HUAWEI P50 Pro เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อราวๆ ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา … ก็ราวๆ 2-3 สัปดาห์ก่อนที่ผมเขียนบล็อกอันนี้แหละ และแน่นอนว่า HUAWEI Thailand เขาก็ให้ผมยืมมาใช้ เพื่อรีวิวให้ได้อ่านกันแล้วแน่นอน และหลังจากใช้ไปได้ราวๆ 1 สัปดาห์ ก็สมควรแก่เวลาที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์หลังจากได้ใช้งานมาในระยะเวลาสั้นๆ ครับ ว่าเป็นยังไงบ้าง ดีตรงไหน มีข้อจำกัดตรงไหน อย่างไร
ออกตัวล้อฟรี…
HUAWEI P50 Pro ตัวที่รีวิวครั้งนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อมาจาก HUAWEI Thailand ให้ยืมมาลองใช้ เพื่อจะได้เอาประสบการณ์ในการใช้งานมาบอกเล่าสู่กันอ่าน ว่ากันไปตามความเป็นจริงว่าชอบหรือไม่ชอบตรงไหน ซึ่งผมจะขอยึดเอาความรู้สึกของผมเป็นหลักเลยนะครับ และต้องขออภัยที่ไม่ได้รีวิวในส่วนของเกม เพราะผมไม่ใช่สายเกมเมอร์นะ
แกะกล่อง HUAWEI P50 Pro ออกมา จะเห็นดีไซน์ปกกล่องที่ทำเป็นรูปวงกลมสองวง ซึ่งนั่นหมายถึงตัวเซ็ตกล้องดิจิทัลด้านหลัง ที่เป็นแบบวงกลมสองวงใหญ่ๆ นั่นเองครับ ภายในกล่อง ก็จะมีตัวเครื่อง HUAWEI P50 Pro, เคสซิลิโคนใสแบบตรงรุ่น, เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด, สาย USB-C ยาว 1 เมตร ที่รองรับกระแสไฟได้มากถึง 6A เลยทีเดียว และอะแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge แบบ 66 วัตต์ มาให้

ข้อสังเกตนิดนึงเกี่ยวกับอะแดปเตอร์
อะแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge ที่ใช้กับ HUAWEI P50 Pro นี่ ค่อนข้างมีรูปแบบการจ่ายไฟที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองครับ คือ จ่ายไฟ 5V 2A, 10V 4A และ 11V 6A ดังนั้น หากเราเอาไปใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ยี่ห้ออื่น ที่ไม่รองรับการจ่ายไฟแบบเดียวกับ HUAWEI P50 Pro ก็จะได้การชาร์จแบบ 5V 2A หรือสูงสุด 10 วัตต์ เท่านั้นนะครับ ไม่ใช่การชาร์จเร็วแต่อย่างใด
นอกจากนี้ แม้ว่าอะแดปเตอร์ตัวนี้จะรองรับการจ่ายไฟสูงสุด 66 วัตต์ ซึ่งก็น่าจะมากพอสำหรับการชาร์จโน้ตบุ๊กจำพวก Ultrabook ได้สบายๆ (พวกนั้นชาร์จแบบ 65 วัตต์) แต่ในทางปฏิบัติ ใช้ไม่ได้นะครับ เพราะการจ่ายไฟสูงสุดมัน 11V 6A ครับ แต่การชาร์จโน้ตบุ๊กแบบ 65 วัตต์ มักจะเป็น 20V 3.25A ครับ แรงดันไฟและกระแสไฟมันต่างกัน ต้องตรวจสอบให้ดีด้วย

ด้านหน้าของ HUAWEI P50 Pro เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1,228×2,700 พิกเซล True-color display ดีไซน์ขอบจอเป็นแบบโค้งทั้งด้านซ้ายและขวา ซึ่งเป็นดีไซน์ดูสวย พรีเมียม แบบที่หลายๆ คนชอบ แต่ผมไม่ชอบ 🤣🤣 (เพราะอะไรนั้น เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังตอนพูดถึงประสบการณ์การใช้งาน) มีกล้องด้านหน้าแบบเจาะรู ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แบบ Ultrawide f/2.4 อยู่ และด้านล่างของหน้าจอ เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้จอ

