Home>>รีวิว>>Logitech LIFT vs Microsoft Sculpt สำหรับผมแล้ว Ergonomic mouse ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน?
ซ้ายมือ เมาส์ Logitech LIFT สีขาว ขวามือ Microsoft Sculpt สีดำ
รีวิว

Logitech LIFT vs Microsoft Sculpt สำหรับผมแล้ว Ergonomic mouse ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน?

สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้รีวิวเมาส์ Logitech LIFT ที่เป็น Vertical mouse หรือ Ergonomic mouse แบบนึงไปแล้ว ในตอนนั้น ผมก็ได้มีพูดเปรียบเทียบมันกับ Microsoft Sculpt Ergonomic Mouse ตัวโปรดของผมที่ผมใช้อยู่กับคอมพิวเตอร์หลักที่บ้านในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ Microsoft Sculpt ราคา 1,669 บาท ส่วน Logitech LIFT นี่ราคา 2,190 บาท (อ้างอิงราคาของ BaNANA IT ออนไลน์) แตกต่างกันประมาณ 500 บาท ถ้าถึงคราวที่จะต้องเลือกตัวใหม่ซักตัวจะเลือกอะไรดี ผมในฐานะที่ใช้มาทั้งคู่แล้ว จะมาเปรียบเทียบให้ได้อ่านกัน จากมุมมองของผู้ใช้งานครับ

เปรียบเทียบรูปร่างหน้าตาของตัวเมาส์ Logitech LIFT กับ Microsoft Sculpt

Ergonomic mouse ส่วนใหญ่จะมีดีไวน์ที่จะให้ปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาของเมาส์มันมีลักษณะเอียงๆ หน่อย เขาเรียกเป็น Vertical mouse เพราะปุ่มเมาส์มันตั้งขึ้นมา เพราะตามหลักการยศาสตร์แล้ว ข้อมือของคนเราเวลาวางข้างลำตัวเนี่ย ถ้าเอาฝ่ามือวางบนโต๊ะ มันควรจะอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับพื้น ถึงจะเป็นท่วงท่าตามธรรมชาติครับ การจับ Vertical mouse ฝ่ามือของเราก็จะยังคงวางแบบค่อนข้างจะตั้งฉากกับพื้น ทำให้มัดกล้ามเนื้อเหยียดตรงตามสบาย แบบในรูปด้านล่างฝั่งซ้าย แต่ถ้าเราต้องคว่ำฝ่ามือลงเพื่อไปจับเมาส์แบบรูปด้านขวา กล้ามเนื้อจะต้องถูกบิดตามข้อมือมาแบบในรูปด้านล่างฝั่งขวา ถ้านึกภาพตามไม่ออก ให้ลองนั่งเก้าอี้ ทำท่าเหมือนกำลังจะเอื้อมไปหยิบเมาส์ครับ แต่ให้เปรียบเทียบระหว่างการวางแขนท่อนล่างและมือให้ตั้งฉากกับพื้นโต๊ะ กับการวางแขนในลักษณะจับเมาส์แบบทั่วๆ ไป แล้วลองพยายามจับความรู้สึกของกล้ามเนื้อแขนท่อนล่างดูครับ จะรู้สึกได้ว่ามันมีการบิดและเกร็งขึ้นเล็กน้อย นี่ยังไม่นับที่ข้อมือจะต้องผงกขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อให้มันรับกับความโค้งของตัวเมาส์อีกนะ

ภาพอธิบายลักษณะของกล้ามเนื้อเมื่อจับเมาส์แบบ

ทั้ง Logitech LIFT และ Microsoft Sculpt มันก็ออกแบบมาเป็นแนว Vertical mouse นั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าตัว Logitech LIFT เนี่ย จะเป็น Vertical mouse ที่ชัดเจนมาก สังเกตได้ว่าปุ่มเมาส์ซ้ายและขวา มันจะเกือบจะตั้งฉากกับพื้นอยู่แล้ว ในขณะที่ Microsoft Sculpt นั้น การวางปุ่มจะไม่ตั้งฉากมาก และตัวเมาส์จะออกแนวโค้งมน เพื่อตอบรับกับอุ้งมือ ทั้งคู่จริงๆ แล้ว ออกแบบมาได้ตอบรับกับอุ้งมือดี แต่เป็นการวางอุ้งมือที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย

เปรียบเทียบเมาส์ 2 ตัว โดยดูจากด้านหลังของเมาส์ไปทางด้านหน้า ซ้าย เมาส์ Logitech LIFT ขวา Microsoft Sculpt

สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับ Vertical mouse และพยายามใช้ยังไงก็ไม่คุ้นเคย (เช่น ภรรยาของผม) ก็จะมีปัญหากับดีไซน์ของ Logitech LIFT ครับ แต่จะไม่ค่อยมีปัญหากับดีไซน์ของ Microsoft Sculpt เพราะเจ้านี่จะคล้ายๆ กับเมาส์แบบเดิมอยู่พอสมควร คือ ตรงท่อนแขนด้านล่างมันต้องบิดอยู่นิดนึง แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่ทำให้รู้สึกเกร็ง และข้อมือก็ไม่ต้องผงกให้เมื่อยด้วย

แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบสำหรับตัว Microsoft Sculpt เลยก็คือ การดีไซน์ให้มันเป็นพลาสติกแบบมันวาวนี่แหละครับ เพราะว่าพอใช้ไปนานๆ ตัวผิววัสดุก็จะเกิดรอยขนแมว รอยขีดข่วนต่างๆ ได้ง่าย พวกคราบมันๆ ลายนิ้วมือ หรือแม้แต่ขี้ฝุ่นขี้ไคลต่างๆ ก็มาสะสมได้ง่ายเช่นกัน ส่วนตัวของ Logitech LIFT นั้น พวกรอยขนแมว รอยขีดข่วน คราบมัน หรือลายนิ้วมือ นี่จะเกาะติดและมองได้เห็นยาก แต่ในส่วนของขี้ฝุ่นขี้ไคล อาจจะต้องดูระยะยาวกว่า 1 สัปดาห์ที่ผมใช้มาครับ แต่ที่แน่ๆ สีขาวกับสีชมพู น่าจะเห็นชัดเลย ถ้าเกิดมันเกาะติดได้ สีดำอาจจะเห็นยากขึ้นมาหน่อย

ภาพระยะใกล้ของปุ่มเมาส์ของ Microsoft Sculpt ที่เห็นคราบขี้ไคลเกาะติดอยู่ชัดเจน

ทั้ง Logitech LIFT และ Microsoft Sculpt ต่างก็เป็นเมาส์แบบที่มี USB dongle ทั้งคู่ และใส่แบตเตอรี่ AA ด้วยกันทั้งคู่ โดยช่องใส่แบตเตอรี่และเก็บ USB dongle จะอยู่ที่ด้านล่าง ฝาปิดใช้ระบบแม่เหล็กในการดูดฝาปิดเอาไว้ทั้งคู่ แต่ของ Microsoft เนี่ย จะต้องใส่แบตเตอรี่ AA 2 ก้อน ในขณะที่ Logitech LIFT ใช้แบตเตอรี่ AA แค่ก้อนเดียว แต่ Logitech LIFT ก็มีจุดที่ด้อยกว่าตรงที่ ช่องเก็บ USB dongle นั้น เป็นแบบเสียบโดยอาศัยความฟิตของช่องเสียบให้เก็บตัว USB dongle ให้อยู่เฉยๆ แต่ของ Microsoft Sculpt นี่ มันใช้แรงแม่เหล็กในการดูดให้ตัว USB dongle ติดอยู่ในช่องเก็บ มันวางใจได้ดีกว่า

