ปีนี้รุ่นใหม่ของ QNAP เข้ามาแล้ว คือ TS-464 เป็น NAS ที่ใช้หน่วยประมวลผลตระกูล Intel Celeron ที่น่าจะมาแทนที่ตัว TS-453D ที่ออกมา 2 ปีแล้ว และตัวนี้ก็ได้มีการอัปเกรดทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์ และการรองรับอุปกรณ์เสริมเพิ่มเข้าไปอีก นับว่าเป็น QNAP NAS สำหรับ Small & Medium Business (SMB) และผู้ใช้งานตามบ้านที่เป็นแนวๆ Power user ที่น่าสนใจตัวนึงเลย บล็อกตอนนี้จะมาแกะกล่อง เล่าให้อ่านกันว่าเป็นยังไง
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
QNAP TS-464 ตัวนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อจาก QNAP Thailand ให้ยืมมาลองใช้งานและเพื่อจะได้เขียนรีวิวให้ได้อ่านกันครับ
แกะกล่อง QNAP TS-464 ภายในนั้นก็จะมีของตามมาตรฐาน QNAP NAS แหละ คือ ตัว NAS เอง อะแดปเตอร์ 90 วัตต์ พร้อมสายไฟ สาย LAN แบบ 1GbE Cat 5E เส้นนึง เซ็ตน็อตสำหรับใช้ยึดกับพวกฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว 2 ชุด แล้วก็พวกบัตรรับประกันต่างๆ
ดีไซน์ของตัว TS-464 เนี่ย จะมาแนวเดียวกันกับ TS-453D ครับ แต่ตัวเครื่องเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองแทน แต่ว่าด้านหน้าเนี่ย ก็จะเป็นพลาสติกครอบถาดใส่ฮาร์ดดิสก์ ไฟ LED แสดงสถานะต่างๆ ปุ่ม Power พอร์ต USB-A ที่เป็น USB 3.2 Gen 2 (แบนด์วิธ 10Gbps) ซึ่งมีพอร์ตเป็นสีแดง เป็นสัญลักษณ์สีที่สื่อว่าเป็น Always-on port ซึ่งผมว่าก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรในการใช้งานหรอกนะ เพราะมันก็จ่ายไฟ 5V 0.5A เท่านั้นเอง เอาไว้จิ้มกับพวก Portable HDD ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้วเพื่อถ่ายโอนข้อมูลน่ะพอไหว นอกจากนี้ก็จะมีปุ่ม Copy อยู่ข้างๆ พอร์ต USB-A ซึ่งเอาไว้ใช้กดเพื่อสั่งให้ NAS ทำการก็อปปี้ข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์มาเก็บลง NAS โดยไม่ต้องล็อกอินเข้า NAS หรือเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อสั่งก็อปปี้เลย

มาดูที่ด้านหลังกันบ้าง ตรงนี้ก็จะมีสล็อต PCIe แบบ Gen 3×2 มาให้ 1 สล็อต (แบนด์วิธ 16Gbps) พอร์ต USB-A ที่เป็น USB 3.2 Gen 2 (แบนด์วิธ 10Gbps) 1 พอร์ต และแบบ USB 2.0 (แบนด์วิธ 480Mbps) อีก 2 พอร์ต มีพอร์ต HDMI 2.0 ให้พอร์ตนึง เอาไว้ต่อกับพวกมอนิเตอร์ภายนอกได้ มีพอร์ต LAN 2.5GbE มาให้ 2 พอร์ต ช่องตัวล็อก Kensington และช่องเสียบอะแดปเตอร์ไฟ กับพัดลมขนาดใหญ่เอาไว้ระบายความร้อนของฮาร์ดดิสก์

การติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้กับ QNAP TS-464 นั้น ถ้าเป็นอุปกรณ์จำพวก PCIe ก็จะแค่ถอดหน้ากากพลาสติกของตัวเครื่องออกก่อน จากนั้นก็ขันน็อตที่ด้านหลังตัวเครื่อง 3 ตัว แล้วก็จะสามารถถอดฝาตัวเครื่องออกได้ง่ายๆ แกะฝาออกมาแล้ว สิ่งที่เราจะเข้าถึงได้ง่ายมากที่สุดก็คือ สล็อตใส่การ์ด PCIe นี่แหละครับ ซึ่งก็จะมีให้เลือกทั้งการอัปเกรด LAN เป็น 10GbE, การอัปเกรด LAN เป็นแบบไร้สาย หรือแม้แต่การใส่ SSD แบบ NVMe เพิ่ม หรือการเชื่อมต่อกับ JBOD storage enclosure ของ QNAP ก็ได้

