จริงๆ ผมขี่ครบ 10,000 กิโลเมตรมานานแล้วครับ ถ้านับที่ผมขี่ทุกรุ่นรวมกัน แต่ด้วยความที่ระบบของ Segway-Ninebot เขาเพิ่งบันทึกว่าผมขี่ครบ 10,000 กิโลเมตร อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อนนู้น ผมก็เลยเพิ่งได้มาเขียนอย่างเป็นทางการในวันนี้แหละ สัปดาห์ก่อนมันวุ่นมากๆ จนเหนื่อย เลยไม่อยากเขียนบล็อกใดๆ เลย ก็เลยเพิ่งได้มาเขียนตอนนี้อีก การขี่ 10,000 กิโลเมตร สำหรับสกู๊ตเตอร์แล้ว ถือว่าก็ต้องใช้เวลากันพักใหญ่ๆ เลยนะครับ เลยต้องขอกลับมาทบทวนประสบการณ์ขี่กันหน่อยในนี้
ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้ครบ 10,000 กิโลเมตรได้นี่มันยากไหม ใช้เวลานานไหม?
สำหรับหลายๆ คน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามันเป็นตัวช่วยในเรื่องการเดินทาง เอาไว้ใช้เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ อะเนาะ หรือบางคนอาจจะอาศัยอยู่ที่คอนโด ที่ไม่ไกลจากที่ทำงานหรือสถานที่ที่อยากจะไปมาก ฉะนั้นส่วนใหญ่ก็น่าจะขี่กันไม่เกินวันละ 10 กิโลเมตร หรือบางคนก็อาจจะเอาไว้ขี่เพื่อท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะขี่นานหน่อย ถ้าขี่ทุกวันก็ 3 ปี แต่คนเราก็ไม่ได้ทำงานกันทุกวัน แต่ถ้าขี่ไปทำงานวันละ 10 กิโลเมตร ก็อาจจะ 5 ปีแหละ

ของผมนี่ขี่ไปกลับ บ้าน-ที่ทำงาน ตกวันละ 36 กิโลเมตร หรือเหมาๆ ง่ายๆ 3 วัน 100 กิโลเมตร ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ยังทำงานที่ออฟฟิศทุกวันนี่ก็ขี่เดือนนึงๆ ระยะทางไม่ต่ำกว่า 500 กิโลเมตร จริงๆ ก็ควรจะ 2 ปีได้ 10,000 กิโลเมตรแล้วแหละ แต่เผอิญว่ามีการปรับนโยบายการทำงาน เป็นทำงานที่ออฟฟิศ 4 วัน ทำงานจากที่บ้าน 1 วัน และทำงานที่ออฟฟิศ 3 วัน ทำงานจากที่บ้าน 2 วัน ตามลำดับ ทำให้เดือนนึงๆ ขี่น้อยลง แล้วดันมาเจอกับโควิด-19 ทำให้ไม่ได้ขี่ไปทำงานเกือบ 2 ปี เนี่ย ก็เลยเพิ่งจะได้ถึง 10,000 กิโลเมตรอย่างเป็นทางการ
คิดถูกหรือคิดผิดที่ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปกลับ บ้าน-ที่ทำงาน?
