ผมมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง และมีทั้งที่เป็น Windows, macOS และ Ubuntu Linux แต่ถ้าถามผมว่าเป็นผู้ใช้งานสายไหน ผมก็ต้องบอกว่าเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ทั้งโลกครับ คือ ใช้ Windows เป็นหลัก ส่วน macOS เนี่ย ใช้บ้างประปราย หลายๆ ปีซื้อทีนึง ตัวแรกของผมก็ MacBook Pro 2011 ตอนนี้ที่บ้านใช้ MacBook Pro 2015 แต่ที่ลองของจริงๆ คือ ผมเอา Mac mini Apple M1 ที่ซื้อมาเมื่อต้นปี 2021 ไปใช้ที่ออฟฟิศ ซึ่งทำงานกับบนระบบปฏิบัติการ Windows ล้วนๆ นี่แหละ ใช้มาได้พักใหญ่ๆ แล้ว ก็เลยขอถือโอกาสมาเล่าให้ฟังหน่อย ว่ามันเวิร์กไหม
ถ้าจำเป็น macOS ก็ Join domain ได้อยู่
การใช้งานที่ออฟฟิศที่ใช้ Windows เป็นหลัก ถ้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศออกให้ ก็มักจะได้ Windows รุ่น Professional มา ซึ่งจะสามารถ Join domain ได้ การล็อกอินเข้าโดเมน ด้วย Username และ Password ของออฟฟิศ จะทำให้เราสามารถเข้าใช้งานทรัพยากรในระบบได้ครับ แต่ถ้าเกิดเราใช้ macOS ล่ะ จะทำยังไง? คำตอบก็คือ ไปที่ System preferences > Users & Groups แล้วคลิกปุ่ม Join ตรง Network Account Server แล้วระบุ AD server เพื่อตั้งค่าล็อกอินได้ครับ

แต่ในกรณีของผม ผมไม่ได้ล็อกอินเข้าโดเมนหรอกนะ เพราะผมโชคดีตรงที่ว่า ออฟฟิศผมพยายามเน้น Paperless ฉะนั้นก็ไม่ค่อยได้ไปใช้เครื่องพริ้นเตอร์ซักเท่าไหร่ (อยู่มาหลายปี แทบจะไม่ต้องพิมพ์งานอะไรออกมาเลย) และเขาใช้ Microsoft 365 เต็มรูปแบบมาก ไฟล์และข้อมูลต่างๆ ก็ถูกเก็บไว้บน SharePoint หมดนี่แหละ
พอเก็บไฟล์และข้อมูลไว้บน SharePoint ต่อให้ใช้ macOS ก็เข้าถึงได้
เราสามารถเข้าถึงไฟล์และข้อมูลต่างๆ บน SharePoint ได้ ผ่านทางเบราวเซอร์เลยครับ ฉะนั้น ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการอะไร ก็สามารถดาวน์โหลด เรียกดูข้อมูล รวมถึงการแก้ไขไฟล์งานต่างๆ บน SharePoint ได้สบายๆ และยิ่งถ้าเราดาวน์โหลดแอป OneDrive มาติดตั้ง แล้วล็อกอิน เราก็จะสามารถไปคลิกปุ่ม Sync บนหน้าเว็บ SharePoint เพื่อซิงก์ข้อมูลต่างๆ บน SharePoint มาบน OneDrive ของเราได้ หรือจะแค่ Add Shortcut to OneDrive ก็ได้

ฉะนั้น การเข้าไปดึงไฟล์ข้อมูลต่างๆ ที่แชร์กับเพื่อนร่วมงาน ก็ไม่มีปัญหาอะไร
โปรแกรมออฟฟิศพื้นฐาน มีบน macOS หมด แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง ในบางโปรแกรม
ข่าวดีคือ เดี๋ยวนี้ Microsoft Office บน macOS เขาทำออกมาค่อนข้างดีแล้ว ปัญหาเรื่องการจัดหน้าเอกสารนี่ ถ้าไม่ใช่เอกสารที่ซับซ้อนเวอร์วัง ที่เป็นภาษาไทย ผมไม่ค่อยเจอปัญหาแล้วนะ แต่ที่สำคัญคือ ออฟฟิศผมใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก 🤣🤣 เลยไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย จะติดอยู่ก็แค่ว่า User Interface ของโปรแกรมต่างๆ อาจจะมีความแตกต่างไปจากเวอร์ชันบน Windows ไปบ้าง โดยเฉพาะ Microsoft Excel และ Microsoft Outlook อันนี้ต้องทำใจนิดนึง

แต่ข้อจำกัดที่ชัดเจนคือ ฟีเจอร์บางอย่างของบางโปรแกรมอาจจะมีบั๊กบ้าง เช่น บน Microsoft Excel เนี่ย พอทำ Pivot table แล้วเราสร้าง Filter ที่เป็นข้อความ ตอนเราจะเลือกกรองข้อมูลด้วยข้อความ มันดัน Apply filter ไม่ได้ซะงั้น นี่เป็นอะไรที่ทำให้ผมรำคาญอยู่ไม่น้อย (ก่อนหน้านี้ไม่เป็นด้วยนะเออ)

หรือบางฟีเจอร์ ก็จะมีวิธีเรียกใช้งานที่แปลกไปจากเวอร์ชัน Windows เช่น Microsoft Outlook ที่หากเราอยากจะสร้างตารางนัดหมายการประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom, Microsoft Teams หรือ Skype for Business เนี่ย ถ้าเป็นระบบปฏิบัติการ Windows มันจะมีไอคอนอยู่บน Ribbon เลย แต่ของ macOS นี่ มันดันไปอยู่ตรงด้านท้ายของกล่อง Add a location ที่เอาไว้ระบุสถานที่จัดประชุม ที่มันจะมีตัวเลือกของ Online meeting อยู่ ต้องไปเลือกจาก Drop-down menu ตรงนั้น

โปรแกรมอื่นๆ ที่ออฟฟิศใช้ อาจจะไม่มีเวอร์ชันบน macOS
โดยรวมแล้ว ผมสามารถใช้ macOS บนสภาพแวดล้อมออฟฟิศของผม ที่เน้นใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ได้สบายๆ แหละ จะเป็น Mac mini หรือ MacBook Pro ก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่สำหรับคนอื่นๆ อาจจะต้องเช็กให้ดีๆ นะครับ ว่างานของคุณจำเป็นต้องใช้โปรแกรมอะไรบางอย่าง ที่สุดจาก Exclusive บนระบบปฏิบัติการ Windows ไหมนะ
ภาพประกอบปกบล็อก Education psd created by freepik – www.freepik.com