รีวิวเมาส์ปากกา Future Lab G2 ใช้แล้วได้ตามที่คาดหวังหรือเปล่าเนี่ย?

ผมมีความโรคจิตอยู่อย่างนึงครับ คือ ชอบลองใช้พวก Human Interface Device ยิ่งเวลามีเมาส์แบบใหม่ๆ แปลกๆ มา ก็อยากใช้อยากลอง ล่าสุดนี่ไปเจอเมาส์ปากกาของ Future Lab รุ่น G2 เห็นรีวิวบน YouTube แล้ว ก็อยากลองมั่ง ในใจนี่แบบ คาดหวังอะไรหลายๆ อย่างเอาไว้เลยครับ ราคาพอรับได้ในลักษณะที่ซื้อมาลอง ถ้าไม่ชอบก็ไม่เสียดายมาก 999 บาท คิดว่าเป็นค่าทำคอนเทนต์ 🤣🤣 และยบัดนี้มันอยู่ในมือของผมแล้ว

ลองแกะกล่องออกมาดูก่อนว่าเขาให้อะไรมาบ้าง สิ่งแรกที่เจอเลยก็คือ ตัวเมาส์ปากกา Future Lab G2 ครับ มีลักษณะก็เป็นปากกาสมชื่อแหละ แต่มันไม่ใช่ปากกาอันเล็กๆ แบบที่เราๆ ท่านๆ ใช้กันนะ ไซส์มันระดับปากกามาร์กเกอร์อะ นอกจากนี้ในกล่องก็มีคู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน (ตัวเต็มด้วยนะ ไม่ใช่ตัวย่อ) กับสิ่งที่คล้ายๆ กับใบรับประกัน แต่เหมือนจะเป็นพวก QR code สำหรับติดต่อช่องทางบริการลูกค้าครับ

ตัวเมาส์ปากกา Future Lab G2 ก็จะมีปุ่มเมาส์คลิกซ้ายคลิกขวา มี Scroll wheel มาให้ ปุ่มเล็กๆ อีกปุ่มคือ ปุ่มยิงแสงเลเซอร์พอยต์เตอร์ ส่วนอีกด้านก็จะมีสวิตช์สำหรับเปิดปิดตัวเมาส์ปากกานี้ ด้านปลายปากกาก็จะเป็นจุดปล่อยแสงเลเซอร์สำหรับตัวเมาส์ปากกา เหมือนที่เมาส์ทั่วไปเขามีกัน อีกด้านก็เป็นตัวปล่อยแสงเลเซอร์พอยต์เตอร์ครับ

เมาส์ปากกาตัวนี้ ทำงานด้วยพลังไฟจากแบตเตอรี่ขนาด AAA ก้อนเดียว ซึ่งไม่มีแถมมาให้นะครับ ต้องไปหาซื้อเพิ่มเอาเอง ตอนแรกนึกว่าจะถอดปลอกปากกาด้วยการบิดหมุน ที่ไหนได้ กลับเป็นการออกแรงดึงออกมาเฉยๆ เลยครับ อันนี้ทำให้แอบรู้สึกว่า ถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ มันจะหลวมไหมอะ ทำไมเขาไม่ออกแบบให้มันเป็นการบิดแล้วหมุน แบบที่ปากกาอื่นๆ เขาใช้กัน ซึ่งดูแล้วจะแข็งแรงดีกว่ากันเยอะ

การเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อย่างพวกสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทำผ่านบลูทูธ 5.2 เชื่อมต่อไม่ยาก ผมใช้ Windows 11 แต่เชื่อว่าอุปกรณ์อื่นๆ ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ก็เชื่อมต่อได้ไม่ยากเหมือนกันแหละ พอเชื่อมต่อเสร็จแล้ว มันก็คือเมาส์เราดีๆ นี่เอง ใช้การตั้งค่าเมาส์ในการปรับแต่งได้ครับ เช่น ถ้าเกิดเคอร์เซอร์เมาส์มันเคลื่อนที่เร็วไป ก็ไปปรับลดมันลง เป็นต้น

ด้วยความที่เมาส์ปากกา Future Lab G2 มันอยู่บนเทคโนโลยีเมาส์ มันก็เลยทำหน้าที่ได้เหมือนเมาส์จริงๆ ครับ เลื่อนเมาส์ คลิกเมาส์ ใช้ Scroll wheel เลื่อนหน้าจอ อะไรพวกเนี้ย โอเคเลย แต่ใครจะใช้งานอาจจะต้องทำความคุ้นเคยให้มากก่อน เพราะเท่าที่ผมได้ลองใช้ มันมี 2 จุดที่ยังไม่คุ้นชิน