ด้านหลังของ HUAWEI P50 Pro ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก กับกล้องดิจิทัลด้านหลัง Dual-Matrix Camera Design ที่เรื่องของความสวยงาม ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนเลยครับ บางคนอาจจะดูว่าสวยงาม บางคนอาจจะรู้สึกว่า ทำไมมันต้องใหญ่โตเป็นเตาแก๊สหัวคู่ขนาดนี้
รอบๆ ตัวเครื่องที่เหลือ ก็เป็นไมโครโฟน ที่มีให้มาถึง 3 ตัว พอร์ตอินฟราเรด ลำโพงสเตริโอ ถาดใส่ซิมการ์ด ที่รองรับนาโนซิมสูงสุด 2 ซิม ปุ่ม Volume และ Power กับพอร์ต USB-C เอาไว้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และชาร์จแบตเตอรี่
ประสบการณ์ในการใช้งาน HUAWEI P50 Pro
HUAWEI P50 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นเรือธงของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 888 Octa-core, 1 x Cortex-X1@2.84 GHz + 3 x Cortex-A78@2.42 GHz + 4 x Cortex-A55@1.8 GHz แต่ดันเป็นโมเดล 4G ครับ ไม่ได้รองรับ 5G แต่อย่างใด มันเลยแอบเสียความเป็นเรือธงไปนิดนึง เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เดี๋ยวนี้รองรับ 5G กันหมดแล้ว ซึ่งผมเองก็แปลกใจไม่น้อย โดยมีหน่วยความจำมาให้ 8GB และความจุ 256GB ซึ่งก็ถือว่าเป็นขั้นพื้นฐานของเรือธงกันล่ะ สำหรับ Storage นั้น มีความเร็วในการอ่านที่ 1.5GB/s และเขียนที่ระดับ 850+MB/s ก็ถือว่าเร็วระดับสมาร์ทโฟนเรือธง
ด้านซอฟต์แวร์ แอบแปลกใจที่ไม่ได้มาพร้อมกับ HarmonyOS 2.0 แต่กลับเป็น EMUI แทน ทั้งๆ ที่ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตหลายๆ ตัว ก็หันมาใช้ระบบปฏิบัติการนี้แทนแล้ว (HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch นี่เป็น HarmonyOS 2.0 แล้วนะ) และ HUAWEI P40/P40 Pro ก็อยู่ในรุ่นที่จะได้อัปเกรดเป็น HarmonyOS ด้วย ในฐานะสมาร์ทโฟนที่ออกมาใหม่ๆ เลย ทำไมได้เป็น EMUI 12.0.1 แทนหว่า แต่ยังดีที่มันมาพร้อมกับ Security patch level เดือนมกราคม 2565 ครับ
การอัปเดต Security patch level ของ HUAWEI ต้องทำใจนิดนึง
อาจจะด้วยความที่ว่า HUAWEI ถูกกีดกันทางการค้าจากสหรัฐ ทำให้การเข้าถึงระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่ๆ อัปเดตใหม่ๆ มันล่าช้า หรือเพราะกำลังวุ่นๆ อยู่กับการย้ายจาก EMUI ไป HarmonyOS หรือเพราะขยันออกรุ่นใหม่ๆ กันเยอะมาก ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ HUAWEI ดูจะได้รับการอัปเดตค่อนข้างช้า ไม่ได้สม่ำเสมอเท่าไหร่ (อ้างอิงจากประสบการณ์ที่ได้ใช้ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch และ HUAWEI MatePad 10.4 Refresh นะ หรือเป็นเพราะว่า หากไม่ใช่รุ่นเรือธงก็จะไม่ได้อัปเดตถี่เท่าก็ไม่รู้เหมือนกัน
คือโดยส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการที่ตัวระบบปฏิบัติการไม่ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่เท่าไหร่ เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android มันก็เป็นแบบนี้ประจำแหละ แต่ในส่วนของ Security patch นั้น Google เขามีออกมาทุกเดือนครับ และผมก็คิดว่ามันควรจะเป็นอะไรที่ได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอนะ เพราะสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต มันคืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา มากกว่าพวกคอมพิวเตอร์ของเราซะอีก โอกาสเสี่ยงที่จะโดนโจมตีมันก็สูงกว่า ผมก็อยากจะให้มันได้รับการอัปเดตอุดช่องโหว่ให้ทันสมัยอยู่เสมออะ
แม้ว่า HUAWEI P50 Pro จะเป็น EMUI12 แต่ว่าถ้าพูดถึงเรื่องของ User Interface แล้วละก็ มันก็คล้ายๆ กับ HarmonyOS อยู่นะ คิดว่าในอนาคต ก็อาจจะถึงคิวได้รับการอัปเดตเป็น HarmonyOS 2 แหละ และด้วยความที่ไม่มี Google Mobile Services ให้ใช้มาพักใหญ่มากๆ แล้ว HUAWEI ก็ได้ดีลกับพวกนักพัฒนาไปเยอะ ตัว HUAWEI AppGallery นี่ มีแอปให้ดาวน์โหลดเยอะพอสมควรแล้ว โดยเน้นไปที่แอปยอดนิยมของท้องถิ่น เช่น ในประเทศไทยเนี่ย แอปธนาคาร, True Money Wallet, เป๋าตัง, หมอพร้อม, Lazada, Shopee อะไรพวกเนี้ย ตลอดไปจนถึงพวกเกม หรือโซเชียลมีเดียที่ไม่ได้เกิดในสหรัฐอเมริกาอย่าง TikTok หรือ LINE ก็มีให้ดาวน์โหลดได้แล้ว



