ช่วงหลังๆ นี่เห็น HUAWEI ลุยตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยเยอะพอสมควรนะ ผมก็ได้รีวิวคอมพิวเตอร์ของค่ายนี้ไปหลายตัวอยู่ และล่าสุดนี่เขาก็ส่ง HUAWEI MateBook 14s ซึ่งเป็นรุ่นใหม่สุด โดยผมได้รุ่นตัวเล็กมาครับ คือ Intel Core i5 Gen 11th ที่มีค่าตัวอยู่ที่ 40,990 บาท ซึ่งถือว่าราคาแอบแรงอยู่ สำหรับโน้ตบุ๊กที่ไม่ได้มีการ์ดจอแยก คำถามก็เลยอยู่ที่ว่า แล้วมันมีจุดเด่นอะไรยังไง ถึงทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มที่จะจ่าย 40,990 บาทล่ะ บล็อกนี้ผมก็จะมาไล่หาคำตอบกันครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
HUAWEI MateBook 14s ตัวที่ผมรีวิวครั้งนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อมาจาก HUAWEI Thailand เขาส่งมาให้ลองใช้พักใหญ่ๆ เพื่อจะได้ลองใช้ว่ามันมีดียังไง มีอะไรให้ติชมไหมอย่างไร แล้วเอามาเล่าสู่กันอ่านอย่างตรงไปตรงมาเช่นเคย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า HUAWEI MateBook 14s มีให้เลือก 2 รุ่น คือ ตัว Core i5 Gen 11th และ Core i7 Gen 11th ที่เป็น Intel EVO platform และมีสีให้เลือกสองสี คือ เทา Space gray กับ เขียว Spruce green ครับ ตัวที่ผมได้มารีวิวเป็นตัว Core i5 Gen 11th ครับ สิ่งที่ผมได้มาภายในกล่อง ประกอบไปด้วย ตัวโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook 14s อะแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge 65 วัตต์ พร้อมสายชาร์จ USB-C แผ่นซิลิโคนปิดคีย์บอร์ดที่มีสกรีนภาษาไทยอยู่ และคู่มือการใช้งานกับใบรับประกัน
ตัวโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook 14s เป็นโน้ตบุ๊กขนาดจอ 14.2 นิ้ว ที่มีอัตราส่วนการแสดงผลของภาพแบบ 3:2 ฉะนั้นขนาดก็จะออกแนวป้อมๆ หน่อย มีหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS (Low-Temperature PolySilicon) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจอแสดงผลอีกแบบ ที่มีจุดเด่นตรงที่สามารถเพิ่มจุดพิกเซลให้มีความหนาแน่นได้มากขึ้น โดยใช้พลังงานน้อยกว่าจอ LCD ทั่วๆ ไป โดยมีความละเอียดในการแสดงผลที่ 2.5K คือ 2,520×1,680 พิกเซล จอแสดงผลมีขอบที่เล็กมาก แต่ถึงอย่างนั้น HUAWEI ก็สามารถยัดเว็บแคม 720p เข้าไปตรงกลางด้านบนของหน้าจอได้
