เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง HUAWEI เขาปล่อยของออกมาหลายอย่างเลยครับ และหนึ่งในนั้นก็คือ HUAWEI MateBook X Pro ที่เป็นตัวท็อปของผลิตภัณฑ์สายโน้ตบุ๊ก และเป็นรุ่นที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Gen 12 แล้วด้วย โดยมาพร้อมกับสเปกที่เรียกได้ว่า พร้อมพกพาไปทำงานใดๆ ก็ได้ สบายๆ ภายใต้ดีไซน์ที่สวยงาม ดูพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพลังในการประมวลผล แต่ยังต้องการความบางเบาและเรียบหรูดูดี และมีงบพร้อมจ่ายที่แท้ทรู
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
โน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook X Pro ตัวนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อจากทาง HUAWEI Thailand เขาให้ยืมมาเพื่อลองใช้ และมาเขียนเล่าเป็นประสบการณ์ในการใช้งานให้ได้อ่านกันครับ
โดยส่วนตัว ผมว่าโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook X Pro นี่ถือเป็นรุ่นนึงเลยที่กล่องใส่โน้ตบุ๊กดูดี เรียบหรู และไม่ได้มีขนาดใหญ่มากมาย เป็นอะไรที่พอหยิบโน้ตบุ๊กออกมาใช้แล้ว สามารถเก็บกล่องเอาไว้ประดับ ตกแต่งห้องได้ หากใครเป็นคนชอบจัดห้อง จัดโต๊ะคอม แต่จะดีกว่านี้ หากออกแบบมาให้ฝากล่องมันมีแม่เหล็กช่วยดูดให้ปิดสนิทหน่อยนะ

ตัวโน้ตบุ๊ก มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด คือ กว้าง 310 มม. ลึก 221 มม. และมีความหนาอยู่ที่ 15.6 มม. น้ำหนักเรียกว่าไม่ได้ถึงกับเบาโหวง แต่ก็ไม่ได้หนักอึ้ง คือ 1.26 กิโลกรัม ก็น่าจะเรียกได้ว่าเบากว่ามาตรฐานของโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วๆ ไป ผมแค่เคยเจอพวกโน้ตบุ๊กจอ 13.3 นิ้ว ที่เบาโหวงมากๆ จริงๆ คือ หนักแค่ 700-950 กรัม อะไรพวกนั้น อันนั้นก็เบาเวอร์และแลกมาด้วยแบตเตอรี่ที่ไม่ค่อยอึดเท่าไหร่

เห็นขนาดกะทัดรัดแบบนี้ แต่ให้ขนาดจอแสดงผลมาใหญ่อยู่นะ 14.2 นิ้ว เป็นแบบอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 3:2 ความละเอียดในการแสดงผล 3,120×2,080 พิกเซล เรียกว่าไงดี 3.1K? มีขอบจอที่บางเฉียบมากๆ อัตราส่วนของจอแสดงผลต่อตัวเครื่องสูงถึง 92.5% ตอนใช้งานนี่คือบอกได้เลยว่าดูสบายตามากๆ ขอบด้านบนมีการติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียด 720p มาให้ และมี IR camera เอาไว้ใช้สแกนใบหน้าสำหรับระบบ Windows Hello ด้วย

คีย์บอร์ดเป็นแบบ Layout มาตรฐาน สำหรับผมถือว่าออกแบบมาได้ดี ไม่รู้สึกว่าปุ่มไหนขาดหายไป ตำแหน่งของปุ่มต่างๆ สำหรับผม คิดว่ามันอยู่ในตำแหน่งที่มาควรจะอยู่มากๆ (คือ มันมีบางยี่ห้อบางรุ่น ที่ออกแบบ Layout ของคีย์บอร์ดมาแล้ว ตำแหน่งบางปุ่มมันดันผิดเพี้ยน พิมพ์ไม่ถนัด ซึ่งจะเป็นอะไรที่ขัดใจมากๆ) ด้านข้างของคีย์บอร์ดทั้งสองข้างเป็นลำโพงสเตริโอซ้าย-ขวา ของตัวเครื่อง ตรงมุมด้านบนทางขวาของคีย์บอร์ด เป็นปุ่ม Power ที่ทำหน้าที่เป็นตัวสแกนลายนิ้วมือในตัว
แต่ที่ประทับใจสุดน่าจะเป็นตัว TouchPad ที่ขนาดใหญ่มาก ทั้งๆ ที่พื้นที่ตัวเครื่องเนี่ย เกินครึ่งโดนคีย์บอร์ดใช้ไปแล้ว แต่ HUAWEI เขาจัดให้ TouchPad มันกินพื้นที่ไปจนถึงสุดขอบตัวเครื่องเลย … เดี๋ยวจะมารีวิวเจาะเฉพาะในส่วนของ TouchPad ให้ได้อ่านเพิ่ม เพราะมันมีฟีเจอร์อะไรบางอย่างแอบซ่อนอยู่ในนี้