ที่น่าสนใจคือ ยังไม่เห็นแอปที่ต้องเสียเงินซื้อนะ แต่หลายๆ แอปก็มี In-app purchase แล้ว โดยลิงก์เข้า HUAWEI ID แทนที่จะเป็น Google Account แทนครับ ฉะนั้นเราก็จะสามารถซื้อแอปได้ หรือทำ In-app purchase
และในกรณีที่แอปที่เราอยากได้มันไม่มีอยู่ใน AppGallery เราก็พอจะสามารถหาดาวน์โหลดได้จาก 3rd Party App Store (ผมแนะนำ APKPure.com) หรือจะติดตั้งเองผ่าน Sideloading ก็ได้ พวก Twitter, Facebook และแอปอื่นๆ เนี่ย ผมก็ดาวน์โหลดผ่าน 3rd Party App Store นี่แหละครับ แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดตรงที่พวกแอปที่จะต้องพึ่งพาการล็อกอิน Google Account ก็จะมีปัญหาใช้งานไม่ได้ หรืออาจจะใช้งานได้ แต่ไม่สามารถซิงก์ข้อมูลได้ (เช่น Google Maps, YouTube, YouTube Music)



และตอนนี้ HUAWEI ก็เพิ่มอีกช่องทางนึงสำหรับดาวน์โหลดแอปที่ไม่มีอยู่ใน AppGallery แล้ว โดยให้ไปดาวน์โหลดแอปชื่อ Gspace มาติดตั้ง แล้วแอปตัวนี้จะทำหน้าที่เหมือนกับจำลองตัวสมาร์ทโฟนรุ่นที่ยังสามารถใช้งาน Google Mobile Services ของ HUAWEI ได้ขึ้นมา แล้วก็ให้เราล็อกอินเข้า Google Account ได้ จากนั้นก็ไปดาวน์โหลดแอปต่างๆ ได้ แต่ว่ายังมีข้อจำกัดอยู่นะครับ เพราะมันมีให้ดาวน์โหลดเฉพาะแอปที่เห็นใน Gspace เท่านั้นนะ ไม่ได้หมายความว่าเราจะดาวน์โหลดได้ทุกแอปจาก Google Play Store แต่อย่างใด ซึ่งสำหรับผมแล้ว ก็เอาไว้ใช้ดาวน์โหลดพวกแอปที่ต้องล็อกอิน Google Account เช่น Google Maps, YouTube, YouTube Music หรือ Google Photos นี่แหละ