บอกตรงๆ ว่าคิดถูกอ่ะ ไม่ต้องพูดถึงประเด็นเรื่องค่ารถเมล์ที่แพงขึ้น (ตอนนี้ไม่รู้เป็นเท่าไหร่แล้ว เพราะปีนึงขึ้น 3-4 หนเอง เดี๋ยวนี้) หรือค่าน้ำมันที่แพงหูฉี่อยู่ในตอนนี้เลยนะ เอาแค่เรื่องรถติดก็คุ้มแล้วครับ คือ ถ้ารถไม่ติดเนี่ย ผมใช้เวลาเดินทางรวมกับที่ต้องรอรถเมล์ราวๆ 40 นาที เป็นอย่างเร็ว ถ้ารถไม่ติด แต่ถ้าเกิดรถติดเนี่ย 1 ชั่วโมงขึ้นไป เผลอๆ 2-3 ชั่วโมงด้วย ถ้าวันไหนซวยๆ ทั้งๆ ที่ระยะทางก็แค่ 18 กิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่แบบว่าแต่ละจุดที่ผมต้องผ่าน วงเวียนใหญ่งี้ ดาวคะนองงี้ พระราม 2 งี้ (เส้นพระราม 2 ที่เดินทางนี่คือประมาณ 4-5 กิโลเมตรเองนะ) แต่พอเปลี่ยนมาขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คือ 45-55 นาที ไม่เกินนั้น ต่อให้รถติดหนักขนาดไหน ไฟแดงจะโหดแค่ไหนก็ตาม ไม่เคยเกินนั้นเลย ยกเว้นมัวแต่ถ่ายรูป 🤣🤣

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง Ninebot Kickscooter MAX แบตเตอรี่ตกราวๆ 550Wh หรือกินไฟราวๆ 0.55kWh ในการชาร์จให้เต็ม ก็เท่ากับชาร์จแบตเตอรี่รอบนึง ใช้ไฟฟ้า 0.55 หน่วย ถ้าเราสมมติเลยนะ ค่าไฟตก 4.40 บาทต่อหน่วย ก็เท่ากับชาร์จแบตเตอรี่ทีนึง 2.42 บาท แต่ระยะทางที่ผมขี่เนี่ย รอบนึงกินแบตเตอรี่ราวๆ 35% หรือไปกลับก็ตก 70% แหละ ฉะนั้นคิดแบบลวกๆ แล้ว ก็มีค่าใช้จ่ายตกวันละประมาณ 2 บาทเอง ประหยัดสุดๆ เลยครับพี่น้อง เมื่อเทียบกับว่า ถ้าผมขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อรถเมล์ ตามปกติ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 120-160 บาท แล้วแต่ว่าได้ขึ้นรถสองแถวหรือรถเมล์ร้อนหรือรถเมล์ปรับอากาศ เลย ประหยัดไปวันละ 118-158 บาท ตกปีละ 18,408-24,648 บาท ถ้าคิดว่าผมไปทำงานสัปดาห์ละ 3 วันนะ Ninebot Kickscooter MAX คันนึงปัดกลมๆ ซัก 34,000 บาท ก็คืนทุนใน 1.5-2 ปี สำหรับผม แต่ของผมน่ะ คืนทุนมานานแล้ว เพราะผมขี่ตั้งกะสมัยผมทำงานสัปดาห์ละ 5 วันเนาะ
อย่างไรก็ดี คนอื่นๆ ที่ขี่น้อยกว่าผม ถ้าดันซื้อ Ninebot Kickscooter MAX มันก็คืนทุนช้ากว่าผมเยอะนะครับ เพราะรุ่นนี้มันแพง แนะนำให้ไปดูรุ่นอื่นอย่าง Ninebot Kickscooter F20A หรือ Ninebot Kickscooter F40 อะไรพวกนี้มากกว่า ลองอ่านบล็อกเทียบ F20A กับ MAX ของผมได้นะ เผื่อจะได้ช่วยตัดสินใจว่าเลือกรุ่นไหนดี (ใช้ประยุตก์กับการตัดสินใจเลือกรุ่น F30 และ F40 ได้ด้วย)
ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแล้ว มันมีปัญหาจุกจิกกวนใจอะไรไหม?