รุ่นนี้มีสีให้เลือกสีเดียว คือสีน้ำเงินเข้ม Ink Blue ครับ ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียอัลลอย แต่มีการออกแบบให้พื้นผิวมันมีความหยาบนิดนึง เพื่อให้ความรู้สึกกระชับอยู่ในมือ เป็นผิวสัมผัสที่สัมผัสแล้วรู้สึกดี การทำสีของตัวเครื่อง เขาใช้เทคนิคที่เรียกว่า ไมโคร-อาร์ค ออกซิเดชัน (Micro Arc Oxidation) ที่ทนทานต่อการขูดขีด ช่วยให้มั่นใจว่าสีจะไม่หลุดลอกได้ง่ายๆ แม้จะต้องพกพาไปใช้งานแล้วไปโดนโน่นนี่นั่นขูดเอา


รอบๆ ตัวเครื่องโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook X Pro ตัวนี้ไม่มีอะไรเยอะครับ ด้วยความที่เป็นโน้ตบุ๊กแบบบางเบา พอร์ตเชื่อมต่อที่ได้มาก็เลยเป็น ช่องเสียบออดิโอแบบคอมโบแจ็ก 3.5 มม. และ Thunderbolt 4 2 ช่องทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง กับพอร์ต USB-C 2 พอร์ต ทางด้านขวา แค่นี้เลย
โดยรวม ก็อย่างที่บอกครับ เป็นโน้ตบุ๊กที่ดีไซน์ออกมา เรียบหรู ดูดี มีราคา สมชื่อรุ่น HUAWEI MateBook X Pro
ประสิทธิภาพของ HUAWEI MateBook X Pro
โน้ตบุ๊กตัวนี้ HUAWEI เลือกใช้สเปกเป็น 12th Gen Intel® Core™ i7-1260P Processor กราฟิกชิป Intel Iris Xe และใส่แรม LPDDR5 มาให้ 16GB กับ SSD แบบ NVMe ความจุ 1TB มาให้ ถือว่ามากเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไปแล้ว (โดยเฉพาะแรม ที่สำหรับผมแล้ว อยากแนะนำคนที่ซื้อโน้ตบุ๊กให้เลือกรุ่นที่มีแรมอย่างน้อย 16GB) แต่ข้อสังเกตคือ ตัวหน่วยประมวลผล เขาเลือกที่จะใช้รหัส P ที่ไม่ได้มีพลังในการประมวลผลสูงมาก เพราะต้องระวังเรื่องแบตเตอรี่และความร้อนนั่นเอง

ลองทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผลด้วย PCMark 10 ที่เน้นทดสอบประสิทธิภาพในการใช้งานแบบทั่วไป รวมถึงการทำงานต่างๆ ทั้งงานออฟฟิศและงานจำพวกมัลติมีเดีย ได้คะแนน 4,676 คะแนน ซึ่งคะแนนในฝั่งของงานประเภท Digital content creation จำพวกตกแต่งภาพหรือตัดต่อวิดีโอเนี่ย ถือว่าทำได้ดีทีเดียว นี่เป็นเพราะสถาปัตยกรรมใหม่บน Intel Gen 12 โดย Intel Core i7-1260P นี่มี 12-core 16-thread พวกงานที่ได้ใช้จำนวน Core และ Thread ได้เต็มที่ก็จะได้เปรียบ แต่สำหรับงานจำพวกพื้นๆ อย่างท่องเว็บ ประชุมออนไลน์ ทำงานเอกสารเนี่ย คะแนนเฉยๆ ครับ

