สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา แกดเจ็ตนึงที่ขายดีมากคือพวกหูฟังสำหรับใช้ในการประชุมออนไลน์ครับ และแม้สถานการณ์จะคลี่คลายไปเยอะแล้วก็ตาม แต่หลายๆ ออฟฟิศ ก็ปรับตัวเข้ากับชีวิตวิถีใหม่ เริ่มยืดหยุ่นเรื่องการทำงานมากขึ้น การทำงานจากที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น แต่ถ้าใครไม่อยากวุ่นวายที่จะต้องมีหูฟังทำงานชุดนึง หูฟังไว้ดูหนังฟังเพลงอีกชุด อยากแนะนำตัวนี้ครับ EPOS Sennheiser ADAPT 260 ค่าตัว 5,790 บาท เป็นหูฟัง On-ear ที่ดีไซน์สวย ฟีเจอร์ดี และใช้ทำงานก็ได้ ใช้เพื่อความบันเทิงก็ดี
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
หูฟัง EPOS Sennheiser ADAPT 260 ที่รีวิวอยู่นี่ ได้รับความเอื้อเฟื้อจากบริษัท Systems 2000 ส่งมาให้ใช้งาน เพื่อนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันอ่านครับ
ด้วยความที่เป็นหูฟังที่เจาะกลุ่มออฟฟิศ กล่องของ EPOS Sennheiser ADAPT 260 ก็จะไม่แฟนซีมาก สไตล์อุปกรณ์สำนักงานอะ ภายในกล่อง มันจะมีตัวหูฟัง EPOS Sennheiser ADAPT 260 มาให้ พร้อมสาย USB-A to USB-C ความยาวประมาณ 1 เมตร และมี USB dongle (เขาเรียก BTD800) เป็นแบบ USB-A มาให้ (ถ้าอยาก Dongle แบบ USB-C ต้องเป็นรุ่น ADAPT 261) ถุงใส่หูฟัง และคู่มือการใช้งาน Quick guide

ดีไซน์ของหูฟัง EPOS Sennheiser ADAPT 260 เป็นแบบ On-ear คือ แปะไว้บนหู ไม่ได้ครอบเต็มหู ขนาดนั้น ข้อดีคือ หูฟังมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และมีน้ำหนักเบาหน่อย คือ 120.7 กรัม ตัวหูฟังส่วนของ Ear cup สามารถบิดได้ 90 องศา เพื่อเก็บลงในถุงพกใส่ในกระเป๋าได้ ตัวก้านหูฟัง สามารถพับเก็บซ่อนไว้ได้ด้วย

การปรับขนาดของหูฟัง ก็สามารถเลื่อน Ear cup เพื่อปรับให้เหมาะกับขนาดของศีรษะเราได้ ไม่ใช่การเลื่อนเปลี่ยนความยาวของก้านหูฟัง และ Ear cup ก็ถูกออกแบบมาให้ขยับเขยื้อน ให้ตัวได้ประมาณนึง เพื่อให้รองรับแนบสนิทกับใบหูของเรา

ปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ จะอยู่ทางหูฟังด้านที่มีก้านไมโครโฟนนั่นแหละครับ จะประกอบไปด้วย ปุ่มสีม่วงๆ คล้ายๆ สีของไอคอน Microsoft Teams นั่นคือปุ่ม Call control หรือ Microsoft Teams button ครับ เอาไว้กดเพื่อรับสาย วางสาย และเรียกใช้งานโปรแกรม Microsoft Teams ขึ้นมาใช้งาน หรือแม้แต่การกดเพื่อรับสายเข้าจาก Microsoft Teams ได้ด้วย
ถัดมาคือปุ่ม Volume เป็นแบบสวิตช์เลื่อนขึ้น (เพิ่มเสียง) หรือลง (ลดเสียง) และปุ่ม Mute ไมโครโฟน ที่ทำหน้าที่เป็นปุ่ม Power (ตอนที่หูฟังปิดอยู่ กดค้างจนได้ยินคำว่า Power on แล้วปล่อย) และเปิดโหมดจับคู่อุปกรณ์ (ตอนที่หูฟังปิดอยู่ กดค้างเอาไว้จนกว่าจะได้ยินคำว่า Paring ค่อยปล่อย) ด้วย และมีไฟแสดงสถานะ กับพอร์ต USB-C เอาไว้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือชาร์จแบตเตอรี่

ทำไมผมถึงบอกว่าพอร์ต USB-C เอาไว้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์? นั่นก็เพราะว่ามันออกแบบให้ในกรณีที่แบตเตอรี่หมด เราสามารถเอาสาย USB-C มาเสียบ (ที่เป็น Data cable นะ) แล้วต่อกับคอมพิวเตอร์ ใช้งานมันในฐานะหูฟังแบบมีสายแทนก็ได้ครับ

