ได้ HUAWEI Nova 9 SE มาเล่นราวๆ อาทิตย์เศษๆ แล้ว ตัวนี้เรียกว่าเป็นภาคต่อจาก HUAWEI Nova 9 ที่ผมรีวิวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก็แอบรู้สึกว่า ออกรุ่นใหม่ไวจัง และอีกเช่นเคย ทาง HUAWEI เขาบอกว่ามางวดนี้ก็เน้นกล้องเป็นพิเศษ คือ ให้กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ถือว่าเป็นรุ่นแรกของค่ายนี้ที่ความละเอียดสูงขนาดนั้นเลย แต่มันจะใช้งานแล้วเป็นยังไงบ้าง ต้องลองแล้วมาเล่าให้อ่านกันครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
HUAWEI Nova 9 SE ตัวนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อจากทาง HUAWEI ส่งมาให้รีวิว แต่แน่นอนว่าเราก็จะรีวิวกันอย่างตรงไปตรงมา ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน เราก็จะว่ากันไปตรงๆ โดยเฉพาะเวลาที่ค่ายเขาภาคภูมิใจมากๆ ว่าฟีเจอร์เด่นของเขาอยู่ตรงไหนเนี่ย ผมนี่อยากลองจริงๆ จังๆ เลยครับ
มาดูกันก่อนว่าภายในกล่องมันมีอะไรบ้างงวดนี้ ก็มีตัวเครื่อง HUAWEI Nova 9 SE ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยแล้ว ติดจากโรงงาน แจ่มแมวมาก เคสซิลิโคนใสตรงรุ่น ตัวจิ้มเพื่อถอดถาดใส่ซิมการ์ด สาย USB-A to USB-C และอะแดปเตอร์ขนาด 66 วัตต์ จ่ายไฟได้ 5V2A, 10V4A และ 11V6A ซึ่งหากใครอยากจะใช้อะแดปเตอร์อันนี้ชาร์จตัวสมาร์ทโฟน ผมก็อยากแนะนำให้ใช้สายที่เขาแถมมานะครับ เพราะสาย USB ที่ผมเห็นเขาขายๆ กันส่วนมาก จะรองรับกระแสไฟ 2.4A หรืออย่างเก่ง 4A ซะมากกว่า
ด้านหน้าของ HUAWEI Nova 9 SE เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดในการแสดงผล 2,388×1,080 พิกเซล อัตราส่วนการแสดงผลประมาณ 19.9:9 (เลขสวย) มีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ขอบจอบางมากๆ ทั้งบนล่างซ้ายขวา และเป็นแบบที่บอกตรงๆ ว่า ผมชอบ คือจอเรียบ ไม่ต้องทำขอบโค้งมน 2.5D ใดๆ เพราะเวลาพิมพ์โน่นนี่นั่น หรือ ใช้นิ้วลากโน่นนี่นั่นตอนอยู่ขอบๆ จอ มัน ไม่ค่อยพลาด
ด้านหลังของ HUAWEI Nova 9 SE นี่แตกต่างจากตอนเป็น Nova 9 ครับ คือ แทนที่จะทำเป็นผิวด้านๆ แต่เป็นเกล็ดสะท้อน ซึ่งดูสวยงามและไม่ต้องพะวงเรื่องรอยนิ้วมือ ก็เปลี่ยนมาใช้ดันหลังเงาแว้บ สะท้อนยังกะกระจก คือ มันดูสวยนะ แต่เป็นการออกแบบที่ผมไม่ค่อยชอบที่สุด เพราะถ้าใช้แบบไม่ใส่เคส มันจะเลอะคราบมันจากมือและนิ้วมือได้ง่ายมาก และแอบลื่นด้วย
ตัวกล้องด้านหลัง โมดูลใหญ่เบิ้มแบบเดียวกับ HUAWEI Nova 9 ครับ แต่เพิ่มความละเอียดของเซ็นเซอร์กล้องหลักเป็น 108 ล้านพิกเซล f/1.9 แล้ว และมีกล้องอื่นๆ อีก 3 ตัวคือ Ultrawide 8 ล้านพิกเซล มุมกล้อง 112 องศา f/2.2 Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และ Depth sensor 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ครับ
