Home>>รีวิว>>รื้อของเก่า เล่าความหลัง … ภาคแรก
Microsoft Surface RT, Microsoft Lumia 950, Nokia Lumia 1020, Samsung Galaxy K Zoom, Dell Streak 5
รีวิว

รื้อของเก่า เล่าความหลัง … ภาคแรก

วันนี้วันหยุด เลยถือโอกาสจัดของต่างๆ ในห้องที่รกๆ ให้มันรกน้อยลงไปได้ 10% แล้วก็ถือโอกาสหยิบพวกสมาร์ทโฟนเก่าๆ ที่เก็บเอาไว้ ไม่ได้ให้ใคร ไม่ได้ขายต่อ เพราะรู้สึกเสียดายด้วยเหตุผลต่างๆ มาดู ก็เออ จะว่าไปมันก็มีประวัติของมันอยู่ไม่น้อยเลยนะ เลยขอหยิบมาเขียนบ่นๆ ไว้เผื่อเก็บไว้ดูในภายหลังตรงนี้ก็แล้วกัน

Dell Streak 5 สมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้ว รุ่นแรกของโลก

ผมได้เครื่องนี้มาตอนร่วมงานกับ Dell เพื่อเป็น Influencer ในการเปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวนี้ และรีวิวด้วย ตอนนั้นรุ่นนี้มีให้เลือกสองสี คือ ดำและแดง ผมก็เลือกแดงเลยครับ จริงๆ สีมันจะแดงเป็นมันวาว แต่ผมไปเคลือบสติกเกอร์ไว้ เพราะกลัวมันเป็นรอย เนื่องจากบอดี้ของมันเป็นพลาสติกครับ แต่ฝาปิดด้านหลังเป็นโลหะ มันแปลกใหม่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนในยุคนั้น แถมตัวนี้มีความโดดเด่นตรงที่เป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ขนาด 5 นิ้ว รุ่นแรกของโลกด้วย ตอนนั้น Samsung Galaxy Note ยังไม่เปิดตัวเลย (Dell Streak 5 เปิดตัว พฤษภาคม 2553 ส่วน Samsung Galaxy Note รุ่นแรกเปิดตัว พฤศจิกายน 2554)

ด้านหลังของสมาร์ทโฟน Dell Streak 5 สีแดง

เอาจริงๆ Dell มองเทรนด์ไม่ผิดนะครับ ในขณะที่ สตีฟ จ๊อบส์ บอกว่าสมาร์ทโฟนจอ 3.5 นิ้วนี่ถือว่าใหญ่มากแล้ว เมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือสมัยก่อน แต่คนเราก็อยากได้จอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (ไม่แปลกที่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนจะจอ 6 นิ้วซะเป็นส่วนใหญ่แล้ว) เพียงแต่ว่าน่าเสียดายตรงที่ Dell ไม่ใส่ใจเรื่องการปรับแต่ง UI ให้มีเอกลักษณ์และใช้งานได้ง่าย สุดท้ายก็เป็น Samsung Galaxy Note ที่นำสมาร์ทโฟนไปสู่ยุคจอใหญ่

แต่จริงๆ ต้องขอบอกว่าคุณภาพของฮาร์ดแวร์ของ Dell คือดีงามมากนะครับ เพราะจนถึงปี 2564 นี้ (11 ปีแล้ว) เจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้ก็ยังทำงานได้ (แบบที่รู้สึกว่าหน่วงมาก เพราะประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ก็รู้ๆ กันอยู่) และแบตเตอรี่ก็ยังดูดีอยู่เลย ไม่บวมด้วย สมาร์ทโฟนในยุคแรกๆ นี้ ยังสามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ครับ