ตัวคีย์บอร์ด เป็นแบบแป้นอังกฤษล้วนครับ แต่ไม่ต้องห่วง เขามีแถมแผ่นซิลิโคนแบบปิดครอบคีย์บอร์ดไว้มาให้ โดยมีการสกรีนภาษาไทยมาให้เรียบร้อย และสามารถนำมาใช้ปิดคีย์บอร์ดของ HUAWEI MateBook 14s นี้ได้แบบแนบสนิทดีมาก และดีไซน์ออกมาดีมาก คือสวย แต่มีข้อเสียตรงที่มันบังไฟ Backlit ไปครับ ตัว TouchPad มีขนาดใหญ่และสัมผัสดีมากทีเดียว ตัวปุ่ม Power ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับ Windows Hello ด้วย
รอบๆ ตัวเครื่อง ด้านซ้ายเป็นพอร์ต USB-C 2 พอร์ต ซึ่งในสเปกไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็น USB 3.2 เวอร์ชันไหน แต่จากที่ลองทดสอบดู ผมคาดว่าน่าจะเป็น USB 3.2 Gen 2 (แบนด์วิธ 10Gbps) ครับ ทั้งคู่รองรับ Display port (DP) และ Power Delivery (PD) สำหรับการต่อออกจอแสดงผลภายนอก และชาร์จแบตเตอรี่ และมีพอร์ต HDMI มาให้อีกพอร์ตนึง กับช่องเสียบแบบคอมโบแจ็ก 3.5 มม. เอาไว้ต่อหูฟังและไมโครโฟน ส่วนอีกด้านจะมีพอร์ต USB-A รองรับ USB 3.2 Gen 1 (แบนด์วิธ 5Gbps) มาให้อีกพอร์ตนึง
โดยรวมก็เรียกว่า มีพอร์ตการเชื่อมต่อค่อนข้างครบแหละ โดยที่ไม่ต้องไปหาอุปกรณ์เสริมจำพวก USB-C hub มาใช้ หากเราไม่ได้มีความต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดุเดือดมาก วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่องเป็นอลูมิเนีย-อัลลอย ดูเรียบหรู พรีเมียม โดยความเห็นส่วนตัว ถ้าจะซื้อ ผมอยากแนะนำสีเขียว Spruce green ครับ ดูจากรูปแล้วน่าจะสวย สีเทา Space gray มันเกร่อไปหน่อย
ประสิทธิภาพในการใช้งานของ HUAWEI MateBook 14s
โดยส่วนตัว ผมก็มีโน้ตบุ๊กที่ใช้ Intel Core i5 Gen 11th ใช้อยู่ ก็ต้องบอกว่าทั้งตัวหน่วยประมวลผล และหน่วยประมวลผลกราฟิก Intel iRIS Xe นี่เพียงพอสำหรับการทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานออฟฟิศ ตลอดไปจนถึงการตกแต่งกราฟิกและการตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ ประเภท Full HD 1080p สบายๆ ครับ โดย CPU ที่ HUAWEI MateBook 14s เลือกมาใช้ ก็เป็นตัวใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2564 นี้ คือ Intel Core i5-11300H ซึ่งเป็นรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงสำหรับอุปกรณ์พกพา (ตัวที่ผมใช้เป็น Core i5-1135G7 )
อย่างไรก็ดี ตัว HUAWEI MateBook 14s ตัว Core i5 เนี่ย ไม่ผ่านมาตรฐาน Intel EVO platform นะครับ แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจไปว่ามันจะไม่ดีนะ มันแค่ไม่ผ่านข้อกำหนดใดข้อกำหนดหนึ่งของทาง Intel สำหรับมาตรฐานแพลตฟอร์มใหม่นี้
ต้องยังไงถึงจะผ่านมาตรฐาน Intel EVO แล้ว HUAWEI MateBook 14s ตัว Core i5 ไปพลาดตรงไหน?