รอบๆ ตัวเครื่องที่เหลือ ด้านบนจะมีถาดใส่ซิมการ์ด ลำโพงสนทนา และไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงเวลาถ่ายวิดีโอเพื่อให้ได้เสียงแบบสเตริโอ การเอาลำโพงสนทนามาวางไว้ตรงนี้แหละ เลยทำให้ HUAWEI สามารถขยายหน้าจอมาชิดซะสุดขอบได้ขนาดนี้ โดยที่ก็ยังใช้งานสนทนาโทรศัพท์ได้สะดวกอยู่
ด้านล่างเป็นลำโพงตัวเครื่อง ซึ่งให้มาแบบโมโนครับ มีพอร์ต USB-C เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ มีรูไมโครโฟนสำหรับสนทนาและบันทึกเสียงเวลาถ่ายวิดีโอเพื่อให้ได้เสียงแบบสเตริโอ ส่วนด้านขวาเป็นปุ่ม Volume กับปุ่ม Power ซึ่งปุ่ม Power นี้เป็นตัวสแกนลายนิ้วมือในตัว
HUAWEI Nova 9 SE รองรับการใส่ซิมการ์ดได้สองอัน เป็นนาโนซิมทั้งคู่ครับ ตัวเครื่องหนัก 191 กรัม ในฐานะคนมือใหญ่แบบผม ผมสามารถจับถือใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกอยู่ ติดนิดหน่อยก็แค่ความยาวของหน้าจอที่อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 19.9:9 เนี่ย มันยาวจนนิ้วโป้งมันกวาดได้ไม่ทั่วจอแหละ ซึ่งก็บอกตรงๆ ว่าเป็นเรื่องปกติของสมาร์ทโฟนสมัยนี้แล้วละนะ
ประสบการณ์ในการใช้งาน HUAWEI Nova 9 SE
เอาจริงๆ ผมก็ชักงงๆ ว่าตกลง HUAWEI Nova 9 SE เนี่ย มันเป็นภาคต่อที่อัปเกรดขึ้นหรือลดสเปกลงของ HUAWE Nova 9 กันแน่ 🤣 เพราะในขณะที่สเปกกล้องดูเหมือนจะดีขึ้น คือ เปลี่ยนมาใช้เซ็นเซอร์ 108 ล้านพิกเซล แต่ในสเปกด้านอื่นๆ มันลดลงอะครับ 🤣🤣 ลองเทียบดูสเปกแบบคร่าวๆ ครับ จะเห็นว่านอกจากกล้องที่สเปกดีขึ้นแล้ว อย่างอื่นคือลดสเปกลงไปหมดเลยครับ สำหรับผมแล้ว จริงๆ เอากล้อง 108 ล้านพิกเซลให้ HUAWEI Nova 9 ไปเลย จะเป๊ะกว่า
| สเปก | HUAWEI Nova 9 SE | HUAWEI Nova 9 |
|---|---|---|
| หน่วยประมวลผล | CPU: Snapdragon 680 4G GPU: Adreno 610 | CPU: Snapdragon 778 4G GPU: Adreno 642L |
| หน้าจอแสดงผล | IPS LCD 2,388×1,080 พิกเซล รีเฟรชเรต 90Hz | OLED 2,340×1,080 พิกเซล รีเฟรชเรต 120Hz |
| หน่วยความจำ | 8GB | 8GB |
| เนื้อที่เก็บข้อมูล | 128GB (อ่าน: 742MB/s เขียน 184MB/s) | 256GB (อ่าน: 970MB/s เขียน: 404MB/s) |
| กล้อง | Wide: 108 ล้านพิกเซล f/1.9 Ultrawide: 8 ล้านพิกเซล f/2.2 Macro: 2 ล้านพิกเซล f/2.4 Depth: 2 ล้านพิกเซล f/2.4 | Wide: 50 ล้านพิกเซล f/1.9 Ultrawide: 8 ล้านพิกเซล f/2.2 Macro: 2 ล้านพิกเซล f/2.4 Depth: 2 ล้านพิกเวล f/2.4 |
แต่ในแง่ของการใช้งานทั่วไป ก็ต้องบอกว่า แม้สเปกมันจะโดนถอยลงไปเหลือแค่ Snapdragon 680 แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปในปัจจุบัน ไม่ว่าจะโทรศัพท์ ท่องเว็บ เล่นโซเชียลมีเดีย ดูหนังฟังเพลง แค่นี้เหลือเฟือแล้ว ถ้าจะเล่นเกมแล้วละก็ หลายๆ เกมก็สามารถเล่นกราฟิกสวยๆ ได้อยู่นะ แต่เฟรมเรตอาจจะไม่ได้ลื่นไหลมากเท่ากับพวกเรือธงต่างๆ ถ้าอยากจะให้เล็งได้แม่นๆ แนะนำว่าอย่าไปเปิดกราฟิกไปซะสุด