สำหรับถาดใส่ฮาร์ดดิสก์ 4 ถาด เป็นดีไซน์ Tooless ที่ไม่ต้องใช้น็อตยึดฮาร์ดดิสก์ หากเราใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว แต่ถ้าเกิดเราใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม (เช่น อยากใส่ฮาร์ดดิสก์ไซส์โน้ตบุ๊ก หรือ อยากใส่ SSD แบบ SATAIII) ก็จะต้องใช้น็อตยึดนะครับ ก็ที่แถมมาให้ภายในกล่องนั่นแหละ

แต่ถ้าอยากจะใส่หน่วยความจำ (RAM) เพิ่มเติม เพราะรุ่นนี้รองรับหน่วยความจำสูงสุด (ตามสเปกบอก) คือ 16GB (DDR4 8GB 2 ตัว) หรืออยากใส่ SSD ซึ่งรองรับ M.2 NVMe 2 สล็อต เข้าไป ก็ต้องถอดฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดออกมาก่อน ถึงจะเข้าถึงจุดติดตั้ง RAM และ SSD ได้ครับ ซึ่งอันนี้ผมว่าแอบโหดไปหน่อย ที่สำคัญผมตั้งข้อสังเกตว่าจุดใส่ RAM เนี่ย แกะและใส่ ยากมากกกกก ก.ไก่ ซัก 20 ตัว

มองในแง่ของฮาร์ดแวร์แล้ว QNAP TS-464 มีอัปเกรดขึ้นมาหลายจุดครับ เมื่อเทียบกับ QNAP TS-453D ที่ออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน ถ้าจะให้ไล่ๆ ดู ก็น่าจะประมาณนี้ครับ
*️⃣ หน่วยประมวลผล เปลี่ยนจาก Intel Celeron J4125 (Gemini Lake 14 นาโนเมตร) เป็น Intel Celeron N5105 (Jasper Lake 10 นาโนเมตร) ซึ่งใหม่กว่า ประสิทธิภาพในการประมวลผลดีขึ้น
*️⃣ รองรับหน่วยความจำสูงสุดเพิ่มเป็น 16GB (จากเดิม 8GB) และตัว PCIe ก็รองรับถึง PCIe Gen 3×2 (จากเดิม PCIe Gen 2×2) ได้แบนด์วิธเพิ่มจาก 8Gbps เป็น 16Gbps
*️⃣ รองรับ SSD M.2 NVMe โดยไม่ต้องไปใช้ PCIe adapter แล้ว แถมรองรับ 2 ตัวด้วย เป็น PCIe Gen 3×1 (แบนด์วิธ 8Gbps)
*️⃣ ได้ USB 3.2 Gen 2 (แบนด์วิธ 10Gbps) แล้ว (ของ TS-453D จะเป็น USB 3.2 Gen 1 แบนด์วิธ 5Gbps) แต่มีพอร์ต USB 2.0 น้อยลงไป 1 พอร์ต แต่สำหรับผม ไม่ติดว่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะเอาไว้ใช้กับคีย์บอร์ดและเมาส์ กรณีที่จะใช้ HD Station

โดยส่วนตัว อยากให้มันเริ่มจากรุ่นที่ให้ RAM มา 8GB จริงๆ ครับ ไม่ใช่อะไรนะ เพราะส่วนตัว QNAP TS-453A ที่บ้านผมใส่แรมไป 16GB อะ 🤣🤣 แต่ในทางปฏิบัตินั้น จะต้องใส่ RAM เข้าไปเยอะหรือน้อย ผมว่าอยู่ที่ว่าคุณเอามันมารันกี่ Services กันแน่ เพราะเราต้องมอง NAS เป็นแบบเซิร์ฟเวอร์ครับ ทรัพยากรที่ใส่ไปควรจะคุ้มค่าที่สุด บางทีเราอาจจะใช้งานโดยมี RAM แค่ 4GB ก็พอก็ได้นะ แต่หากใครจะใส่เพิ่มก็ไม่ว่ากัน ลองเช็กดีๆ ให้เขาใส่มาให้เลยก็ดีสุด เพราะดูท่าแล้ว แกะ RAM เปลี่ยนยากอยู่