เอาจริงๆ ถ้าขี่แบบถนอมๆ ผมว่า 2-3 ปีนี่ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจใดๆ เลยนะ แบตเตอรี่คือยังดีอยู่ ไม่เสื่อมใดๆ มอเตอร์ก็ยังทำงานได้ดีอยู่ ทั้งๆ ที่ผมก็ขี่มาได้ระยะทางไกลมากๆ แล้ว (เฉพาะ Ninebot Kickscooter MAX อย่างเดียว ผมขี่มาเกือบ 8,000 กิโลเมตรแล้ว) ผมเป็นคนที่ไม่ได้ถนอมรถมากครับ เรื่องล้างรถนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ปีนึงอาจจะเอาไปเช็กสภาพที่ศูนย์ทีนึง ตอนนั้นเขาก็ล้างให้ 🤣🤣 ซ่อมบำรุงเดียวที่ผมทำคือสูบลมยางอะ ส่วนที่ต้องไปซ่อม (และจะไปซ่อม) ที่ผ่านมา ก็มี
🛴 ตอนขี่ Ninebot Kickscooter ES2 มอเตอร์ล้อพังทีนึง อันนั้นแจ็กพ็อตจริงๆ เพราะเจอตั้งกะตอนราวๆ 500 กิโลเมตรแรก แต่หลังจากนั้นขี่ไปเกือบ 3,000 กิโลเมตร ก็ไม่เจออะไรอีก
🛴 ตอนขี่ Ninebot Kickscooter ES2 บังโคลนหลังหักไปทีนึง อันนี้เป็น Design failure ของรุ่นนี้ในช่วงแรก คือ ถ้าเจอหลุมลึกๆ หน่อย แล้วรถมันตกไปกระแทกแรงๆ บ่อยๆ ครั้ง บังโคลนอาจดีดไปกระแทกกับล้อจนแตกร้าวได้
🛴 ตอนขี่ Ninebot Kickscooter MAX มีครั้งนึงที่ตัวล็อกคอมันไม่แน่นเท่าไหร่ เลยให้ช่างช่วยดูให้ แล้วเขาขันน็อตให้แน่นไปหน่อย ตัวล็อกคอมันก็แน่นขึ้น แต่มันเกิดความเครียดกับตัวล็อกที่เป็นอลูมิเนียม พอใช้ไปนานๆ มันก็แตกจ้า แต่หลังจากได้รับบทเรียนแล้ว ก็ไม่ขันแน่นไป ขี่ต่อมายาวๆ ก็ไม่มีปัญหาอีกเลย
🛴 ตอนขี่ Ninebot Kickscooter MAX คิดว่ามันมีอาการคล้ายๆ กับ Ninebot Kickscooter ES2 คือ พอตกหลุม กระแทกหนักๆ บ่อยๆ บังโคลนมันก็ยังไปกระแทกล้อได้อีก แล้วก็แตก ตอนนี้ยังไม่ได้เอาไปซ่อม แต่คิดว่าพ้นหน้าฝนไปแล้วจะเอาไปซ่อม แล้วจะขี่ Ninebot Kickscooter F40 ชั่วคราวแทน
🛴 ตอนขี่ Ninebot Kickscooter MAX ไปได้ซักปีเศษๆ ไฟท้ายมันขาด ก็ต้องเอาไปเปลี่ยน
ก็เท่าที่เห็นครับ คือ นอกจากมอเตอร์ที่พังเพราะแจ็กพ็อตแล้ว ที่เหลือมันก็เกิดจากการใช้งานทั่วไป ซึ่งพอซ่อมแล้ว มันก็ไม่ได้มากวนใจใดๆ ซ้ำซากอีก แถม ผมดูแลรักษามันน้อยมากครับ อย่างที่บอก เน้นเติมลมอย่างเดียว 🤣🤣
มองอนาคตเทรนด์การขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ยังไง?
ผมเห็นคนสนใจขี่กันมากขึ้น พวกเด็กๆ ชอบขี่กันเพราะสนุก แต่จริงๆ ผมอยากบอกว่าให้เด็กๆ ขี่จักรยานไปดีกว่านะ ฝึกทรงตัว ได้ออกกำลังกายด้วย สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านี่เอาไว้ขี่ตอนชิลล์ๆ พอ ส่วนวัยรุ่นหรือวัยทำงาน ผมว่ามันจะเป็นยานพาหนะที่ใช้สำหรับเดินทางระยะสั้นๆ ได้ดีมากๆ ทีเดียว ในมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่กว้างๆ มันสะดวกกว่าการใช้มอเตอร์ไซค์อีก ยิ่งถ้าหอพักนักศึกษาอยู่ไม่ไกล มันสะดวกเอาเรื่อง ส่วนคนวัยทำงาน มันก็คือตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่ต้องการยานพาหนะมาเชื่อมต่อการเดินทาง หรือแม้แต่การขี่ยิงยาวเลยแบบผม แต่ผมก็หวังว่าทุกคนจะขี่กันแบบมีวินัย ไม่ใจร้อน เพราะยังไงซะสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ความเร็วจะไม่สูงมาก มันก็จะไปสู้กับรถอื่นๆ บนถนนไม่ได้ ต้องเจียมตัว

เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปมากขึ้น สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มันจะมีแบตเตอรี่อึดถึกและมอเตอร์ไฟฟ้าที่แรงขึ้นก็จะตามมา พวกนี้เขาออกแบบให้ใช้เฉพาะสถานที่ เช่น ในสนามแข่ง หรือสนามสำหรับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือตามพื้นที่ต่างจังหวัดแบบภูเขา เผื่อใครชอบแนวขี่เที่ยว แต่ด้วยความแรงและเร็ว และความคล่องตัว มันก็อาจจะมีบางคนที่ซื้อมาเพื่อใช้ขี่บนท้องถนนปกติด้วย อันนี้ก็แอบห่วง เพราะว่าต้องไม่ลืมว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามันผิดกฎหมายนะครับ (ผมเคยเขียนเอาไว้ในบล็อก การขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนถนน ผิดกฎหมายหรือไม่? แล้วอันตรายจริงหรือเปล่า? มาแล้ว) ถ้าไม่ระวังแล้วตำรวจมาเพ่งเล็ง ผมเกรงว่าจะสะเทือนทั้งวงการขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเอา
มีคนมองว่าขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนมันอันตราย มันอันตรายจริงไหม?
