รีวิว เครื่องไล่ยุง Xiaomi Mijia Mosquito Repellent

โดยส่วนตัว มีเครื่องไล่ยุง Xiaomi Mijia นี่ 2 ตัวแล้ว แต่มันเป็นรุ่นแรกครับ ตัวนึงอยู่บ้านผม อีกตัวอยู่บ้านภรรยา แต่ทีนี้หลังๆ ยุงที่บ้านเยอะขึ้น จนเครื่องเดียวที่บ้านเอาไม่อยู่ ก็เลยไปสั่งซื้อมาเพิ่มอีกอันจาก Lazada แต่มันเป็นรุ่นสอง ที่เจ๋งกว่าเดิม ประกอบกับรีวิวอันเก่าก็อยู่กับบล็อกเก่าที่ปิดตัวไปแล้ว ก็เลยถือโอกาสรีวิวอีกซักรอบให้ได้อ่านกันครับ

แกะกล่องมา สิ่งที่เราจะได้มาในกล่องก็คือ ตัวเครื่อง Xiaomi Mijia Mosquito Repellent ที่ดีไซน์รุ่นสองนี้มาเป็นแนวสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มุมมนๆ มีถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA มาให้ 2 ก้อน สายชาร์จ USB-C ยาว 80 เซ็นติเมตร และตัวแผ่นรังผึ้งที่มีสารไล่ยุ่งของ ARS มาให้อีก 1 แผง แล้วก็มีคู่มือมาให้ด้วย แต่เป็นภาษาจีนล้วนๆ แต่อย่าเพิ่งตกใจไป ไปดาวน์โหลดแอป Google Translate มา แล้วใช้ฟีเจอร์การถ่ายภาพแล้วแปลภาษา มันก็อ่านพอไหวแล้ว

การใช้งานไม่ยุ่งยากเลยครับ ก่อนอื่นก็แกะฝาออกมา แล้วก็ใส่แผ่นรังผึ้งลงไป ใส่ถ่าน AA สองก้อนลงไป ปิดฝา ก็พร้อมใช้งานแล้ว ดีไซน์ของรุ่นสอง เมื่อเทียบกับรุ่นแรก มันดูกระชับกว่า เพราะรุ่นแรกเนี่ย ต้องเปิดฝาด้านบนก่อน ถึงจะใส่แผ่นรังผึ้ง แล้วต้องเปิดฝาด้านล่างเพื่อใส่ถ่าน AA 2 ก้อน แต่รุ่นสองนี่ ทุกอย่างอยู่ใต้ฝาด้านบนทั้งหมด

นอกจากนี้ ถ้าเกิดเราไม่มีถ่าน AA 2 ก้อน เราก็สามารถใช้สาย USB-C จ่ายไฟได้ (ต้องการกระแสไฟมากกว่า 0.15A ซึ่งหัวอะแดปเตอร์ส่วนใหญ่ก็รองรับหมดแล้วเหอะ) แต่เจ้านี่ไม่มีแบตเตอรี่ในตัวนะครับ การจ่ายไฟด้วยพอร์ต USB-C นี่คือ ถ้าไม่มีไฟเข้าเครื่องก็ดับนะ แต่เราก็ใช้พาวเวอร์แบงก์ก้อนเล็กๆ จ่ายไฟได้ไง

ความแตกต่างอีกอย่าง ระหว่างรุ่นสองกับรุ่นแรกคือ แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นของ ARS (ที่คนไทยรู้จักในชื่อ อาท) เหมือนกัน แต่รุ่นแรกเนี่ย ภาษาจีนระบุไว้ว่ามีสาร Transfluthrin 500 มิลลกรัม แต่ของรุ่นสองเนี่ย เป็นสาร Trifluthrin 600 มิลลิกรัม แทน โดยรุ่นแรกเขาบอกว่าจะใช้งานได้ราวๆ 90 วัน (ตามสเปกคือ 720 ชั่วโมง เมื่อคำนวณว่าใช้ 8 ชั่วโมง/วัน ก็ได้ราวๆ นี้แหละ) แต่รุ่นสองเนี่ย เขาบอกว่าจะใช้ได้ยาว 135 วัน (ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน) เลย

