Home>>เที่ยวไปทั่ว>>เที่ยวเพชรบูรณ์ แวะวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว แล้วมีอะไรทำอีกบ้างนะ?
พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ 5 องค์ ประดิษฐานติดต่อกันตามลำดับขนาด ด้านใต้ของฐานพระพุทธรูปเป็นภายในอาคารที่สามารถให้คนเดินเข้าไปได้ มีผู้คนกำลังเดินเข้าออกกันอย่างเนืองแน่น
เที่ยวไปทั่วไทย

เที่ยวเพชรบูรณ์ แวะวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว แล้วมีอะไรทำอีกบ้างนะ?

ทริปต้อนรับปีใหม่ 2566 ของผมงวดนี้ เป้าหมายแค่จังหวัดเพชรบูรณ์ที่เดียวเลย และเป้าหมายเดียวด้วย คือ จะไปชมวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ สีขาวขนาดใหญ่ ถือเป็นสถานที่ที่ต้องมา หากแวะมาจังหวัดเพชรบูรณ์เลย และจากที่นี่ไป อีกแค่ราวๆ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงภูทับเบิกต่อได้ ใครที่เป็นสายเที่ยวเขา กางเต๊นท์ เปลี่ยนบรรยากาศ แถวนี้ก็เป็นสถานที่ยอดนิยมที่คนแวะกันมาครับ ส่วนผมนี่ขอเป็นสายเที่ยวพักผ่อนนอนสบายละกัน

จังหวัดเพชรบูรณ์ ถ้าขับรถยนต์แบบยิงยาวไป ประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึง เพราะจังหวัดมันยาว 🤣🤣 แต่ถ้าจะไปให้ถึงเขาค้อ จะใช้เวลาราว 6 ชั่วโมงครับถ้าขับแบบยิงยาวไม่แวะที่ไหนเลย แต่ถ้าแวะทานข้าว เติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ ซื้อของจุกจิก ก็บวกเวลาเข้าไปครับ การเดินทางของผมจากบ้าน ด้วยความที่เป็นวันธรรมดา ก็ไม่ได้กะจะขึ้นทางด่วนเลย วิ่งออกเส้นกาญจนาภิเษก ทางหลวงหมายเลข 9 วิ่งไปทางอยุธยา ออกสระบุรี เข้าลพบุรี และจบที่เพชรบูรณ์ครับ แวะทานข้าวที่เค้กบ้านสวน สาขา 2 เพราะว่าอยู่ในระยะเวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมงจากบ้าน และมาถึงนี่ก็ราวๆ 8:00 ตอนเช้า ได้เวลามื้อเช้าพอดี

ภายในอาคารที่หลังคาสูงมาก มีร้านอาหาร เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมกไก่ กระเพาะปลา ก๋วยจั๊บ ผัดไทย เปิดขายเรียงรายอยู่ มีโต๊ะทานอาหารแบบยาวนั่งได้หลายคน วางเรียง และมีผู้คนกำลังนั่นทานอาหารอยู่

เค้กบ้านสวน สาขา 2 มีขนาดใหญ่ดี ห้องน้ำก็เยอะ ที่จอดรถก็เพียบ ตัวเลือกร้านอาหารก็มากมาย ไปกันหลายๆ คน มีความชอบด้านอาหารที่แตกต่างกันเยอะๆ ไปที่นี่ก็สะดวกดีครับ ก๋วยเตี๋ยว ผัดไท ก๋วยจั๊บ กระเพาะปลา ข้าวราดแกง ข้าวหมกไก่ ฯลฯ เลือกได้ตามใจ อยากหาซื้อโน่นนี่ไว้กินจุกจิกระหว่างทางก็ได้

ขับรถมาเรื่อยๆ ตามเส้นพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มาจนถึงตอนจะเข้าสู่จังหวัดลพบุรี เราจะไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เราก็จะแยกไปที่ทางหลวงหมายเลข 21 แทน (สระบุรี-หล่มสัก) เส้นทางนี้เราจะผ่านทุ่งทานตะวันครับ หากเราเดินทางมาช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม สามารถแวะถ่ายรูปได้ ผมแวะที่ทุ่งทานตะวัน ไร่คุณปู่ แต่ใกล้ๆ ก็จะมีทุ่งทานตะวัน ไร่บุปผชาติ ด้วย เป็นทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่ ถ่ายภาพแล้วสวย และมีพร็อพให้ถ่ายรูปด้วยพอสมควร ค่าเข้าคนละ 20 บาท ถือว่าคุ้ม