อีกเรื่องนึงที่แอบผิดคาดก็คือ การที่ HUAWEI เลือกใช้ SSD ที่ผมเดาว่าน่าจะเป็น PCIe Gen 4 แหละ แต่เลือกความเร็วแบบพื้นๆ มา คือ ความเร็วในการอ่านและเขียนแบบ Sequential ที่ 3.5GB/s และราวๆ 3GB/s ตามลำดับ ทั้งๆ ที่ PCIe Gen 4 นี่รองรับความเร็วสูงกว่านี้เยอะมาก
แต่ถ้าถามผมว่าแค่นี้ถือว่าเร็วแล้วไหม … ก็ใช่แหละครับ ถ้าเทียบกับพวกโน้ตบุ๊กที่ใช้ CPU Intel Gen ก่อนหน้า ที่ยังเป็น PCIe Gen 3 อยู่ แต่ความเร็วระดับนี้ สำหรับ PCIe Gen 4 แล้ว ถือว่าเป็นแค่ระดับเริ่มต้นเท่านั้นเอง คือ เมื่อเทียบค่าตัวของ HUAWEI MateBook X Pro แล้ว ผมยังรู้สึกว่าเขาน่าจะให้ SSD ที่ความเร็วสูงกว่านี้มาได้
แต่เขาก็ให้มา 1TB นะ ถือว่าเป็นความจุที่ไม่น้อยทีเดียวสำหรับโน้ตบุ๊กในยุคนี้ ที่ส่วนใหญ่จะให้มา 256-512GB ซะมาก และความจุ 1TB ถ้าเอามาใช้ทำงานทั่วๆ ไปตามสไตล์โน้ตบุ๊ก ถือว่าเยอะพอสมควร เพราะหากใครต้องการความจุที่มากกว่านี้เพื่อใช้เก็บงาน เขาก็มักจะซื้อพวก External HDD มาใช้แล้ว

แล้วมันจะเล่นเกมไหวไหมนะ? ผมก็ลองเอามาวัดด้วย Final Fantasy XV Benchmark ครับได้คะแนนออกมา 2,484 คะแนน ที่คุณภาพแบบ Standard และความละเอียดในการแสดงผลที่ 720p ก็ถือว่ายังพอเล่นได้นะ หากเราปรับความละเอียดให้ต่ำลงมาหน่อย ก็น่าจะเล่นได้สบายๆ เลยครับ ก็ถือว่าน่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเล่นเกมได้แบบชิลล์ๆ อยู่
สเปกอื่นๆ ก็เช่นการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Bluetooth 5.2 และ WiFi 6 802.11a/b/g/n/ac/ax 2 × 2 MIMO รองรับย่านความถี่ 2.4GHz | 5GHZ | 6GHz และรองรับมาตรฐานความปลอดภัย WPA/WPA2/WPA3 ที่เป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วย อันนี้หมดห่วงเรื่องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หรือเน็ตเวิร์กเวอร์ชันใหม่ๆ ครับ
ประสบการณ์ในการใช้งานจริงของ HUAWEI MateBook X Pro
เวลาที่ผมพูดถึงประสบการณ์ในการใช้งานโน้ตบุ๊ก ผมจะพูดถึงสองเรื่องหลักๆ ก่อนเลย คือ จอแสดงผล และ คีย์บอร์ด ซึ่งมันคือสองสิ่งที่เราต้องใช้มันตลอด เพราะมันคือของที่ติดตัวมากับโน้ตบุ๊กไง จอแสดงผลของ HUAWEI MateBook X Pro เป็นจอแบบ LTPS (Low-Temperature Polycrystalline Silicon) ซึ่งเป็นจอประเภท TFT (Thin-Film Transistor) ประเภทนึงซึ่งเป็นเทคนิคในการทำจอความละเอียดสูงๆ และมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ถือเป็นตัวเลือกที่โอเคสำหรับจอความละเอียด 3.1K ของโน้ตบุ๊กตัวนี้ มันให้ความสว่างสูงสุด 500 nits สูงมากในระดับที่สู้แสงสว่างๆ ได้สบายๆ เลย แม้จะเอาออกไปใช้งานนอกสถานที่

การแสดงผล ให้มุมมองกว้าง 178 องศา สีไม่เพี้ยน ให้สีสันในขอบเขตสี P3 แสดงผลสีได้สูงสุด 1.07 พันล้านสี (ต้องเปิดโหมด HDR และดูพวกเนื้อหาที่รองรับ HDR10 นะ ถึงจะได้ดึงประสิทธิภาพในการแสดงผลสีสูงสุดแบบนี้ได้) และมีค่าความแม่นยำของสี △E < 1 กับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 90Hz ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานจำพวกตัดต่อวิดีโอ หรือแม้แต่การเล่นเกมแบบบชิลล์ๆ

