การใช้ Intel NUC Phantom Canyon มันก็ดีอยู่แหละ ประหยัดพื้นที่ ผมจัดโต๊ะได้แบบ แน่นเอี้ยดมาก ยัดทุกอย่างไว้บนโต๊ะ TAM ขนาด 120×60 เซ็นติเมตรได้หมด แต่มันก็มีข้อจำกัดอยู่คือมันไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือหรือกล้องเว็บแคมที่มี IR รองรับ Windows Hello ให้ล็อกอินเข้า Windows ได้สะดวกๆ อะ ก็เผอิญไปเจอตัวสแกนลายนิ้วมือขายกันบน Aliexpress ที่มันรองรับ Windows Hello ขายอยู่ที่ราวๆ 700 บาท ก็เลยซื้อมาลองซะหน่อย ว่าเวิร์กจริงไหม
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
ตัวสแกนลายนิ้วมืออันนี้ ไม่มียี่ห้อนะ เห็นเลขรุ่นคือ FT105A แค่นั้นเลย ซื้อมาใช้เอง เพื่อลองให้รู้ว่ามันโอเคไหม แล้วน่าเชื่อถือแค่ไหนด้วย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าตัวแพ็กเกจก็ไม่มีบอกเลยว่ายี่ห้ออะไร นอกจากฟีเจอร์ แต่พอได้สแกน QR code ในแพ็กเกจ และพิจารณาจากตอนที่ติดตั้งไดรเวอร์ ก็พบว่ามันเป็นตัวสแกนลายนิ้วมือยี่ห้อ ELAN ของ ELAN Microelectronics Corp. ประเทศไต้หวันครับ เท่าที่หาข้อมูลได้ บริษัทนี้มีจำหน่ายโซลูชันด้านตัวสแกนลายนิ้วมือให้พวกผู้ผลิตอุปกรณ์ยี่ห้อต่างๆ ไว้ใช้ แต่เอาทำพวก OEM ให้ใครต่อใครเอาไปขายด้วย และไอ้ที่ผมซื้อมา มันก็คือ OEM นั่นแหละ ฉะนั้นในแง่ของความน่าเชื่อถือก็น่าจะโอเคอยู่

ในร้านที่ผมซื้ออะ เขามีให้เลือกสองแบบ คือ บอดี้เป็นพลาสติก อันละประมาณ 500 บาท กับบอดี้เป็นอลูมิเนียม อันละประมาณ 700 บาท ผมเลือกของไฮโซหน่อย ก็เอาบอดี้อลูมิเนียมครับ หน้าตามันก็จะคล้ายๆ USB dongle ขนาดเล็กๆ แต่ว่าจะมีตัวสแกนลายนิ้วมือแบบที่สามารถอ่านลายนิ้วมือได้ 360 องศา ติดอยู่ตรงด้านปลาย
การติดตั้งไม่ยุ่งยากครับ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับ Plug & Play ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ผมก็แอบสงสัยครับ เพราะตอนที่เสียบเนี่ย Device manager ของระบบปฏิบัติการ Windows (ของผมเป็น Windows 11) มันเจอว่าเป็น ELAN:Fingerprint (ซึ่งเป็นการคอนเฟิร์มว่าตัวสแกนลายนิ้วมือตัวนี้เป็น OEM ของ ELAN แหละ) และถ้าเกิดเราไปที่เว็บไซต์ Windows Update Catalog เพื่อหาไดรเวอร์ มันก็มีนี่หว่า (เวอร์ชันล่าสุดคือ 3.10.12001.10402 ซึ่งอัปเดต 03/03/2022

ครับ เมื่อ Windows มันรู้ว่ามีอุปกรณ์มาติดตั้ง แต่ว่ามันหาไดรเวอร์ไม่เจอ เราก็ดาวน์โหลดมาติดตั้งเองครับ ก็ไปดาวน์โหลดจาก Windows Update Catalog จากลิงก์ด้านบนครับ แล้วเรียงลำดับไดรเวอร์ตาม Last Updated นะ เราก็จะเห็นตัวที่เป็นไดรเวอร์ของ Windows เวอร์ชัน 21H2 ครับ แต่ในอนาคตก็อาจจะมีเวอร์ชันใหม่กว่านี้นะ ดูให้ดีๆ ล่ะ

การติดตั้ง มันก็ติดตั้งแบบไดรเวอร์ทั่วไปแหละครับ ไปที่ Device manager คลิกขวาที่ตัว ELAN:Fingerprint ที่หาไดรเวอร์ไม่เจอ แล้วเลือก Update driver จากนั้นก็เลือก Browse ไปที่ไฟล์ไดรเวอร์ที่เราดาวน์โหลดมา แล้วเดี๋ยวก็จะติดตั้งไดรเวอร์ได้เรียบร้อยครับ พอติดตั้งเรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์มันก็จะถูกจดจำได้ในฐานะ Biometric devices ชื่อว่า ELAN WBF Fingerprint Sensor ครับ

เมื่อได้แบบนี้เรียบร้อย ถ้าเป็นบนระบบปฏิบัติการ Windows 11 แบบผม ก็แค่ไปที่ Settings > Accounts > Sign-in options แล้วก็ไปคลิกตรง Fingerprint recognition (Windows Hello) มันก็จะมีตัวเลือก Set up ขึ้นมาให้แล้ว (ปกติถ้าคอมพิวเตอร์เราไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือ ตัวเลือกนี้จะขึ้นเป็น This option is currently unavailable หรือ ตัวเลือกนี้ไม่มีให้เลือกในตอนนี้)