Samsung Galaxy K Zoom สมาร์ทโฟนที่ติดกล้อง Compact ไว้ในตัว

สมาร์ทโฟนเขาเริ่มแข่งขันกันที่กล้องดิจิทัลมาหลายปีแล้ว และมีช่วงนึงที่ Samsung เขาก็พยายามแหวกแนวด้วยการที่ออกแบบให้สมาร์ทโฟนมีกล้องในระดับ กล้อง Compact เลย เป็นความพยายามต่อเนื่องมาจาก Samsung Galaxy Camera (พ.ศ. 2555) ที่เป็นกล้องดิจิทัลที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ ในยุคนั้น (ผมก็เคยมีรุ่นนี้ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว) และตามมาด้วย Samsung Galaxy S4 Zoom (พ.ศ. 2556) กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดย Samsung Galaxy K Zoom นี่ออกปี 2557 พร้อมๆ กับ Samsung Galaxy S5 เป็นรุ่นที่บอดี้เป็นพลาสติก แต่ว่ามีสีสันสวยงามมาก บอกตรงๆ ผมก็ยังอยากได้สมาร์ทโฟนที่มีสีนี้อยู่ แต่ก็เข้าใจนะว่าพอวัสดุที่ใช้ทำบอดี้เป็นอลูมิเนียมแล้ว จะทำสีแบบนี้มันก็ยากอะนะ

ด้านหลังของ Samsung Galaxy K Zoom สีฟ้า

ความโดดเด่นของ Samsung Galaxy K Zoom คือ กล้องดิจิทัลความละเอียด 20 ล้านพิกเซลกันไปเลย แล้วมาพร้อมกับเลนส์ซูมออปติคอล ไอ้ที่เห็นในรูปอะ เลนส์มันซูม ยืดออกมาได้ เหมือนกล้อง Compact เลยฮะ ซึ่งสมัยนั้นไม่มีอะไรที่ซูมได้ขนาดนี้ครับ เซ็นเซอร์ของกล้องก็ใหญ่มาก ดังนั้นคุณภาพของภาพถ่ายเนี่ย ถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับ

แต่ก็น่าเสียดายด้วยข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์สมัยนั้นที่ประสิทธิภาพไม่ได้สูงมาก หน่วยความจำก็แค่ 2GB และมีความจุในตัวเครื่องแค่ 8GB ยังดีว่าสามารถใส่ MicroSD card เพิ่มความจุได้ และสามารถตั้งค่าให้กล้องมันไปเก็บภาพไว้ที่ตัว MicroSD card ได้ แต่ครั้นเมื่อฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงขึ้น แนวทางในการแข่งขันเรื่องกล้องดิจิทัลของสมาร์ทโฟนมันก็เปลี่ยนไป กลายมาเป็นการใส่กล้องดิจิทัลเข้าไปหลายๆ ตัว แล้วแต่ละตัวก็ทำหน้าที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเลนส์มุมกว้าง เลนส์เทเล เลนส์มุมกว้างพิเศษ เลนส์มาโคร อะไรพวกนี้ หมดยุคของการใช้กล้องเลนส์เดียวแล้ว Samsung Galaxy K Zoom นี่ก็เลยไม่มีภาคต่อ

เครื่องนี้ผมซื้อแบตเตอรี่มาเปลี่ยนแล้ว เพราะของเก่าแบตเตอรี่บวม แต่สุดท้าย พอไม่ได้ใช้งานมันนานๆ แบตเตอรี่ที่ซื้อมาก็บวมไปอีกตัวเรียบร้อยจ้า

Nokia 1020 ยุคตกอับของโนเกีย

ผมอะ ซื้อตัวนี้มาด้วยความคาดหวังสองเรื่อง คือ อยากมีสมาร์ทโฟนให้ครบๆ ระบบปฏิบัติการ ผมมี iPhone และ Android ก็ใช้อยู่ประจำ ก็อยากได้ Windows Mobile ด้วย และเขามีแนวโน้มว่า Nokia 1020 ตัวเนี้ย ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2556 จะได้อัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 ด้วย (Windows Mobile รุ่นก่อนหน้า มีข้อจำกัดเยอะ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่รองรับภาษาไทย เพิ่งมาโอเคตอน Windows Mobile 8) นอกจากนี้ เจ้านี่ยังมีจุดเด่นตรงที่กล้องดิจิทัลมีความละเอียดสูง 41 ล้านพิกเซล ซึ่งเรียกว่าสูงสุดในสมัยนั้นเลย ทำให้สามารถทำซูม 3x ได้โดยไม่ต้องเป็น Optical zoom เพราะมันถ่ายภาพ 41 ล้านพิกเซล แล้วใช้เทคโนโลยี PureView ของ Nokia ในการทำ Digital zoom ภาพให้เหลือ 8 ล้านพิกเซล โดยไม่เสียคุณภาพไปได้