หน้าจอแสดงผลของ HUAWE Nova 9 SE มีรีเฟรชเรตแบบ Dynamic ปรับได้สูงสุด 90Hz ซึ่งแม้จะดูด้อยกว่าจอของ Nova 9 ที่ทำรีเฟรชเรตได้สูงสุด 120Hz แต่เวลาเอามาเล่นจริงๆ ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่มากนะครับ แต่หน้าจอที่ขอบบางมากๆ แบบนี้ มันทำให้เล่นเกมแล้วดูเต็มตาจริงๆ ระบบระบายความร้อน Graphene heat dissipation ช่วยระบายความร้อนขณะเล่นเกมได้ดีครับ เครื่องไม่ได้ร้อนมาก แต่ก็ยังสัมผัสถึงความอุ่นๆ ได้อยู่นะ มันไม่ถึงกับเย็นเฉียบเหมือนไม่ได้เล่นเกมแต่อย่างใด
สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ HUAWEI คือ ฟีเจอร์จำพวก Eye Comfort (ลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอลง) ที่สามารถเปิดปิดได้จาก Control Panel เลย หรือ eBook mode ที่จะเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลเป็น Grayscale ทำให้เหมาะกับการอ่านตัวหนังสือ อ่านแล้วสบายตากว่า ซึ่งหลายๆ ยี่ห้อยังไม่ทำกัน
แต่ปัญหาของการใช้งานสมาร์ทโฟนของ HUAWEI ยังคงเป็นปัญหาเดิมๆ ครับ คือ การที่ไม่สามารถใช้ Google Mobile Services ได้นั่นเอง ซึ่งแม้ว่า HUAWEI จะทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดีกับ HUAWEI AppGallery แล้ว คือ ถ้าเทียบกับตอนปี 2563 ที่ผมเคยพูดถึงไป ตอนนั้นแอปหลายๆ ตัวยังไม่มีให้ดาวน์โหลดเลย แต่ว่าปัจจุบันมีให้ดาวน์โหลดแล้ว แอปต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องการเงิน ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่เกมหลายๆ เกม ที่คนไทยนิยมเล่นกัน เขาก็พอร์ตมาลง HUAWEI AppGallery ได้แล้ว ฉะนั้น ในการใช้งานทั่วไป ก็ไม่ค่อยจะมีปัญหาแล้ว คนที่เล่นเกม ถ้าเกมมันมีให้ดาวน์โหลดบนนี้ ก็สามารถเล่นได้แบบปกติเลยครับ
แต่ปัญหามันก็เกิดขึ้นอยู่ดี คือ พวกแอปบางตัวที่เป็นสัญชาติอเมริกัน HUAWEI เขาก็พอร์ตมาลง AppGallery ไม่ได้ครับ โดยเฉพาะพวกโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter, Facebook หรือ Instagram เนี่ย ไม่มีให้ดาวน์โหลดเลยนะ แต่ก็สามารถแก้ขัดกันไปได้ด้วย 3rd party app store อย่าง APKPure อะไรแบบนี้ แต่มันก็มีข้อจำกัดที่น่าหงุดหงิดคือ มันไม่สามารถทำ Auto update แบบง่ายๆ แตะทีเดียวอัปเดตทุกแอปได้อะไรแบบนี้
หลังๆ เห็นมีคนพูดถึงการใช้แอป Gspace มาติดตั้ง เพื่อจำลองเครื่องเอาไว้ติดตั้งแอปผ่าน Google Play Store ได้ ซึ่งผมเคยเขียนถึงไปแล้วว่ามันก็พอไหว แต่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดอีก หลักๆ เลยคือ อย่าไปคิดว่าจะเอามาเล่นเกมได้ เพราะการเล่นเกมผ่าน Virtual machine นี่ ประสิทธิภาพตกลงไปเยอะมากจนน่ารำคาญ มันเหมาะกับการเอามาใช้งานเพื่อดาวน์โหลดแอปของ Google มาใช้มากกว่า เช่น Google Maps อะไรพวกเนี้ย แต่เสถียรภาพของการใช้งานก็ยังไม่ค่อยดี และที่สำคัญที่สุดคือ มันต้องเสียตังค์ เพราะถ้าจะใช้ฟรีๆ มันจะมีโฆษณาคั่น แอบน่ารำคาญอีก … ผมก็เคยคอมเมนต์ไปแล้วว่า ถ้า HUAWEI อยากเอา Gspace นี่มาอำนวยความสะดวกผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของ HUAWEI ละก็ ควรจะให้ได้ใช้ฟรีๆ ครับ