ข้อจำกัด (ที่น่ารำคาญ) อีกอย่างของแอป Gspace ก็คือ ถ้าคิดจะใช้แบบฟรีๆ ก็ได้ครับ ไม่ได้ถูกจำกัดการใช้งานแต่อย่างใด แต่ถ้ารำคาญโฆษณา (ซึ่งขึ้นมาบ่อยอยู่ เวลาเปิดปิดแอป) ต้องเสียตังค์ครับ จะเป็นแบบ Subscription หรือจะเป็นแบบจ่ายทีเดียวใช้ได้ตลอดชีพก็ตามแต่เถอะ ซึ่งอาจจะดูไม่แพงนะ แค่ 599.66 บาท แต่ผมรู้สึกว่า ในฐานะที่ซื้อสมาร์ทโฟนของ HUAWEI มาแล้ว และแอปนี้ก็จะช่วยให้การใช้งานสมาร์ทโฟนของ HUAWEI ก็พอจะทำได้ใกล้เคียงกับคู่แข่งที่มี Google Mobile Services มากขึ้น ก็น่าจะได้รับสิทธิใช้ฟรีซะหน่อยนะ ส่วนตอนใช้งาน ผมแอปเจอบั๊กเล็กๆ น้อยๆ เช่น จะพิมพ์แล้ว แต่ On-screen keyboard มันดันไม่ขึ้นมา ก็ต้องปิดแอป แล้วเปิดใหม่ เป็นต้น (อ่านบล็อกที่ผมพูดถึง Gspace เต็มๆ ที่บล็อก สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ HUAWEI ก็พอจะลงแอปผ่าน Google Play ได้แล้ว ด้วย Gspace ภายใต้ข้อจำกัด (kafaak.blog) ของผมนี่

สำหรับคนที่จะเล่นเกม แม้ว่าผมจะไม่ใช่เกมเมอร์ อาจจะไม่สามารถรีวิวประสบการณ์ในการเล่นเกมได้ดี แต่ในแง่ของประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ นี่ไม่ค่อยน่าห่วงแล้ว CPU Snapdragon 888 กับ GPU Adreno 660 รองรับการแสดงผลกราฟิกระดับสูงสุดได้สบายๆ ครับ แต่ในประเด็นเรื่องความร้อนของตัวเครื่อง ทาง HUAWEI เขาว่ามี 3D Graphene Liquid Cooling System ช่วยในเรื่องการระบายความร้อน ดูแล้วก็ช่วยได้พอสมควรครับ คือ ไม่รู้สึกว่าเกมมันกระตุกเมื่อเล่นไปนานๆ แต่ว่าตัวเครื่องนี่ก็ยังรู้สึกได้ว่าแอบอุ่นๆ ร้อนๆ อยู่บ้างนะ
ลำโพงของ HUAWEI P50 Pro เป็นแบบสเตริโอครับ ก็จะช่วยให้เรื่องของการเล่นเกมและการรับชมวิดีโอ ภาพยนตร์ต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีอรรถรส แต่ผมแอบรู้สึกว่าเสียงจากลำโพงที่อยู่ด้านบนของตัวสมาร์ทโฟนมันเบากว่าด้านล่างไปหน่อย ซึ่งอาจเป็นเพราะตัวลำโพงด้านบนมันเป็นลำโพงสำหรับสนทนา เลยทำความดังสูงลำโพงด้านล่างที่เป็นลำโพงจริงๆ ไม่ได้หรือเปล่า

