Home>>บ่นเรื่อยเปื่อย>>เดี๋ยวนี้เรายังต้องซื้อหรือดาวน์โหลด Antivirus มาใช้อยู่อีกไหม?
กราฟิกข้อความว่า Antivirus
บ่นเรื่อยเปื่อย

เดี๋ยวนี้เรายังต้องซื้อหรือดาวน์โหลด Antivirus มาใช้อยู่อีกไหม?

ส่วนตัวนะ เครื่อง MacBook ผมก็ไม่ได้ติดตั้ง Antivirus ใดๆ นะ ส่วนสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS ผมก็ไม่ได้ดาวน์โหลด Antivirus ใดๆ มาติดตั้งเช่นกัน และท้ายสุด คอมพิวเตอร์ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Windows ผมก็ไม่ได้ติดตั้ง Antivirus เพิ่มเหมือนกัน และเป็นแบบนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ตั้งแต่ Microsoft เปิดตัว Microsoft Security Essentials เมื่อปี 2009 แล้วแบบนี้จะเรียกว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อ Antivirus มาใช้แล้วได้ไหมอะ?

มัลแวร์ยังไม่ได้หายไปจากโลกนะ บอกก่อน

อ่านที่ผมเกริ่นนำมาแล้ว หลายคนก็อาจจะรู้สึกว่า อ้าว! แบบนี้เราก็ไม่ต้องติดตั้ง Antivirus แล้วสิ มันก็ไม่เชิงนะครับ การที่ผมใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มาได้สิบกว่าปีโดยที่ไม่ได้ซื้อหรือดาวน์โหลด Antivirus มาใช้เนี่ย มันไม่ใช่เพราะว่าโลกนี้ไม่มีมัลแวร์แล้วหรอกนะ ถ้าอ้างอิงจากข้อมูลของ security.org เว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เขามีข้อมูลมัลแวร์ใหม่ปี 2020 และเดือน ม.ค. ปี 2021 ตามตารางด้านล่างเลยครับ

ระบบปฏิบัติการมัลแวร์ใหม่ปี 2020มัลแวร์ใหม่เดือน ม.ค. 2021
Windows91.9 ล้าน11.4 ล้าน
macOS674,496678
Android3.2 ล้าน434,105

จะเห็นว่าระบบปฏิบัติการยอดนิยมอย่าง Windows นี่ ปี 2020 มีมัลแวร์ใหม่ๆ ขึ้นมา 91.9 ล้านตัว ส่วนระบบปฏิบัติการ Android ก็มีแบบ 3.2 ล้านตัวเลย และปี 2021 ก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นด้วย ในขณะที่ macOS กลับมีแนวโน้มที่ลดลงนะ แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็มีใหม่มาไง ฉะนั้นความเสี่ยงที่เราจะโดนมัลแวร์มันก็มีอยู่ และระบบปฏิบัติการที่ยอดนิยม มันก็จะมีคนทำมัลแวร์มาโจมตีเยอะเป็นเงาตามตัว

5 ช่องทางที่พวกมัลแวร์มักจะใช้เข้ามาโจมตีคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของเรา ก็คือ

1️⃣ มาทางอีเมล หลอกให้เราเปิดไฟล์ อันนี้มีโอกาสโดนได้ทุกคน โดยเฉพาะบริษัทห้างร้านต่างๆ
2️⃣ ดาวน์โหลดพวกไฟล์ที่มีมัลแวร์แฝงอยู่มาติดตั้ง อันนี้ใครที่นิยมดาวน์โหลดโปรแกรมเถื่อนมักจะเจอบ่อยสุด
3️⃣ แอบติดตั้งโดยอาศัยช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ
4️⃣ อุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ เช่น แฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์ภายนอก
5️⃣ แค่เปิดเว็บไซต์บางแห่งก็อาจโดนติดตั้งมัลแวร์ได้ อันนี้จะเป็นการโจมตีโดยผสมผสานช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะพวกเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ

หลายๆ แบรนด์เขามี Antivirus มาให้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนนึงที่ทำให้ผมไม่ได้ติดตั้ง Antivirus เสริมมา ก็ไม่ใช่เพราะมันไม่จำเป็นนะ แต่เพราะว่าหลายๆ แบรนด์เขามีการติดตั้งซอฟต์แวร์จำพวก Antivirus มาให้แล้วตะหาก เช่น Microsoft คงรู้ตัวดีว่าระบบปฏิบัติการ Windows เป็นเป้าหมายหลักของพวกผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย แถมผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยเนี่ย ถ้าไม่รู้จักติดตั้ง Antivirus เลย ก็ไปใช้ Antivirus ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งก็เหมือนกับเอาโจรมาพยายามจับโจรนั่นแหละ คุณรู้ได้ยังไงอะ ว่า Antivirus ที่แคร็กมานั้น มันไม่มีมัลแวร์อยู่ 😓😓

Windows Security ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11

Windows 10 เป็นต้นมา เขาจะมี Windows Security ซึ่งเป็น Antivirus ติดตั้งมาให้เรียบร้อย แถมมี Firewall มาให้ด้วย ส่วนระบบปฏิบัติการ Android นั้น หลายๆ ค่ายเขาก็จะมีการจับมือกับผู้พัฒนา Antivirus เพื่อติดตั้งมาให้เช่นกัน เช่น Samsung เขาก็ร่วมมือกับ McAfee ในฟีเจอร์ Device protection หรือ OPPO ก็ร่วมมือกับ Avast เป็นต้น ฉะนั้น การที่เราไม่ได้ไปหา Antivirus มาติดตั้ง ไม่ได้หมายความว่าในเครื่องเราไม่มีนะ

ซึ่งพวก Antivirus ที่ Built-in มาให้แบบนี้มันก็ดีเพียงพอสำหรับช่วยปกป้องผู้ใช้งานทั่วไปจากมัลแวร์แล้วอะ

รูปแบบการใช้งานและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ช่วยป้องกันตัวเองจากมัลแวร์

รูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ มันทำให้ผู้คนปลอดภัยจากมัลแวร์กันมากขึ้น ทั้งหมดมันก็เริ่มจากพวกสมาร์ทโฟนนั่นแหละ ที่ให้ติดตั้งแอปผ่านทาง App Store ของตนเอง (Apple App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Google Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ Android) ซึ่งเจ้าของแพลตฟอร์มเขาจะมีการตรวจสอบ ตรวจตรา App Store ของตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครแอบเอาแอปที่มีมัลแวร์แฝงอยู่มาปล่อยให้ดาวน์โหลด

Microsoft Store บน Windows 11

ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows และ macOS ที่เคยเน้นไปที่การดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้ง ก็พยายามเปลี่ยนให้ผู้ใช้งานมาดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store ของตัวเองแล้ว ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อย เขาตระหนักถึงอันตรายที่จะมากับแอปที่ดาวน์โหลดของเถื่อนมาติดตั้ง เขาก็เลือกซื้อแอปที่ถูกลิขสิทธิ์แทน ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ค่อนข้างคุ้ม เพราะการซื้อแอปผ่าน App Store มักจะอนุญาตให้เราติดตั้งได้หลายเครื่อง เราก็สามารถซื้อแอปมาแล้วแชร์กันในบ้านได้ โดยใช้บัญชี App Store เดียวนี่แหละ

นอกจากนี้ พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่เท่าทันมัลแวร์ เขาก็ทำให้ตัวเองเสี่ยงโดนมัลแวร์โจมตีลดลง เช่น ไม่เปิดไฟล์แนบที่มากับอีเมล ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ฯลฯ

แล้วใครยังต้องการซื้อ Antivirus มาใช้อยู่ละเนี่ย?

คำตอบง่ายๆ แต่งงๆ ก็คือ ก็คนที่ต้องการความมั่นใจเป็นพิเศษ เพราะอาจจะกลัวว่าตัวเองจะเผลอไปมีพฤติกรรมที่นำพาเอามัลแวร์มาติดตั้ง หรืออาจจะเป็นคนที่ต้องการฟีเจอร์ที่ Antivirus ที่ Built-in มาให้มันไม่มีไง ซึ่งมักจะเป็นพวกผู้ใช้งานในระดับองค์กร เช่น ต้องการการป้องกันระดับ Endpoint security หรือความสามารถในการบริหารจัดการเครื่องลูกข่าย อะไรแบบนี้

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า