ด้านหน้าของ Nokia Lumia 1020 สีขาว

แต่แล้วก็อย่างที่รู้กัน ความร่วมมือของ Nokia ที่พยายามจะกลับมาครองบัลลังก์สมาร์ทโฟนอีกครั้ง โดยไม่กะจะไปพึ่งพาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กับ Microsoft ที่อยากชิงพื้นที่ส่วนแบ่งของตลาดสมาร์ทโฟนบ้าง เพราะแม้จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วย Windows Pocket PC Edition แต่การมาของระบบปฏิบัติการ iOS กับ Android ก็ทำให้ Windows Mobile ตกกระป๋องไป สุดท้ายมันก็ไปไม่รอดทั้งคู่ เพราะมันเหมือนกับคนตาบอดจูงคนตาบอดอะ ต่างฝ่ายต่างเคยยิ่งใหญ่กันมาก่อนในอดีต แต่ความสำเร็จในอดีตนั้นมันไม่การันตีผลสำเร็จในอนาคตครับ

สุดท้าย Microsoft ก็แจกแพให้ Nokia Lumia 1020 คือ ได้ลงแต่เวอร์ชันเบต้า แต่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ของสมาร์ทโฟนที่สามารถอัปเกรดไปเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ครับ

Microsoft Lumia 950 แพลำใหญ่ของ Microsoft เขาเลยแหละ

Nokia ไปไม่รอด ขายธุรกิจส่วนของสมาร์ทโฟนให้ Microsoft ไปทำต่อ เพราะ Microsoft ยังไม่ยอมแพ้ ยักษ์ใหญ่สายป่านยาวยังพร้อมจะลุยต่อ (ส่วนนึงคงเพราะ Microsoft Surface ดูจะไปได้สวยด้วย) ผมก็ให้โอกาสนะ ก็อุตส่าห์ไปซื้อ Microsoft Lumia 950 มา เพราะเป็นรุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และก็ซื้อได้หมื่นต้นๆ (แต่กว่าจะได้ราคานี้ ต้องไปไฝว้กับ IT City ที่เป็น Official Store ที่ขายรุ่นนี้บน Lazada เพราะมีประเด็นเรื่องกดสั่งไปแล้ว โดนยกเลิกออเดอร์โดยอ้างว่าของหมด)

ด้านหน้าของ Microsoft Lumia 950 สีดำ

เอาจริงๆ สมาร์ทโฟนที่รันระบบปฏิบัติการ Windows 10 อย่าง Microsoft Lumia 950 นี่แบบ ลื่นปรื๊ดมาก ดีงามเหอะ ดีไซน์ User Interface แบบ Minimal และคล้ายกับตัวระบบปฏิบัติการ Windows ที่เราใช้กับบนเครื่อง PC ทำให้เราคุ้นเคยได้ไม่ยาก ตามแนวคิดของ Microsoft ช่วงนั้นเลย ที่กะว่าจะให้เป็น One OS คือ หนึ่งระบบปฏิบัติการบนทุกอุปกรณ์

