วันก่อนผมเขียนถึงบริการของ QuillBot ที่ช่วยเราเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษไปแล้ว แต่มันมีข้อจำกัดตรงที่เราใช้ได้แค่ภาษาอังกฤษ และเราต้องเขียนก่อน มันถึงจะช่วยเรียบเรียงให้ได้ แล้วถ้าเราคิดไม่ออกว่าเราจะเขียนอะไรดี จะทำยังไง? ก็ใช้ AI นั่นแหละครับ ช่วยคิดให้ วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับบริการของ Rytr.me ที่มีให้ใช้แบบฟรี และรองรับภาษาไทยซะด้วย ไปดูกันว่ามันทำอะไรได้บ้าง
เอาจริงๆ การใช้ AI ในการช่วยเขียนคอนเทนต์ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เดี๋ยวนี้เขามีนวนิยายที่เขียนด้วย AI วาดรูปปกด้วย AI กันแล้ว ลองไปดูได้ที่ Booksby.ai ครับ หลักการใช้ AI มาช่วยเขียน ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เขาจะเริ่มจากการให้โปรแกรมมันได้เรียนรู้รูปแบบการเขียนต่างๆ (ช่วงนี้เขาเรียก Machine learning) จากนั้นก็จะมีการพัฒนาอัลกอริธึมขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการให้ AI ช่วยตัดสินใจว่าจะแสดงผลลัพธ์อย่างไร เมื่อเห็นเงื่อนไขต่างๆ หรือรูปแบบต่างๆ และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว (รวมถึงทดสอบแล้ว) ก็สามารถให้บริการได้ การสั่งงานให้ AI สร้างเนื้อหาออกมา ก็แค่กำหนดเงื่อนไขให้มันเท่านั้น ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขียนโปรแกรมเอาไว้ยังไงแหละ เช่น Midjourney AI ที่เป็น AI วาดรูป เราก็ต้องใส่คีย์เวิร์ด และคำสั่งต่างๆ เข้าไป (อ่านคู่มือการใช้งาน Midjourney) อย่างผมต้องการจะวาดรูป สตีฟ จ๊อบส์ ผมก็ใส่โค้ดเป็น
/imagine prompt: steve jobs face, hyper realistic, octane render --ar 1:1 --uplight
ก็จะได้ภาพที่วาดโดย Midjourney ออกมาตามรูปด้านล่างนี่ครับ

ทีนี้ Rytr.me ทำอะไรได้บ้าง? มันก็คือการให้ AI ช่วยสร้างเนื้อหาให้เราครับ โดยมันมี Use cases ให้เลือกเยอะมาก เท่าที่ผมลองดูจาก Drop-down menu ในเวอร์ชันฟรี คือมี 34 Use cases แถมเราสามารถสร้าง Use case เองได้อีก (แต่เวอร์ชันฟรีสร้างไม่ได้นะ) อยากรู้ว่ามีอะไรให้เลือกบ้าง ไปอ่านเอาเองนะ (เป็นภาษาอังกฤษ) ที่เว็บไซต์ Rytr.me เขา

จุดเด่นของเจ้านี่ คือ มันสามารถเขียนเนื้อหาได้มากกว่า 30 ภาษา อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส จีน มันก็เขียนได้ และที่หลายคนต้องถามแน่ๆ เลย คือ ภาษาไทยได้ไหม คำตอบคือ ได้ครับ เย่!! นอกจากนี้ เราก็จะสามารถเลือกโทน (หมายถึง น้ำเสียง นั่นแหละ) ของการเขียนด้วยครับ ว่าอยากได้แนวๆ ไหน แบบ โน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อ (Convincing) ยืนกราน (Assertive) เป็นทางการ (Formal) และอื่นๆ อีก รวมๆ แล้วก็มากกว่า 20 โทนเลยทีเดียว