แต่ในกรณีของแผ่นรังผึ้งของ ARS ที่มากับเครื่องไล่ยุง Xiaomi Mijia Mosquito Repellent นี้ เขาใช้หลักการทางไฟฟ้าทำให้ตัวสารเคมีเกิดการระเหย แต่ในปริมาณที่ไม่มาก โดยเน้นที่การระเหยอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่ไม่ฆ่ายุง แต่จะทำให้ยุงรับรู้ได้ถึงสารเคมี และไม่เข้าใกล้ (เพราะถ้ายุงได้รับสารนี้ในปริมาณที่เข้มข้นก็จะตาย)

การใช้งานไม่ยุ่งยากเลยครับ แค่กดสวิตช์ตรงด้านหน้าของเครื่อง ก็เป็นการเปิดใช้งาน ถ่านกระดุมที่อยู่ตรงแผงรังผึ้งก็จะจ่ายกระแสไฟทำให้สารเคมีมันระเหยออกมา แล้วพัดลมในตัวเครื่องก็จะทำหน้าที่พัดให้สารเคมีฟุ้ง เพื่อไล่ยุง ตามสเปกคือ เหมาะกับพื้นที่ราวๆ 28 ตารางเมตร ถ้าเกิดบ้านใครมีพื้นที่มากกว่านั้น ก็หามาเพิ่มจำนวนจุดเอานะครับ

นอกจากนี้ รุ่นสองนี่ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธได้ด้วย เชื่อมต่อผ่านแอป Mi Home (ต้องเซ็ต Region เป็น China Mainland นะครับ) มีเมนูภาษาอังกฤษให้อ่าน เราจะสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่องไล่ยุงได้ ดูได้ว่าแผ่นรังผึ้งนี่ยังสามารถใช้งานได้อีกนานแค่ไหน สามารถสั่งเปิดปิดตัวเครื่องได้ ไปจนถึงการตั้งเวลาทำงานของเครื่องในหัวข้อ Smart play

แผงรังผึ้งของรุ่นแรก ก็ยังสามารถเอามาใช้กับรุ่นสองได้นะครับ ไซส์เดียวกันเป๊ะ แต่เวลาที่เช็กข้อมูลดูในแอป มันจะขึ้นเป็นระยะเวลาตามสเปกของรุ่นสอง อันนี้เราต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า แผงรังผึ้งของรุ่นแรกมันใช้ได้นานแค่ 90 วันนะ

จากที่ผมเคยทดสอบใช้งานใน Xiaomi Mijia Mosquito Repellent รุ่นแรกมาแล้ว ผมก็มั่นใจอยู่แล้วว่ามันใช้งานได้ผลครับ (ไม่งั้นไม่ซื้อมาเป็นตัวที่สามหรอก) ทดสอบแบบจริงจังโดยการเอามันไปเปิดใช้ในห้องน้ำที่มียุงอยู่เต็มเลยฮะ (แม่ผมชอบเปิดประตูบ้าน ไม่ปิดมุ้งลวดด้วย ตอนกลางวันนี่ยุงบินเข้ามาให้รึ่ม แล้วก็ไปหมกตัวอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง) เปิดไม่กี่นาที ยุงหนีหายไปหมดเลยจ้า ดีงามมาก

บทสรุปการรีวิว เครื่องไล่ยุง Xiaomi Mijia Mosquito Repellent

สำหรับผม เจ้านี่คือเครื่องไล่ยุงที่ได้ผลจริง ผ่านการทดสอบจากการใช้งานจริงมาหลายปีครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้รุ่นแรกอยู่เลย เวลาที่เดินทางไปต่างจังหวัด ก็จะพกติดตัวไปด้วย เผื่อกรณีที่เราไปเจอที่พักที่ดันยุงเยอะ เจ้านี่ช่วยได้เยอะมาก เวลาไปทานอาหารตามร้านที่ยุงเยอะ ถ้าพกเจ้านี่ไปด้วยก็เอามาเปิดใช้งาน ก็ช่วยได้ประมาณนึง เพียงแต่ว่าในพื้นที่เปิดโล่ง ประสิทธิภาพจะลดลงไปเยอะมาก (เพราะเขาก็แนะนำว่าให้ใช้ในพื้นที่ปิด) พื้นที่ที่ช่วยป้องกันยุงได้จะค่อนข้างจำกัด แต่ถ้ากันยุงสำหรับ 1-2 คน ก็ยังพอไหวครับ เพราะยังไงซะ หลักการทำงานของมันก็คือการกระจายสารระเหยอย่างต่อเนื่องเพื่อไล่ยุง