ส่วนใหญ่แล้วโฆษณาที่ผมเห็นบน Facebook มักจะเป็นของที่ผมไม่ค่อยได้อยากจะซื้อเท่าไหร่ แต่ผมไปสะดุดตากับโฆษณาอันนึงของ Topaz Labs เรื่องของซอฟต์แวร์ที่ช่วยอัปสเกลของภาพ (หมายถึง ทำให้ Resolution ของภาพสูงขึ้น) โดยที่คุณภาพของภาพไม่ใช่แค่ไม่ลดลง แต่ยังมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะภาพถ่ายบุคคล ด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI พอดีราคาเต็มมัน $99 และเขามีส่วนลดซึ่งหมดเขตวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่กำลังเขียนบล็อกตอนนี้อยู่ ของเขาดีจริงๆ ผมจัดแพ็ก 3 โปรแกรมรวด เหลือ $159 (ปกติโปรแกรมละ $99) แล้วใช้โค้ดที่ Microsoft Edge อุตส่าห์ไปค้นหามาให้โดยอัตโนมัติได้ลดไปอีก $24 สรุปผมเลยจ่ายไปแค่ $135 เท่านั้นเองฮะ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
บล็อกตอนนี้ ใช้เงินซื้อมาลองเองนะครับ ผมซื้อมาสามโปรแกรมเลย คือ Gigapixel AI ที่เอาไว้อัปสเกลภาพด้วย AI และยังมี DeNoise AI เอาไว้ใช้ลดพวก Noise ในรูป กับ Sharpen AI ที่เอาไว้เพิ่มความคมชัดให้กับภาพอีก แต่ในบล็อกตอนนี้ ผมจะมารีวิวเฉพาะ Gigapixel AI เท่านั้นก่อนครับ เพราะดูแลน่าจะเป็นโปรแกรมที่หลายๆ คนจะได้ประโยชน์มากๆ
คืองี้ Pain point นึงของผู้ทำงานด้านภาพและกราฟิกก็คือ หลายครั้งเราต้องทำงานกับภาพที่ความละเอียดต่ำ ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าถ้าความละเอียดต่ำแล้ว เอามา Resize ให้มีความละเอียดสูงขึ้น ภาพมันจะแตกครับ ลองดูภาพด้านล่างนี้ครับความละเอียดของภาพมันแค่ 640×480 พิกเซล หรือประมาณ 3 แสนพิกเซลเท่านั้น ความละเอียดต่ำมาก

ด้วยความละเอียดต่ำแบบนี้ พอเอามาขยายภาพดู 400% (4 เท่า) เราจะเห็นเลยว่าภาพเริ่มออกอาการแตกครับ ซึ่งแม้ว่าอาจจะยังดูดีอยู่ในจอแสดงผลที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะรูปก็จะมีขนาดเล็กจนสายตาของเราแยกแยะภาพที่แตกไม่ออก แต่พอมาดูจอใหญ่ๆ คือมันชัดเจนอ่ะ และบางทีมันก็เอาไปใช้ทำงานไม่ได้ พวกรูปถ่ายในสมัยก่อนของเรา ในยุคที่สมาร์ทโฟนมีกล้องความละเอียดต่ำๆ ก็มักจะเป็นประมาณนี้

ตรงนี้แหละที่โปรแกรม Gigapixel AI จะเข้ามาช่วย โปรแกรมนี้รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows (เวอร์ชัน 7 หรือใหม่กว่า) และ macOS ด้วย ตัวโปรแกรมมันจะมี Interface ที่ง่ายมาก หลักการทำงานก็ง่ายๆ ครับ คือ เปิดรูปที่ต้องการจะอัปสเกลภาพ (เพิ่มความละเอียด) และหากเราไม่คิดอะไรมาก ก็ให้โปรแกรมช่วยตั้งค่าให้เองก็ได้ จากนั้น AI ก็จะทำการปรับปรุงภาพให้ดีขึ้นเองครับ ในหน้าจอแรกนี้ เราก็แค่ลากรูปที่ต้องการจะอัปสเกลมาวาง หรือจะเบราวซ์ภาพเอาก็ได้

พอเปิดภาพมาแล้ว โปรแกรมก็จะทำการแสดงพรีวิวของภาพมาให้ แล้วก็จะเริ่มทำการประมวลผลเพื่ออัปเกรดคุณภาพของภาพตามการตั้งค่าที่เป็น Default ของโปรแกรม ถ้าเราดูจากด้านขวามือ เราจะเห็นตัวเลือกสำหรับการตั้งค่าต่างๆ ครับ เริ่มตั้งแต่
✳️ จะอัปสเกลของภาพโดยพื้นฐานจากอะไร สเกลของภาพ (ตัวคูณว่าจะย่อหรือขยายภาพกี่เท่า) / ความกว้างของภาพ (เป็นพิกเซล) / ความสูงของภาพ (เป็นพิกเซล) คือ ถ้าเรามีขนาดในใจอยู่แล้วว่าอยากได้ภาพกว้างหรือสูงกี่พิกเซล ก็เลือกอัปสเกลตามขนาดจะดีกว่าครับ
✳️ AI Model เลือกว่าอยากให้ AI ทำการปรับปรุงภาพโดยใช้โมเดลไหนในการคำนวณ อันนี้เราควรจะเลือกให้เหมาะกับภาพต้นฉบับครับ คือ เลือก Standard ถ้าเราไม่อยากคิดเยอะ เลือก Lines ถ้าเกิดเป็นพวกภาพแนวสถาปัตยกรรมที่มีตึกรามบ้านช่อง พวกตัวอักษร หรือภาพที่มีเส้นหนาๆ เยอะๆ เลือก Art & CG ถ้าเป็นพวกภาพงานศิลปะหรือกราฟิกคอมพิวเตอร์ เลือก Low Resolution ถ้าเกิดเป็นภาพความละเอียดต่ำ และเลือก Very Compressed ถ้าเกิดเป็นภาพที่ถูกบีบอัดมาหนักหน่วงมากๆ (เช่น พวก JPEG ที่เซฟไว้แบบ Low quality)
✳️ Settings เอาไว้ปรับแต่งการทำงานของ AI Model ซึ่งโดยปกติจะถูกเปิดโหมดออโต้เอาไว้ คือ ให้ซอฟต์แวร์จัดการให้เองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเราปิดสวิตช์อันนี้ เราจะสามารถปรับแต่งแบบ Fine tune ได้เอง โดยมีตัวเลือกให้สองอันคือ Suppress Noise คือ ลด Noise ของภาพ (ลดน้อยไปก็จะเหลือ Noise ลดเยอะไป ก็อาจจะสูญเสียรายละเอียดของภาพ) และ Remove Blur คือ ลดอาการเบลอของภาพ (ลดมากไปภาพก็เบลอะ ลดเยอะไปภาพก็เข้มเกินจนผิดธรรมชาติ)
✳️ Additional Settings เป็นการ Fine tune ให้สเต็ปนึงครับ คือ Reduce Color Bleed คือให้ AI พยายามปรับ Gamma ของภาพเพื่อลดอาการเพี้ยนของสี ซึ่งอาจจะมีการปรับพื้นที่มืดให้สว่างขึ้นด้วย Face Recovery เอาไว้ใช้ในกรณีที่ภาพมีใบหน้าบุคคลด้วย การเปิดใช้งานจะทำให้ใบหน้าบุคคลดูสมจริงขึ้น โดยเราสามารถปรับ Face Recovery Strength ได้ว่าอยากจะให้ AI พยายามซ่อมใบหน้ามากน้อยแค่ไหน เราเลือกปรับให้ภาพออกมาดูสมจริงสุด ไม่หลอกตาเกินไปได้

ตัวโปรแกรมจะให้เราสามารถขยายขนาดของภาพได้สูงสุด 600% เลย ซึ่งถือว่าเยอะมากนะ ลองคิดง่ายๆ ว่าภาพที่ความกว้าง 640 พิกเซล ถ้าขยาย 600% ก็คืกลายเป็น 3,840 พิกเซลเลย และภาพ 3 แสนพิกเซล ก็จะกลายเป็น 11 ล้านพิกเซลครับ (คือ จาก 640×480 พิกเซล กลายเป็น 3,840×2,880 พิกเซล) ถามว่าโปรแกรม Gigapixel AI ทำงานได้ดีแค่ไหน ลองดูภาพตัวอย่างนี้ครับ ผมอยากให้ภาพต้นฉบับที่ความละเอียด 3 แสนพิกเซล มันเป็นเหมือนกับภาพจากกล้องดิจิทัลในยุคปัจจุบันที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ผมก็ปรับเป็น 4,032×3,024 พิกเซล ซะเลย โปรแกรมก็ใช้เวลาแป๊บนึง ก็ได้ผลออกมาแบบนี้ครับ

อันนี้ผมเปิดใช้ค่า Default ที่โปรแกรมให้มา และเลือกเปิดใช้ Face Recovery ด้วย โดยมี Face Recovery Strength อยู่ที่ 90 เห็นได้ชัดเลยครับว่าใบหน้าของผมนี่ถูกซ่อมแซมมาซะจนแทบจะเหมือนกับว่าถ่ายด้วยกล้อง 13 ล้านพิกเซลจริงๆ เลย มาดูกันชัดๆ ว่าแตกต่างกันชัดเจนแค่ไหน ดูภาพด้านล่างนี้ได้ครับ