แม้ว่า HUAWEI MateBook 14s ตัว Core i5 จะไม่ได้ผ่านมาตรฐาน Intel EVO platform แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดีนะครับ ถ้าเราเอาข้อกำหนดของ Intel EVO platform มาไล่เรียงแล้วดูว่าผ่านอันไหน ไม่ผ่านอันไหนบ้าง มันก็ประมาณนี้
✅ ใช้ CPU เป็น Intel Gen 11th ตัว Core i5 หรือ Core i7 และชิปกราฟิกต้องเป็น Intel iRIS Xe ด้วย
✅ มีหน่วยความจำ 8GB ขึ้นไปแบบ 2×4GB Dual-channel และใช้ SSD แบบ NVMe ความจุ 256GB ขึ้นไป
✅ ดีไซน์แบบ Ultrabook หรือ 2-in-1 เน้นบางเบา มี Precision TouchPad และหากรองรับ Stylus ด้วยก็ยิ่งดี
✅ แบตเตอรี่รองรับ Fast charging ผ่าน USB-C ชาร์จ 30 นาทีต้องใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง และโดยรวมตอนใช้งานในความละเอียด Full HD แบตเตอรี่ต้องใช้ได้ยาวอย่างน้อย 9 ชั่วโมง
✅ จอแสดงผล 12 นิ้ว ความละเอียด Full HD ขึ้นไป ให้สีครอบคลุม 95% sRGB ขึ้นไป
✅ ใช้เวลาเปิดเครื่องน้อยกว่า 1 วินาที รองรับโหมด Connected standby และ Lucid sleep
❌ รองรับพอร์ต Thunderbolt 4 พร้อมเชื่อมต่อ WiFi 6 (802.11ax) ซึ่งตรงนี้ HUAWEI MateBook 14s ตัว Core i5 มันรองรับ WiFi 6 แต่ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 4 ครับ
แหม่ พลาดไปแค่ครึ่งจุดเองจริงๆ คือ ดันไม่มีพอร์ต Thunderbolt 4 นี่เอง ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่เดือดร้อนเลยนะ กับการไม่มีพอร์ตนี้ ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป เพราะว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ Thunderbolt 4 นี่ ณ ตอนนี้ยังแอบแพงมาก และคนทั่วไปก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันเต็มที่ แค่ขอ USB-C ที่รองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ก็เรียกว่าแทบจะเหลือเฟือในเกือบทุกกรณีแล้ว (แต่จริงๆ ถ้าได้ USB 3.2 Gen 2×2 นี่ก็จะดีมาก)
ตัว SSD ที่ HUAWEI เลือกมาใช้ใน HUAWEI MateBook 14s นี่ เป็นแบบความเร็วสูงปรี๊ดอยู่ครับ คือ สามารถอ่านได้ที่ความเร็ว 3.5GB/s และเขียนที่ความเร็วสูงสุด 2.9GB/s กันเลยทีเดียว โดยเลือกใช้เป็น SSD ของ Samsung ครับ เมื่อผมทดสอบความเร็วด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark 8 แล้ว ก็ได้ความเร็วเน้นๆ เต็มประสิทธิภาพดีมาก อันนี้เรียกว่าประทับใจ
ด้านการเชื่อมต่อไร้สาย รองรับ WiFi 6 (802.11ax) เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือคือแค่ถามตัวเองเถอะ ว่าที่บ้านอะ ตัว Wireless Access Point รองรับ WiFi 6 หรือยัง (บ้านผมยังไม่ได้รองรับนะ รออีกหลายๆ ปีค่อยว่ากัน) ตัว HUAWEI MateBook 14s นี่ พร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี WiFi ล่าสุดอยู่แล้วครับ
