Home>>รีวิว>>รีวิว HUAWEI Sound Joy ลำโพงพกพาไร้สาย สไตล์ Devialet ในราคาที่เอื้อมถึง เดี่ยวก็ได้ คู่ก็ดี
ลำโพง HUAWEI Sound Joy
รีวิว

รีวิว HUAWEI Sound Joy ลำโพงพกพาไร้สาย สไตล์ Devialet ในราคาที่เอื้อมถึง เดี่ยวก็ได้ คู่ก็ดี

เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักชื่อของลำโพงสัญชาติฝรั่งเศสที่สุดไฮเอนด์สุดๆ อย่าง Devialet (อ่านว่า เดอ-วิ-อา-เล) แต่มันก็แพ้ง แพง ซะเหลือเกิน เอาเป็นว่าถูกสุดตอนนี้ น่าจะเป็น Devialet Phantom II 95dB ก็ตกราวๆ 47,990 บาท (ราคา ณ ตอนเขียนบล็อกนี้ ของร้าน .life) แต่โอกาสในการได้ลำโพงไร้สายสไตล์ Devialet ในราคาที่เอื้อมถึงมาถึงเราแล้ว เมื่อ HUAWEI ไป Co-engineered กับทาง Devialet แล้วคลอดออกมาเป็น HUAWEI Sound Joy ลำโพงพกพาไร้สายตัวนี้ ในราคา 4,990 บาท ที่ใช้แบบเดี่ยวๆ ก็ได้ หรือจะเชื่อมต่อกัน 2 ตัว กลายเป็นลำโพงสเตริโอไร้สาย ก็ดีเช่นกัน

ออกตัวล้อฟรีก่อน…

ลำโพง HUAWEI Sound Joy นี้ ทาง HUAWEI Thailand ให้ผมยืมมาลองใช้แบบเป็นคู่ เพื่อเอามาทดสอบการใช้งานแล้วมารีวิวให้ได้อ่านกันแบบเต็มๆ ครับ ใครที่สนใจอยากจะซื้อ เดี๋ยวจะแปะลิงก์ไปที่ Official Store ด้านล่างให้ตำกัน

ก่อนอื่น สำหรับคนที่ไม่รู้จักแบรนด์ Devialet ไม่รู้ว่ามันเป็นแบรนด์ไฮโซขนาดไหน ผมขอแปะภาพส่วนหนึ่งจากเว็บ Lazada ที่มีราคาเทียบระหว่างลำโพง Devialet Phantom I 108dB ที่เป็นตัวท็อป ตามมาด้วยรุ่น Phantom II 98dB (เมื่อก่อนเรียก Phantom Reactor 600W) และ Phantom II 95dB (เมื่อก่อนเรียก Phantom Reactor 900W) ที่ราคาน่าจะถูกสุดแล้วเท่าที่เห็น เทียบกับลำโพง HUAWEI Sound Joy ที่เป็น Co-engineered กับ Devialet ให้ดูกันก่อนนะครับ

ภาพส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ Lazada ที่แสดงถึงราคาของลำโพง Devialet Phantom I 108 dB Opera ราคา 149,990 บาท ลำโพง Devialet Phantom II 98dB Opera de Paris ราคา 72,990 บาท ลำโพง Devialet Phantom II 95dB ราคา 47,990 บาท และลำโพง HUAWEI Sound Joy ราคา 4,999 บาท

แกะกล่อง HUAWEI Sound Joy ออกมาเนี่ย สิ่งที่เราจะได้เห็น ก็จะมีตัวลำโพง ซึ่งมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ Obsidian black และสีเขียว Spruce green กับสายชาร์จแบบ USB-A to USB-C ความยาวสายประมาณ 1 เมตร ไม่มีอะแดปเตอร์มาให้นะ บนตัวกล่องเราจะเห็นว่ามันมีเขียนเอาไว้ว่า Co-engineered with Devialet

ตัวลำโพง HUAWEI Sound Joy มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ตามสไตล์พวกลำโพงพกพา มีความสูง 202 มิลลิเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 73 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 680 กรัม มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 8,800mAh ตัวที่ผมได้มาเป็นตัวทดสอบ มีการผูกสายคล้องมือมาให้เรียบร้อยแล้ว แต่ของที่จำหน่ายจริง ผมไม่แน่ใจว่าจะผูกมาให้เลยหรือไม่ หรือต้องมาผูกเอาเอง ใครที่ไม่ชอบความมีสายคล้องมือ ก็เอาออกได้แหละ ไม่ยาก