ทีนี้ถามว่าใช้แล้ว มันเวิร์กไหม? ก็ต้องบอกว่า AI มันจะเขียนออกมาได้ตามใจเราที่สุดมากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่เราป้อนข้อมูลให้มันมากแค่ไหนครับ เราสามารถใส่คีย์เวิร์ดไปได้ประมาณนึง พยายามป้อนให้เต็มที่ที่สุด เท่าที่เราจะนึกออกเลย เช่น ในภาษาอังกฤษเนี่ย ผมลองให้มันเขียนจดหมายเชิญวิทยากรมางานครับ ผมใส่ก่อนเลยว่าหลักๆ จะมีอะไรบ้าง เช่น ผมจะเชิญใคร ผมเป็นใคร ผมจะเชิญมาทำงานอะไร เป็นวิทยากรหัวข้ออะไร มีวิทยากรรับเชิญท่านอื่นอีกไหม งานจัดที่ไหน วันไหน กี่โมง จากนั้นก็ให้มันเขียนออกมา โดยเลือกโทนเป็น Formal และไม่ให้มัน “คิดสร้างสรรค์” เดี๋ยวจะออกทะเลไป ผลที่ได้ก็คือออกมาแบบด้านล่างครับ ก็ต้องบอกเลยว่า เป็นที่น่าพึงพอใจ

เอาล่ะ ทีนี้ ถ้าเกิดเป็นภาษาไทยจะเป็นยังไงบ้าง? ผมจะลองสองแบบเลยแล้วกัน เริ่มจากจดหมาย แต่งวดนี้จะขอเป็นจดหมายแสดงความเสียใจเนื่องจากเพื่อนเสียคุณพ่อไปจากโรคมะเร็ง แต่งวดนี้ลองนึกคำไม่ออกดู เพราะไม่เคยต้องเขียนจดหมายแสดงความเสียใจแบบนี้มาก่อน เช่นเคย ให้โทนเนื้่อหาเป็น Formal และไม่ต้องให้มันสร้างสรรค์อะไรใดๆ ผลที่ได้ก็ตามรูปด้านล่างครับ

สังเกตว่ามันเหมือนจะมีเทมเพลตมาตรฐานอยู่แล้วว่าจดหมายประเภทนี้ มันต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง รูปแบบคำพูดที่ใช้ ก็ต้องบอกว่าโอเคพอสมควรนะ แต่รู้สึกได้แหละว่า AI เป็นคนเขียน เพราะภาษามันแอบแข็งไปหน่อย ส่วนนึงอาจจะเพราะว่า AI ใช้คำว่า ฉัน ซึ่งผมรู้สึกว่ามันแหม่งๆ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะ AI มันไม่รู้ว่าผมเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ใช้คำว่า ฉัน มันก็จะกลางๆ ไว้ก่อน นอกจากนี้ AI ยังรู้ดีว่าควรจะตัดอะไรออก เพราะบริบทน้อยไป เอามาใช้เขียนไม่ได้ เช่น ชื่อ สมชาย สุดแข็งแกร่ง ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร และ โรคมะเร็ง ที่ก็ไม่ได้มีรายละเอียดอื่นใดว่านี่คืออะไร ถ้าเกิดผมใช้คำว่า “การจากไปของคุณพ่อสมชาย สุดแข็งแกร่ง” กับ “เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง” ละก็ AI น่าจะเข้าใจได้มากกว่านี้
ทีนี้ผมลองอีกที ให้รีวิวบ้าง และเมื่อต้องรีวิว ก็ต้องเป็นโทนแบบ Convincing สิ คนจะได้ซื้อกัน ผมจงใจใส่คีย์เวิร์ดสั้นมากๆ และลองให้มันใช้ความคิดสร้างสรรค์มาประมาณนึง โดยให้แสดงตัวเลือกให้ผม 3 ตัวเลือก ผลก็คือตามรูปด้านล่างครับ