อย่างที่ผมบอกว่าขอบจอค่อนข้างบางมาก ในทุกๆ ด้านด้วย (ปกติโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่ ขอบจอด้านล่างมักจะหนา) ทำให้ความรู้สึกเวลามองจอของ HUAWEI MateBook X Pro นี่คือดีมากครับ อัตราส่วนการแสดงผล 3:2 (หรือจะเรียกว่า 15:10 ก็พอไหวแหละ) อาจจะดูแปลกๆ สำหรับหลายๆ คน เพราะโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่จะใช้ 16:9 หรือ 16:10 ซะมาก แต่มันคือสเกลที่เหมาะกับการทำงานพวกเอกสาร เช็กอีเมล ท่องเว็บใช่ย่อยนะครับ เวลาได้ใช้งานจริงๆ หรือต่อให้เอามาทำงานจำพวกตารางคำนวณ (Spreadsheet) ก็พอไหว และถ้าจำเป็นจริงๆ อะ


แต่ด้วยความที่ความละเอียดของจอแสดงผลมันสูงมากอะ ตัวระบบปฏิบัติการ Windows มันก็ทำการสเกลภาพให้โดยอัตโนมัติ 200% เลย ซึ่งทำให้อะไรต่อมิอะไรดูมีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานหน่อย แต่หากใครต้องการใช้พื้นที่ในการแสดงผลความละเอียดสูงมากๆ จริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามอะนะ สามารถปรับการสเกลหน้าจอให้เหลือ 100% หรือ ขนาดตามจริงได้ ซึ่งผลก็คือ พวกไอคอนและ UI ต่างๆ นี่จะแบบว่าดูเล็กกระปิ๋วลงไปเลยครับ ลองดูภาพด้านบนเปรียบเทียบได้
จอของ HUAWEI MateBook X Pro เป็นจอสัมผัส รองรับการสัมผัส 10 จุด ตามมาตรฐาน ใครไม่เคยใช้จอสัมผัสก่อนอาจนึกประโยชน์ไม่ออก แต่ถ้าได้ลองใช้จะรู้ว่ามันสะดวกในกรณีที่เราต้องกดปุ่มยืนยันบางอย่าง มันเร็วกว่าลากเมาส์มาคลิกมาก แต่การมีจอสัมผัสก็แลกมาด้วยการที่จอจะเป็นแบบกระจกครับ มันสะท้อนแสงเข้าตาได้เยอะทีเดียว เวลาเอาไปใช้งานกลางแจ้งในบางช่วงเวลา บางอิริยาบถ แสงสะท้อนมันเข้าตา น่ารำคาญ

คีย์บอร์ด Layout ดีงามมาก พิมพ์สะดวกมาก และแม้ว่าฟีลลิ่งจะไม่ได้ฟินเท่ากับการพิมพ์พวก Mechanical keyboard แต่ก็ต้องบอกว่าพิมพ์สนุกมือใช้ได้เลย ขนาดของปุ่มต่างๆ คือเหมาะกับการพิมพ์มากมาย ไม่มีอะไรให้บ่นในประเด็นนี้เลย แต่ถ้าจะให้ติ คงมีเรื่องเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยี่ห้ออื่นๆ ก็ไม่ได้ทำได้ดีกว่ากันเลย นั่นคือ วัสดุที่ใช้ทำปุ่มคีย์บอร์ดอะ มันเป็นลายนิ้วมือได้ง่าย (โดยเฉพาะหากเป็นคนที่มือมันๆ หน่อย)

TouchPad มีความใช้ และผิวสัมผัสลื่นดีมาก รองรับ Multi-touch gesture ของระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11 ได้สบายๆ ทั้งการแตะ 3 นิ้วและ 4 นิ้ว แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือสิ่งที่เรียกว่า HUAWEI Free Touch ที่ทำให้ TouchPad มันทำได้มากกว่าแค่ควบคุมเมาส์ครับ ซึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามานั้นมีบางอันที่น่าสนใจ ก็คือ…
*️⃣ การใช้มะเหงก 2 นิ้ว เคาะที่ TouchPad 2 ทีติดๆ กัน จะเป็นการบันทึกวิดีโอหน้าจอ ไม่ต้องไปติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติม มันเร็วกว่าการลากเมาส์ไปคลิกตรง HUAWEI Control Panel
*️⃣ การใช้นิ้วแตะแล้วลากบริเวณขอบของ TouchPad ขอบด้านขวาจะเป็นการปรับระดับความดังของเสียง ขอบด้านซ้ายปรับระดับความสว่างของหน้าจอ ขอบด้านบนใช้เลื่อน Timeline ของวิดีโอ ซึ่งใช้ได้ครอบคลุมยันการดู YouTube ผ่านเว็บ สะดวกมากๆ และตอนที่แตะแล้วลากเนี่ย มันมี Force feedback สั่นกึ๊กๆ ให้รู้ว่าค่อยๆ เลื่อนแต่ละสเต็ปนี่ยังไง
ซึ่งการปรับตั้งค่าฟีเจอร์ HUAWEI Free Touch นี่สามารถไปปรับแต่งได้ใน HUAWEI PC Manager ครับ