แต่คีย์บอร์ดพิมพ์ยากมาก ไม่ค่อยถนัด และข้อจำกัดในเรื่องของแอปที่ไม่ค่อยมีใครมาพัฒนาให้ซักเท่าไหร่ คงด้วยเหตุผลว่า ดีไซน์ของ User Interface ของแอปที่จะรันบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 เนี่ย มันแตกต่างจากที่จะรันบน iOS และ Android เยอะไปมาก และยอดขายของสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่จิ๊บจ้อยขี้ปะติ๋วมาก นักพัฒนาก็ไม่อยากจะเข้ามาเสียเวลาทำ และ Microsoft ก็ดูเหมือนจะไม่กระตือรือร้นในการสนับสนุนให้นักพัฒนามาพัฒนาแอปบนนี้เลย สุดท้าย ความฝันในการกลับมาชิงตลาดสมาร์ทโฟนของ Microsoft ด้วยระบบปฏิบัติการของตัวเองก็จบไป … ตอนนี้ขนาดจะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ก็ยังลูกผีลูกคนอยู่เลย

Microsoft Surface RT แท็บเล็ตตัวแรกที่ Microsoft ทำ

Tablet PC ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีคนทำโน้ตบุ๊กที่เป็นหน้าจอสัมผัส และพับจอให้กลายเป็นแท็บเล็ตได้มานานแล้ว แต่มันใหญ่ เทอะทะ หนัก และแดกแบตเตอรี่มากๆ แล้วไม่ค่อยพร้อมจะทำงานซักเท่าไหร่ ผิดกับ iPad จากค่าย Apple อย่างมาก และ Microsoft ก็รู้สึกว่า งวดนี้จะชักช้าในการลุยตลาดไม่ได้แล้ว ไม่งั้นจะเป็นเหมือนกับตลาดสมาร์ทโฟนยุคใหม่ เดือนสิงหาคม 2556 Microsoft เลยเปิดตัว Surface RT ที่เป็นแท็บเล็ตใช้หน่วยประมวลผล nVidia Tegra 3 มาพร้อมกับหน่วยความจำ 2GB และความจุ 32GB หรือ 64GB และใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 RT (และภายหลังอัปเดตเป็น 8.1 RT)

ด้านหน้าของ Microsoft Surface RT

ในแง่ของดีไซน์ของฮาร์ดแวร์ ทำได้ดีมาก หน้าจอใหญ่ 10.1 นิ้ว แบบจอสัมผัส รองรับ Multi-touch และมี Kickstand ในตัว เมื่อใช้คู่กับ Microsoft Surface Keyboard แล้ว ก็จะได้เป็นโน้ตบุ๊กขนาดย่อมๆ เราดีๆ นี่เอง มันดูดีมาก ตอนผมซื้อมาจำได้เลยว่าฝากเพื่อนหิ้วมาจากอเมริกาให้ โดนไป 21,xxx บาท

สุดท้าย โดน Microsoft ลอยแพจ้า เพราะมันจบลงด้วยการที่มีข้อจำกัดในการติดตั้งแอป ซึ่ง Microsoft Store ในยุคนั้นไปไม่รอด (ยุคนี้ก็ยังกะท่อนกะแท่นอยู่) เพราะด้วยความที่หน่วยประมวลผลมันเปลี่ยนจากสถาปัตยกรรม x86/x64 มาเป็น ARM แล้วมีข้อจำกัดในเรื่องการติดตั้งแอปว่าต้องผ่าน Microsoft Store จะทำ Side loading ไม่ได้แล้ว (หมายถึง ติดตั้งด้วยไฟล์ .exe หรือ .msi ไม่ได้) และมีข้อจำกัดเรื่องการออกแบบ User Interface ของโปรแกรมอีก ส่งผลให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร และ Microsoft ก็ดันออก Microsoft Surface Pro 1 ออกมาอีก คนก็เฮโลไปใช้ Microsoft Surface Pro 1 กันสิครับ ไม่มีข้อจำกัดเหมือนรุ่น RT นี่นา

สุดท้าย Microsoft Surface RT ก็มาจบที่ Microsoft Surface 2 ก็โดนลอยแพคู่จ้า แต่ก็นับว่าเป็นก้าวแรกที่ดีของ Microsoft Surface Pro อยู่นะ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า