โน้ตบุ๊กตัวนี้ไม่ใช่ของผมครับ ผมซื้อให้ภรรยาใช้แทน ASUS ZenBook 13 UX331UAL ตัวเก่าที่อายุอานามก็หลายปีแล้ว จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจซื้อหรอกครับ แค่เผอิญเหลือบไปเห็นมันวางโชว์อยู่ที่ร้าน Banana IT แล้วก็เดินไปดู เออ มันก็เป็นโน้ตบุ๊กที่พอร์ตครบเครื่องดี ถูกใจภรรยา เพราะโน้ตบุ๊กสมัยนี้ พวกบางๆ เบาๆ มันจะให้มาเป็นพอร์ต USB-C ไม่ก็ Thunderbolt มากกว่า แต่นี่แบบ มีพอร์ตครบเครื่องมาก แต่พอได้หยิบมันขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ ชั่งใจอยู่พักนึง แล้วก็ตัดสินใจซื้อเลยจ้า โน้ตบุ๊ก Core i5 บ้าอะไร หนัก 7 ขีดครึ่ง
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
โน้ตบุ๊ก Fujitsu UH-X-4ZR1C14466 ตัวที่รีวิวนี้ ซื้อเอง ให้ภรรยาใช้ ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากใครทั้งสิ้น ประสบการณ์ในการใช้งานทั้งหมด มาจากประสบการณ์ตรงของการใช้งานของภรรยาที่ใช้มาราวๆ 3 เดือนเศษแล้วครับ
ยี่ห้อ Fujitsu นี่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ ในตลาดประเทศไทยเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็ยังเห็ตเขามีรุ่นนั้นรุ่นนี้มาขายเรื่อยๆ นะ โดยมี SiS เป็นตัวแทนจำหน่ายครับ (เห็นโลโก้จากบนกล่อง) แกะกล่องออกมาพีคมาก คือ มันมีแค่ตัวโน้ตบุ๊กกับอะแดปเตอร์แบบ 65 วัตต์เท่านั้นครับ แล้วก็มีกล่องที่เขียนว่า Accessories box อีกกล่อง ข้างในมีของแถมจาก Banana IT อยู่ ได้แก่ เมาส์ไร้สาย logitech B170 แผ่นรองเมาส์อันนึง แล้วก็ซองยี่ห้อ Moshi Moshi ที่คาดว่าให้เอาไว้ใส่โน้ตบุ๊ก … ซึ่งเล็กไป ใส่โน้ตบุ๊กไม่ได้ 🤣🤣 ให้มาทำไมวะเนี่ย

ตัวโน้ตบุ๊ก วัสดุที่ใช้ทำบอดี้เป็นแมกนีเซียมอัลลอยครับ มันเลยเบาได้ขนาดนี้เลย ทั้งๆ ที่บอดี้เป็นโลหะ ขนาดหน้าจอแสดงผล 13.3 นิ้ว เรียกว่าไม่เล็กไป ไม่ใหญ่เกิน เรียบ หรูมาก เป็น Made in Japan ครับ ผลิตในญี่ปุ่น เชร็ด โน้ตบุ๊กนำเข้าอะ เกร๋ๆ 😲😲 รอบๆ ตัวเครื่องประกอบไปด้วย
*️⃣ ช่องสำหรับตัวล็อก Kensington
*️⃣ พอร์ต USB-C เป็น USB 3.2 Gen 2 (10Gbps) รองรับ PD (Power Delivery) ใช้เป็นพอร์ตสำหรับชาร์จโน้ตบุ๊กได้ทั้งคู่
*️⃣ พอร์ต HDMI (สเปกไม่ได้ระบุเวอร์ชันมาให้)
*️⃣ พอร์ต USB-A เป็น USB 3.2 Gen 1 (5Gbps)
*️⃣ ช่องเสียบแบบ Combo audio/microphone 3.5 มม.
*️⃣ พอร์ต Gigabit LAN
*️⃣ สล็อตอ่าน SD card
*️⃣ ไฟ LED แสดงสถานะ
คือ ถ้านับการเป็นโน้ตบุ๊กสำหรับคนทำงานทั่วๆ ไป ก็ต้องบอกว่ามันมีทุกอย่างครบ เพียงพอแล้วนะ อยากต่อออกจะแสดงผลภายนอก ก็ทำได้ผ่านพอร์ต HDMI ถ้าเจออุปกรณ์เชื่อมต่อ จะเป็น USB-A หรือ USB-C ก็มีพอร์ตรอไว้หมด หูฟังก็เสียบได้ พอร์ต LAN ก็มีให้ใช้ ถ้าเกิดอยากจะโอนรูปถ่ายจากกล้องมาลงเครื่อง ก็มีสล็อต SD card ให้อีก (ใครใช้ MicroSD card ก็หาตัวแปลงเอา)