ที่แอบเสียดายคือ ราคาค่าตัวแตะสี่หมื่นบาทแล้ว ดันให้แรม LPDDR4X มาแค่ 8GB นี่นะสิ
ประสบการณ์ในการใช้งาน HUAWEI MateBook 14s
ประสบการณ์แรกสัมผัสที่สุดเวลาใช้โน้ตบุ๊กคือ น้ำหนักครับ ตัว HUAWEI MateBook 14s หนักราวๆ 1.43 กิโลกรัม ถามว่าจะเรียกว่า เบา หรือ หนัก ดี ก็อยู่ที่ว่าคุณเอาไปเทียบกับอะไร ถ้าผมเอาไปเทียบกะโน้ตบุ๊กจอ 14 นิ้ว เน้นเรื่องการทำงาน น้ำหนัก 1.57 กิโลกรัม ก็ต้องเรียกว่า HUAWEI MateBook 14s ตัวนี้ เบากว่าหน่อยนึงใช่แมะ แต่ถ้าเอาไปเทียบกับโน้ตบุ๊กของภรรยาผม ที่ตอนซื้อเน้นน้ำหนักเบา จอ 13.3 นิ้ว น้ำหนักแค่ 750 กรัม ก็จะรู้สึกว่า 1.43 กิโลกรัมนี่โคตรหนักเลย แต่แน่นอนว่าน้ำหนักที่เบาก็แลกมาด้วยแบตเตอรี่ที่ไม่อึดเลยเช่นกันนะ อันนี้ต้องดูว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ แต่สำหรับผม 1.43 กิโลกรัม ผมไม่มองว่ามันเบามาก หรือหนักอึ้งนะ มันก็ กลางๆ อะ สำหรับโน้ตบุ๊กสเปกและไซส์ประมาณนี้
ถัดมาคือความพร้อมของการเชื่อมต่อ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า HUAWEI MateBook 14s เกือบจะเพียบพร้อมทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB ที่มีมาให้ทั้ง USB-C และ USB-A และไม่ค่อยกั๊กเท่าไหร่ คือ USB-C รองรับ USB 3.2 Gen 2 ส่วน USB-A ก็เป็น USB 3.2 Gen 1 เพียงพอที่จะรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อแทบทุกรูปแบบ มีพอร์ต HDMI เอาไว้เชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอก และหากเป็นจอแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ก็ใช้ USB-C ได้ด้วย ยกเว้นแต่คุณจะอยากได้พอร์ต RJ45 เอาไว้เสียบสาย LAN หรืออยากได้สล็อตอ่าน SD card/MicroSD card นั่นแหละ ถึงอาจจะอยากบ่นที่ HUAWEI ไม่มีมาให้
การชาร์จแบตเตอรี่ ที่รองรับ PD 65 วัตต์ ใช้สาย USB-C ถือว่าโอเค เอาอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊กไปชาร์จแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนต่อได้ (ยกเว้นจะใช้ iPhone กับสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าๆ ที่ยังใช้หัว Micro USB อยู่) แต่ก็เท่ากับว่าเวลาใช้งานจริง พอร์ต USB-C อาจจะหายไปพอร์ตนึง เพราะต้องเอาไว้เสียบสายชาร์จ หรือหาไม่อยากให้พอร์ตหาย ก็ต้องพก USB-C hub ที่รองรับ PD ด้วย ซึ่งราคาแอบแรงนิดๆ คือเป็นหลักพันแหละ
จอแสดงผลขนาด 14.2 นิ้ว สัดส่วน 3:2 ความละเอียดระดับ 2.5K นี่จะเหมาะกับการเสพข้อมูลหรือทำงานเอกสารครับ เพราะพวกเว็บไซต์ต่างๆ และพวกงานเอกสาร จะมีการนำเสนอข้อมูลแบบเลื่อนหน้าจอจากด้านบนลงล่าง และความละเอียดในการแสดงผลที่สูง หากเราปรับ Windows ให้แสดงผลที่ 100% ละก็ เราจะได้พื้นที่ในการแสดงข้อมูลค่อนข้างเยอะมากทีเดียว แต่ตัวอักษรนี้แบบโค-ตะ-ระเล็กเลยจ้า