จากนั้น เราก็ไปตั้งค่าจดจำลายนิ้วมือของเราได้เลยครับ ซึ่งระบบก็จะสามารถจดจำได้หลายนิ้วอยู่ อันนี้เซ็ตไม่ยากเลย ผมเซ็ตไปสองนิ้ว

เมื่อเซ็ตเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่ำสุดของเราก็คือ สามารถใช้งานล็อกอินเข้า Windows ด้วยลายนิ้วมือได้แล้วครับ เย่ ที่เหลือก็แค่ หาที่ติดตั้งที่เหมาะสม แบบที่เราจะสแกนลายนิ้วมือได้ง่ายๆ ครับ อย่างกรณีของผม ผมก็มีใช้ USB Hub ของ Orico ที่มันเป็นแบบ Clamp สามารถหนีบกับพวกขอบโต๊ะ หรือ ขอบของชั้นวางหน้าจอได้ อะไรแบบนี้ แล้วก็เอาตัวสแกนลายนิ้วมือนี่มาเสียบ ก็สแกนได้สะดวกดี

นอกจากจะเอาไว้ใช้ล็อกอินเข้า Windows ได้แล้ว ทาง ELAN เขาก็มีซอฟต์แวร์ชื่อ Smart-ID เอาไว้ใช้บริหารจัดการข้อมูลลายนิ้วมือ และทำหน้าที่เป็น Password manager ให้ด้วย แต่อันนี้ผมไม่ได้ใช้นะ เพราะว่าผมมี Password manager ที่ใช้ประจำอยู่แล้ว

อีกวิธีในการใช้งานตัวสแกนลายนิ้วมือก็คือ การใช้งานร่วมกับ Password manager ที่เป็น 3rd party ซึ่งก็มักจะใช้งานคู่กับเบราว์เซอร์ครับ โดยตัว Microsoft Edge เนี่ย มันทำงานร่วมกับ Windows Hello อยู่แล้ว เราสามารถไปตั้งค่าใน Settings โดยกำหนดให้ Auto fill password เนี่ย จะต้องมีการยืนยันทุกครั้ง ปกติก็คือใส่ PIN แหละ แต่ถ้ามี Windows Hello ให้สแกนลายนิ้วมือได้ มันก็จะกลายเป็นสแกนลายนิ้วมือก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะ Auto fill password ซึ่งก็จะทำให้มีความปลอดภัยขึ้นอีกระดับ ว่าเกิดมีใครแอบมาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็จะไม่สามารถล็อกอินเว็บไซต์ต่างๆ ด้วย Auto fill password ได้ หากไม่รู้ PIN หรือไม่ได้สแกนลายนิ้วมือก่อน

ส่วนใครที่ใช้ Google Chrome ก็ไปดาวน์โหลด Extensions ชื่อ Smart-ID WebAutoLogin ได้จาก Chrome Extension Store มาติดตั้งได้ฟรีครับ
แต่ทั้งสองแบบนี้ผมไม่ได้ใช้นะ เพราะผมใช้ 3rd party password manager อะ แล้วมันก็ไม่ได้มีตัวเลือกให้ผมเซ็ตให้ต้องยืนยันด้วยการสแกนลายนิ้วมือทุกครั้งก่อนที่จะ Auto fill password ซะด้วย จริงๆ ก็ต้องถือว่าเป็นจุดอ่อนของ Password manager ตัวนี้เลยนะ เพราะหลักการทำงานของมันคือ ต้องล็อกอินทีนึงก่อน แล้วถ้าเกิดเรากำหนดให้เป็น Trusted device แล้ว เราจะไม่ต้องใส่รหัสผ่านที่เป็น Master password ไปเลย 30 วัน แต่ด้วยความว่าคอมพิวเตอร์ของผม ไม่ได้มีคนอื่นมาใช้งานเลย ก็ถือว่าพอกล้อมแกล้มไปได้อยู่แหละ
บทสรุปการรีวิวตัวสแกนลายนิ้วมือ OEM ตัวนี้
ก็ถือว่าไม่แพงนะ และขั้นต่ำก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการล็อกอินเข้าระบบปฏิบัติการ Windows ได้ และอะไรอื่นๆ ที่สามารถใช้การยืนยันตัวตนด้วย Windows Hello ได้ ก็จะสามารถใช้ตัวสแกนลายนิ้วมือนี่ยืนยันได้หมดเลย และหากใครใช้ Password manager แบบเบราว์เซอร์ใครเบราว์เซอร์มัน ก็จะสามารถใช้เจ้าตัวสแกนลายนิ้วมือนี่ ในการยืนยันเพื่อทำ Auto fill password ได้ด้วย (แต่บน Google Chrome ต้องติดตั้ง Extensions ก่อนนะ)
ถือว่าดีแหละ คิดว่าซื้อมาใช้ก็คุ้มอยู่ แต่ของมาจากจีนนี่คือรอนานมากกกกกกก แต่ถ้าอยากกดซื้อมาลองบ้าง ก็ลองดูลิงก์ด้านล่าง หรือใครอยากจะลองหาของคล้ายๆ กันบน Lazada หรือ Shopee ก็ได้นะ ไม่รู้จะแพงกว่าไหม และไม่รู้ว่าจะใช้ได้เหมือนกันไหม อันนี้ Do it at your own risk นะครับ แต่ร้านที่ผมซื้อจาก Aliexpress อะ ผมลองเองแล้ว โอเค ไว้ใจได้