ถ้าจะให้ผมติเกี่ยวกับ HUAWEI P50 Pro ผมคงต้องบ่นเรื่องดีไซน์ขอบจอโค้งสองด้าน ที่ผมไม่ชอบเพราะมันทำให้การพิมพ์ไม่สะดวกครับ คือ ตรงส่วนที่จอโค้งอะ มันทำให้นิ้วมือผมมองว่ามันคือขอบของหน้าจอโดยสัญชาตญาณ และเลี่ยงการพิมพ์ตรงนั้น หรือพิมพ์ตรงนั้นไม่เต็มนิ้ว ส่งผลให้ พิมพ์ไม่ติด หรือพิมพ์ผิดอยู่บ่อยครั้ง อันนี้แอบรำคาญจริงๆ
แบตเตอรี่ให้มา 4,360mAh ก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเลยนะ ซึ่งก็มากเพียงพอสำหรับใช้งานได้ทั้งวันแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้ใช้งานโหดมาก และถึงแม้ว่าจะใช้งานโหด แต่ HUAWEI P50 Pro นี่ก็รองรับการชาร์จระดับ 66 วัตต์ แป๊บๆ ชาร์จแบตเตอรี่ให้ใช้ต่อได้อีกยาวๆ แล้ว
ประสบการณ์ในการถ่ายรูปด้วย HUAWEI P50 Pro
มาคุยเรื่องการถ่ายรูปบ้างครับ กล้องหลังของ HUAWEI P50 Pro นี่ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ 4 ตัว คือ กล้องหลัก เลนส์มุมกว้าง (หรือจะเรียกว่าเลนส์มุมปกติก็ได้เนอะ) เซ็นเซอร์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8 โดยมีกล้องรองเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เป็น Optical zoom 3x f/3.5 และเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultrawide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2 และมีเซ็นเซอร์ขาว-ดำ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล เลนส์รูรับแสง f/1.6 เอาไว้ให้ข้อมูลเพื่อใช้ประมวลผลภาพ ด้วยเทคนิค Computational photography

User Interface ของกล้อง HUAWEI P50 Pro ด้านซ้ายก็จะเอาไว้เปิดปิดฟังก์ชันต่างๆ เช่น การใส่ฟิลเตอร์ การเปิดปิดแฟลช การเปิดปิด AI เป็นต้น ส่วนด้านขวา ก็จะมีปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มสลับกล้องหน้ากล้องหลัง และปุ่มสำหรับเรียกดูภาพที่ถ่ายไป โดยมีโหมดการถ่ายภาพต่างๆ ที่ผู้คนนิยมใช้กัน ทั้ง Night mode, Portrait, Pro, Panorama ฯลฯ ซึ่งจากที่ผมได้ลองใช้งาน ถ้าจะถ่ายรูปแบบทั่วไป ไม่ได้จำเพาะเจาะจงมาก ไม่ต้องไปเปลี่ยนโหมดอะไรหรอกครับ โหมด Photo นี่แหละ ตัวเดียวอยู่แล้ว AI มันจะปรับซีนให้เองได้
แต่ถ้าต้องการถ่ายเฉพาะงานจริงๆ เช่น ตอนกลางคืน เลือก Night mode, ถ่ายภาพบุคคล อยากได้หน้าชัดหลังเบลอ ก็เลือก Portrait หรืออยากปรับแต่งได้ตามใจ ก็เลือกโหมด Pro เป็นต้น