ในแง่ของการแสดงสีสัน และความคมชัด จอ 2.5K นี่ไม่ทำให้ผิดหวังครับ เอามาดูคลิป 2K, 4K คือคมกริบมาก ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 400 nits นี่ สว่างสะใจมาก แต่ด้วยความที่ตัวหน้าจอเป็นแบบ Touchscreen รองรับสูงสุด 10 จุดพร้อมกัน มันเลยมีหน้าจอเป็นกระจก และเกิดเงาสะท้อนได้ค่อนข้างง่ายมาก นอกจากนี้ การแสดงผลสีดำ ก็เป็นไปตามคาด คือ มันออกเทาๆ แหละ ไม่ดำสนิท แต่อีกจุดนึงที่ HUAWEI เขาชูเป็นจุดขายคือ หน้าจอแสดงผลมันสามารถปรับอัตราการรีเฟรชภาพได้สูงสุด 90Hz เลย และได้รับการรับรอง TÜV Rheinland Low Blue Light (Hardware Solution) Certification คือ ลดแสงสีฟ้าในระดับฮาร์ดแวร์ โดยมีการปรับจูนการแสดงผลให้ไม่เกิดสีเพี้ยนเหมือนที่เราจะเจอเวลาพยายามลดแสงสีฟ้าด้วยซอฟต์แวร์
แป้นพิมพ์ ในฐานะคนชอบใช้ Mechanical keyboard ลองแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแย่ครับ พิมพ์สนุกอยู่ แต่ตัวเครื่องมันไม่มีแป้นไทยมาให้ แต่เขาก็ให้แผ่นซิลิโคนที่สกรีนตัวแป้นไทยมาให้ใช้ปิดทับ เป็นของแบบตรงรุ่นพอดี โอเคมาก สวย และได้ประโยชน์อีกอย่างคือ สามารถกันฝุ่นกันน้ำให้คีย์บอร์ดได้ดีในระดับนึงเลย แกะออกมาทำความสะอาดก็ง่าย
TouchPad ขนาดใหญ่ ผิวสัมผัสเป็นกระจก ใช้งานดี รองรับ Multi-touch gesture ของ Windows 10 และ Windows 11 เต็มรูปแบบ อันนี้ก็ใช้ดี ใช้เพลินอยู่ ตัวปุ่ม Power เป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือในตัว รองรับ Windows Hello ช่วยให้เราสามารถล็อกอินใช้งานโน้ตบุ๊กได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งในฐานะที่ใช้ Windows Hello มาทั้งแบบสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้าด้วยกล้อง IR ก็ต้องบอกว่าผมชอบแบบสแกนลายนิ้วมือมากกว่า ส่วน HUAWEI MateBook 14s นี่ มีมาให้ครบครับ ใครใคร่จะสแกนลายนิ้วมือก็สแกนไป ใครใคร่จะใช้สแกนใบหน้าก็ทำได้ เป็นผม ผมก็เปิดทั้งคู่อะ
ในส่วนของระบบเสียง ลำโพงของ HUAWEI MateBook 14s เสียงดังดี และสามารถเล่นเสียงแหลมและเสียงเบสได้ดีพอสมควร ด้วยลำโพง 4 ตัว เรียกว่าแม้จะไม่ได้พกลำโพงติดตัวไปด้วย ลำโพงของโน้ตบุ๊กตัวนี้ ผสานกับเทคโนโลยี HUAWEI SOUND ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั้งดูหนัง ฟังเพลงแล้วละครับ นอกจากนี้ HUAWEI MateBook 14s ก็ยังมีไมโครโฟนให้มา 4 ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถรับเสียงได้รอบทิศทาง 360 องศา จับเสียงได้ระยะไกลสุดคือ 5 เมตร และมีระบบ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนออก เน้นเสียงพูดของบุคคลให้ชัดเจน เหมาะกับยุคที่เดี๋ยวนี้เอะอะก็ประชุมออนไลน์ แต่ถ้าอยากเสียบลำโพงหรือหูฟังใช้งานมากกว่า เจ้านี่ก็มีทั้งช่องเสียบหูฟังแบบคอมโบ 3.5 มม. และรองรับ Bluetooth 5.1 เลย