ด้านหน้าของลำโพง คือตรงที่มีโลโก้ HUAWEI และสัญลักษณ์สำหรับใช้งาน NFC อยู่ครับ พลิกไปอีกนิด ก็จะเจอปุ่มปรับระดับเสียบ ที่มีเครื่องหมายลบ ( – ) และบวก ( + ) อันบะเริ่มไว้ให้ พลิกไปจนถึงด้านหลังที่อยู่ตรงข้ามกับโลโก้ HUAWEI เราก็จะเจอปุ่มควบคุมการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Power ปุ่มเปิดปิดไมค์ ปุ่มเล่นและหยุด ปุ่ม Bluetooth และปุ่ม Stereo link กับพอร์ต USB-C ที่เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่

ภาพระยะใกล้ของลำโพง HUAWEI Sound Joy ตรงส่วนที่เป็นโลโก้ HUAWEI

ผิวสัมผัสของลำโพงดีมาก เพราะที่ห่อหุ้มตัวลำโพงอยู่ มันเป็นผืนผ้าทอในลักษณะพิเศษ ตัวเครื่องดูแข็งแรง จับแน่นๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าลำโพงจะยุบจะบุบละนะ นอกจากนี้ ก็ยังได้มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นละอองระดับ IP67 ช่วยให้เราเบาใจได้ เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ฝนตก น้ำหกใส่ อะไรแบบนี้ แต่จำไว้อย่างนึงว่าถึงแม้ HUAWEI จะแปะรูปโปรโมตเอาไว้แบบว่า เอาลำโพง HUAWEI Sound Joy นี่ไปจุ่มน้ำ แต่ถ้าเกิดน้ำเข้าไปในตัวเครื่องจนเสียหาย ประกันก็หลุดนะจ๊ะ

ด้านล่างของ HUAWEI Sound Joy จะมี Passive Radiator ของลำโพงอยู่ ก็จะมีโลโก้ Devialet ให้รู้เลยว่าลำโพงนี้ทาง Devialet เขา Co-engineered ด้วยนะ ด้านล่างนี่จะเป็นจุดที่เอาไว้วางลำโพงแนวตั้ง เขาจะมีการทำเป็นฐานที่มีช่องว่างเอาไว้ เพื่อให้แรงอัดอากาศสามารถกระจายออกไปได้ เวลาที่ Passive Radiator ทำงาน ส่วนด้านบนของลำโพง ก็จะมี Passive Radiator อีกด้านนึง

ตรงด้านบนของลำโพงอะ มันจะมีไฟ LED แบบวงแหวนอยู่ มันทำหน้าที่ 3 อย่าง อย่างแรกคือแสดงระดับความดังของเสียง โดยจะแสดงเป็นไฟ LED สีขาว เสียงดังหรือเบา ดูได้จากที่ว่าไฟ LED มันติดเต็มวงแหวนหรือไม่ อย่างที่สองคือแสดงระดับแบตเตอรี่ เมื่อเราเปิดลำโพงอยู่ แล้วกดปุ่ม Power ทีนึง ไฟ LED สีขาวก็จะแสดงระดับแบตเตอรี่ให้เราเห็น มีแบตเตอรี่เหลือเยอะหรือน้อย ก็ดูจากที่ว่าไฟ LED มันติดเต็มวงแหวนหรือไม่ และสุดท้าย ไฟ LED นี้จะวิ่งตามจังหวะเพลงได้ด้วย

ว่ากันที่สเปกซักแป๊บก่อน

HUAWEI Sound Joy ได้ลำโพงของ Devialet มา 4 ตัวครับ ประกอบด้วย ลำโพงความถี่เต็ม (ไดอะเฟรมรวมคาร์บอนไฟเบอร์) กำลังขับ 20 วัตต์ ให้เสียบเบสได้ต่ำถึง 50Hz (-10dB) และทวีตเตอร์ 1 ตัว เป็นแบบชิลด์โดม กำลังขับ 10 วัตต์ ปรับแต่งเสียงโดย Devialet ให้ความถี่สูงได้ถึง 20KHz (-10dB) และสุดท้ายคือ Passive Radiator แบบคู่ Push-Push ที่จะช่วยสร้างเสียงเบสที่หนักแน่น แต่ลดการสั่นสะเทือนลง