อย่างแรกเลยคือ เวลาคลิกเมาส์ซ้าย มันจะต้องขยับนิ้วชี้เลื่อนเข้ามาอีกหน่อย ซึ่งผิดหลักการยศาสตร์ของมือเรา เอาจริงๆ นะ ถ้าเกิดว่าเลื่อนพวกปุ่มและ Scroll wheel นี่ ให้เหลื่อมมาทางขวาหน่อย มันจะเข้ากับมือมากกว่านี้ แต่ก็จะมีอีกปัญหาตามมา นั่นก็คือ คนถนัดซ้ายก็จะใช้ลำบากขึ้น สุดท้าย ผมเลยเลือกที่จะไปเปลี่ยน Settings ให้สลับปุ่มเมาส์ ซ้าย-ขวา แทน ซึ่งทำให้ใช้เมาส์ปากกาได้สะดวกขึ้น แต่ก็มีปัญหาอื่นตามมาแทน คือ เมาส์ปกติ มันก็สลับซ้าย-ขวา ไปด้วย กลายเป็น ใช้เมาส์ไม่ถนัดไปแทน 🤣🤣 อีกเรื่องนึงก็คือ ในช่วงแรกๆ ที่ใช้ เวลาจะคลิกซ้ายอะ บางทีมันสะเทือนจนทำให้เมาส์ขยับนิดหน่อยด้วย อาจทำให้คลิกหรือลากเส้นผิดได้ครับ แต่ถ้าเกิดเริ่มชินๆ แล้วกดหัวเมาส์ปากกาให้ดีๆ มันก็จะมั่นคง

เอาจริงๆ เลยนะ สำหรับคนที่คิดว่าจะเอาเจ้านี่มาใช้แทนเมาส์ 100% เลย ผมไม่แนะนำ เพราะวิถีการใช้งานมันไม่ได้สะดวกขนาดนั้น คือ ให้เรานึกถึงเมาส์ พอไม่ได้ใช้ มาพิมพ์ๆ แล้วจะกลับไปหยิบฉวยเมาส์มาใช้ต่อ มันไม่ยาก แต่พอเป็นเมาส์ปากกา มันต้องไปจับให้อยู่ในท่าเขียนก่อน ค่อยใช้งานได้ ไม่ค่อยสะดวกซักเท่าไหร่

ผมไม่ใช่สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไม่ได้วาดรูปเป็นงานซะด้วยสิ ก็ตอบยากเรื่องการจะเอาเจ้านี่มาใช้เพื่อวาดรูป แต่ก็อยากบอกว่า เจ้านี่ไม่สามารถใช้แทนปากกา Stylus ได้ ส่วนนึงก็ชัดเจนเลยว่า มันไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับแรงกดที่แตกต่างกัน เพราะเจ้านี่มันคือเมาส์!!! และมันก็ไม่ได้ตอบสนองได้รวดเร็วแบบเทคโนโลยีปากกา Stylus แบบพวก Wacom ด้วยนะครับ ให้คิดซะว่า มันเหมือนกับความพยายามในการเอาเมาส์มาวาดภาพมากกว่า การจะทำเส้นหนักเบา ก็ต้องไปปรับแต่งเอาจากตัวโปรแกรมเอาเอง และเวลาวาดก็ต้องค่อยๆ ลากด้วย ต้องเป็นคนใจเย็น และอาจจะต้องซูมภาพเพื่อ ใครที่คิดว่าจะเอามันมาเขียนคือให้ข้ามไปเลยครับ ไปใช้ปากกา Stylus ดีกว่า

แต่การที่เป็นเมาส์ปากกา มันช่วยอำนวยความสะดวกเวลาที่เราต้องทำงานประเภทตกแต่งภาพนะครับ คือ การลากเคอร์เซอร์เมาส์เพื่อปาดพวก Brush เพื่อลงสีหรือทำ Die cut อะไรพวกเนี้ย มันเวิร์กมากๆ ครับ ดูคลิปด้านบน ตอนที่ผมใช้เครื่องมือบนโปรแกรม Affinity Photo ในการลากเพื่อทำ Selection ตัว Subject เพื่อเตรียมทำ Mask ได้ครับ ถ้าเป็นเมาส์ก็ทำได้แหละ เพราะเครื่องมือมันออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกอยู่แล้ว แต่พอได้เมาส์ปากกาอะ มันปาดได้เป๊ะกว่าเดิมมากๆ เลย

อีกเรื่องนึงที่เป็นฟีเจอร์เสริมสำหรับตัวเมาส์ปากกา Future Lab G2 ก็คือ การใช้มันเป็นเหมือนอุปกรณ์ Clicker สำหรับนำเสนอพวก PowerPoint หรือ Keynote อะไรแบบนี้ เพราะมันคือเมาส์ไง มันก็สามารถคลิกเพื่อเปลี่ยนสไลด์ได้ และด้วยดีไซน์แบบปากกา เชื่อมต่อแบบไร้สาย มันก็ทำให้เราใช้แทน Clicker ได้เลย และ Future Lab ก็คงรู้แหละ เลยเพิ่ม Laser pointer มาให้ด้วยครับ ซึ่งมันก็ใช้ได้โอเคอยู่นะ ยกเว้นแค่ว่า อิเมาส์ปากกานี่ มันดันยิงเลเซอร์ออกจากปลายปากกาตลอดเวลา เหมือนตอนใช้เป็นเมาส์อยู่ดี จริงๆ มันจะดีกว่านี้ หากมีสวิตช์ให้เลือกโหมดการใช้งานเป็น Laser point เพื่อปิดการยิงเลเซอร์สำหรับใช้กับเมาส์ด้วย