ถัดมาคือการมี IR camera ที่ช่วยให้เราสามารถใช้ฟีเจอร์ Windows Hello ของระบบปฏิบัติการ Windows ได้ ซึ่งมันอำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตนบนระบบปฏิบัติการ Windows นี้ และสามารถใช้ในการยืนยันตัวตนในหลายๆ เว็บไซต์หรือแอปที่รองรับ Windows Hello แต่ในบางสถานการณ์การใช้งานเนี่ย จากประสบการณ์ของผม IR camera เนี่ย ในสภาพแสงบางลักษณะ ในบางระยะ มันสแกนไม่ติด หรือ ใช้เวลานิดนึงกว่าจะติด แต่สำหรับ HUAWEI MateBook X Pro เนี่ยหมดปัญหา เพราะเขาให้มาทั้ง IR camera กับตัวสแกนลาบยนิ้วมือเลยครับ

ลองนำมาใช้งานจริงๆ แต่ต้องขออภัยก่อนว่าภาพประกอบ ไม่สามารถนำงานจริงมาเสนอได้ครับ เพราะเป็นความลับขององค์กร ก็แหม่ งานจริงๆ ที่ผมพูด มันคือ “งานประจำ” ครับ ไม่ใช่งานบล็อก บล็อกมันแค่งานอดิเรก 🤣🤣 หน้าจอแสดงผลแบบ 3:2 ก็ไม่ได้แย่นะครับ เอาจริงๆ พื้นที่การทำงานก็เรียกว่าเหลือเฟือสำหรับงานเอกสาร หรือท่องเว็บสบายๆ ครับ

ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพ ก็ไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว CPU Intel Core i7-1260P เป็น Gen 12 ประสิทธิภาพเหลือเฟือ หน่วยความจำ 16GB นี่เพียงพอสำหรับการใช้งานมากๆ แม้ว่าผมจะเปิดโปรแกรมเบราวเซอร์ Google Chrome รวมๆ แล้ว 26 แท็บ เปิด Outlook เช็กอีเมล เปิด Excel ทำงานเอกสาร ก็ยังมีแรมเหลือๆ ราว 4GB เอาไว้ใช้ทำอย่างอื่นได้อีกพอสมควร แต่ถ้าใครคิดจะเปิดโปรแกรมที่แดกแรมเยอะๆ เป็นพิเศษ เช่น โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ โปรแกรมตกแต่งกราฟิก ไปพร้อมๆ กับการเปิดเว็บแบบบ้าครึ่งหลายสิบแท็บแบบผม คิดผิดคิดใหม่นะครับ

สำหรับคนที่สนใจจะนำโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook X Pro มาใช้งานจำพวกตกแต่งกราฟิกและตัดต่อวิดีโอ ก็ต้องบอกว่าสามารถทำได้สบายๆ ครับ ผมลองเอามาตัดต่อพวกฟุตเทจความละเอียด 1080p นี่สบายๆ ครับ ตอนพรีวิวก็ทำได้เนียนๆ ลื่นไหลดี และหากจำเป็นจริงๆ จะต้องตัดต่อวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ผมว่าก็ยังพอไหวด้วยซ้ำ เพียงแต่อาจจะไม่สามารถใส่ได้หลายเลเยอร์ หรือใส่เอฟเฟ็กต์ได้หนักหน่วงนัก (แน่นอน ภาพด้านล่างเป็นภาพเพื่อประกอบการรีวิวเฉยๆ งานตัดต่อวิดีโอจริงๆ ของผม ไม่สามารถเอามาให้ดูได้ครับ)