กางโน้ตบุ๊กขึ้นมา จอแสดงผล 13.3 นิ้ว แบบ LED backlit ความละเอียดในการแสดงผล Full HD 1,920×1,080 พิกเซล เป็นจอแบบ IPS IGZO Anti-glare ลดแสงสะท้อน ด้านบนของหน้าจอเป็นกล้องเว็บแคม 720p พร้อมไมโครโฟนสองตัวแบบสเตริโอ และมี Webcam guard เอาไว้ปิดเลนส์กล้องเมื่อไม่อยากใช้เว็บแคมได้ มีไฟ LED เอาไว้แสดงสถานะด้วยว่ากล้องเปิดอยู่ เพิ่มความมั่นใจในความเป็นส่วนตัว

ด้วยความที่เป็นโน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้ว เลยมีพื้นที่สำหรับวางเลย์เอาต์คีย์บอร์ดได้สะดวกครับ และผมแอบทึ่งมากที่ Fujitsu สามารถวางพวกปุ่มต่างๆ ได้ขนาดใหญ่พิมพ์สะดวก ระยะห่างระหว่างปุ่มกำลังดี และที่สำคัญ ปุ่มต่างๆ แทบจะอยู่ครบอะ PrtSc ก็มี Home, End, Delete ยัน Pg Up | Pg Dn และปุ่มลุกศร มีครบ แถมปุ่มลูกศรไม่โดนลดขนาดเหมือนที่หลายๆ ค่ายทำด้วย TouchPad ก็มีขนาดพอสมควร ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่เวอร์วัง

ด้วยความที่มีพอร์ตครบเครื่องมากๆ และบางอีกต่างหาก เขาเลยออกแบบมาให้ช่องระบายความร้อนมันอยู่ทางด้านหลัง และด้านใต้ของตัวเครื่อง

ส่วนลำโพงของตัวเครื่องแบบสเตริโอ จะอยู่ทางด้านใต้ ฝั่งด้านหน้าของตัวเครื่อง มีขนาดไม่ใหญ่ ชวนให้คิดว่าแล้วเสียงมันจะดังมั้ยเนี่ย (สปอยล์: ภรรยาผมบอกว่าเสียงไม่ดัง)

อ้อ! ดีไซน์มันกางหน้าจอได้ 180 องศาครับ ดีงามมาก คือ ผมเป็นพวกไม่ค่อยได้ใช้ฟีเจอร์กางเยอะๆ แบบนี้หรอก แต่โน้ตบุ๊กที่จะซื้อเนี่ย ถ้ากางได้ 180 องศา จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในทันที ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะมันมีมุมองศาในการกางหน้าจอให้ผมเลือกใช้ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้เยอะไง แม้ว่าในชีวิตจริง อาจจะเจอสถานการณ์ที่ต้องการเยอะๆ น้อยมากก็ตาม แต่มันคือฟีเจอร์ประเภทมีก็ดีที่แท้ทรู
ประสบการณ์ในการใช้งานโน้ตบุ๊ก Fujitsu UH-X-4ZR1C14466
ตัวที่ผมซื้อให้ภรรยา เป็นรุ่นล่าสุดแหละ แต่เป็นแค่ Core i5-1135G7 นะ จริงๆ มันมีรุ่น Core i7 ด้วย แต่จ่ายแพงขึ้นอีกเกือบหมื่น ทั้งๆ ที่ภรรยาไม่ได้ต้องการสเปกขนาดนั้น ก็ไม่รู้จะเอาไปทำไม เจ้านี่มาพร้อมกับหน่วยความจำ DDR4 16GB มาให้แล้ว แต่เป็นแบบ On-board เลย ไม่สามารถอัปเกรดอะไรได้อีก ความจุให้มาเหลือเฟืออยู่ 512GB เป็น SSD M.2 ครับ ความเร็วในการเขียนและอ่านไม่แย่ คือ อ่าน 2,4xxMB/s และเขียน 1,6xxMB/s แต่ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ราคาพอๆ กันแล้ว สเปกเท่าๆ กันแล้ว ก็ต้องบอกว่า Fujitsu เลือกใช้สเปกความเร็วต่ำกว่าคู่แข่งหน่อย อาจจะเพราะว่าเร็วมากกว่านี้จะร้อน(??)
โดยตัวสเปกทั้งในส่วนของ CPU, หน่วยประมวลผลกราฟิก, จำนวนหน่วยความจำและ Storage ที่ให้มา ก็ต้องบอกว่ามันพร้อมสำหรับการใช้งานทุกแบบแหละ ทั้งเรื่องส่วนตัว ท่องเว็บ เล่นโซเชียล เรียนออนไลน์ เล่นเกม ไปจนถึงการทำงานทั้งเอกสาร เช็กอีเมล ตกแต่งรูปภาพ ไปจนถึงการตัดต่อวิดีโอ เห็นตัวเล็กๆ บางๆ แบบนี้ ชิปกราฟิกเป็น Intel Iris Xe นะครับ