อย่างไรก็ดี ในภาพตัวอย่างแรกที่ผมลอง มันเป็นภาพที่ถูกถ่ายด้วยกล้อง Samsung Galaxy Z Fold 2 ที่เป็นกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งคุณภาพของภาพถือว่าดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อให้ผมเอามันมาย่อซะจนเหลือ 3 แสนพิกเซล แล้วนำมาขยายกลับมาเป็น 13 ล้านพิกเซล AI ก็อาจจะไม่ต้องทำอะไรเยอะมาก เพราะรายละเอียดภาพมันโอเคอยู่


เอาภาพเต็มๆ มาให้ดูครับ ขนาดถูกย่อจนเล็กแล้ว ก็จะเห็นว่าภาพซ้ายที่ความละเอียด 3 แสนพิกเซล มันจะดูเบลอๆ ในขณะที่ทางขวาจะดูคมชัดกว่า
อย่างที่บอก ผมรู้สึกว่าโจทย์มันยังง่าย คือ แม้ว่ารูปจะ 3 แสนพิกเซลก็เหอะ แต่ด้วยความที่ตัวกล้องซอฟต์แวร์มันดีอะ ตอน Resize ภาพให้เล็กลง รายละเอียดมันก็หายไม่เยอะอะ ซอฟต์แวร์ก็น่าจะซ่อมภาพได้ไม่ยาก ผลงานก็จะออกมาดี งั้นเอาใหม่ เอารูปความละเอียดต่ำมาลองดีกว่า ก็ไปคุ้ยๆ รูปตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อ 8 ปีก่อน แถมตอนเซฟรูป เป็นไฟล์ขนาด 6 แสนพิกเซลด้วย ไม่ต้องไปลดขนาดมันล่ะ

คงไม่ต้องให้บอกว่าคุณภาพของรูปเป็นยังไงนะครับ ต้นแขนขวาผมนี่ รอยหยักเพียบครับ และอย่ามาพูดถึงเรื่องความแตกต่างของใบหน้าผมในรูปนี้กับรูปที่แล้วนะ … ระยะเวลา 8 ปีมันโหดร้ายอยู่ 😭😭

เช่นเคย ผมอัปสเกลให้มีความกว้าง 4,032 พิกเซลครับ แต่ด้วยความที่ต้นฉบับมันเป็นภาพ 800×800 พิกเซล ผลก็คือ มันก็เลยกลายเป็นภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว แต่มันก็คือการอัปสเกล 504% เท่านั้นนะ น้อยกว่าคราวที่แล้ว แต่ภาพต้นฉบับนี่จะเห็นได้ชัดว่ามันแตกเป็นเกล็ดพิกเซลมากกว่าการเอารูป 12 ล้านพิกเซลมาลดขนาดเหลือ 3 แสนพิกเซลซะอีก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เรียกว่าดีทีเดียว


มาลองเปรียบเทียบกันระหว่างรูปต้นฉบับกับรูปหลังจากอัปสเกลแล้วครับ ซ้ายมือคือต้นฉบับ ขวามือคือรูปที่อัปสเกลแล้ว จะเห็นว่าภาพมีความคมชัดขึ้นแบบชัดเจนมาก และเนียนมากๆ ด้วยเช่นกัน อยากให้สังเกตสามจุดครับ ใบหน้าของผมที่ชัดเจนขึ้นโดยที่ไม่ดูหลอกเลย เสื้อของผมที่ภาพต้นฉบับนี่ลายสกรีนเสื้อแตกเป็นพิกเซลเลย แต่พออัปสเกลแล้วคือ สวยเนียนมาก แต่มันก็มีข้อจำกัดคือ อิต้นไม้ที่อยู่ด้านซ้ายมือ ในภาพต้นฉบับเราจะเห็นว่ามีใบไม้เยอะอยู่ แต่พออัปสเกลแล้ว อ้าว ใบไม้หายไปไหนเยอะเลย
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับพวกแอปบนสมาร์ทโฟนที่ก็พอจะทำอะไรคล้ายๆ แบบนี้ได้ แต่ว่าพวกนั้นจะเป็นการส่งรูปภาพของเราไปประมวลผลที่เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยชอบ เพราะมันสูญเสียความเป็นส่วนตัวประมาณนึงเลย เนื่องจากต่อให้ผู้ให้บริการจะเขียนนโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ดีแค่ไหน มันก็ตอบยากว่าเขาจะทำตามที่เขียนนโยบายไว้จริงหรือไม่ แต่สำหรับโปรแกรม Gigapixel AI นี่ รูปจะถูกประมวลผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราครับ แต่นั่นก็เลยทำให้เราต้องทำความเข้าใจ 2 เรื่อง คือ
1️⃣ พวกโมเดลสำหรับ AI จะถูกดาวน์โหลดมาติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราครับ
2️⃣ และเพราะการประมวลผลมันถูกทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา มันก็จะแอบช้าและกินทรัพยากรเครื่อง (แรม และ GPU) พอสมควรเลย