ภาพ: HUAWEI

ตัวลำโพงมาพร้อมกับไมโครโฟน 3 ตัว ฉะนั้นก็จะสามารถใช้งานมันเป็นลำโพงสนทนาโทรศัพท์ หรือ ประชุมออนไลน์ก็ได้ด้วย และตัวลำโพงมี G-sensor เอาไว้สำหรับสลับระหว่างไมโครโฟนรับเสียงแนวนอนและแนวตั้ง 2 ตัว เราจะไม่เห็นว่าลำโพงอยู่ตรงไหน เพราะว่ามันซ่อนเอาไว้ใต้ผืนผ้าที่คลุมรอบตัวลำโพงนะ

บลูทธรองรับเวอร์ชัน 5.2 และรองรับ CODEC AAC กับ SBC ด้วย ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 8,800mAh ที่ตามสเปกแล้ว สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ราวๆ 28 ชั่วโมง ถ้าเรามีลำโพง HUAWEI Sound Joy 2 ตัว เราจะสามารถเซ็ตให้มันเชื่อมต่อเข้าหากัน กลายเป็นลำโพงสเตริโอได้

มาที่ประสบการณ์การใช้งานบ้าง

การเชื่อมต่อลำโพง HUAWEI Sound Joy ง่ายมาก ก็แค่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ตามปกติครับ ฉะนั้น จะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแม้แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเชื่อมต่อและใช้งานลำโพงได้สบายๆ และหากใครมีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ที่รองรับ NFC ก็สามารถเอาลำโพงตัวนี้ ในส่วนที่มีไอคอน NFC (อยู่ด้านเดียวกับโลโก้ HUAWEI) ไปแตะจุดเชื่อมต่อ NFC ก็จะสามารถเชื่อมได้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วเลย

ส่วนใครที่ใช้อุปกรณ์ของ HUAWEI ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่ตัวสมาร์ทวอทช์ก็ตาม ถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ (ใช้ HarmonyOS 2 หรือเป็น HUAWEI Watch GT 2 Pro หรือ HUAWEI Watch 3/GT 3) แค่เปิดเครื่องขึ้นมา ก็จะมีการเด้งแจ้งเลยว่าตรวจพบลำโพง HUAWEI Sound Joy อยากจะเชื่อมต่อไหม และถ้าใครอยากจะปรับแต่งเพิ่มได้ แนะนำให้ติดตั้งแอป HUAWEI AI Life ด้วยนะครับ

การใช้งานลำโพง HUAWEI Sound Joy มีให้เลือกตั้งได้ 2 แบบ คือ แนวตั้งและแนวนอน ก็อยู่ที่ว่าพื้นที่ที่เราจะไปวางนั้นมันเป็นแบบไหน โดยเวลาวางในแนวตั้ง ด้านหนึ่งของลำโพงมันจะมีการทำฐานที่มีช่องว่างเอาไว้ ให้แรงอัดอากาศที่เกิดจาก Passive radiator มันวิ่งผ่านได้ ส่วนเวลาเราวางใช้งานแบบแนวนอน เราจะเห็นว่าตัวลำโพงมันจะมีการทำติ่งพลาสติกเล็กๆ เอาไว้เป็นขาตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ลำโพงมันกลิ้งไปมานั่นเอง

หมายเหตุ: เสียงที่ได้ยิน บันทึกโดย Samsung Galaxy Z Fold 2 จะไม่ได้คุณภาพเท่ากับการฟังด้วยตนเอง

