รีวิวแปรงสีฟันไฟฟ้า SPARKLE Sonic Advanced Active (SK0375)

ผมติดใจการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ามาก เพราะมันช่วยให้แปรงฟันได้สะอาดกว่าแปรงฟันแบบปกติ โดยที่ออกแรงเท่าเดิม โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นระบบ Sonic หรือ สั่นรัวๆ (มักจะสั่นระดับหมื่นครั้งต่อนาที) ล่าสุดนี่เพิ่งจะเปลี่ยนแปรงอีกครั้ง โดยงวดนี้ผมเลือกเป็น SPARKLE Sonic Advanced Active (SK0375) เพราะเป็นแบรนด์ที่หาซื้อได้แถวบ้าน และถามพนักงานแล้วเขาบอกว่าหัวแปรงมีขายตลอด หาไม่ยาก แต่ราคานี่เจ็บจี๊ดเลยครับ 3,990 บาทแน่ะ

โดยส่วนตัว ผมเคยใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ามาแล้ว 2 ยี่ห้อ คือ SOCAS กับ Dr. Bei ครับ และบอกตรงๆ ว่ามันเวิร์กมากๆ ผมนี่ติดใจเลยแหละ แต่ปัญหาของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าแบรนด์จีนของผมคือ พอหัวมันหมด มันหาซื้อหัวเปลี่ยนยากมาก เพราะบางยี่ห้อก็ไม่มีคนนำเข้าอย่างเป็นทางการ ส่วนไอ้ที่มีคนนำเข้ามา (เช่น Dr. Bei) เนี่ย อยู่ๆ มันจะเลิกขาย ก็เลิกขายเฉยเลยเว้ยเฮ้ย สุดท้าย อิ Dr. Bei ที่ผมใช้อยู่ที่บ้านเนี่ย ก็ต้องเลิกใช้ เพราะหาซื้อหัวใหม่มาเปลี่ยนไม่ได้ ก็เลยเป็นที่มาที่สุดท้าย ผมก็ตัดสินใจซื้อแบรนด์ที่มันหาซื้อหัวแปรงได้ไม่ยากแทนดีกว่า ตัวแปรงอาจจะแพงกว่าของแบรนด์จีนบ้าง แต่อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเจอปัญหาซื้อหัวแปรงใหม่ไม่ได้ แล้วก็ต้องทิ้งทั้งแปรงทั้งอันอะ ซึ่งโคตรจะเสียของมาก

แกะกล่องแปรงสีฟันไฟฟ้า SPARKLE Sonic Advanced Active (SK0375) ออกมา ถือว่าของที่ให้มา สมกับค่าตัว 3,990 บาทของมันอยู่นะ คือ มีตัวแปรงสีฟันไฟฟ้า มีกล่องเก็บสำหรับพกพา มีอะแดปเตอร์แบบ 5V 1A พร้อมแท่นชาร์จแบบไร้สาย และหัวแปรงมาให้ 2 อัน

ตัวแปรง เรียบง่าย คล้ายๆ กับแปรงสีฟันไฟฟ้าทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ สามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IPX7 มีปุ่มสำหรับสั่งงานปุ่มเดียว กดทีนึงคือเปิดใช้งาน ถ้ากดอีกครั้งก็จะเริ่มเป็นการเปลี่ยนโหมด (แล้วเราก็กดไล่โหมดไปเรื่อยๆ เพื่อเลือกโหมดการแปรงตามที่ต้องการ) หากกดค้าง 3 วินาที ระหว่างการใช้งาน ก็จะเป็นการปิด เวลาเราอยู่โหมดไหน ไฟ LED ก็จะติดที่ตรงชื่อโหมดนั้น ซึ่งอยู่ตรงด้ามแปรง ตัวแปรงมีน้ำหนัก 110.5 กรัม ไม่หนัก วัสดุที่ใช้ทำตัวแปรงเป็น พลาสติก ABS/TPE (Acrylonitrile Butadiene Styrene/Thermoplastic Elastomer)

