ผมรีวิว Nissan Kicks ไปเดือนเมษายน โดยยืมรถเขามาใช้ 3 วัน 2 คืน เพื่อลองใช้งานในฐานะคนใช้งานจริงๆ และได้ซื้อรถยนต์รุ่นนี้มาใช้งานจริงเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา และได้รีวิวซ้ำอีกครั้งหลังจากได้ขับมา 3 เดือน ซึ่ง ณ ตอนนี้ผ่านไปอีก 1 ปี รวมๆ แล้วก็ใช้งานมาแล้ว 1 ปี 3 เดือน ผมกับคุณแม่ขับกัน 2 คนรวมๆ แล้วระยะทางมากกว่า 32,000 กิโลเมตร ก็เห็นว่าได้เวลามาสะท้อนกันอีกครั้งว่าชอบตรงไหน ขัดใจอะไรไปบ้างครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
ย้ำอีกทีว่านี่เป็นรถยนต์ซื้อมาใช้เอง รีวิวเอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันเกี่ยวข้องใดๆ กับทางบริษัท Nissan ทั้งสิ้น ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ
ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องฟังก์ชันต่างๆ ของรถยนต์แล้วนะครับ อยากอ่าน ไปอ่านในรีวิวแรกสุดของผมแทน ในบล็อกตอนนี้ ผมจะมาขอพูดถึงประสบการณ์ในการขับขี่ หลังจากได้ทบทวนเรื่องราวมาเต็มๆ ปีเศษๆ ครับ
ประสบการณ์ในการขับขี่แบบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่เติมน้ำมัน
ระบบขับเคลื่อนแบบรถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan Kicks มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดในตัวของมันเองครับ สำหรับข้อดีก็คือ อัตราเร่งดี เพราะมอเตอร์ไฟฟ้ามันขับเคลื่อนแบบ เร่งตามตีน คือ เหยียบไปแค่ไหน ก็เร็วเท่านั้นเลย ไม่ต้องรอรอบ มันดีมากเวลาที่จะต้องเร่งแซงรถยนต์คันหน้าที่ขับความเร็วไม่มาก และจะเหมาะสุดๆ ในกรณีที่รถยนต์คันหน้าขับแค่แบบ 20-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราจะเหยียบเร่งแซงได้ไว และเนียนมากกว่ารถยนต์น้ำมัน ที่ต้องเหยียบมิดด้ามแล้วอาจจะต้องรอรอบเครื่องนิดหน่อยด้วย

แต่ข้อจำกัดสำคัญก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้ามันมีขีดจำกัดของมันในเรื่องความเร็วสูงสุด ซึ่งมอเตอร์ของรถยนต์ Nissan Kicks มันจะวิ่งเร็วได้สุดๆ แถวๆ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ใครที่ชอบเหยียบเร็วๆ เวลาวิ่งต่างจังหวัด รถยนต์คันนี้ไม่ใช่คำตอบครับ แต่สำหรับคนที่ขับแบบไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบบผม ไม่รู้สึกว่าตรงนี้เป็นปัญหาอะไร

เวลาที่ขับในโหมด ECO หรือ Sport มันจะเป็นการขับขี่สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า 100% คือ One Pedal หรือบางทีอาจจะเรียกว่าระบบคันเร่งอัจฉริยะ ก็ว่ากันไป แต่หลักการมันคือ การขับโดยเน้นใช้แค่คันเร่งอย่างเดียว อยากให้เร็วก็เหยียบคันเร่ง อยากลดความเร็วก็ผ่อนคันเร่ง ถ้าจะเบรกก็ปล่อยคันเร่ง ให้ Regenerative brake มันหน่วงความเร็วรถลง แล้วใช้พลังงานจลน์ที่เกิดจากความหน่วงนี้ไปชาร์จแบตเตอรี่กลับ ซึ่งไม่ว่าจะขับขี่ภายในเมืองที่มีการเบรกบ่อยๆ หรือขับขี่ออกต่างจังหวัด บอกเลยว่าสบายเท้ามากๆ และมันช่วยลดการใช้ผ้าเบรกด้วย
ระบบ e-POWER มันใช้น้ำมันในการปั่นไฟฟ้า ฉะนั้นเราจะยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์อยู่ ซึ่งถ้ามันปั่นแรงๆ นี่ เสียงเครื่องก็ดังฟังชัดอยู่นะเออ ข้อเสียก็คือมันยังต้องเติมน้ำมันอยู่ แต่ข้อดีก็คือเราไม่ต้องไปวุ่นวายกับการหาจุดชาร์จ (ที่แม้จะมีเยอะขึ้นแล้ว) ไม่ต้องไปจองจุดชาร์จ และไม่ต้องไปเจอดราม่า กรณีที่ดันมีพวกมักง่าย เสียมารยาท ไม่สนเรื่องการจอง หรือจอดชาร์จแช่ ซึ่งเป็นปัญหาประสาทแดกที่คนขับรถยนต์ไฟฟ้ายังอาจจะเจออยู่
Nissan Kicks ประหยัดน้ำมันจริงไหม?
ผมไม่ได้วัดแบบจริงๆ จังๆ (หมายถึง จับเลยว่าเติมน้ำมันเต็มถังวิ่งได้กี่กิโลเมตรจริงๆ) แต่ถือว่าเราเชื่อตัวเลขปริมาณการใช้น้ำมันที่ระบบของรถยนต์มันแจ้งมาก็แล้วกันเนอะ ถ้าขับขี่โหมด Sport แล้วใช้ความเร็วที่ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมทำได้ที่ราวๆ 18-19 กิโลเมตร/ลิตร แต่ถ้าขับขี่โหมด ECO แล้วใช้ความเร็ว 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (บางครั้งเหยียบไปถึง 100 บ้าง ถ้าจำเป็น) ผมทำได้ที่ราวๆ 23-24.5 กิโลเมตร/ลิตร