ใครสเปกเครื่องแรงๆ นี่สบายเลยครับ กดปุ๊บ โปรแกรมวิ่งปรื๊ดๆ จบ แต่ถ้าใครสเปกเครื่องไม่แรงมาก ก็รอกันหน่อย โดยทาง Topaz Labs เขาแนะนำว่าขั้นต่ำของฮาร์ดแวร์ที่จะใช้โปรแกรม Gigapixel AI นี่ ควรจะเป็น
✳️ CPU: Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3 (ความเร็ว 3.0GHz ขึ้นไป) หรือใหม่กว่า และต้องรองรับชุดคำสั่ง AVX (ชุดคำสั่ง Advanced Vector Extensions) แต่ดันไม่บอกว่าควรเป็นของ Generation ไหน
✳️ RAM: 8GB (แต่ถ้ามีได้ 16GB หรือมากกว่า จะดีกว่า)
✳️ GPU: Nvidia GTX 740 หรือ AMD Radeon 5870 หรือใหม่กว่า รองรับ OpenGL 3.3 หรือใหม่กว่า และควรมี VRAM 2GB หรือมากกว่า (6GB ขึ้นไปได้ยิ่งดี)
✳️ Display: ความละเอียดหน้าจอขั้นต่ำ 1,024×768 พิกเซล หรือสูงกว่า
ผมลองใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผม ที่แรงที่สุดในบ้านแล้ว เป็น Intel Core i7-1165G7 การ์ดจอ GeForce RTX 2060 แรม 32GB ก็ไม่ได้เรียกว่าช้ามาก แต่ว่าก็ไม่ได้เร็วเช่นกัน ผมลองไปดูพวกคนที่มาสอนการใช้งานโปรแกรม หรือแนะนำโปรแกรม ที่เขาทำรีวิวไว้ คือ กดปุ๊บมาปั๊บ สงสัยสเปกแรงเวอร์วังสุดๆ ตอนมันกำลังประมวลผลเพื่ออัปสเกลนี่ สังเกตว่า GPU วิ่ง 88%-90% เลยนะ ตอนผมกำลังอัปสเกลรูปแล้วดู YouTube ไปด้วยเนี่ย เล่นเอา YouTube สะดุดเลยนะ ส่วนแรม มันกินราวๆ 800MB และเพิ่มขึ้นเป็นแถว 5GB เมื่อเปิดรูปเลย ผมว่าใครมีแรมแค่ 8GB นี่ ไม่ควรใช้โปรแกรมนี้อะ

อย่างไรก็ดี โปรแกรม Gigapixel AI ตัวนี้ มีไว้เพื่อช่วยอัปสเกลของภาพที่มีความสมบูรณ์ดีพอสมควรอยู่แล้ว คือ อย่างน้อยๆ ก็มีข้อมูลบนภาพที่มากพอให้ AI มันช่วยอัปสเกลได้อยู่บ้างนะครับ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า Gigapixel อะ คือ เพิ่มจำนวนพิกเซลให้มากขึ้น แต่ถ้าใครคิดจะเอามาใช้เพื่อซ่อมรูปภาพ มันไม่ใช่คำตอบแน่ๆ ครับ เช่น รูปด้านบนก็เป็นรูปที่ถ่ายตอนขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตอนค่ำๆ และด้วยความที่ระยะมันไกล และแสงไม่พอ ผลก็คือ ภาพใบหน้าของผมนี่แบบ เบลอหนักมากรายละเอียดของดวงตาก็ไม่มี จมูกกับปากก็เห็นแค่รางๆ เท่านั้น พอมาอัปสเกลแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ
ใครสนใจ สามารถไปกดซื้อได้ที่ Topaz Labs Products และหากใช้โค้ด TURNHAM15 ก็จะได้ส่วนลด 15% ด้วยนะครับ ยิ่งถูกลงไปอีก นอกจากนี้ Topaz Labs เขายังมีโปรแกรม DeNoise AI และ Sharpen AI ซึ่งเอาไว้ลบ Noise ออกจากภาพ และทำภาพที่เบลอๆ หลุดโฟกัส ให้คมชัดขึ้นด้วย ซื้อสามโปรแกรมพร้อมกันก็จะถูกลงกว่าซื้อรายโปรแกรมนะ และส่วนลด 15% ก็เอามาใช้ด้วยได้เช่นกัน