HUAWEI เขาอธิบายในเว็บไซต์ว่า MateBook 14s นี่มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนใบพัดลมรูปตัว S แบบครีบฉลามคู่ ดึงอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องได้ดีขึ้น 25% และมีการวางฮีตซิงก์ที่เหมาะสม ช่วยระบายความร้อนได้ดี ผมก็เลยจับมันไปทำ CPU Stress Test ให้วิ่ง 100% ไปพร้อมๆ กับ GPU Stress Test ไปยาวๆ 1 ชั่วโมง แล้วลองเอามือแตะๆ ดูว่าร้อนแค่ไหน ก็พบว่า มันก็ร้อนนิดๆ นะ แต่ไม่ร้อนจัดขนาดแตะไม่ได้ ความร้อนระดับนี้ วางไว้บนตักก็อาจจะไม่ถึงกับรู้สึกอะไรมาก และในชีวิตจริงเราก็ไม่ได้ให้ CPU และ GPU โหดร้ายขนาดนี้ต่อเนื่องนานๆ โดยวางมันไว้บนตักหรอกนะ
และสุดท้าย ลูกเล่นที่เป็นไม้ตายในฐานะโน้ตบุ๊กของ HUAWEI เอง ก็คือการทำงานร่วมกับ Ecosystem ของตัวเอง เช่น การใช้งานร่วมกับ HUAWEI FreeBuds ที่สามารถเชื่อมต่อได้อัตโนมัติเลย ขอแค่เปิดใช้งานใกล้ๆ กัน ก็พร้อมเชื่อมต่อเลย หรือจะใช้ HUAWEI PC Manager ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จำพวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของ HUAWEI เพื่อถ่ายโอนไฟล์ระหว่างกัน หรือใช้จอของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาเป็น Mirror หรือ Extended display ก็ได้ ซึ่งด้วยแบนด์วิธของการเชื่อมต่อไร้สายในปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานแท็บเล็ตเป็น Extended display เพื่อใช้เปิดอ่านข้อมูลเลยแหละครับ (แต่ยังไม่เหมาะกับการเอามาเปิดพวกวิดีโอ หรืออะไรก็ตามที่ต้องการความหน่วงในการแสดงผลที่ต่ำนะ)
และไม้ตายสุดๆ ของ HUAWEI ในตอนนี้ คือความสามารถในการรันแอปของระบบปฏิบัติการ Android ได้ ซึ่งในเครื่องทดสอบเขามีให้ผมลองสองแอป คือ เกม Free Fire และ TikTok ซึ่งสามารถใช้คีย์บอร์ดและ TouchPad ในการควบคุมได้สบายๆ หรือใครจะใช้จอสัมผัสก็ได้ไม่ว่ากัน ในอนาคต HUAWEI จะมี AppGallery ให้รัน เพื่อใช้ดาวน์โหลดแอปสำหรับระบบปฏิบัติการ Android มาติดตั้ง แต่ ณ ตอนนี้ต้องอดใจรอไปก่อน
บทสรุปการรีวิว HUAWEI MateBook 14s
เอาจริงๆ ก็เป็นโน้ตบุ๊กที่ไม่เลวครับ สเปกดี มีจุดขายที่จอความละเอียดสูง 2.5K พร้อมระบบเสียงที่ดี มี Ecosystem ที่หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ของ HUAWEI แล้ว ก็จะเชื่อมต่อกันได้ไหลลื่นมาก แต่ก็แอบเสียดายตรงที่ มันมีคู่แข่งที่น่ากลัวอยู่ เป็นโน้ตบุ๊กที่ราคาถูกกว่าราวๆ 2 พันบาท แต่ได้หน้าจอแสดงผลแบบ OLED 2.8K ที่ขนาดหน้าจอใกล้เคียงกัน สเปกก็พอๆ กัน (แต่ CPU จะเป็นรุ่น Core i5-1135G7 ที่เก่ากว่านิดหน่อย) แต่ได้แรม LPDDR4X 16GB เลยทีเดียว และแม้ Ecosystem จะไม่แข็งเท่าของ HUAWEI แต่ฟีเจอร์อย่างการทำ Extended display แบบไร้สายไปที่แท็บเล็ต เขาก็ทำได้เหมือนกัน (แถมไม่จำกัดยี่ห้อของแท็บเล็ตด้วย) ทำให้ต้องคิดหนักเลยครับ