และหากใครเอาไปใช้กับสมาร์ทโฟน ถ้าตอนอยู่ในโหมดกล้อง แล้วเราลากเคอร์เซอร์ไปอยู่แถวๆ ชัตเตอร์ เราก็จะสามารถใช้เจ้านี่ทำหน้าที่เป็นรีโมตสำหรับกดชัตเตอร์เวลาถ่ายรูปได้ด้วยนะ … แต่มันเป็นแค่ทริกในการใช้งาน ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่จงใจทำขึ้นมาจ้า

ในเว็บคนขายอะ พยายามชูจุดขายว่าเป็นเมาส์ที่ใช้บนพื้นผิวอะไรก็ได้ จะต้นขาหรือแขนของเรา ก็ใช้เป็นแผ่นรองเมาส์ได้ อันนี้จริงครับ แต่เมาส์ไร้สายส่วนใหญ่ก็ทำได้เช่นกันเหอะ แต่ความสะดวกของเจ้านี่คือ ขนาดมันกะทัดรัดกว่าไง เวลาไปใช้งานบนพื้นผิวแบบนั้น แต่เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้ไปใช้งานบนพื้นผิวแบบนั้นเป็นหลักไหมอะ

บทสรุปการรีวิวเมาส์ปากกา Future Lab G2

เอาจริงๆ ตอนใช้งานวันแรก แอบผิดหวังอะ เพราะรู้สึกว่าใช้ไม่สะดวก และมันก็เอามาใช้แทน Stylus เพื่อขีดๆ เขียนๆ ไม่ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ พอใช้ไปพักใหญ่ๆ จนเริ่มชิน และพยายามทำความเข้าใจว่านี่มันเทคโนโลยีเมาส์ ไม่ใช่ปากกา Stylus (ซึ่งสองอย่างนี้มันแตกต่างกันอยู่นะ) มันก็เริ่มจะเข้าใจว่ามันไม่ได้เหมาะกับการใช้งานทุกแบบนะ คือ มันอยู่ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นเมาส์ กับ Stylus มันช่วยให้ทำงานบางอย่างสะดวกขึ้นกว่าเมาส์ ใช้งานได้เหมือน Stylus แต่มันไม่สามารถไปทดแทนเมาส์และ Stylus ได้เลย คือ อย่าไปคิดว่าซื้อมาแล้ว จะกำจัดเมาส์และ Stylus ได้นะ และจริงๆ แล้ว ใครมีทั้งสองอันนั้น ก็แนะนำว่าไม่ต้องซื้อเมาส์ปากกาหรอ

คนที่เหมาะกับเมาส์ปากกา Future Lab G2 คือ คนที่ใช้เมาส์อยู่ แล้วอยากได้ความสะดวกคล้ายๆ Stylus แต่ไม่ได้ต้องการในระดับขีดๆ เขียนๆ ได้เต็มเหนี่ยว อาจจะต้องการเมาส์ที่จับสะดวกๆ แบบปากกา เพื่อจะได้ใช้กับงานพวก Photo editing หรือ Paint ในระดับพื้นๆ อะไรแบบนี้ ก็พอไหว ราคาไม่แพงมาก 999 บาท พอที่จะลองซื้อมาใช้ได้ ว่าจะสะดวกกับมือไหม

คนอีกกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากเมาส์แบบนี้ คือ คนที่ใช้พวก Smart TV ครับ คือ ใช้เจ้านี่เป็นเมาส์สำหรับ Smart TV เพื่อคลิกเลือกโน่นนี่นั่นได้ แต่สำหรับผม ผมกลับรู้สึกว่า ซื้อ Wireless keyboard แบบที่มี TouchPad ในตัว เช่น All-in-one media keyboard with touchpad ของ Microsoft ที่ผมเองก็ใช้อยู่บนห้องนอน เป็นต้น (คลิกลิงก์ได้นะ เพื่อไปซื้อ) ราคาอาจจะแพงกว่า (1,550 บาท) แต่มันมีคีย์บอร์ดไว้ให้พิมพ์ด้วยเลยไง แล้ว TouchPad ก็เวิร์กดีมากด้วย ถ้าเราใช้เมาส์ปากกา สุดท้ายบางทีเราก็ยังจำเป็นต้องมีคีย์บอร์ดอยู่ดี เพราะการลากเมาส์เพื่อพิมพ์ บอกเลย น่ารำคาญมากครับ

แต่ถ้าใครอยากจะซื้อ เมาส์ปากกา Future Lab G2 นี่ คลิกลิงก์ด้านล่างได้ ไม่ต้องไปหาซื้อบน Lazada นะ เพราะราคามันแพงกว่าหลายน้อยเลย (1,299 บาท) ขนาดไปซื้อที่ LazMall ที่เป็น Official store อะ ดูเหมือนร้านเขาพยายามจะผลักให้คนมาซื้อจากหน้าเว็บเขาโดยตรงมากกว่า ผมเองก็ซื้อมาจากหน้าเว็บเขาโดยตรงครับ