ก็ต้องยอมรับว่า HUAWEI P50 Pro ถ่ายภาพออกมาได้สวยจริงๆ ครับ เลนส์ทั้งสามชุด รองรับการถ่ายภาพแทบจะในทุกสถานการณ์เลยทีเดียว ระยะใกล้มากๆ แต่อยากเก็บภาพให้ครบๆ ก็ใช้เลนส์ Ultrawide ถ้าถ่ายตามปกติก็เลนส์ Wide ไป และหากจะถ่ายวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ แต่ให้ดูเหมือนอยู่ใกล้ ไม่ต้องเดินเข้าไปหา (ใช้ขาเราในการซูม) ก็ใช้เลนส์ Telephoto ที่ซูม Optical 3.5x คือสะดวกมาก
แต่ในทางกลับกัน ผมก็รู้สึกว่าเลนส์ของ HUAWEI นี่จะแอบติดเทเลนิดๆ ทุกอันเลยครับ คือ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวหลักของผมอย่าง Samsung Galaxy Z Fold 2 แล้ว ภาพที่ได้จาก HUAWEI P50 Pro จะได้ภาพที่เหมือนถูกซูมเข้ามาใกล้กว่านิดหน่อย และเลนส์ Telephoto 3.5x นั่นก็แอบซูมเยอะไปหน่อย ทำให้ในบางสถานการณ์ ต้องเปลี่ยนมาใช้ซูม 2x ที่เป็นการประมวลผลข้อมูลภาพแทน ไม่ใช่ Optical zoom จริงๆ แต่ด้วยความที่เซ็นเซอร์กล้องหลักมันก็ 50 ล้านพิกเซลอยู่แล้ว ลำพังแค่ Digital zoom 2x ก็ยังได้ภาพความละเอียดเกินพอนะ ถ้าจะย่อขนาดรูปให้เหลือ 12-13 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพที่ผมลองไปถ่ายๆ มา ก็ตามด้านล่างนี่เลยครับ












จุดเด่นอีกอย่างของ HUAWEI P50 Pro ก็น่าจะเป็นเรื่องการซูมนี่แหละ เพราะเซ็นเซอร์กล้องมีความละเอียดสูงมากๆ เทเลโฟโต้ 64 ล้านพิกเซล แถม Optical zoom 3.5x ยิ่งทำให้มีข้อมูลเอาไว้สำหรับช่วยประมวลผลภาพตอนทำ Digital zoom ได้เยอะ นั่นเลยทำให้มันสามารถซูมไปได้สูงสุดถึงระดับ 100x สบายๆ ครับ (ตอนเปิดตัวเขาบอกว่าซูมได้ 200x แต่ผมลองแล้ว มัน 100x เองอะ ปรับไปไกลกว่านั้นไม่ได้) ดูตัวอย่างการซูมจากภาพด้านล่างได้










ว่ากันตรงๆ เลยนะครับ ซูมระดับ 10x เนี่ย ภาพยังออกมาดูเนียน ดูคม เรียกว่าพอเอาไปใช้งานได้สบายๆ เลยครับ แต่ถ้าจะไปถึงระดับ 100x เนี่ย ก็เรียกว่าพอเห็นภาพได้ชัดประมาณนึง แต่รายละเอียดอาจจะหายๆ ไปบ้างครับ ถ้าถามผมว่า รายละเอียดมันหายไปนี่คือยังไง ให้ดูตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ครับ

จะเห็นว่า พวกตัวอักษรตัวเล็กๆ เนี่ย จะอ่านไม่รู้เรื่องเลย มันเหมือนตัวอักษรพิมพ์แล้วสียังไม่แห้งแล้วมีคนเอามือไปปาดให้สีมันเลอะเปื้อนๆ ซะแบบนั้น ซึ่งอันนี้คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อพยายามทำ Digital zoom แล้วปรับภาพให้ชัดครับ เพราะซอฟต์แวร์มันจะพยายามสร้างพิกเซลที่ควรจะมี เมื่อซูมเยอะๆ โดยเดาเอาว่าควรจะเป็นพิกเซลสีอะไร โดยดูจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวนั่นแหละ แล้วถ้าเกิดรายละเอียดมันละเอียดมากๆ เล็กมากๆ เช่น พวกตัวอักษร มันจะเดาไม่ค่อยถูก ก็จะเห็นเป็นภาพเปื้อนๆ แบบนี้แหละ


