้ CPU Intel ที่สถาปัตยกรรม 10 นาโนเมตร และเราจะเห็นว่ามันเปิดช่องให้เราสามารถอัปเกรดได้ 2 จุด คือ เพิ่มขีดความสามารถผ่าน PCIe expansion card ได้ 1 ช่อง และมีสล็อต M.2 SSD ให้อีก 2 สล็อต และเป็นแบบ NVMe ด้วย จะเอามาใช้เพิ่มให้กลายเป็น 2-bay คูณสองก็ได้ หรือจะเอามาใช้ทำ SSD cache acceleration ก็ได้เช่นกัน แต่เสียดายแค่ตรงที่ไม่สามารถอัปเกรดหน่วยความจำได้ ไม่เหมือนกับ TS-462 ครับ (แต่ตัว CPU อะ รองรับแรมได้สูงสุด 16GB นะ)

การติดตั้งของ QNAP NAS ทำได้ไม่ยากเลย ใช้วิธีสแกน QR code ข้างเครื่อง แล้วเริ่มจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของเราก็ได้ แต่สำหรับผม ผมแนะนำให้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งแอป Qfinder Pro ดีกว่าครับ สแกนเจอ QNAP NAS แล้วก็ทำการติดตั้งผ่านเบราว์เซอร์ได้เลย มันจะมี Smart Installation ที่ช่วยให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่าย (อ่านวิธีติดตั้ง QNAP NAS จาก QNAP NAS 101 ของผม)

ตอนนี้ QNAP NAS ได้อัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการ QTS 5.0.1 ที่อยู่บนพื้นฐานของ Linux Kernel 5.10 แล้ว และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาเยอะมาก เช่น การสนับสนุน Windows Search Protocol (WSP) ที่ช่วยให้เราสามารถใช้ฟีเจอร์ Search ของ Windows Explorer ในการค้นหาไฟล์บน QNAP NAS ได้เลย

นอกจากนี้ ด้วยความที่ปัจจุบันผู้ไม่หวังดีก็หันมาโจมตีอุปกรณ์จำพวก NAS กันเยอะขึ้น เพราะ NAS กลายเป็นอุปกรณ์ที่ใครต่อใครก็เริ่มซื้อหากันมาใช้งานมากขึ้นด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ข้อมูลที่จำเป็นต้องเก็บมีมากขึ้น ไม่อยากเสียค่าบริการรายเดือนหรือรายปีให้กับพวกบริการ Cloud storage เป็นต้น QTS 5.0.1 ก็เลยมีการอัปเดตเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น อาทิ รองรับมาตรฐาน TLS 1.3 สามารถใช้ SSH keys ในการยืนยันตัวตนในการล็อกอินได้ หรือเลือกปิดการใช้งานอุปกรณ์ USB ทุกอย่าง หรือเฉพาะพวก Storage devices ก็ได้ เพราะพวกมัลแวร์ก็สามารถแพร่ผ่านอุปกรณ์จำพวกนี้ได้เหมือนที่มันแพร่ใส่คอมพิวเตอร์นั่นแหละ

แม้ว่า QNAP TS-262 จะเป็นแค่ NAS แบบ 2-bay แต่มันก็มีการรองรับ M.2 SSD NVMe ให้อีก 2 สล็อตนะครับ ซึ่งเท่ากับว่าจริงๆ แล้ว จะเรียกว่า NAS ตัวนี้มี 4-bay ก็ได้ เพียงแต่มันควรจะถูกใช้งานแบบเป็นคู่ SSD (NVMe) และคู่ HDD/SSD (SATA) เท่านั้นเอง แต่เราจะเลือกว่าจะใช้ SSD แบบ M.2 เป็นเนื้อที่เก็บข้อมูลหรือจะใช้ทำ SSD cache acceleration เพื่อเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลบน NAS ก็ได้