จบจากตรงนี้แล้ว ขับรถยิงยาว 4 ชั่วโมงได้เลย แวะเข้าห้องน้ำเป็นระยะๆ บ้าง เสียเวลาไปครั้งละ 10 นาที พอถึงใกล้ที่พักก็แวะเติมน้ำมันหน่อย ใครขึ้นมาเขาค้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำมันหมดนะ มีปั๊ม ปตท. อยู่ครับ หลายปั๊มด้วย สำหรับคนที่เริ่มสนใจขับรถเที่ยวในประเทศด้วยรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ก็วางแผนให้ดีๆ ก็น่าจะทำได้ครับ เพราะผมเห็นปั๊ม ปตท. ที่มี EV charger อยู่เป็นระยะๆ เลย ดาวน์โหลดแอปชาร์จรถค่ายต่างๆ โดยเฉพาะของ ปตท. (EV Station PluZ iOS/Android) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA VOLTA iOS/Android) ในทริปนี้ผมเห็นคนขับ ORA Goodcat มาจาก กทม. มาถึงเขาค้อด้วยนะเออ

ป้ายชื่อรีสอร์ท The Imperial Phukaew Hill Resort Phetchabun ตั้งอยู่บนสนามหญิง มีแปลงดอกไม้อยู่บริเวณด้านหน้า และด้านหลังเป็นต้นไม้จำนวนมาก

ที่พักของผมคือ The Imperial Phukaew Hill Resort Petchabun เป็นที่พักสไตล์รีสอร์ท มีขนาดใหญ่มาก บรรยากาศถือว่าดีครับ ผมเลือกจองเป็นที่พักแบบ Hillside ที่มีขนาดห้องใหญ่ 49 ตารางเมตร ถือว่าใหญ่มากสำหรับพัก 2 คน ราคาที่พักคืนละ 2,500 บาท ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับขนาดห้อง และหากไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ราคาก็จะถูกกว่านี้อีก ราคานี้รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คนแล้ว

สิ่งอำนวยความสะดวกในที่พักถือว่าครบเครื่องอยู่ น้ำอุ่น อ่างอาบน้ำ ห้องน้ำถือว่าใหญ่มาก แต่ดูแว้บเดียวก็รู้ว่าเป็นรีสอร์ทที่ค่อนข้างเก่า สังเกตได้จากเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ค่อนข้างเก่า (ห้องคุณแม่ผม โซฟาปรับเอนไม่ได้ เพราะที่ปรับมันพัง) ทีวีแบบจอแบน แต่ก็รุ่นเก่าแบบรู้สึกได้ และมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับขนาดห้องและขนาดของที่วาง และตำแหน่งของทีวีคือจะอยู่บนเตียง หรือบนโซฟาบริเวณหน้าต่างบานใหญ่ คือ ดูไม่สะดวกทั้งคู่ สำหรับคนที่เน้นนอนพักและออกไปเที่ยวจะไม่ทันได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจเท่าไหร่ เพราะถือว่าห้องมันดีพอเอาไว้ถ่ายรูปอวดโซเชียลมีเดียให้คนอื่นๆ อิจฉาแล้ว

อาหารเช้าถือว่าดี รสชาติอร่อย มีความหลากหลาย และหากต้องการทำกิจกรรมอื่นๆ มันมี Phukaew Adventure Park อยู่ไม่ไกล เย็นๆ ถ้าไม่ได้ออกไปไหน แนะนำให้แวะไปจิบกาแฟ ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ Phukaew Peak ได้ (มีค่ารถ แต่สามารถใช้คูปองค่ารถเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้) ผมและภรรยาไปกับแม่และเพื่อนแม่ ก็เลยไม่ได้แวะสองที่นี้ครับ

พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ 5 องค์ ประดิษฐานติดต่อกันตามลำดับขนาด ด้านใต้ของฐานพระพุทธรูปเป็นภายในอาคารที่สามารถให้คนเดินเข้าไปได้ มีผู้คนกำลังเดินเข้าออกกันอย่างเนืองแน่น