คุณภาพเสียงเป็นยังไง? บอกได้สั้นๆ แค่ว่า มันยอดมาก ลำโพงตัวแค่นี้ แต่ให้เสียงดังมากๆ ซึ่งตามสเปกแล้วมันบอกว่าได้เสียงดังสูงสุดระดับ 75dB ในระยะ 2 เมตร ซึ่งผมบอกเลยว่า สำหรับการใช้งานทั่วไป มันเกิดพอแบบล้นไปเลยครับ ผมลองใช้งานเนี่ย เปิดเสียงไปแค่ 50% ก็ดังเวอร์วังมากแล้ว ดังมากกว่านี้อาจโดนคนที่บ้านด่าเอาได้เลย เท่าที่ผมฟังคือ เสียงทุกย่านมาได้ครบดี และในตอนที่เสียงเบสออกมาเต็มๆ เนี่ย ด้วย Passive radiator แบบ Push-Push ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนลงในขณะที่ยังสามารถแสดงเสียงย่านต่ำได้ดีมากๆ ก็ทำได้ตามโฆษณาจริงๆ ครับ ลำโพงนี่เสียงเบสตึบมาก ในขณะที่ผมเอาไปวางบนโต๊ะไม้ รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนได้น้อยมากๆ อยากให้ดูวิดีโอด้านบน ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือบนสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตที่ต่อกับลำโพงที่เสียงเบสดีๆ หน่อย ก็จะเห็นว่า เสียงจากลำโพงเนี่ย ให้เบสออกมาดีทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี การบันทึกวิดีโอด้วยสมาร์ทโฟน ก็ไม่สามารถให้ความครบถ้วนของเสียงได้แหละ ต้องมาฟังเอง

อย่างไรก็ดี แม้ดีไซน์ของตัวลำโพงจะออกมาเป็นแบบทรงกระบอก แต่ทิศทางของเสียงนั้นจะไม่ใช่แบบ 360 องศานะครับ ดอกลำโพงมันหันมาทางด้านโลโก้ HUAWEI ซึ่งถือว่าเป็นด้านหน้าเท่านั้น หากเราไปฟังอยู่ทางด้านอื่น คุณภาพเสียงก็จะดรอปลง เพราะเสียงไม่ได้ออกมาทางนั้น ฉะนั้น การใช้งานในรูปแบบที่เอาวางไว้กลางวงแล้วเฮฮาปาร์ตี้ อันนี้ไม่เวิร์ก

แอป HUAWEI Ai Life แสดงการตั้งค่าของลำโพง HUAWEI Sound Joy

การใช้งานร่วมกับแอป HUAWEI AI Life จะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งเสียงเพิ่มได้อีก โดย HUAWEI Sound Joy จะมีรูปแบบเสียงมาให้ 3 แบบ คือ Hi-Fi สำหรับการฟังเพลงและดูหนังทั่วๆ ไป เรียกว่าเป็นแบบที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกันบนลำโพงทั่วๆ ไป ถัดมาคือ Vocal ที่เอาไว้เน้นเสียงย่านกลาง ที่จะทำให้คำพูดมันชัดเจนมากขึ้น เสียงร้องจะชัดขึ้น เวลาประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์ ดูคลิป YouTube ฟังพวก YouTuber พูดไปเรื่อย อะไรพวกนี้ โหมดนี้จะดีมาก และสุดท้าย Devialet mode ซึ่งเท่าที่ผมอ่านข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Devialet เองก็ได้ความว่ามันคือ โหมดที่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง HUAWEI กับ Devialet ที่จะมาปรับจูนเสียงให้เหมาะสำหรับการดูหนังหรือฟังเพลง เพื่อให้ได้สมดุลของกำลังขับของเสียงที่ดีในขณะที่เสียงก็เพี้ยนให้น้อยที่สุด และนอกจากนี้ หากคิดว่าเบสยังไม่ตึบพอหรือตึบเกินไป ก็สามารถเพิ่มหรือลดได้ ±6dB

ที่นี้ด้วยความซน ผมก็อยากจะลองดูว่า ลำโพง HUAWEI Sound Joy มันสามารถตอบสนองต่อเสียงเบสได้ดีแค่ไหน ก็เอามาเปิดฟังคลิปด้านบนนี่ครับ ดูว่ามันจะเป็นยังไง เมื่อเทียบกับลำโพงอย่าง Creative Pebble Plus ที่มีซับวูฟเฟอร์ ซึ่งแม้ว่าจะราคาแค่พันนิดๆ แต่ที่ผมรีวิวมา และที่หลายๆ คนลองใช้มา ก็ต้องบอกว่าคุณภาพเสียงมันเกินราคาอยู่ กับอีกตัวคือลำโพงพกพาแบบไร้สาย Ultimate Ears Wonder Boom (ราคา ณ ตอนนี้ 2,290 บาท ณ ร้าน Mercular ขณะที่กำลังเขียนบล็อกนี้อยู่) ซึ่งผมว่าเป็นตัวนึงที่ให้เสียงย่านต่ำได้ค่อนข้างดีเลย