ช่องใส่แบตเตอรี่และเก็บ USB dongle ของ Microsoft Sculpt และ Logitech LIFT

USB dongle ของ Microsoft Sculpt จะมีขนาดยาวกว่าของ Logitech LIFT พอสมควร ซึ่งทั้งคู่มันก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะครับ คือถ้า USB dongle มันยาว ก็จะเกะกะเวลาจะเสียบกับโน้ตบุ๊กค้างไว้ แล้วจะเก็บโน้ตบุ๊กลงกระเป๋าทั้งแบบนั้นเลย แต่เวลาจะดึงออกจากพอร์ต USB คือง่ายดี เพราะมีพื้นที่ให้จับเยอะ พวกพอร์ต USB-A ที่แน่นๆ ฟิตๆ ก็ดึงออกได้ไม่ยาก ส่วนของ Logitech LIFT ที่สั้นๆ มันก็ไม่เกะกะไง แต่เวลาเจอพอร์ต USB-A ที่แน่นๆ ฟิตๆ มันก็จะดึงออกยากหน่อย

ซ้ายมือคือ Dongle ของ Microsoft Sculpt ขวามือคือ Dongle ของ Logitech LIFT

เปรียบเทียบสเปกกันซักหน่อย

แอบเสียดายตรงที่ Microsoft ไม่ได้เปิดเผยสเปกอะไรมากมายนัก ในขณะที่ Logitech ก็เปิดเผยสเปกมาประมาณนึง เอาจริงๆ เมาส์มันก็ไม่ได้มีสเปกด้านฮาร์ดแวร์อะไรมากมายให้เปรียบเทียบนัก แต่ก็เอาเท่าที่จะเปรียบเทียบได้ก็แล้วกันเนอะ

สเปกLogitech LIFTMicrosoft Sculpt
ระบบปฏิบัติการที่รองรับWindows, Linux, macOS, iOS, iPadOS, AndroidWindows, Linux, macOS
การเชื่อมต่อ2.4GHz RF, Bluetooth 5.02.4GHz RF
การใช้งานหลายอุปกรณ์จับคู่กับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 อุปกรณ์จับคู่กับอุปกรณ์ได้ 1 อุปกรณ์

สังเกตข้อจำกัดที่ชัดเจนสุดๆ เลย คือ Microsoft Sculpt นี่จะเหมาะสำหรับคนที่มีอุปกรณ์ไม่หลากหลาย โดยมากจะเป็นเครื่อง PC หรือ โน้ตบุ๊ก ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows, Linux หรือ macOS และต้องมีพอร์ต USB-A เอาไว้สำหรับเสียบตัว USB dongle เพื่อจับคู่เท่านั้น หากทำ USB dongle พังหรือหาย ก็โยนเมาส์ทิ้งไปรีไซเคิลได้เลยครับ หมดประโยชน์ในทันที

ในทางกลับกัน เพราะ Logitech LIFT มันรองรับทั้งการเชื่อมต่อแบบจับคู่กับ USB dongle และบลูทูธ ทำให้มันรองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลายกว่า ถ้าเอาไปใช้กับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ไม่ว่าจะ iOS, iPadOS หรือ Android ก็สามารถใช้งานได้ ผ่านการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ ที่สำคัญ มันเป็น Bluetooth LE ด้วย ประหยัดแบตเตอรี่กว่าอีก (แต่ถ้าใช้ USB dongle ที่ยังคงเป็น 2.4GHz RF ก็น่าจะกินแบตเตอรี่เท่าเดิม)

ถ้า USB dongle พังหรือหายไป ปุบปับเรายังต้องใช้งาน ก็เชื่อมต่อผ่านบลูทูธเอาก็ได้ โน้ตบุ๊กสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็รองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธอยู่แล้วด้วย (ส่วน PC ผมไม่แน่ใจ ผมไม่ได้ใช้ PC ที่เป็นแบบประกอบมานานมาก แต่ Intel NUC ที่ผมใช้ มันรองรับบลูทูธหมด) นอกจากนี้ USB dongle ของ Logitech LIFT เนี่ย มันเป็นเทคโนโลยี Logi Bolt ครับ USB dongle ตัวนึงมันสามารถจับคู่กับอุปกรณ์ใดๆ ของ Logitech ที่รองรับ Logi Bolt ได้พร้อมกันสูงสุด 6 ตัว ถ้า USB dongle เดิมพังหรือหาย เราก็ซื้อตัวใหม่ (สี่ร้อยกว่าบาท) มาใช้แทนได้

Logitech LIFT ใช้แบตเตอรี่ AA แค่ก้อนเดียว แต่ Microsoft Sculpt ต้องใช้แบตเตอรี่ AA 2 ก้อน แต่ผมก็ตอบยากว่าอันไหนจะดีกว่ากัน แต่ตามสเปกเนี่ย Logitech LIFT บอกว่าฉันอยู่ได้สูงสุด 2 ปีเลยนะจ๊ะ ส่วน Microsoft Sculpt นั่นเขาบอกว่าได้ 10 เดือน อะไรว้า ใส่แบตเตอรี่ก็เยอะกว่าเขา แถมแดกแบตเตอรี่หนักกว่าอีกเหรอ 🤣🤣

ลูกเล่นของตัวเมาส์แบบ Default

ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี ขอเปรียบเทียบให้ดูเป็นตารางก็แล้วกันนะครับ

ฟีเจอร์Logitech LIFTMicrosoft Sculpt
คลิกเมาส์ปุ่มกลางทำได้ด้วยการคลิก Scroll wheelทำได้ด้วยการคลิก Scroll wheel
การ Scroll ไปด้านข้างทำได้โดยการกดปุ่มด้านข้างปุ่มใดปุ่มนึง แล้วเลื่อน Scroll wheelScroll wheel เลื่อนได้ 4 ทิศทาง บน-ล่าง สำหรับ Scroll ขึ้นหรือลง ซ้าย-ขวา สำหรับ Scroll ซ้ายหรือขวา
การเปลี่ยนความเร็วของเคอร์เซอร์ทำได้ด้วยปุ่มที่มีไม่สามารถทำได้
ปุ่มที่ทำหน้าที่แตกต่างไปในแต่ละโปรแกรมทุกปุ่มมีค่า Default ที่ทำให้แต่ละปุ่มมีหน้าที่แตกต่างกันไปตามแต่ละโปรแกรม และสามารถปรับแต่งได้ผ่านโปรแกรม Logitech Options+ปุ่ม Windows ปุ่ม Scroll wheel และปุ่มด้านข้าง มีหน้าที่ตายตัวในค่า Default มีหน้าที่เดียวกันหมดทุกโปรแกรม หากต้องการปรับแต่ง ต้องทำผ่านโปรแกรม Microsoft Mouse and Keyboard Center
ตัวเลือก Action สำหรับแต่ละปุ่มที่ปรับแต่งได้หลากหลาย และแตกต่างกันไปตามแต่ละปุ่ม มีฟังก์ชันค้นหา Action ด้วยคีย์เวิร์ดทุกปุ่มปรับแต่งได้เหมือนๆ กัน เพียงแต่ Microsoft จะแนะนำ Action ที่เหมาะสำหรับปุ่มนั้นๆ ให้ด้วย แต่หา Action ยาก เพราะไม่มีฟังก์ชันค้นหา
จุดเด่นอื่นๆตั้งค่าง่าย มีค่าเริ่มต้นมาให้ประมาณนึงแล้ว จำลอง Gestures ได้ด้วย เข้าใจการตั้งค่าได้ไม่ยากสมกับเป็นผลิตภัณฑ์ของ Microsoft สามารถตั้งค่าได้ละเอียดมาก เช่น สามารถเขียน Macro ให้กับปุ่มได้ มีฟีเจอร์หลายตัวที่ Logitech ไม่มีให้เลือก เช่น Spotlight, Magnify, Gaming commands เป็นต้น แต่จะต้องติดตั้งโปรแกรมก่อนถึงจะดึงขีดความสามารถมาใช้ได้

ดูๆ ไปแล้ว ถ้าซื้อมาแบบไม่กะจะติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเลย Logitech ดูจะมีภาษีที่ดีกว่าครับ เพราะมันมีค่า Default ที่ทำออกมาค่อนข้างดีเลย ถ้าใช้จนชินก็จะเวิร์กมาก แต่เพราะมันทำได้เยอะ ก็จะงงๆ สับสนหน่อย ในขณะเดียวกัน Microsoft Sculpt แม้จะทำอะไรได้ไม่มาก แต่การใช้งานตรงไปตรงมามากทีเดียว Scroll wheel ที่เลื่อนได้ 4 ทิศทางคือเข้าใจการใช้งานได้ง่ายมาก อยากให้ยี่ห้ออื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างมาก ปุ่ม Windows key บน Mouse ก็เทียบเท่าปุ่ม Windows key บนคีย์บอร์ด ส่วนปุ่มด้านข้าง ค่า Default คือ Back ทำให้ไร้ประโยชน์ในการใช้งานบางโปรแกรม

แต่ถ้าได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เสริมการใช้งานแล้ว Logitech จะเข้าทำนอง ตั้งค่าง่าย ทำอะไรได้หลากหลาย แต่ก็ถูกจำกัดอยู่ในตัวเลือกที่หลากหลายนั้น ส่วนของ Microsoft จะออกแนว ตั้งค่ายากนิดนึง ปุ่มก็น้อยกว่าชาวบ้านเขา แต่ข้อดีคือ พี่แกมี Gaming commands ให้เลือก มี Action หลายๆ อย่างที่ชาวบ้านเขาไม่มี ที่สำคัญคือ บันทึก Macro ให้กับปุ่มได้ด้วย ใครชอบใช้ Macro ในการอำนวยความสะดวกในการทำงาน น่าจะชอบ

ซอฟต์แวร์เสริมประสิทธิภาพการใช้งาน

Logitech LIFT มี Logitech Options+ เป็นซอฟต์แวร์สำหรับตั้งค่า ส่วน Microsoft Sculpt เขาก็มี Microsoft Mouse and Keyboard Center เอาไว้ตั้งค่าเช่นกัน ทั้งคู่เป็นซอฟต์แวร์รองรับการตั้งค่าอุปกรณ์ทั้งคีย์บอร์ดและเมาส์ของตัวเอง แต่ Microsoft นี่ตั้งชื่อซอฟต์แวร์ได้ โค-ตะ-ระ เชยแหลก แต่ก็อ่านแล้วโคตรตรงไปตรงมาเช่นกัน ส่วนของ Logitech นี่ ชื่อกิ๊บเก๋ แต่ก็เดายากว่าเอาไว้ทำอะไร

หน้าจอซอฟต์แวร์ Logitech Option Plus แสดงการตั้งค่าปุ่มต่างๆ บนตัวเมาส์ Logitech LIFT

ซอฟต์แวร์ของ Logitech LIFT สามารถตั้งค่าได้เยอะแยะตาแป๊ะไก่มาก บอกระดับแบตเตอรี่ของเมาส์ได้ด้วย (ตัวเมาส์ไม่มีไฟ LED บอกระดับแบตเตอรี่) การตั้งค่าปุ่มต่างๆ สามารถทำได้ในระดับแยกโปรแกรมเลย โปรแกรมแต่ละตัว ปุ่มก็จะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Flow ก็ช่วยให้เราสามารถใช้เมาส์และคีย์บอร์ดของ Logitech ชุดเดียว ควบคุมคอมพิวเตอร์หลายเครื่องได้เสมือนหนึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกัน

หน้าจอโปรแกรม Microsoft Mouse and Keyboard Center ในส่วนการตั้งค่า Basic settings

UI ของ Microsoft Mouse and Keyboard Center นี่แทบจะสมกับเป็น Microsoft จริงๆ Minimal และเชย 🤣🤣 อย่างไรก็ดี แม้ว่าปุ่มบนเมาส์ Microsoft Sculpt จะน้อยกว่า แถมปุ่มที่สามารถกำหนด Action ต่างๆ ได้เต็มที่จริงๆ ก็มีแค่ Wheel button, Windows button และ Left side button ด้วย แต่จุดเด่นคือความที่เป็น Microsoft ครับ การตั้งค่ามันมีตัวเลือก Action บางอย่างที่ Logitech ไม่มี แถมยังมีตัวเลือกสำหรับการบันทึก Macro ให้กับปุ่มด้วย คนทำงานที่ชอบใช้ Macro หรือคนเล่นเกมที่อาจจะต้องทำอะไรด้วยการพิมพ์คีย์บอร์ดซ้ำๆ เนี่ย ช่วยได้เยอะเลย