และเพราะว่ามันรองรับ PCIe expansion card ด้วย ก็ทำให้เราสามารถเลือกอัปเกรดให้เป็น M.2 SSD เพิ่ม เพื่อใช้ทำ SSD cache acceleration ได้ หากเราเอาสล็อต SSD 2 สล็อตไปทำเนื้อที่เก็บข้อมูลแล้ว หรือสำหรับผู้ใช้งานในเชิงธุรกิจ หากมองว่า 2.5GbE มันแบนด์วิธไม่พอใช้ ก็จะเพิ่มเป็น 5GbE หรือ 10GbE ก็ได้ (ต้องมีระบบเน็ตเวิร์กที่รองรับด้วยนะ) และสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านที่อยากได้ความยืดหยุ่นในการหาที่ตั้ง QNAP TS-262 ก็อาจจะอัปเกรดเพิ่มการ์ด WiFi เข้าไป ซึ่งรองรับถึง WiFi 6 802.11ax แล้ว แรงไม่แพ้ 1GbE LAN เลย เป็นต้น

หน่วยประมวลผล Intel® Celeron® N4505 ก็ถือว่าไม่เลว สำหรับการใช้งานกับ NAS สำหรับผู้ใช้งานตามบ้านและ SOHO (Small Office Home Office) ที่ไม่ได้ต้องการรันแอปพลิเคชันอะไรเยอะแยะมากมายพร้อมๆ กัน แต่ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล ก็พร้อมรันแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับ QNAP NAS ได้ ไม่ว่าจะทำตัวเป็น Web server, VPN server, Home media server และอื่นๆ อีกมากมาย ก็เลือกดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ตามต้องการ

สำหรับการเชื่อมต่อกับ QNAP NAS ผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อจะได้เข้าถึงใช้งานได้ แม้จะอยู่นอกสถานที่ ก็ยังรองรับ myQNAPcloud ที่เป็นบริการ DDNS ของ QNAP เอง ช่วยให้เราสามารถกำหนด Domain name ให้กับ IP address ของเน็ตเวิร์กที่บ้านหรือออฟฟิศในกรณีที่เราได้ Public IP แบบสุ่มมา (และอาจเปลี่ยนได้ทุกครั้งที่เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใหม่ หรือเมื่อผู้ให้บริการทำการปล่อย IP address ใหม่มาให้) นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์การเชื่อมต่อแบบอื่นๆ อีก เช่น SmartURL ที่ให้เราเชื่อมต่อเข้ากับ QNAP NAS ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ QNAP ได้เพื่อความปลอดภัยขึ้น

แต่สำหรับมือใหม่หัดใช้ NAS ผมอยากเตือนเอาไว้ก่อนว่าหากวางแผนที่จะให้เชื่อมต่อเข้ามาใช้งาน QNAP NAS ผ่านอินเทอร์เน็ตได้นั้น ควรมีความเข้าใจเรื่องพื้นฐานความปลอดภัยของเน็ตเวิร์กก่อน รู้ว่าการเปิดปิดพอร์ตของ Router นี่คือยังไง ทำยังไง เราจะตั้งค่าอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัย ลองอ่านบล็อก QNAP NAS 101 EP35: อยากเข้าถึง QNAP NAS โดยตรงผ่านอินเทอร์เน็ต เดี๋ยวนี้ก็แอบอันตราย แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ควรทำอย่างไร? (kafaak.blog) ของผมก่อนได้นะครับ

บทสรุปการรีวิว QNAP TS-262

นับว่าเป็น QNAP NAS ในระดับเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ตามบ้านจนถึงระดับธุรกิจขนาดเล็กแบบ SOHO เลยทีเดียว โดยเน้นที่กลุ่มที่อาจจะไม่ได้ต้องการเนื้อที่เก็บข้อมูลเยอะ เพราะรองรับฮาร์ดดิสก์ SATA แบบ 3.5 นิ้วแค่สูงสุด 2 ลูก แต่ต้องการเผื่อเอาไว้สำหรับการอัปเกรดอื่น เช่น เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ WiFi ขยายแบนด์วิธเป็น 5GbE หรือ 10GbE อะไรแบบนี้

มือใหม่หัดใช้ NAS หรือภาคธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังมองหา NAS มาใช้เก็บข้อมูลจำนวนประมาณนึง หรือเอาไว้แบ็กอัปข้อมูล อยากจะเผื่ออัปเกรดบางอย่างในอนาคต แต่อยากได้ NAS ที่ประสิทธิภาพที่พร้อมใช้งานในหลายๆ อย่าง อาจจะพิจารณาเลือกซื้อ TS-262 ได้ครับ