ก็ต้องบอกว่าในแง่ของกำลังขับของลำโพง ความดัง การตอบสนองต่อย่านเสียง ผมว่า HUAWEI Sound Joy ทำได้ถูกใจผมมากกว่านะ คือ เปิดเพลงเดียวกันเทียบกัน ฟังซ้ำๆ ย้ำๆ เลย รู้สึกได้ว่าเออ สมแล้วที่ค่าตัวมันแพงสุดอะ (4,999 บาท) เสียงมันครบ มันอิ่มกว่า แต่มันมีจุดนึง คือ ตอนช่วง 1:24-1:25 ที่มันมีการรัวย่านต่ำอยู่ในระดับนึง ทั้งลำโพง Creative Pebble Plus กับ Ultimate Ears Wonder Boom ผมฟังแล้วก็ไม่ได้มีตะหงิดๆ ใจอะไรนัก แต่พอฟังด้วย HUAWEI Sound Joy แล้ว พบว่าถ้าอยู่ในโหมด Hi-Fi เฉยๆ อะ ก็ไม่มีอะไรให้ตะหงิดๆ ใจเหมือนกัน แต่พอฟังด้วย Devialet mode แล้วพบว่า ตอนจังหวะรัวย่านต่ำ ตัว Passive radiator มันรัวเยอะเกินไป ส่งเสียงดังจนผมว่ามันเพี้ยน ฉะนั้น การจะเลือกเปิดโหมด Devialet mode นี่ ผมว่าต้องพิจารณาประเภทของเพลงด้วย ถ้าเกิดมีเบสหนักๆ รัวๆ ผมว่า เปิดเป็น Hi-Fi ดีกว่าครับ

การใช้ลำโพง HUAWEI Sound Joy ก็สมควรที่จะใช้คู่กับแอป HUAWEI AI Life นะครับ เพื่อที่จะได้ปรับตั้งค่าเสียงได้ โดยที่ HUAWEI AI Life เนี่ย ก็รองรับทั้ง iOS และ Android และมันไม่ได้เกี่ยวกับการเชื่อมต่อเพื่อใช้เล่นเพลงหรือโทรศัพท์นะครับ ฉะนั้น สมมติว่าเราเอา HUAWEI Sound Joy เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เราก็ใช้แอป HUAWEI AI Life บนสมาร์ทโฟนปรับแต่งค่าเสียงได้ครับ

ทดสอบใช้โทรศัพท์คุย LINE กับภรรยาบ้าง พบว่าลำโพงต้องเปิดดังจนเกือบสุดเลยแฮะ ถ้าเป็นกรณีนี้ (แอบแปลกใจ) แต่ลำโพงนี่เรียกว่าดีมากเลยนะ นั่งระยะห่างราวๆ 1 เมตรจากลำโพง พูดไปก็คือเสียงดังฟังชัดอยู่ แต่ถ้าเราอยากได้ยินเสียงของคู่สนทนาผ่านลำโพง HUAWEI Sound Joy ให้ชัดๆ แนะนำว่าให้เปลี่ยน Sound effect เป็น Vocal ด้วยครับ

ลำโพง HUAWEI Sound Joy 2 ตัว ตัวนึงวางแนวนอน อีกตัววางแนวตั้ง

ข้อสังเกตอีกอย่างที่ผมพบก็คือ การวางลำโพงแม้ว่าจะออกแบบให้สามารถวางได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง แต่หากวางแนวตั้งเนี่ย เสียงที่เราจะได้ยินมันจะไม่เหมือนกับเสียงเวลาที่เราวางแนวนอนครับ โดยส่วนตัวผม ผมชอบการวางแนวนอนมากกว่า เพียงแต่มันก็จะค่อนข้างกินพื้นที่โต๊ะพอสมควรอะ สำหรับหลายๆ คน อาจจะรู้สึกว่าการวางแนวตั้ง มันกินพื้นที่น้อยดี