ตัวเครื่อง มาพร้อมกับ Windows 10 Home และสเปกสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ (แต่ภรรยาผมไม่ยอมอัปเดต เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้น และเขาไม่อยากสับสนเวลาใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว ที่เป็น Windows 11 กับคอมพิวเตอร์ออฟฟิศที่เป็น Windows 10) และด้วยความที่ปุ่ม Power เป็นตัวสแกนลายนิ้วมือในตัว ทำงานร่วมกับ Window Hello ได้ สะดวกมากๆ เวลาจะต้องล็อกอิน

หน้าจอแสดงผลนี่แอบชอบครับ สีสันดีมาก ให้มุมมองกว้าง 178 องศา สมเป็นจอ IPS IGZO มีขอบจอค่อนข้างบาง แต่ก็ยังอุตส่าห์ฝังเว็บแคมไว้ได้ มีไมโครโฟนอีก แล้วก็มีไฟ LED เอาไว้บอกสถานะว่ากล้องทำงานอยู่ และหากต้องการมั่นใจในความเป็นส่วนตัวจริงๆ ก็สามารถปิดเลนส์กล้องได้ด้วย Webcam guard ที่มีมาให้ในตัว ไม่ต้องเอาสติกเกอร์ใดๆ มาปิดทับ

ทว่าน่าเสียดายตรงเรื่องเสียงนี่แหละ เป็นไปตามที่ภรรยาผมได้สปอยล์เอาไว้ คือ ลำโพงของโน้ตบุ๊ก Fujitsu UH-X-4ZR1C14466 มันเบาง่ะ ถ้าใครอยากจะดูหนัง ฟังเพลง อาจจะต้องหาหูฟังมาใส่ (ไร้สายได้ยิ่งดี เจ้านี่รองรับบลูทูธ 5.0) หรือไม่ก็หาลำโพงมาต่อเลย
พอร์ต่างๆ ของตัวเครื่องด้านซ้าย พอร์ต่างๆ ของตัวเครื่องด้านขวา
และแน่นอน ในส่วนของการเชื่อมต่อ ถือว่ามีครบเครื่องแล้ว ทั้งพอร์ต USB-C, USB-A ที่ก็ไม่ได้กั๊กสเปกอะไรมาก (แต่จะดีกว่านี้ ถ้าพอร์ต USB-A 2 พอร์ตที่ให้มา เป็น USB 3.2 Gen 2) ถือได้ว่าพกโน้ตบุ๊กตัวนี้ เครื่องเดียวเอาอยู่ ยิ่งซื้อมาแล้ว เขาก็แถมเมาส์ไร้สายของ logitech ที่แม้จะเป็นสเปกพื้นๆ แต่ก็เล็ก กะทัดรัด เหมาะแก่การพกไปใช้งาน