บทสรุปจากความเห็นของผมเอง

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ชอบปรับแต่งอะไรเลย น่าจะใช้งานได้ทั้งตัว Logitech LIFT และ Microsoft Sculpt ได้อย่างไม่มีปัญหา ทีนี้ก็เหลือแค่ว่าใครจะชอบทรงดีไซน์แบบไหนเท่านั้นแหละครับ เพราะสองตัวนี้มันดีไซน์ต่างกันค่อนข้างชัดเจนมาก ฟังก์ชันอื่นๆ ในฐานะเมาส์ที่มีมาให้เป็นพื้นฐาน เรียกว่าพอๆ กันอยู่แล้ว

แต่ถ้าจะมองในแง่ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ผมว่า Logitech LIFT ได้เปรียบกว่าใน 2 ประเด็น คือ ปุ่มมันเยอะกว่า ทำโน่นนี่นั่นได้หลากหลายกว่า ถ้าต้องการปรับแต่งก็ทำได้ง่าย เข้าใจได้ง่ายกว่า Microsoft Sculpt และอีกประเด็นคือความสามารถในการเปลี่ยนความเร็วของการเลื่อนเคอร์เซอร์ (ปรับค่า DPI) ได้ 2 ระดับ ซึ่งดีมากสำหรับคนทำงานด้านกราฟิก เพราะในการใช้งานทั่วไป ค่า DPI ซัก 800-1,600 นี่คือกำลังดี แต่พอเป็นงานที่ต้องการความแม่นยำตอนลาก ก็อยากจะลดให้ลงมาต่ำๆ เหลือ 400 DPI นี่ก็ทำได้ ง่ายแค่กดปุ่ม ส่วน Microsoft Sculpt เนี่ย ทำไม่ได้ ต้องไปเปลี่ยนใน Settings วุ่นวาย นอกจากนี้ ใครที่มีหลายอุปกรณ์ อยากใช้เมาส์ตัวเดียวได้ทุกอุปกรณ์ Logitech LIFT ก็เหมาะ เพราะมันจับคู่กับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 อุปกรณ์ สลับไปมาได้ง่ายแค่คลิก แถมเชื่อมต่อผ่านบลูทูธได้ ในขณะที่ Microsoft Sculpt นี่ต้องผ่าน USB dongle เท่านั้น

ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นรูปคีย์บอร์ดและเมาส์ของ Microsoft ภาพดูหม่น แต่มีวงกลมที่เหมือนเป็นไฟสปอตไลต์กำลังฉายไปไฮไลต์ที่บริเวณรูปเมาส์

ความได้เปรียบในแง่ฟีเจอร์ของ Microsoft Sculpt เพียงหนึ่งเดียวก็คือ ความสามารถในการกำหนด Action ให้ปุ่มบนเมาส์ ซึ่งมันมี Action เปิดปิดการใช้งานฟีเจอร์บางอย่างที่ Logitech LIFT ไม่มีให้ เช่น Spotlight ซึ่งจะทำให้ภาพบนหน้าจอดูหม่นลง แล้วจะมีวงกลมสว่างๆ ที่เหมือนกับบริเวณที่ถูกฉายด้วยแสงสปอตไลต์มาแทนที่เคอร์เซอร์ของเมาส์ เราสามารถใช้ Scroll wheel ในการปรับขนาดของสปอตไลต์ได้ อันนี้เอาไว้ไฮไลต์หน้าจอ เวลานำเสนองานบนจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง

แต่ไม่ว่าใครจะสนใจอันไหน ถ้าอยากจะซื้อ ผมแปะลิงก์ไว้ให้แล้วทั้งคู่ พยายามหาร้านที่ถูกที่สุดบน Lazada ให้แล้ว คลิก Affiliate link ด้านล่างนี้ ก็จะช่วยสนับสนุนบล็อกผมไปในตัว เพราะผมจะได้ค่าขนมนิดหน่อย (หลักสิบบาท) เอาไว้สมทบทุนค่าโฮสต์ของบล็อกฮะ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า