เชื่อมต่อลำโพง HUAWEI Sound Joy 2 ตัวเป็นลำโพงสเตริโอ ฟังเพลงจาก HUAWEI MatePad  10.8-inch

และเนื่องจาก HUAWEI เขาเอาลำโพง HUAWEI Sound Joy มาให้ผมสองตัว สามารถต่อแบบสเตริโอได้ โดยวิธีการก็คือ พอเชื่อมต่อลำโพงตัวแรกเสร็จ เราก็หยิบลำโพงทั้งสองตัวมาเขย่าครับ G-sensor มันจะทำการเปิดโหมดเชื่อมต่อแบบสเตริโอให้ แต่ถ้าใครไม่อยากหยิบลำโพงหนัก 680 กรัมมาเขย่า (กลัวหลุดมือ ไรงิ) ก็กดปุ่ม Link ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมซ้อนกัน ที่อยู่บนตัวลำโพงของทั้งคู่ โดยกดปุ่มนี้บนลำโพงทั้งสองตัวติดๆ กันสองที แป๊บเดียวมันก็จะเชื่อมต่อกันแล้ว ลุยต่อได้เลย

ลำโพง HUAWEI Sound Joy สองตัว วางเป็นลำโพงใช้งานกับคอมพิวเตอร์ วางใต้จอ HUAWEI MateView GT 34" Sound Edition

การเชื่อมต่อแบบสเตริโอ จะทำให้เสียงที่ได้จากลำโพงดังขึ้นมาได้อีกสเต็ปนึง เพราะสองลำโพงช่วยกันขับ และเสียงมันเสริมกันและกันได้ ด้วยความที่เป็นลำโพงไร้สาย เราก็จะสามารถวางลำโพงไว้ในตำแหน่งที่เราต้องการได้ตามใจ เพื่อให้ได้คุณภาพของเสียงที่ดีมีมิติของสเตริโอมากที่สุด เอาจริงๆ เลยนะ ผมเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้วเอามาฟังเพลง เปิดแค่ 25% เสียงก็ดังมากแล้ว เปิดดังกว่านี้ ภรรยาด่า เพื่อนบ้านด่า แหงๆ

หน้าจอแอป HUAWEI AI Life ในส่วนของการตั้งค่าลำโพงซ้ายขวา

สำหรับคนที่สงสัยว่า เอ๊ะ แล้วถ้าเอาลำโพงมาต่อกันเป็นสเตริโอแล้ว เราจะรู้ได้ยังไงว่าลำโพงตัวไหนซ้าย ตัวไหนขวา คำตอบก็คือ ไม่ต้องไปสนใจมันครับ วางเสร็จแล้ว เปิดแอป HUAWEI AI Life ขึ้นมา ไปที่หัวข้อ Channel แล้วมันจะให้เราตั้งค่าได้ว่าลำโพงตัวไหนเป็นซ้าย ตัวไหนเป็นขวา เราแค่กดให้เล่นเสียงออกมา ถ้าตัวที่เราเป็นตัวซ้ายมันไม่ถูกต้อง ก็กดสลับ Channel ได้เลย แค่นี้จบ ง่ายมากๆ

แอป HUAWEI AI Life แสดง Stereo group แต่บอกระดับแบตเตอรี่ของลำโพงซ้ายเป็น 0%

ผมตั้งข้อสังเกตในการใช้งานแบบสเตริโอ 2 เรื่อง

1️⃣ ถ้าเราเอามาใช้โทรศัพท์ มันจะใช้งานลำโพงตัวหลักที่เราเชื่อมต่อบลูทูธไว้แต่แรกเท่านั้น และตัวแอป HUAWEI AI Life มันเหมือนจะมีบั๊กอยู่เล็กๆ คือ พอเชื่อมต่อแบบสเตริโอแล้ว ผมสังเกตว่าในขณะที่แบตเตอรี่ของลำโพงซ้ายมันควรจะเหลืออยู่ราวๆ 75% มันดันขึ้นระดับแบตเตอรี่ในแอป HUAWEI AI Life เป็น 0% เฉยเลย