แต่การจะขับรถยนต์ Nissan Kicks ให้ประหยัดน้ำมัน มันจะต้องรู้พฤติกรรมการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันครับ อันดับแรกคือ แต่ละโหมดมันจะมีความเร็วในช่วงที่ประหยัดน้ำมันในขณะที่ยังได้ความเร็วสูงๆ อยู่ แตกต่างกัน ซึ่ง ECO คือ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน Sport คือ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในความเห็นส่วนตัวของผม Regenerative Brake ช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทำให้ประหยัดน้ำมันเวอร์วังใดๆ บอกเลย ใครที่ซื้อรถยนต์ Nissan Kicks แล้ว ยังขับขี่กันตามใจฉันตามใจชอบ อยากเหยียบเร่งก็ทำ อยากเหยียบให้เร็วๆ ก็ทำ ไม่มีทางที่จะประหยัดน้ำมันได้
ฟีเจอร์อื่นๆ บางตัวที่ตอนขับ Nissan Sylphy คันเก่ามันไม่มี
อันแรกที่ผมชอบเลย คือ กระจกมองหลังแบบผ่านกล้องวิดีโอ ที่ตอนแรกๆ ผมยังคิดว่ามันจะเวิร์กไหม แต่เอาจริงๆ มันเวิร์ก และมันมีจุดที่ดีกว่ากระจกมองหลังแบบเดิมๆ 2 เรื่อง คือ
1️⃣ มันไม่สะท้อนแสง ไม่ว่าจะแสงแดด หรือ แสงไฟจากหน้ารถ หมดปัญหาแสงแยงตาเวลามองกระจกส่องหลัง ดีงามมาก
2️⃣ ตอนกลางคืน ภาพมันจะสว่างมากกว่าการมองผ่านกระจกมองหลังตามปกติอะ

นอกจากนี้คือ เอามาใช้ร่วมกับระบบกล้องรอบคัน ซึ่งช่วยเวลาที่จะถอยจอด หรือเดินหน้าจอด คือดีมาก แต่ต้องทำความเคยชินพอสมควร แม่ผมยังไม่ชินเท่าไหร่ แต่ผมชินแล้ว สบายเลย ถอยเข้าซอง หรือถอยจอดขนานได้อย่างมั่นใจมากๆ
เข้าเกียร์ N ได้ แต่ยุ่งยาก และไม่ควรทำ
แม้ว่าที่จอดรถยนต์ในประเทศไทยมันจะมีเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะไปเจอที่จอดได้ทุกที่ บางที่ เช่น สนามบินดอนเมือง ที่จอดรถหายากมาก จอดเข้าซองคือแทบจะเป็นปาฏิหารย์ 🤣🤣 การจอดรถซ้อนคัน หรือ จอดขนานไปกับฟุตบาธก็สำคัญ แต่ Nissan Kicks นี่ การจอดรถแล้วเข้าเกียร์ N นี่ยุ่งยากมาก เอาเป็นว่าผมต้องเปิด YouTube ดูทุกรอบ

แต่ถามว่าจริงๆ แล้ว ควรจะทำไหม สำหรับรถยนต์ EV เนี่ย เขาว่ากันว่าไม่ควรครับ เพราะมอเตอร์ของรถยนต์ในระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้า มันไม่ควรหมุนโดยไม่ได้มาจากพลังงานไฟฟ้า มอเตอร์อาจจะเสียหายได้ และผมก็คิดว่าสำหรับรถยนต์ Nissan Kicks ซึ่งก็ใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ก็น่าจะอาการเดียวกัน เพียงแต่ยังไม่เห็นใครเขาออกมาคอมเมนต์เรื่องนี้นะ แต่ผมอะ พยายามเลี่ยงการจอดขวางที่ต้องเข้าเกียร์ N ครับ กันเหนียวไว้ก่อน