ด้วยความที่ TS-464 เป็น NAS รุ่น 4-bay และรองรับการใส่ SSD M.2 NVMe อีก 2 สล็อต ก็ทำให้ NAS ตัวนี้ค่อนข้างครบเครื่อง คือ ถ้าจะใส่แค่ฮาร์ดดิสก์อย่างเดียว ก็สามารถคอนฟิกได้ทั้ง Single disk, JBOD, RAID 0, RAID 1, RAID 5 และ RAID 6 และสำหรับ Power user ก็ยังสามารถทำ SSD cache acceleration ได้ทั้งแบบ Read-only และ Read/Write (แนะนำให้เอา SSD M.2 NVMe 2 ตัวมาทำ RAID 1 ด้วย หากจะใช้ SSD cache acceleration แบบ Read/Write) หรืออยากจะทำ Qtier ด้วยก็ยังได้

ด้วยความที่สเปกก็ไม่ได้แย่เลยนะ หน่วยประมวลผล Intel Celeron N5105 ที่เป็น Gen 10th ของ Intel และสามารถรองรับหน่วยความจำได้สูงสุด 16GB เราก็มีตัวเลือกของแอปต่างๆ ให้ดาวน์โหลดมาใช้ได้เต็มที่แหละ อยากจะเปิดเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ (ทำได้ดีประมาณนึง แต่ถ้าจะทำให้ยืดหยุ่นกว่า แนะนำให้รันบน Container Station ดีกว่า) เป็น VPN เซิร์ฟเวอร์ หรือทำ FTP เซิร์ฟเวอร์ ก็พร้อมหมด และจริงๆ แล้ว จะรัน Virtualization Station แบบปริ่มๆ ก็ยังพอได้ (แต่ไม่ค่อยแนะนำนะครับ เพราะถ้าเรารัน VM ที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่เป็น GUI เต็มๆ เนี่ย แอบหน่วงอยู่)

หน่วยประมวลผล Intel Celeron N5105 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Intel UHD Graphics รองรับการแสดงผลได้สูงสุดถึง 4K ที่ 60Hz เลยทีเดียว ทำให้มีพอร์ต HDMI 2.0 อยู่บนตัวเครื่อง เราสามารถเชื่อมต่อจอแสดงผลกับ QNAP NAS และใช้ NAS ได้คล้ายๆ เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลย โดยบน App Center ก็มีมาให้ทั้งโปรแกรมเบราว์เซอร์ (Google Chrome และ Mozilla Firefox) หรือใครอยากจะทำงานเอกสาร ก็มี LibreOffice ให้เลือกมาติดตั้งได้ สำหรับคนที่ต้องการรับชมความบันเทิง ก็มีทั้ง HD Player, Music Station HD, Spotify ฯลฯ ให้เลือก และสามารถใช้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ ผ่านแอป QVR Smart Client
เรียกได้ว่า QNAP TS-464 นี่ ตอบโจทย์การใช้งานได้ค่อนข้างครอบคลุมเอามากๆ ครับ
นี่ยังไม่ได้นับเรื่องที่ตอนนี้ NAS รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นสำหรับ SMB ของ QNAP ก็เปลี่ยนมาใช้ LAN 2.5GbE กันแล้ว ทำให้แบนด์วิธต่อ 1 connection สามารถบูสต์ไปได้สูงสุดถึง 2.5Gbps เลยทีเดียว (แต่ต้องใช้งานร่วมกับพวก Switch หรือ Router และสาย LAN ที่รองรับด้วยนะ) โดยเมื่อทำ Port trunking ก็จะสามรถขยายแบนด์วิธได้สูงสุด 5Gbps เลย และหากต้องการอัปเกรดเพิ่ม เพื่อเพิ่มแบนด์วิธ ก็ยังมีสล็อต PCIe Gen 3×2 ที่อัปเกรดใส่การ์ด LAN 10GbE เพิ่มได้อีก
บทสรุปการรีวิว QNAP TS-464
ผมว่าเป็น QNAP NAS ที่เหมาะสำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการ NAS ประสิทธิภาพพอสมควร เอาไว้ทำอะไรมากกว่าแค่เป็นไฟล์เซิร์ฟเวอร์ เช่น เอามารัน Container เพื่อให้บริการอื่นๆ หรือใช้เป็น VPN server อะไรพวกนี้ โดยมีความคาดหวังว่าจะอัปเกรดเพิ่มเติมอะไรบางอย่างในอนาคต เช่น ทำ SSD cache acceleration หรือ Qtier เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านและเขียนข้อมูลลง NAS หรือการอัปเกรดเพิ่มแบนด์วิธให้รองรับ LAN 10GbE เป็นต้น หรือในกรณีของผู้ใช้งานระดับ Power user นิดนึง ที่ต้องการทำพวก Multimedia server (เช่น Home media server ด้วย Plex) อะไรพวกเนี้ย ถ้าเกิดงบประมาณไหว ผมว่าก็จะเหมาะอย่างยิ่งเลย