เห็นแบบนี้ รู้เลยว่าอิพวกรีวิวเก๊ๆ บนแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ต่างๆ มันไปเอาอะไรมาเขียน สรุปว่าไม่น่าจะเป็น Google Translate อย่างเดียวแล้วล่ะ เผลอๆ อาจจะมีใช้ AI ช่วยเขียนด้วย 🤣🤣 สังเกตได้ว่าพอข้อมูลมันจำกัดมากๆ และให้ AI มันสร้างสรรค์เอาตามความเหมาะสมเลย มันเมากาว กุฟีเจอร์ขึ้นมาเองเลยครับ เช่น ตัวเลือกที่ 3 มีการบอกว่ามีหน้าจอ LCD ใช้แสดงพลังงานในปัจจุบันด้วย ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้บอกฟีเจอร์ใดๆ ให้เลย 🤣🤣
ใดๆ ที่เราเคยให้ AI เขียนให้ มันก็จะถูกเก็บไว้ใน History นะครับ เราสามารถที่จะไปลบทิ้งได้ หากเราไม่ต้องการเก็บเอาไว้แล้ว แต่ที่เหลือมันจะสามารถเก็บไว้เป็นบทเรียนได้ เพราะเราสามารถเรียนรู้ได้ว่าคีย์เวิร์ดใดๆ จะทำให้เนื้อหาออกมาเป็นยังไงบ้าง และการตั้งค่าแบบไหน จะได้เนื้อหาออกมาประมาณไหน อันนี้สำคัญมาก เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถตั้งค่า AI ในครั้งต่อไปได้ดีขึ้น ตรงกับความต้องการของเรามากขึ้น

เราใช้บริการไปกี่มากน้อยแล้ว สามารถมาดูได้ที่หน้า Account ตรงหัวข้อ Credits มันจะบอกเลยว่าวันไหนเราใช้ไปมาน้อยแค่ไหน และเครดิตของเราจะถูกรีเซ็ตกลับมาเมื่อไหร่ (เขาคิดที่ 1 เดือนเป๊ะๆ ยันเวลาเลยนะครับ) อย่างที่บอก เวอร์ชันฟรีมันใช้ได้ 10,000 ตัวอักษร ตอนที่ผมเขียนบล็อกนี้ ผมซัดไปแล้ว 3,300 ตัวอักษร เศษๆ ครับ เท่าที่ดูคือ 1 เนื้อหาที่ผมสร้าง ถ้าจะให้ AI สร้างตัวเลือกเต็มจำนวนที่มีให้ จะกินเครดิตไป 1,000 ตัวอักษรโดยประมาณ พูดง่ายๆ แพ็กเกจฟรีก็จะสร้างเนื้อหาได้ราวๆ 10-30 ครั้ง ถ้าแต่ละครั้งใช้ตัวอักษรไม่เกิน 1,000 ตัวอักษร จำนวนครั้งจะมากขึ้น หากเราไม่ให้ AI มันสร้างเนื้อหาตัวเลือกมาให้เราเลือกครับ

โดยรวม ถือว่าน่าสนใจ และจะลองใช้ไปเรื่อยๆ ดูครับ โดยเฉพาะเวลาที่จะเขียนจดหมายหาใคร แล้วดันนึกไม่ออกว่าจะเขียนยังไง 🤣🤣🤣
อ้อ!!! เขามี Lifetime deal ด้วยนะ แต่ตอนนี้เขาปิดการขายไปแล้ว (แอบเสียดายเหมือนกัน เพิ่งรู้) คงต้องรอว่าจะมีการมาเปิดขายใหม่เมื่อไหร่ คือ ถ้าได้ดีลนั้นน่าจะคุ้มมากครับ เพราะเห็นราคาแบบไม่ถึง $100 เอง แต่ตอนที่เขาทำ Lifetime อะ สังเกตว่าบริการมันเพิ่งจะเริ่มต้น ภาษาที่รองรับก็มีน้อย โทนก็มีให้เลือกน้อย ตอนนี้บริการเขาเจ๋งมากแล้ว อาจจะไม่ต้องง้อ Lifetime deal แล้วก็ได้ แหม่ เสียดายจัง
ถ้าใครสนใจจะใช้งาน กดลิงก์ด้านล่างนะ เป็น Affiliate link เขาจะได้รู้ว่าผมแนะนำมา 🤣🤣 เขาไม่ได้ติดต่อมาให้ผมรีวิวหรอก ผมเจอของผมเอง แต่เห็นเขามี Affiliate link ให้ด้วย ก็แปะซะหน่อย เผื่อได้ค่าขนมง่ะ