ที่เกือบลืมพูดถึง แต่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ การที่ HUAWEI ก็ยังตัดสินใจไม่รองรับการใช้งาน 5G บน HUAWEI Nova 9 SE ครับ ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกมาก เพราะตั้งกะตอน Nova 9 แล้ว สมาร์ทโฟนคู่แข่งที่ช่วงราคาหมื่นกลางๆ เขารองรับ 5G กันหมดแล้วอะ แล้วตอนเป็น Nova 7 หรือ Nova 8 (ยังใช้ชิป Kirin) ก็รองรับ 5G ด้วย แต่อยู่ๆ ก็ไม่รองรับซะงั้น ซึ่งแม้ว่าในการใช้งานทั่วไป เราจะไม่ได้เห็นความแตกต่างของ 4G กับ 5G มากนักหรอกนะ แต่สำหรับผู้ใช้งานสายฮาร์ดคอร์ หรือ เน้นจับผิด มันเห็นกันได้ชัดเจนเลยนะ
แบตเตอรี่ ให้มา 4,000mAh ก็ถือว่ามีพอสมควร แต่ไม่ได้เยอะแยะอะไรมากมาย แต่จุดเด่นมันจะอยู่ที่การรองรับการชาร์จที่ 66 วัตต์ ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในไม่ถึงชั่วโมง แต่มันก็มีข้อเสียอยู่หน่อยตรงที่ว่าอะแดปเตอร์ 66 วัตต์ แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่กว่าอะแดปเตอร์ทั่วไปนัก แต่มีน้ำหนักกว่าพอสมควร และยังต้องพกสายชาร์จที่แถมมาด้วย เพราะสายชาร์จทั่วๆ ไป ไม่น่าจะรองรับกระแสไฟชาร์จ 6A
เห็น HUAWEI บอกว่า HUAWEI Nova 9 SE จุดขายคือกล้องถ่ายรูป ลองของจริงแล้วเป็นยังไงบ้าง
เช่นเคย แม้ HUAWEI จะบอกว่า Nova 9 SE นี่มีจุดเด่นที่สเปกกล้อง แต่มันก็แค่ในส่วนของกล้องหลัก 108 ล้านพิกเซลเท่านั้นแหละครับ กล้อง Ultrawide ให้มา 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโครก็ให้มาแค่ 2 ล้านพิกเซลเอง และสุดท้าย ด้วยการทำ Computational photography ภาพถ่ายที่เราได้ออกมาจริงๆ ก็คือ 12 ล้านพิกเซลครับ และผมก็ยังต้องบอกว่า แม้ HUAWEI จะใส่สเปกด้านฮาร์ดแวร์มาดี แต่ความสามารถด้านซอฟต์แวร์ยังต้องปรับปรุงอยู่ไม่น้อยนะ
ผมลองถ่ายรูปหลายๆ แบบ พบว่า HUAWEI Nova 9 SE นี่จะถ่ายรูปได้ออกมาดูดีสุดในสภาพแสงดีๆ เช่น ตอนกลางวันกลางแจ้ง อะไรพวกนี้ ถ้าเน้นถ่ายภาพตอนไปเที่ยวเพื่อโพสต์บนโซเชียลมีเดียนี่บอกเลยว่าเหลือๆ ครับ แต่ถ้าภาพถ่ายในร่วมเนี่ย มันก็จะมีปัญหาจากความพยายามของซอฟต์แวร์ที่จะทำภาพให้สว่างขึ้น ส่งผลให้รายละเอียดของภาพมันหายไป
อะไรคือปัญหาของซอฟต์แวร์ของ HUAWEI? ลองดูภาพด้านล่างครับ ผมเทียบภาพจาก HUAWEI (ซ้าย) และ Samsung (ขวา) จะเห็นว่าความพยายามในการปรับภาพให้คมชัดของ HUAWEI มันทำให้รายละเอียดของภาพมันหายไป เช่น กิ่งก้านของต้นไม้ที่ควรจะเป็นสีน้ำตาล มันก็กลายเป็นสีออกดำแทน ใบไม้ก็สีซีดกว่าที่ควรจะเป็น และท้องฟ้าก็ออกมาเทาๆ ไปหน่อย เอาจริงๆ คือ HUAWEI Nova 9 ทำได้ดีกว่าเยอะ