2️⃣ ผมยังรู้สึกว่า UX ของการใช้แอป HUAWEI AI Life ในการบริหารจัดการลำโพง 2 ตัว ยังทำได้ไม่ดี คือ ตัวแอป ถ้าเราเชื่อมต่อลำโพงทีละตัวจนครบ 2 ตัว มันก็จะขึ้นเป็นอุปกรณ์ 2 ชิ้น แต่พอเราเชื่อมลำโพง 2 ตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นสเตริโอปุ๊บ HUAWEI AI Life มันจะรวบอุปกรณ์สองตัวเป็น Stereo group เลย ซึ่งก็โอเคนะ ดูอัตโนมัติดี แต่พอเราอยากจะเปลี่ยนมาตั้งค่าอุปกรณ์ทีละตัวอีกครั้ง อ้าว เริ่มป่วน เพราะหาตัวตั้งค่าไม่เจอ อาจจะต้องเชื่อมต่อใหม่ครับ ก็ไม่ได้ยุ่งยากนะ แต่มันควรเนียนกว่านี้

แถมให้อีกนิด ผมเพิ่งมาสังเกตตอนหลัง เพราะไม่ค่อยได้สนใจตรงจุดนี้ แต่ไฟ LED แบบ RGB ของลำโพง HUAWEI Sound Joy เนี่ย มันตั้งค่าได้แค่เปิดหรือปิดการซิงก์ไฟกับจังหวะเพลงเท่านั้น ผมมองว่า ไหนๆ ก็เป็นไฟ RGB ทั้งทีแล้ว HUAWEI น่าจะเพิ่มลูกเล่นในส่วนของเอฟเฟ็กต์ไฟซะหน่อยจะดีมาก เช่น อย่างน้อยๆ ก็ควรจะตั้งค่าได้ว่าจะให้ไฟ RGB มันสีอะไร หรือ จะให้สีผสมกันไปเลย อะไรแบบนี้

เกือบลืมพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่ ตามสเปก HUAWEI บอกว่าสามารถใช้ต่อเนื่องได้ 26 ชั่วโมง บอกตรงๆ ว่า ผมก็ใช้ไม่เคยรอให้มันหมดหรอกนะ ชาร์จแบตเตอรี่ก่อนตลอดแหละ แต่ที่แน่ๆ คือขนาดใช้งานตลอดทั้งวัน ฟังเพลง ประชุมออนไลน์ ยาวๆ จะนอนค่อยมาชาร์จก็ยังทันอะ และหากจำเป็นต้องได้แบตเตอรี่ไว้ใช้งานไวๆ หาที่ชาร์จของ HUAWEI แบบ 40 วัตต์ มาชาร์จได้เลยครับ ไฟ 10V 4A ชาร์จ 10 นาที เขาก็ว่าพอใช้งานได้ 1 ชั่วโมงแล้ว

บทสรุปการรีวิวลำโพง HUAWEI Sound Joy

เป็นลำโพงคุณภาพดีครับ สมกับที่ Co-engineered with Devialet สำหรับคนที่อยากได้ลำโพงสไตล์ Devialet เนี่ย ผมคิดว่าเจ้านี่น่าจะเอื้อมถึงมาที่สุดแล้ว กับราคา 4,999 บาทอะ เสียงดัง ฟังชัด เบสดี ที่สำคัญ เชื่อมกันสองตัว กลายเป็นลำโพงสเตริโอได้ ด้านราคาเนี่ย อยากบอกว่าซื้อสองตัวรวมกันยังถูกกว่าไปซื้อขาตั้งลำโพง Devialet Phantom I อีก 🤣🤣

สำหรับหลายๆ คน นี่อาจจะกลายเป็นลำโพงสารพัดประโยชน์ได้เลย อยู่บ้าน บนโต๊ะคอม เอามาเชื่อมสองตัวเป็นสเตริโอ ใช้งานแบบไร้สาย เป็นลำโพงเสียงดี มีเบส ประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องไปเผื่อที่วางซับวูฟเฟอร์ แถมจะดูหนัง ฟังเพลง ประชุมออนไลน์ เซ็ตเดียวเอาอยู่เลย (ปัจจุบันโต๊ะผม แยกลำโพงดูหนัง ฟังเพลง กับประชุมออนไลน์คนละเซ็ตกัน เพราะลำโพงที่เหมาะกับดูหนังฟังเพลง มันประชุมออนไลน์แล้วเสียงเบา ฟังไม่ค่อยได้ยิน)

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า