หัวแปรงที่ใช้ ขนแปรงเป็นของดูปองท์ ไนลอน เห็นว่าเป็นแบบเฉพาะรุ่น เราต้องซื้อหัวแปรงรุ่น Advanced clean มาใช้ครับ ซึ่งอย่างที่บอก ในกล่องเขามีแถมมาให้แล้ว 2 หัว ตอนผมซื้อเนี่ย เขามีแถมหัวมาให้อีก 2 หัว รวมเป็น 4 หัว หัวนึงใช้งานได้ราวๆ 3 เดือน นี่ก็เรียกว่าใช้ได้ 1 ปีสบายๆ แล้ว ตรงนี้แอบอยากตั้งข้อสังเกตว่า หัวแปรงไม่ได้มีให้เลือกรูปแบบมากนัก ถ้าเกิดเรารู้สึกว่า ไอ้แบบที่มีให้ใช้มันไม่เวิร์กกับปากเรา นี่คือเกมโอเวอร์

ในรุ่น Advanced Active นี่ มันออกแบบมาเผื่อสำหรับคนเดินทางด้วย เขาก็จะมีแถมกล่องสำหรับใส่แปรงสีฟันไฟฟ้าเพื่อพกพาระหว่างเดินทางด้วยครับ ซึ่งบอกตรงๆ ผมเลือกซื้อรุ่นนี้ก็เพราะว่าอยากได้ไอ้นี่แหละ มันออกแบบมาตรงรุ่น มีขนาดกะทัดรัด บรรจุแปรงไฟฟ้าและหัวแปรงได้ แต่ไม่ได้ออกแบบมาเผื่อให้ใส่หัวแปรงพร้อมอิพลาสติกครอบหัวแปรงได้ด้วย

ตัวฝากล่องนี่มีฝังเหล็กและแม่เหล็กเอาไว้ ทำให้มันปิดสนิทดี และเปิดได้ไม่ยาก แต่มีข้อติว่า ของราคาขนาดนี้แล้ว ตัวบานพับของกล่องเก็บแปรงน่าจะทำมาให้ดูดีกว่านี้ และทำให้มั่นใจหน่อยว่าจะทนทาน คือ มันเป็นแค่แผ่นพลาสติกบางๆ ยึดติดเอาไว้เองอะ คือ ความรู้สึกว่าพับเข้าออกหลายที มีโอกาสขาดได้อะ แม้พนักงานจะพยายามบอกผมว่า มันทนทานอยู่นะคะก็เหอะ

ตัวแปรงมีแบตเตอรี่ลิเธียม DC 3.7V ความจุ 700mAh ตามสเปกบอกว่าสามารถใช้งานได้ราวๆ 21 วัน ซึ่งผมขอเดาว่าใช้วันละ 2 ครั้ง โดยที่แต่ละครั้งจะใช้เวลาราวๆ 2-3 นาที โดยเขาให้ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแท่นชาร์จแบบไร้สาย 3 วัตต์ ซึ่งจะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไปจนถึง 100% ประมาณ 18 ชั่วโมง แอบถือว่ายาวนานมาก เรียกว่าเหมาะกับการใช้งานตอนเช้าเสร็จ แล้วชาร์จทิ้งไว้จนถึงตอนแปรงฟันก่อนนอนเลยอะ กว่าจะเต็ม ประมาณนั้น

ประสบการณ์ในการใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้า SPARKLE Sonic Advanced Active

แปรงสีฟันนี้มีโหมดการใช้งาน 5 โหมดด้วยกัน เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับปากของเรา หรือความต้องการได้ดังนี้

ผมจงใจยังไม่เขียนรีวิวในทันที เพราะอยากลองใช้พักใหญ่ๆ ก่อน ก็เอาเป็นว่านี่ก็ประมาณ 1 เดือนแล้ว ผมก็จะขอไล่เรียงประสบการณ์ให้ดังนี้นะครับ

🪥 ผมมองว่าการมีโหมดแปรงหลายๆ แบบ เวลาเราใช้จริงๆ เราจะไม่ได้ใช้มันทุกแบบหรอก มันแค่มีหลายแบบไว้ให้เลือกให้เหมาะกับสภาพช่องปากของเรามากกว่า เช่น สำหรับคนที่ไม่ชอบความรุนแรงมาก ก็อาจจะเลือกใช้โหมด Sensitive หรือกรณีของผม ผมก็รู้สึกว่าโหมด Clean เหมาะกับผมมากกว่า