ก้านไมโครโฟน เป็นแบบอ่อน ดัดให้เหมาะสมได้สะดวก ถ้าเรารู้สึกว่าไมโครโฟนมันใกล้ปากมากไป ดัดออกไปห่างๆ หน่อยได้ ตัวก้านสามารถหมุนมาข้างหน้าหรือไปข้างหลังก็ได้ เผื่อสำหรับคนที่ถนัดให้ไมโครโฟนอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา ก็เลือกได้เลย แต่ตอนแรกผมนึกว่าหูฟังมันก็จะสลับสเตริโอซ้ายขวาให้ ป้าด ไม่ปรับให้ซะงั้น แหง่ว 😡😡
ก็ไม่รู้ว่าคนทำเขาคิดยังไงของเขานะ คือ มันสะดวกดีตรงที่เลือกตำแหน่งก้านหูฟังตามที่เราถนัดได้ แต่ถ้าต้องแลกกับการที่เสียงสเตริโอมันสลับข้างนี่ก็ไม่ไหวนะ 😓😓
ลองเอามาใช้งานดูครับ ก็ต้องบอกแบบนี้ฮะ
🟢 คุณภาพเสียงของหูฟัง อยู่ในเกณฑ์ดีเลยแหละ ถ้าเอามาใช้สนทนา ก็มีเทคโนโลยี EPOS Voice ช่วยปรับเสียงของคู่สนทนาให้ชัดเจน เป็นธรรมชาติ ถ้าเอามาใช้ฟังเพลง หูฟังอันนี้ก็ให้เสียงที่ดี ใส ฟังเพลงเพลิน
🟢 ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนภายนอก ทำงานดีมาก คือประชุมออนไลน์กับออฟฟิศ ในขณะที่ภรรยาดูซีรี่ส์จีนทางทีวีอยู่ไม่เกิน 3 เมตร ด้วย หรือตอนเครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ออกมาทำงาน คู่สนทนาผมไม่ได้ยินเสียงอะ แบบนี้ดี เพราะบางทีประชุมไป ทำงานไป ผมพิมพ์ด้วย Mechanical keyboard แบบ Blue switch ด้วย จะได้ไม่ต้องเกรงใจ 🤣🤣
🟢 บลูทูธ 5.2 Class 1 เชื่อมต่อได้รวดเร็ว และไกลมาก ถ้าที่โล่งๆ คือสัญญาณไปได้ไกลแบบ 25-30 เมตรสบายๆ แต่ใครจะเดินคุยไกลขนาดนั้นฟะ 🤣🤣 และสามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน โดยอีกตัวเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth Dongle (BTD800)
🟢 แบตเตอรี่อึดมาก เอาไว้ฟังเพลงได้สูงสุด 27 ชั่วโมง และสนทนาได้สูงสุด 23 ชั่วโมง เอาให้ตายกันไปข้างนึง 🤣🤣
🟢 น้ำหนักเบา ใส่สบาย พกพาสะดวก ก้านไมโครโฟนที่พับเก็บ มันซ่อนมิดชิดดี เผื่อกะว่าจะใช้ในฐานะหูฟัง เพื่อฟังเพลง ดูหนัง มันก็จะไม่ดูเป็นพนักงาน Call center ดังนั้น ต่อให้ต้องพกไปใช้ฟังเพลงนอกสถานที่ก็โอเค
แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีข้อให้ตินะ ผมว่า
🔴 ความเป็น On-ear มันครอบแปะหู สวมแล้วแอบร้อนหูอะ
🔴 ก้านไมโครโฟนมันถูกซ่อนอยู่ด้านในของหูฟัง มันเลยแอบติดหัวกับใบหน้าเราพอสมควร เวลาจะกางออกมาคุยมันแอบปาดหน้าเรานิดๆ และตอนพับเก็บขณะที่สวมหูฟังอยู่ บางทีมันไปหนีบเส้นผมอ้ะ คนผมสั้นไม่ค่อยมีปัญหา คนผมยาวๆ บางทีก็หงุดหงิด
🔴 ก้านไมโครโฟนพับเพื่อสลับได้ว่าอยากให้ไมโครโฟนอยู่ด้านขวาหรือด้านซ้าย แต่หูฟังสเตริโอดันไม่สลับซ้ายขวาให้ซะงั้น และไปรับแต่งเองก็ไม่ได้ด้วย แต่คนใช้ Windows พอมีวิธีนะ มันมีซอฟต์แวร์ชื่อ Equalizer APO ที่มีฟิลเตอร์ให้เราสลับ Audio channel ได้ ไปดูวิธีการตั้งค่าได้จาก YouTube

ส่วนการปรับตั้งค่าอื่นๆ สามารถทำได้แบบไร้สาย ผ่านโปรแกรม EPOS Connect ที่มีทั้งเวอร์ชัน Windows, macOS, iOS และ Android เลยครับ แต่โดยหลักๆ ผมว่าไม่จำเป็นต้องไปตั้งค่าอะไรมันหรอก แต่ควรติดตั้งโปรแกรมนี้ไว้ เพื่ออัปเดตเฟิร์มแวร์ของทั้งตัว Bluetooth dongle และหูฟังครับ
บทสรุปการรีวิวหูฟังไร้สาย EPOS Sennheiser ADAPT 260
ในฐานะหูฟัง ราคา 5,790 บาท สำหรับคนทั่วไปก็ต้องเรียกว่าราคาสูงอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าสำหรับคนทำงาน ต้องการหูฟังคุณภาพดีสำหรับใช้สนทนาหรือประชุมออนไลน์ ราคานี่ก็ไม่เรียกว่าสูงมากครับ พวกหูฟังพรีเมียมของสายนี้ราคาเป็นหมื่นกัน ฟีเจอร์ที่ให้มา ทั้งเรื่องปรับเสียงสนทนาให้ฟังชัด หรือไมโครโฟนตัดเสียงที่ทำได้ดีมาก แถมสัญญาณ Bluetooth 5.2 Class 1 ให้ระยะทางการเชื่อมต่อที่ไกล คือมันดีมาก ตอน Work from Home นี่คือประชุมไป เดินไปรอบบ้านได้สบายๆ ต่อให้บ้านมี 3 ชั้นอะ ทะลุทะลวงดีอยู่ครับ
ถ้าสนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น หรืออยากซื้อออนไลน์ ไปที่เว็บไซต์ของบริษัท Systems 2000 ได้เลย หรือถ้ารีวิวของผมยังไม่พอ ดูรีวิวจของ Systems 2000 ที่เขามีทดสอบเรื่องการตัดเสียงรบกวน และระยะทางในการเชื่อมต่อด้วยได้ฮะ