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว มีทางขึ้น 2 ทาง เส้นทางที่ Google แนะนำมา เขาให้เข้าทางด้านที่จอดรถของวัด ซึ่งจอดได้ฟรี มาไม่ลำบาก ที่จอดรถก็สบายๆ แต่ก็จะต้องเดินขึ้นบันไดมานิดนึง ส่วนอีกทางจะเป็นเส้นถนนแคบๆ รถเยอะก็จะติดหน่อย แต่อยู่ใกล้วัดกว่ามาก และมีพวกร้านค้า ร้านของฝากเพียบ ถ้ารถเยอะอาจจะต้องจอดไกล และเดินไกลกว่าที่จอดรถฟรีของวัดอีก และมีค่าจอดรถ 30 บาท

จุดที่ควรแวะสำหรับคนที่มาวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก็คือ ไปถ่ายรูปกับพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ สีขาว ขนาดใหญ่ โดดเด่นเห็นแต่ไกลก่อนครับ และอย่าลืมไปสักการะพระพุทธเลิศรัตนโชติมณี หรือ พระหยกเขียว ที่เป็นพระพุทธรูปหยกปางมารวิชัย ศิลปะสมัยเชียงแสน หน้าตัก 65 นิ้ว แกะสลักจากหยกเขียวทั้งก้อน ซึ่งถ้าสังเกตบริเวณหน้าผากของพระพุทธรูปองค์นี้ จะเห็นพระบรมสารีริกธาตุด้วย

นอกจากนี้ก็อยากแนะนำให้แวะไปที่เจดีย์พระธาตุผาแก้ว ซึ่งมีความพิเศษคือลวดลายการตกแต่งด้วยกระเบื้องและหินสีต่างๆ มีความแตกต่างจากพระเจดีย์ที่วัดอื่นๆ ด้วย

และไหนๆ ก็แวะมาวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแล้ว ก็อยากให้แวะ 7-Elevel สาขา ผาซ่อนแก้ว ที่อยู่ไม่ไกลด้วยครับ ที่นี่ถือว่าเป็น 7-Eleven สาขาที่สวยที่สุดที่ผมเคยไปมาเลย เพราะเขามีวิวที่มองออกไปเห็นทิวเขาและท้องฟ้า สวยงาม ซื้อเค้ก ขนมปัง ไส้กรอก และเครื่องดื่ม มาจิบริมหน้าต่าง หรือขึ้นไปชั้น 2 ของร้าน เพื่อออกไปนั่งตรงระเบียงด้านนอกก็ได้ เก๋ไก๋มาก และด้านหลังของ 7-Eleven นี่ก็เป็นที่จอดรถครับ อยู่ใกล้กับวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วกว่าลานจอดรถอีกที่ซะอีก ค่าจอด 30 บาทเท่ากัน แต่สามารถเอาบัตรจอดรถไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มหรืออาหารจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกับที่จอดรถนี้ได้ คุ้มกว่านะผมว่า ถ้าใครจะมาจอดรถ

น้ำตก

ถ้าใครมาหลายวัน (แบบผมที่มา 3 วัน 2 คืน) ก็อยากแนะนำให้ไปที่น้ำตกศรีดิษฐ์ครับ ช่วงหน้าหนาวนี่แม้จะเล่นน้ำไม่ได้ แต่ค่าเข้าแค่คนละ 20 บาท และค่าจอดรถ 30 บาท ขนาดมีน้ำน้อยๆ ก็ยังมีจุดน้ำตกสวยๆ ให้ถ่ายรูปอยู่ ใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่ต้องนาน แต่กว่าจะมาถึงที่นี่อาจจะแอบนานนิดนึง 🤣🤣 ถ้าเป็นหน้าเทศกาลที่คนไปเยอะๆ จะลำบาก เพราะจุดที่จะถ่ายรูปได้สวยมันไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

เสร็จจากน้ำตกแล้ว ถ้าใครมาแบบครอบครัวมีลูกเล็กมาด้วย ลองแวะ Amazing Dinosaur ได้ครับ ในทริปนี้ผมไม่ได้แวะไปที่นี่ แต่ดูจากรูปและรีวิวแล้ว ค่อนข้างโอเคนะ ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าก็มีกิจกรรมให้เด็กๆ ได้เล่นกันเยอะแหละ