อย่างที่บอกครับ โดยปกติแล้ว HUAWEI Nova 9 SE จะให้เราถ่ายภาพจากกล้องหลักที่ 12 ล้านพิกเซล คือ มันใช้เซ็นเซอร์ 108 ล้านพิกเซลในการถ่าย แต่จะใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลเพื่อทำภาพให้คมชัดขึ้น แต่ข้อจำกัดด้านกายภาพของเลนส์ มันทำให้เราไม่ค่อยได้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์ 108 ล้านพิกเซลมากนัก หากเราจะถ่ายภาพในโหมด High Resolution หรือความละเอียดสูง เราจะเห็นว่าแม้เราจะสามารถซูมภาพได้มากกว่าการถ่ายภาพในโหมดปกติ (12 ล้านพิกเซล) แต่ความคมชัดของภาพมันจะหายไปครับ ดูภาพตัวอย่างด้านล่าง ทางซ้ายคือภาพตอนถ่ายแบบ 12 ล้านพิกเซล ส่วนทางขวาคือภาพตอนถ่ายที่ 108 ล้านพิกเซล จะเห็นว่า พื้นผิวตุ๊กตาที่เป็นเม็ดกลมๆ สีขาว ในรูปที่เป็น 108 ล้านพิกเซล มันมองเห็นได้ชัดน้อยกว่ารูปที่เป็น 12 ล้านพิกเซล
และไม่ต้องพูดถึงเรื่องการถ่ายภาพในสภาวะที่เป็น HDR นะครับ มันทำได้ไม่ดีเท่าไหร่เลยจริงๆ (อันนี้เหมือนสืบทอดต่อมาจาก HUAWEI Nova 9 เลย) ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลนั้น ผมนี่แอบอึ้งกว่าครับ คือ สีสันออกแนวหม่นกว่าความเป็นจริงพอสมควร ก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เช่น ในรูปตัวอย่างด้านล่าง คือ ของจริงฟ้ามันฟ้านะ และเขียวก็เขียวพอสมควรเลยแหละ แต่ภาพออกมา ดูโทนอุ่น ดูแห้งแล้งกว่าความเป็นจริงเฉยเลย
ฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบมาโคร เป็นอีกฟีเจอร์นึงที่หลายๆ คน อาจจะสนใจ เพราะว่ามันจะทำให้เราสามารถถ่ายภาพในระยะใกล้สุดถึง 4 เซ็นติเมตรได้ แต่อย่างที่บอก HUAWEI ให้ขนาดเซ็นเซอร์มาเล็กพอสมควรคือ 2 ล้านพิกเซล ฉะนั้นคุณภาพของภาพที่ได้ ก็ต้องทำใจนิดนึงครับ ทั้งในแง่ของความชัดของภาพและเรื่องสี ซึ่งถ้าถามผมนะ ในหลายๆ กรณีที่ถ่ายด้วยโหมดมาโคร ผมเลือกถ่ายแบบซูม 2x ดีกว่าครับ ภาพด้านล่าง ซ้ายมือคือถ่ายด้วยโหมดมาโคร ส่วนด้านขวาถ่ายด้วยโหมด 2x
โดยรวมแล้ว กล้องถ่ายภาพของ HUAWEI Nova 9 SE ถือว่าไม่ได้แย่มากนะครับ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเรียกว่า “ว้าว!” อย่างที่ทาง HUAWEI เขาพยายามจะนำเสนอนะผมว่า ในส่วนของคุณภาพกล้องของรุ่นเรือธงของ HUAWEI นี่ ผมว่ามันโอเคแล้ว สมชื่อที่ร่วมมือกับ Leica แต่สำหรับรุ่นราคากลางๆ เนี่ย ผมคิดว่ายังต้องปรับปรุงอยู่พอสมควร
บทสรุปการรีวิว HUAWEI Nova 9 SE
ณ ตอนที่เขียนรีวิวนี้ ผมยังไม่รู้ว่า HUAWEI Nova 9 SE นี่จะมีราคาค่าตัวเท่าไหร่ แต่ดูทรงแล้ว น่าจะราคาต่ำกว่า HUAWEI Nova 9 แหละ ถ้าจะพูดถึงในแง่ของฮาร์ดแวร์และดีไซน์แล้ว ก็ต้องบอกว่า HUAWEI Nova 9 SE น่าจะทำออกมาได้คุ้มราคาค่าตัวแหละ แต่ก็จะต้องพบกับปัญหาเดียวกันกับ HUAWEI Nova 9 นั่นก็คือ คู่แข่งที่ราคาใกล้กัน สเปกพอกัน เขาใช้ได้ทั้ง Google Mobile Services และอาจจะรองรับ 5G ด้วย สองสิ่งนี้มันก็จะกลายเป็นจุดตัดสินใจสำคัญของผู้ใช้งานอะครับ