เรื่องระบบเสียงของ HUAWEI งวดนี้ผมไม่เห็นโลโก้ของแบรนด์ลำโพงแล้ว ตอนนี้เจอแต่ HUAWEI SOUND ซึ่งเป็นระบบเสียงของทางค่ายเองเลย ซึ่งสามารถไปปรับตั้งค่าเสียงได้ทั้งส่วนของลำโพงตัวเครื่อง หูฟัง 3.5 มม. และไมโครโฟน แต่เขาไม่ได้มีให้ถึงระดับมี EQ ให้ปรับนะครับ แต่จะเหมือนเป็นโปรแกรม 3 ตัวให้เลือก เราก็แค่เลือกอันที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดครับ

โดยส่วนตัว ลำโพงของตัวเครื่อง HUAWEI MateBook X Pro นี่เสียงกระหึ่มมาก และให้เสียงค่อนข้างดีประมาณนึงเลย ถ้าอยู่คนเดียว อยากดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกมเนี่ย ไม่ต้องหาลำโพงหรือหูฟังมาต่อเพิ่มครับ ใช้ลำโพงตัวเครื่อง เปิดดังซัก 50% ก็สบายๆ แล้ว แต่หากอยากให้กระหึ่งกว่านี้ ก็เปิดไปที่ 80% ก็ได้ โดยเลือก HUAWEI SOUND เป็นโหมด Smart Optimization ให้ระบบมันปรับจูนเสียงให้ดีและสมดุลที่สุด ผมว่าโอเคสุดแล้ว อันนี้ผมลองทดสอบด้วยการฟังเพลงในแนวต่างๆ ดู อันนี้สมดุลจริง

กล้องเว็บแคม แอบเสียดายที่ HUAWEI เขาก็ให้มาแค่ระดับ HD 720p เท่านั้นเอง โน้ตบุ๊กราคาขนาดนี้ ผมละอยากให้ใส่มาซัก 1080p จริงๆ ให้ตายสิ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะขอบจอมันเล็ก และมีการใส่ IR camera ด้วย ก็เลยทำให้ใส่เซ็นเซอร์ได้แค่ความละเอียด 9 แสนพิกเซลอย่างนั้นเหรอ? แต่ในแง่ของซอฟต์แวร์ HUAWEI เขาก็มีการเพิ่มฟีเจอร์การตั้งค่าให้กับกล้องเว็บแคมเอาไว้ด้วย เผื่อต้องเอาไปใช้ในแอปหรือโปรแกรมใดๆ ที่มันไม่มีฟีเจอร์จำพวก Beauty mode, Auto-centering (พยายามปรับภาพให้ตัวเราอยู่ตรงกลางของหน้าจอเสมอ), Eye Contact (พยายามปรับภาพให้เหมือนกับว่าตาเรามองที่กล้อง ไม่ใช่มองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์) และการเปลี่ยนฉากหลัง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ดีครับ เพราะมีผู้ผลิตโน้ตบุ๊กไม่กี่ยี่ห้อที่เขาจะทำฟีเจอร์นี้มาให้ (ตอนนี้เท่าที่ทราบก็มีแค่ ASUS กับ HUAWEI นี่แหละ) ไม่อย่างนั้นก็ต้องไปใช้ฟีเจอร์ของ NVIDIA Broadcast ซึ่งก็ต้องใช้กราฟิกการ์ดของค่าย NVIDIA ด้วยเท่านั้น
สำหรับการประชุมออนไลน์ อยู่ในห้องคนเดียวหรือหลายคน ก็หมดห่วง เสียงดังฟังชัดแน่นอน เพราะลำโพงพี่แกมี 6 ตัว ไมโครโฟนก็มี 4 ตัว และหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของลำโพงและไมโครโฟน ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ HUAWEI SOUND ในการปรับแต่งลำโพงและไมโครโฟนให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานได้
และไหนๆ ก็พูดถึงจุดเด่นของค่าย HUAWEI แล้ว จะไม่พูดถึงฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ก็ไม่ได้ครับ คือ ถ้าเป็นการใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ของค่าย HUAWEI ที่รองรับฟีเจอร์นี้ การเชื่อมต่อต่างๆ มันก็จะง่ายมากครับ ยกตัวอย่างเช่น ผมมี HUAWEI Wireless Mouse แล้วอยากจะเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊ก ผมก็แค่เปิดใช้งาน เปิดบลูทูธ แค่นี้มันก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอเลยครับ กด CONNECT ก็เป็นอันจบ ไม่ต้องเซ็ตอัปใดๆ ให้วุ่นวาย