ร้านอาหารที่อยากแนะนำ หากใครไปเที่ยวเขาค้อ ก็น่าจะประมาณนี้ครับ

ร้านเลอฃวต

ร้านอาหารที่แม่ผมมองแว้บแรกนึกว่าเป็นร้านขายของชำ แต่มีป้ายชื่อ เลอฃวต ขนาดใหญ่อยู่นะ ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 10:30 และปิด 21:00 เมนูเด่นๆ คือ พิซซ่า และ สเต็ก ครับ พิซซ่ามีให้เลือก 2 หน้า คือ ฮาวายเอี้ยนและสโมกกี้เบค่อน ส่วนสเต็กเนื้อมีเนื้อหลากหลายแบบ และมีเนื้อนำเข้าหลายแบบด้วยเช่นกัน เช่น เนื้อออสเตรเลีย เนื้อวากิวญี่ปุ่น อาหารถือว่าอร่อยเลย แต่ราคาก็จะประมาณนึงครับ อยู่ที่ว่าเราเลือกทานเมนูอะไร

ครัวนายต๋อยเขาค้อ

เป็นร้านอาหารที่เปิดให้บริการที่พักด้วย เปิดตั้งแต่ 09:30-21:00 เลย และช่วงสุดสัปดาห์ ศุกร์-อาทิตย์ จะมีดนตรีโฟล์คซองให้ฟังด้วยนะ อาหารมีให้เลือกหลายแบบ และอร่อยๆ ทั้งนั้น รสชาติมีความจัดจ้าน ราคาอาหารก็ไม่แพง ใครที่เดินทางมาที่น้ำตกศรีดิษฐ์ ทุ่งกังหันลม หรือ Amazing Dinosaur ก็จะสามารถแวะทานมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นที่ร้านนี้ได้ครับ

เหลียงซาน

ร้านกาแฟและร้านอาหารดีไซน์แนวจีนๆ สมชื่อ การจะขึ้นไปต้องมารอคิว และจ่ายค่ารถ 100 บาทต่อคน เพื่อนั่งรถขึ้นเขาไป ใช่ครับ ร้านมันอยู่บนเขาและทางค่อนข้างชัน ไม่มีพื้นที่จอดรถด้วย ต้องนั่งรถเขาไปสถานเดียว บัตรขึ้นรถสามารถเอาหางบัตรไปแลกเครื่องดื่มหรือเป็นส่วนลดสำหรับเครื่องดื่มได้ เครื่องดื่มผมว่าเฉยๆ จากที่ลองชิมกาแฟเหลียงซานและชาอู่หลงฮันนี่เลมอน ส่วนอาหารนี่ไม่ได้ลองชิม แต่ตัวเลือกเมนูถือว่าไม่ได้เยอะมาก แต่เค้กอร่อยนะ มาที่นี่ก็แวะถ่ายรูปสวยๆ เขาเปิด 06:00-19:00 ใครมาช่วงเช้าหรือช่วงเย็น สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกได้ที่ร้านนี้

ปิดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ แนะนำให้แวะจุดชมวิวสวนรัชมังคลาภิเษกครับ ด้านในมีร้านกาแฟชื่อ โมเดล กาแฟสด รสชาติโอเคอยู่นะ ผมสั่งอเมริกาโน่เย็นไม่ใส่น้ำตาลมาดื่ม ร้านอยู่ริมเขาพอดี เราก็จะได้ดื่มกาแฟไปพร้อมๆ กับชมวิวทิวเขาและท้องฟ้าไปด้วย นอกจากนี้ก็มีร้านค้าขายของต่างๆ มากมาย ผัก ผลไม้สดๆ ข้าวสาร สามารถแวะซื้อได้ทั้งก่อนจะไปเที่ยวไปนอนพัก หรือกำลังจะกลับกรุงเทพก็โอเค

ไปเขาค้อ ที่เที่ยวไม่ได้เยอะมาก แต่ถ้าไปซัก 3 วัน 2 คืน ก็ยังถือว่ามีกิจกรรมให้ทำโน่นนี่นั่นได้อยู่พอสมควรครับ ไม่ต้องอัดโปรแกรมเที่ยวให้แน่น เน้นไปแบบชิลล์ๆ ก็ถือว่าโอเค จังหวัดเพชรบูรณ์ จะเลือกวางแผนแบบเดินทางจากกรุงเทพมาแล้วก็กลับก็ได้ หรือจะวางแผนให้เป็นจุดแวะนอนซักคืน เที่ยวอีกซักหน่อย แล้วค่อยขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือทีละจังหวัดก็น่าจะโอเคครับ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า