🪥 การแปรงแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที แต่จากประสบการณ์ในการใช้งานของผม ผมอยากแนะนำว่าแปรง 2 รอบครับ รอบละ 2 นาที รวมเป็น 4 นาที คือดีสุด ผมเป็นคนที่มีหินปูนก่อตัวในช่องปากง่ายมาก แต่พอใช้วิธีแปรงโดยใช้เวลาเป็น 2 เท่าของปกติที่แปรงไฟฟ้ากำหนด มันช่วยลดเรื่องการก่อตัวของหินปูนได้ดีมาก

🪥 การหยุดสั่นเพื่อเตือนหมดชัดเจนดีมาก ผิดกับแปรงสีฟันไฟฟ้าของจีนที่ผมเคยใช้มาก่อนหน้า 2 รุ่น อันนี้ผมชอบจริง

🪥 การชาร์จแบตเตอรี่ของแปรงสีฟันไฟฟ้าแอบช้าครับ ผมไม่แนะนำให้รอจนแบตเตอรี่ใกล้หมดจนมันเตือนแล้วค่อยชาร์จนะ มีโอกาสก็ชาร์จเลยดีกว่า คือ สเปกบอกว่าใช้ได้ราวๆ 21 วัน แต่ผมว่าซัก 1-2 สองสัปดาห์ ก็ชาร์จทีได้เลยแหละ ตอนกลางคืนก็ชาร์จทิ้งไว้เลย ตื่นเช้ามาก็น่าจะชาร์จเต็มพอดี เพราะถ้ารอจนใกล้ๆ จะหมดค่อยชาร์จ มันใช้เวลาเกือบ 18 ชั่วโมงเลย กว่าจะเต็ม

🪥 กล่องเก็บแปรงสีฟัน ทำให้สะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ดี ทำมาแบบ Minimal มากๆ กินเนื้อที่น้อย เวลาที่จะต้องพกใส่กระเป๋าหรือเป้ไป

🪥 หัวแปรงมีให้เลือกแบบเดียว สำหรับคนที่มีความชอบที่จะเลือกรูปแบบของขนแปรงหรือชนิดของขนแปรงได้ อาจจะรู้สึกว่าไม่มีโอกาสเลือก แต่เท่าที่ผมลองใช้ ดีไซน์ขนแปรงแบบนี้ มันสอดรับกับรูปทรงของฟัน 2 ซี่พร้อมกัน มันมียางซิลิโคนรูปเครื่องหมาย + อยู่ ซึ่งพยายามหาข้อมูลว่ามันมีไว้ทำไม ก็หาไม่เจอแฮะ

บทสรุปการรีวิวแปรงสีฟันไฟฟ้า SPARKLE Sonic Advanced Active

ราคาค่าตัวแพงกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าแบรนด์จีนเยอะมาก ในแง่ของความรู้สึกในการใช้งาน ผมว่าไม่ได้แตกต่างอะไรจากแปรงสีฟันไฟฟ้าแบรนด์จีนที่ราคาถูกกว่าเท่าตัวซักเท่าไหร่ ถ้าเราโอเคกับโหมดการแปรง เพราะเรามักจะเลือกโหมดที่ถูกใจที่สุดอันนึงเสมอแหละ แต่สำหรับผม แบรนด์ SPARKLE เนี่ย ดูจะมีขายมานาน และมีตัวแทนจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการอยู่ เวลาต้องหาซื้อหัวแปรง มันน่าจะหาซื้อได้ง่ายกว่า เพราะจากประสบการณ์ของผมตอนใช้ SOCAS หรือ Dr.Bei เนี่ย แบบเวลาจะต้องหาซื้อหัวใหม่ก็จะวุ่นๆ หน่อย ขนาด Dr.Bei ที่ผมซื้อจาก Xiaomi Store ในห้างแถวบ้าน มันยังมีปัญหาเลย เพราะอยู่ๆ ร้านก็เลิกขายซะงั้น ถึงเป็นที่มาว่าสุดท้าย ยอมจ่ายตังค์อีกรอบ ซื้อแบบที่มั่นใจว่าหัวแปรงจะหาได้ไม่ยากไปเลยดีกว่า เพราะมันคืออะไรที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ 90 วันนะ