ถ้าเราใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่ความเร็วมันแค่ 25-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราก็ไม่ต่างอะไรจากจักรยานมากนัก จะเร็วกว่านิดหน่อย อัตราเร่งสูงกว่า มีความคล่องตัวในการซอกแซกมากกว่า แต่ถ้าเราขี่แบบระมัดระวัง เกาะริมถนนไปเรื่อยๆ จริงๆ พวกถนนใหญ่ๆ ไม่ค่อยอันตรายครับ เพราะจำนวนเลนถนนมันเยอะ แล้วบ้านเราอะ ชอบมีรถจอดริมถนน มันก็จะไม่ค่อยมีรถยนต์คันอื่นๆ ที่ตามหลังเรามา อยากวิ่งเลนซ้ายสุดเท่าไหร่ อันนี้เราสบาย ที่เราต้องห่วงก็จะมี
🛴 รถยนต์ที่จอดข้างทาง มันดันไม่เห็นเรา แล้วเปิดประตูดักหน้าเรา ขี่มาแค่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าโดนเข้าจังๆ นี่ ล้มฟาดพื้นได้นะครับ ผมโดนมาแล้วตอนปี 2562 ล้มฟาดพื้นเลย ถึงขนาดต้องเขียนบล็อก ใส่หมวกกันน็อกกันเถิดพวกเรา มาเป็นอุทาหรณ์
🛴 ฝนตกถนนลื่น สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบางยี่ห้อบางรุ่น (อย่างของ Ninebot Kickscooter ก็คือรุ่น ES2 หรือ ES4) มันจะไม่เกาะถนนดีเท่าไหร่ เวลาเจอพื้นลื่นๆ โอกาสลื่นล้มสูงมาก เมื่อปีที่แล้วผมก็ล้มไปทีนึงเหมือนกัน ไปอ่านบล็อก ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอันตรายไหม? บันทึกสกู๊ตเตอร์ล้มครั้งที่ 3 ได้ครับ
🛴 สภาพถนนของประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหสานคร มันไม่เรียบ มีหลุม มีเนิน อยู่เรื่อยๆ อย่าขับจี้ตูดรถมาก เพราะรถมันจะบังผิวถนน เดี๋ยวจะไปเจอหลุมเจอเนินแบบไม่คาดคิด ต้องขับขี่กันระวังจริงๆ การล้มครั้งแรกของผม (พอดีอยู่ในบล็อกเก่าที่ปิดตัวไปแล้ว เลยไม่สามารถหาลิงก์มาให้อ่านประสบการณ์ที่เล่าได้) ก็มาจากความประมาทครับ ตอนเลี้ยวเข้าไปในห้างบิ๊กซีพระราม 2 ผมก็เข้าโค้งเลี้ยวเก๋ๆ เลย แต่มันดันมีหลุมอยู่ตรงมุมโค้งพอดี ปลิวสิครับ จะรออะไร 🤣🤣 แทนที่จะได้เข้าห้าง กลับต้องแบกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปฝั่งตรงข้าม แล้วนั่งสองแถวไปโรงพยาบาลแทน (จะขี่สกู๊ตเตอร์ไปก็จะห้าวเกิน)