และหากเรามีแท็บเล็ตของ HUAWEI เราก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อใช้เป็นจอแสดงผลเพิ่มเติมได้ จะทำเป็นโหมด Mirror สะท้อนภาพหน้าจอ หรือจะทำเป็น Extended desktop เพื่อใช้เป็นพื้นที่การแสดงผลเพิ่ม เช่น ผมเอามาดู YouTube รายการโหนกระแสระหว่างทำงานไปด้วย แบบนี้เป็นต้น
ใครที่พกเครื่องคอมพิวเตอร์ไปทำงานนอกสถานที่ แต่ตัวเองก็เคยตัวกับการมีจอคอมพิวเตอร์สองจอไว้ใช้ทำงาน นี่มันคือฟีเจอร์ที่โดดเด่นและมีประโยชน์มากๆ ครับ นี่ยังไม่นับที่ว่า ฟีเจอร์ HUAWEI Super Device จะช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อโยนไฟล์ไปมาระหว่างการได้ง่ายๆ อีกด้วย และหากเป็นสมาร์ทโฟน เราก็จะสามารถสะท้อนภาพหน้าจอจากสมาร์ทโฟนมาดูบนคอมพิวเตอร์ สามารถเล่นแอปใดๆ บนสมาร์ทโฟนได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์นี่เลย

อีกจุดเด่นนึงของ HUAWEI ก็คือ ตัว HUAWEI AppGallery ซึ่งตอนนี้ยังเป็น Beta อยู่นะ มันจะพอร์ตพวกแอปต่างๆ บน Android ที่มีบน HUAWEI AppGallery มาให้ดาวน์โหลดได้บนระบบปฏิบัติการ Windows เลยครับ ไม่ต้องมาเสียเวลารอ Microsoft เขาปล่อยของ ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ Amazon App Store ที่อาจจะไม่มีพวกแอปเกม หรือแอปอีกหลายๆ ตัว ที่เป็นแอปยอดนิยมในประเทศไทย การรันแอป Android บนระบบปฏิบัติการ Windows มันได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น รันหลายๆ แอปพร้อมกัน ได้ ทำงานแบบ Multitasking ที่แท้ทรูเพราะหน้าจอโน้ตบุ๊กยังไงมันก็ใหญ่กว่าหน้าจอสมาร์ทโฟน เป็นต้น

ในเรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อ อย่างที่ได้บอกไปครับ เจ้านี่ให้พอร์ต Thunderbolt 4 มา 2 พอร์ตทางซ้ายมือของตัวเครื่อง 2 พอร์ตนี้ยังเป็น USB-C ที่เป็น USB 3.2 Gen 2 (แบนด์วิธ 10Gbps) ด้วยในตัว ส่วนพอร์ต USB-C อีก 2 พอร์ตทางขวามือของตัวเครื่อง เป็น USB 3.2 Gen 1 (แบนด์วิธ 5Gbps) ครับ ทุกพอร์ตรองรับ Power Delivery สามารถเสียบสายชาร์จเข้าพอร์ตไหนก็ได้ ก็เรียกว่าสะดวกดี แต่เพราะมันไม่มีพอร์ต HDMI หรือ USB-A มาให้เลย การจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รุ่นเก่าๆ หรือจอแสดงผลรุ่นเก่าๆ ก็ต้องหาพวก USB dongle มาให้ ซึ่ง HUAWEI เขาก็แถมมาให้แค่ USB-C to USB-A dongle ซึ่งในใจก็แอบอยากให้แถมเป็น USB-C to HDMI/USB-A dongle มามากกว่า จะได้ใช้ dongle ตัวเดียวจบได้
ทีนี้มาดูสิ่งที่ผมแอบขัดใจเกี่ยวกับตัว HUAWEI MateBook X Pro บ้างครับ มันก็จะมีราวๆ นี้
❎ อุตส่าห์รองรับ PCIe Gen 4 แล้ว แต่ใช้ SSD NVMe ที่ความเร็วไม่สูงมาก อันนี้อาจจะเพราะว่าต้องพยายามกดต้นทุนหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะตัวโน้ตบุ๊กมันก็ราคา 79,990 บาทแล้ว แต่สำหรับผม ผมเห็นโน้ตบุ๊กที่ราคาถูกกว่านี้ แต่เขาก็ให้ SSD แบบความเร็วอ่านและเขียนระดับ 7GB/s และ 5GB/s ตามลำดับ
❎ หน้าจอแสดงผล มันกางได้สูงสุด 135 องศาโดยประมาณ โดยรวมก็ต้องบอกว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ผมก็ยังอยากให้กางได้มากกว่านี้อีกหน่อย ซัก 150 องศา จะดีมาก ไม่ขอคาดหวังถึงขนาด 180 องศา เพราะมันมีประเด็นเรื่องการออกแบบ Air flow สำหรับระบายความร้อนอยู่
❎ เว็บแคม HD 720p แอบน้อยไปหน่อย ผมอยากให้มันมีความละเอียดซัก 1080p ก็ยังดี คือ โน้ตบุ๊กราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ แล้ว เว็บแคมมัที่ให้มาด้วย มันควรจะมีความละเอียดสูงกว่านี้หน่อย
❎ USB-C 2 พอร์ต ที่ให้มา มันเป็น USB 3.2 Gen 1 แบนด์วิธ 5Gbps อะครับ จริงๆ ควรจะให้มาซัก USB 3.2 Gen 2 เพราะเดี๋ยวนี้หลายๆ คน ก็หันมาใช้ SSD แบบพกพากันเยอะขึ้นแล้ว ซึ่งมักจะมีความเร็วระดับ 1GB/s พอเอามาใช้กับพอร์ต USB-C ที่ให้แบนด์วิธแค่ 5Gbps มันจะเหมือนโดนกดความเร็วลงไป 50% เลยทีเดียว … อย่างไรก็ดี พอร์ต Thunderbolt 4 ที่ให้มา 2 พอร์ต เป็น USB-C แบบ USB 3.2 Gen 2 แบนด์วิธ 10Gbps นะ
ทีนี้มาคุยกันเรื่องแบตเตอรี่บ้าง เจ้านี่ให้แบตเตอรี่มา 60Wh และได้รับการรับรองมาตรฐาน Intel evo แต่สำหรับผม พวกสเปกที่ชอบออกมาบอกว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลัก 10 ชั่วโมงขึ้นไป อะไรพวกเนี้ย ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะรูปแบบการใช้งานมันไม่ใช่อะไรที่จะเป็นการใช้งานจริงๆ ของเราหรอก สำหรับผม ผมลองใช้งานแบบตามสไตล์ของผมเลย คือ ทำงานเอกสาร ท่องเว็บ โดยที่เปิด YouTube Music หรือดูคลิป YouTube ไปด้วย และเชื่อมต่อกับแท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ให้เป็นจอแสดงผลภายนอกไปในตัว ปรากฏว่า แบตเตอรี่ก็จะอยู่ได้ราวๆ 3.5-4 ชั่วโมงครับ
เอาจริงๆ ยังไม่เจอโน้ตบุ๊กที่รันระบบปฏิบัติการ Windows ตัวไหนที่ใช้งานตามปกติแล้ว แบตเตอรี่อยู่ได้ยาวๆ แบบ 6 ชั่วโมงขึ้นไปเลยนะ … อย่างเก่งได้แค่ 5 ชั่วโมงนี่ก็กรี๊ดมากๆ แล้ว
บทสรุปการรีวิว HUAWEI MateBook X Pro
เป็นโน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพดีนะ แม้จะไม่สุด เพราะแม้จะใช้ชิป Intel Gen 12 Core i7 ก็ตาม แต่มันเป็น Core i7-1260P แต่ก็นั่นแหละ ถ้าจะให้มันบางเบา จะให้ไปใช้ Cire i7-12700H ก็คงจะไม่ใช่แล้วล่ะ ด้วยสนนราคาค่าตัว 79,990 บาท หากมองแค่สเปกอย่างเดียวก็ต้องบอกว่ามีตัวเลือกที่ดีกว่า เช่น HUAWEI MateBook 16S ที่สเปกก็แรงกว่า ราคาก็ถูกกว่าอีกหน่อย แต่แลกมาด้วยน้ำหนักที่เพิ่มมาเกือบ 1 กิโลกรัมเลยนะ 🤣🤣 ผมมองว่าคนที่พร้อมจะควักกระเป๋าจ่ายราคาเกือบ 8 หมื่นบาทซื้อนี่คือ อยากได้โน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพพอสมควร ครอบคลุมการทำงานที่หลากหลาย แต่มีลุคที่เรียบหรู ดูดี HUAWEI MateBook X Pro ดูจะเป็นทางเลือกตัวนึง