ด้วยความที่น้ำหนักเบาแค่ 749 กรัมเท่านั้น ทำให้พกไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวกมากๆ ครับ คือ สาวๆ ใส่กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าเป้นี่ ไม่รู้สักหนักหลังหรือหลักไหล่เท่าไหร่เลยแหละ น้ำหนักมันพอๆ กับแท็บเล็ตจอใหญ่ๆ อะ (หนักกว่า iPad Pro 12 ปี 2020 ขีดกว่าๆ) แต่แอบเคืองนิดๆ ตรงดีไซน์ของอะแดปเตอร์ 65 วัตต์ที่แถมมา คือจริงๆ เขาออกแบบมาค่อนข้างเล็กนะ แต่มันติดตรงที่ต้องมีสายไฟใหญ่ๆ ยาวๆ ด้วย แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการไปหาซื้ออะแดปเตอร์ GaN 65 วัตต์ มาซักตัว แล้วก็สาย USB-C แบบ 60-100 วัตต์ ยาวๆ มาแทน ก็จะพกง่ายกว่าครับ
ถ้าจะมีเรื่องให้น่าห่วงเกี่ยวกับการใช้งาน ก็น่าจะเป็นเรื่องของความร้อนและแบตเตอรี่ครับ คือ ตัวเครื่องมันค่อนข้างบาง ก็หมายความว่าอะไรๆ มันก็จะอยู่แนบชิดติดกับบอดี้พอสมควร ฉะนั้นเวลาใช้งานไปนานๆ ความร้อนก็อาจจะเกิดขึ้น และทำให้วางใช้งานบนตักไม่ได้ หรือแม้กระทั่งพิมพ์ก็ไม่ค่อยสบาย เพราะความร้อนมันระอุมาบนตัวเครื่อง แต่ในความเป็นจริง อาจจะเพราะด้วยความที่ภรรยาผมไม่ได้ใช้งานโหดร้ายมาก และสเปกมันก็แค่ Core i5 ด้วยแหละ ประกอบกับดีไซน์ที่เอาทั้ง CPU, RAM และ Storage ไปไว้ติดๆ กับท้ายเครื่องที่เป็นส่วนระบายความร้อน ทำให้ตัวเครื่องแม้จะร้อน มันก็ไม่ถึงกับร้อนจัด แล้วก็ไม่ได้กระทบกับการใช้งานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากไม่ได้เอามาใช้วางตักอยู่แล้วด้วย ตอนเครื่องร้อนๆ มันก็จะร้อนบริเวณใกล้ๆ บานพับ แต่คีย์บอร์ดนี่ยังสบายๆ ครับ
สำหรับแบตเตอรี่ อันนี้ไม่รู้จะช่วยยังไง 🤣🤣 เพราะมันให้มา 3,500mAh โดยบอกว่าสามารถใช้งานดูหนัง เล่นอินเทอร์เน็ตได้ 8-9 ชั่วโมง แต่ตอนภรรยาผมใช้งานจริงอะ มันดูๆ แล้ว เต็มที่ก็ 2-2.5 ชั่วโมง ไม่น่ารอดแล้ว ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ภายใต้สภาพการใช้งานแบบไหนหว่า ถึงทำให้ดูหนัง เล่นเน็ต ได้ต่อเนื่องตั้ง 8-9 ชั่วโมง 🤣🤣 ฉะนั้น ความเห็นของผมคือ มันคือโน้ตบุ๊กที่พกสะดวกแหละ แต่ก็ต้องพกอะแดปเตอร์ไปเผื่อชาร์จแบตเตอรี่ด้วยนะ ถ้าใครกลัวไม่มีปลั๊กไฟให้เสียบ ผมแนะนำให้พกพาวเวอร์แบงก์สเปกแบบ Xiaomi Mi PowerBank 3 ที่สามารถจ่ายไฟผ่านพอร์ต USB-C ได้สูงสุด 45 วัตต์ จะทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ไป ใช้งานไปด้วยได้ (เป็น Slow charging) หรือไม่ก็อย่างที่บอก พกอะแดปเตอร์แบบ GaN (เช่น UGREEN ที่ผมเคยรีวิวไป) ร่วมกับสาย USB-C แบบ 60-100 วัตต์ ก็จะพาสะดวกกว่าพกอะแดปเตอร์ที่แถมมาให้นะ (ของภรรยาผม ผมเอาอะแดปเตอร์ของ Fujitsu มาใช้ที่บ้าน แล้วเอาอะแดปเตอร์ของ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ที่พอสะดวกกว่าไปให้ใช้แทน)
บทสรุปการรีวิวโน้ตบุ๊ก Fujitsu UH-X-4ZR1C14466
ถ้ามองในเรื่องของราคาเทียบกับสเปก ก็บอกตรงๆ เลยว่าแอบแพงครับ เพราะสเปกนี้ เต็มที่ก็ 25,000-30,000 บาทแหละ แต่นี่ซัดไป 35,990 บาทแน่ะ แต่ราคานี้ก็แลกมาด้วยตัวเครื่องที่บางและโค-ตะ-ระเบาเวอร์วังอลังการ ชนิดที่เรียกว่า ASUS ZenBook S UX391UA ที่ผมเพิ่งขายไปเนี่ย กลายเป็นหนักไปเลยอะ (ขนาดตัวนั้นแค่ 1 กิโลกรัม ซึ่งหลายๆ คนเรียกว่าเบาแล้วนะ) แถมมีพอร์ตเชื่อมต่อครบเครื่องกว่าอีก ถ้าใครมองหาโน้ตบุ๊กที่มีน้ำหนักเบา นี่คือคำตอบมากๆ ครับ
อย่าเพิ่งตกใจเวลาที่เห็นบนเว็บ Banana IT ว่าของหมดสต็อกแล้ว เพราะในบางสาขา (เช่น เซ็นทรัลพระราม 2) ผมยังเห็นมันวางขายอยู่หน้าร้านนะ ลองไปหาดูได้ อาจจะมีเหลืออยู่ครับ