ถัดมา ดูโหมด Portrait กันบ้าง ต้องเรียกว่าเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงนี่ได้เปรียบจริงๆ ครับ มันทำให้ซอฟต์แวร์มีข้อมูลมากพอที่จะรู้ได้ว่าตรงไหนควรเบลอ ตรงไหนควรชัด แต่ก็ต้องบอกว่า จุดตายของการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยซอฟต์แวร์ ก็ยังคงเป็นตอนที่ถ่ายภาพที่มีพวกกิ่งไม้ ใบไม้ ตาข่ายต่างๆ เยอะๆ เพราะซอฟต์แวร์มักจะตรวจจับวัตถุตรงขอบด้านนอก แต่ไม่สามารถแยกแยะช่องว่างที่อยู่ด้านในขอบตัววัตถุได้ครับ การถ่ายโหมด Portrait จึงควรถ่ายเสร็จ ลองดูภาพที่เบลอเสร็จแล้ว ว่าได้เนียนถูกใจไหมก่อนนะ

กล้องเซลฟี่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เหลือเฟือมากในการถ่ายภาพ และด้วยความที่เป็นเลนส์ Ultrawide ก็ทำให้สามารถเอามาใช้ถ่ายภาพเซลฟี่หมู่ได้ด้วย และโหมด Portrait กับ Beauty รวมพลังกัน แหม่ ทำให้หน้าทั้งเรียน ทำเอฟเฟ็กต์ภาพหน้าชัดหลังเบลอได้สบายๆ
บทสรุปการรีวิว HUAWEI P50 Pro
ตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกันว่า HUAWEI P50 Pro จะราคาเท่าไหร่ เพราะบนเว็บไซต์ก็ยังไม่มีข้อมูล เลยยังตอบไม่ได้ว่า ราคาคุ้มค่าสเปกไหม แต่ถ้าถามว่า ณ ตอนนี้ HUAWEI P50 Pro พอจะใช้งานได้เทียบเท่าสมาร์ทโฟนที่มี Google Mobile Services แล้วหรือยัง ก็เรียกว่าแม้จะไม่เต็ม 100% แต่ก็ไม่ติดขัดมากแล้วครับ ด้วยพลังผสมผสานระหว่าง AppGallery, 3rd Party App Store และ Gspace
ถ้าใครจะซื้อ HUAWEI P50 Pro เนี่ย บอกเลยว่าสองปัจจัยหลักในการตัดสินใจคือ รับได้กับการที่ต้องปรับตัวใช้ชีวิตกับสมาร์ทโฟนที่ไม่มี Google Mobile Services ได้ไหม (แต่มีทางออกเรื่องการดาวน์โหลดแอปนะ อย่างที่ได้บอกไป) กับ อยากได้กล้องสมาร์ทโฟนที่แจ่มมากๆ ไหม เพราะ HUAWEI P50 Pro นี่ ถ่ายภาพออกมาแล้ว มันแจ่มจริงๆ ครับ แถมตัวเดียวครบเครื่องตั้งแต่ระยะ Ultrawide ไปยันซูม 10x เลย
อัปเดต: เห็นเขาเปิดตัววันนี้แล้ว ราคาออกมาแล้ว 33,990 บาท ผมว่าการไม่มี Google Mobile Services และไม่รองรับ 5G น่าจะทำให้ราคาลงไปต่ำกว่านี้หน่อยนะครับ ตั้งราคาออกมาแบบนี้ จะทำให้คู่แข่งดูน่าใช้ไปในทันที (แม้ว่าสเปกเรื่องกล้องอาจจะด้อยกว่า แต่ความปวดหัวเรื่องการใช้งานที่ไม่มี Google Mobile Services มันน้อยกว่าเยอะ แถม Gspace ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนะ)