ตอนที่ HUAWEI เขาเปิดตัว HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ไปเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เขามีเปิดตัวรุ่น MatePad 11 พร้อมๆ กันด้วย โดยรุ่น 11 นิ้วเนี่ย เขากะวางให้เป็นรุ่นราคาประหยัดครับ พอผมได้ HUAWEI MatePad 11 มารีวิว ก็ชวนให้ฉงนว่า เอ๊ะ แล้วเทียบกับ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch เนี่ย มันแตกต่างกันมากขนาดไหน แล้วถ้าจะเลือก เลือกตัวไหนดี เพราะเหตุใด รีวิวนี้เลยเป็นการหาคำตอบของผมครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
HUAWEI MatePad 11 ตัวที่ได้มารีวิวครั้งนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อมาจาก HUAWEI Thailand ครับ แต่คราวนี้เขาให้มาครบเซ็ตเลย คือ มี Smart magnetic keyboard กับ M-Pencil 2 มาด้วย แล้วก็ให้ HUAWEI MateBook 14 (รุ่น CPU Intel Gen 11th) มาใช้ด้วย เพื่อลองใช้ฟีเจอร์ HUAWE Share ดู ฉะนั้นงวดนี้ก็คิดว่าน่าจะรีวิวได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยหน่อย และกะว่าจะใส่ความเห็นเมื่อเทียบกับ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ที่ผมใช้อยู่ไปด้วยเลย
ในแพ็กเกจของ HUAWEI MatePad 11 ประกอบไปด้วยตัวแท็บเล็ต HUAWEI MatePad 11 สายชาร์จ USB-A to USB-C ความยาว 1 เมตร ตัวจิ้มสำหรับถอดถาดใส่ MicroSD card แล้วก็แท่นชาร์จแบบ 22.5 วัตต์ โดยรวมแล้ว ของที่แถมมาให้ในกล่อง ก็เหมือนๆ กับของที่เราจะได้ตอนซื้อ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch เลยครับ

แม้ว่าจะเรียกว่าเป็นรุ่น MatePad 11 ที่สื่อให้เห็นว่าหน้าจอน่าจะมีขนาด 11 นิ้ว แต่ในความเป็นจริง หน้าจอแสดงของรุ่นนี้เป็นขนาด 10.95 นิ้วครับ ปัดเศษขึ้นจึ๋งนึงก็เป็น 11 นิ้วพอดีแหละ หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล ส่วนส่วนการแสดงผล 16:10 เหมือนกับ MatePad Pro 10.8-inch ครับ แต่ว่ารุ่นนี้จะขอบจอหนากว่านิดหน่อย มีพื้นที่การแสดงผลเทียบกับตัวเครื่อง 86% (ส่วนของ MatePad Pro 10.8-inch คือ 90% ห่างกันจึ๋งเดียว) กล้องเซลฟี่ด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล อยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางหน้าจอด้านบน เวลาที่ใช้งานแนวนอน เหมือนกล้องเว็บแคมของโน้ตบุ๊ก ไม่ไปกินเนื้อที่หน้าจอเหมือนรุ่น Pro 10.8-inch

ด้านหลังเรียบๆ มีกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/1.8 พร้อม LED แฟลช กับมีรูไมโครโฟน ตรงส่วนของเลนส์กล้องนี่จะแอบยืดๆ ยาวๆ กว่าของรุ่น Pro 10.8-inch แต่อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแตกต่าง
ถาดใส่เมมโมรีการ์ด ด้านใต้ของเครื่อง มีพอร์ต USB-C และลำโพง มุมบนด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่ม Power, ปุ่ม Volume และรูไมโครโฟน
รอบๆ ตัวก็เหมือนๆ กับครับ มีปุ่มเปิดปิด ปุ่มปรับระดับเสียง มีถาดใส่เมมโมรีการ์ดที่งวดนี้รองรับ MicroSD card แทนที่จะเป็นนาโนเมมโมรีที่เป็นของ HUAWEI โดยเฉพาะ ซึ่งทำให้เราสะดวกที่จะซื้อหามาใช้มากกว่า และราคาถูกกว่าด้วยง่ะ เมื่อเทียบที่ความจุเท่ากัน ลำโพงก็มี 4 จุดเหมือนกัน แต่ความแตกต่างคือ รูไมโครโฟนของรุ่น MatePad 11 จะไปกระจุก 3 ตัวตรงบริเวณใกล้ๆ ปุ่มปรับระดับเสียง และมีอีกตัวอยู่ตรงใต้แฟลชกล้อง (ถ้าเป็นรุ่น Pro 10.8-inch จะมีไมโครโฟน 4 ตัวกระจายอยู่ตรงด้านข้างตลอดแนวตัวเครื่องฝั่งปุ่มปรับระดับเสียง และมีไมโครโฟนอีกตัวตรงใต้แฟลชกล้อง ซึ่งจะบันทึกเสียงได้ค่อนข้างดีกว่า)
ในภาพรวม ก็เป็นแท็บเล็ตขนาดจอประมาณ 11 นิ้วแหละ ใหญ่กว่าตัว Pro 10.8-inch อยู่นิดหย่อย ในระดับมิลลิเมตร ไม่ได้ใหญ่กว่ากันมาก แต่ก็ออกตัวไว้ก่อนได้เลยว่า Smart magnetic keyboard ใช้ร่วมกันไม่ได้นะฮะ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ไหนๆ ก็ทำออกมาจนเกือบจะเรียกว่า MatePad 11 เป็นรุ่นประหยัดของ MatePad Pro 10.8-inch แล้ว ทำไมไม่ทำให้บอดี้มันเหมือนกัน (หรือจริงๆ ก็ให้ขนาดหน้าจอเท่ากันไปเลย) เพื่อจะได้ใช้อุปกรณ์เสริมเหมือนกันไปได้ฟะ แง่งๆ
มาพูดถึงประสบการณ์ในการใช้งาน HUAWEI MatePad 11 บ้าง
สเปกโดยรวม HUAWEI MatePad 11 ตัวนี้ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ไม่เรียกว่าใหม่สุด แต่ก็ไม่ได้เก่าอะไร เป็นอะไรที่สมาร์ทโฟนตัวเรือธงใช้กันอยู่ปีก่อน มาพร้อมกับแรม 6GB และความจุ 128GB ที่เอามาใช้จริงจะเหลือประมาณ 88GB ครับ แต่สามารถเรียกเนื้อที่คืนได้เยอะอยู่ถ้าเราลบแอปที่เขา Pre-install มาให้แต่เราไม่ได้ใช้ ออกไปให้หมด ผมลองเอาไอ้ที่ผมไม่ค่อยได้ใช้ออกไปทั้งหมด ยันพวกเกมต่างๆ ที่ไม่ได้เล่น ได้เนื้อที่คืนมา 16GB!!!!!

มองในแง่ดี การมี Pre-install มาให้ก็สะดวกครับ หลายๆ แอปก็เป็นแอปที่คนไทยนิยมใช้อยู่แล้ว เช่น แอปช้อปปิ้งต่างๆ หรือพวกแอปเพื่อความบันเทิงอย่าง LINE TV หรือ JOOX อะไรแบบนี้ นอกจากนี้ แอปในโฟลเดอร์พวก Note, Drawing และ Create สำหรับคนที่ซื้อมาพร้อม M-Pencil 2 แล้วกะจะขีดๆ เขียนๆ ก็จะช่วยให้ไม่ต้องคิดเยอะว่าจะมีแอปอะไรให้ใช้บ้าง เผื่อเราไม่ค่อยรู้จักแอป … แต่สำหรับผม ที่ไม่ค่อยได้ใช้แอปพวกนี้ ลำบากมากครับเวลาต้องไล่ลบออกทีละอัน
แต่ก็นะ เป็นแบบนี้ตั้งกะ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch กับ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch แล้วอะนะ
HUAWEI MatePad 11 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2 ซึ่งมีอัปเดต Security patch ล่าสุด (ณ ตอนที่เขียนบล็อกอยู่) คือเดือนมิถุนายน 2021 แอบช้าไปหน่อยแฮะ เพราะรุ่น Pro 10.8-inch เขามีอัปเดตเป็น กรกฎาคม 2021 แล้ว แต่ดูแล้ว ก็คงเหลือแค่รอให้อัปเดตมันมาแหละ ในระยะยาวก็น่าสนใจว่า HUAWEI จะมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน
HUAWEI เลือกใช้สื่อบันทึกข้อมูลที่ค่อนข้างเร็วสำหรับ HUAWEI MatePad 11 ผมลองทดสอบแล้ว ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลอยู่ที่อ่าน 1.1GB/s เขียน 317MB/s ถือว่าเร็วพอสมควรทีเดียว ผมลองไปเทียบกับสมาร์ทโฟนค่ายคู่แข่งบางราย ที่ราคาค่าตัวอยู่ในช่วง 15,xxx – 16,xxx แล้ว พวกนั้นอ่านและเขียนแถวๆ 300-400MB/s กันครับ เรียกว่า HUAWEI ใจป้ำ และนี่ก็เร็วพอๆ กับรุ่น MatePad Pro 10.8-inch ด้วยนะ แต่ความเร็วในการเขียน รุ่น Pro มันเร็วกว่า
แต่โดยรวมอะ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าประสบการณ์ในการใช้งานในฐานะแท็บเล็ตทั่วไปมันแย่แต่อย่างใด
กลับมาที่ประสบการณ์ในการใช้งานแท็บเล็ตที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่ไม่มี Google Mobile Services อีกเช่นเคย เป็นข้ออาภัพของ HUAWEI อย่างมาก แต่ในฐานะคนที่ใช้ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch มาพักใหญ่ๆ ก็ต้องบอกว่า ราวๆ 90% นี่ สามารถหาอะไรมาชดเชยได้หมดครับ คือ
• แอปที่คนไทยนิยมใช้หลายๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นแชท ช้อป หรือแม้แต่แอปธนาคารและเป๋าตัง ทาง HUAWEI ก็มีเตรียมไว้ให้ใน AppGallery หมดแล้ว
• ส่วนแอปยอดนิยมของชาวโลก แทบทั้งหมดก็สามารถไปหาดาวน์โหลดมาได้จากบริการ 3rd party app store อย่างเช่น APKPure ที่ผมก็ใช้งานอยู่
• Microsoft account ก็สามารถมาทดแทน Google account ได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นอีเมล (ผ่าน Outlook.com) เนื้อที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ (OneDrive) พวก Contact ก็ไปเชื่อมต่อกับ Outlook ได้ ใครยังมี Gmail ก็เปลี่ยน Email client เป็นแอป Outlook ก็จบแล้ว
จริงๆ Huawei ก็มี Ecosystem นะ
หลังจากโดนอเมริกาสกัดดาวรุ่ง HUAWEI เขาก็พยายามสร้าง Ecosystem ของตัวเองนะ เป็น HUAWEI Mobile Services (HMS) มี HUAWEI Cloud เป็นของตัวเอง ให้ฟรี 5GB และอยากได้เนื้อที่เพิ่มก็เสียตังค์เอา ก็ไม่แพงมาก ราคาก็พอๆ กับ Google Drive นั่นแหละ แต่คนจะยังไม่คุ้นเคยซักเท่าไหร่
• เบราว์เซอร์ที่มากับ HUAWEI MatePad 11 อะ ไม่ได้แย่นะ แต่มันจะมีปัญหาในการเปิดเว็บบางเว็บ โดยเฉพาะของ Google ทางแก้ก็ง่ายๆ ไปดาวน์โหลด Microsoft Edge มาใช้ได้เลยครับ คนที่เคยตัวกับการซิงก์พวก Bookmark, Password manager หรือ Browse history ทั้งหลายแหล่ ถ้าเปลี่ยนมาใช้ Microsoft Account และ Microsoft Edge ก็เหมือนกับเราใช้ Google Account กับ Google Chrome นั่นแหละ สบาย
• YouTube เราก็มีตัวเลือกคือ Pure Tuber ครับ สามารถล็อกอินแล้วเขาถึงพวกช่องที่เราสับตะไคร้เอาไว้ หรือวิดีโอที่เราเซฟเป็น Watch later เอาไว้ได้หมดแหละ

• ถ้าต้องการใช้งานแผนที่ ก็มี Petal Map ให้ใช้ แผนที่ตัวนี้ได้รางวัล Red Dot 2021 ด้วยนะ รองรับภาษาไทยแล้วด้วย แต่ยังมีข้อจำกัดตรง Point of Interest (POI) ที่ยังไม่เยอะ พวกร้านอาหารหลายที่ผมรู้จัก เช่น แห้วซีฟู้ด เอเชียหัวปลาหม้อไฟ นี่ก็ไม่มีใน Petal Map แถมมาเจอ เซ็นทรัสพระราม 2 แปลกๆ อีก อันนี้คงต้องรอให้มีคนใช้เยอะๆ แล้วช่วยกันรายงานและเพิ่ม POI กันครับ

และเช่นเคย เมื่อใช้งานกับ Ecosystem ของ HUAWEI แล้ว HUAWEI MatePad 11 ก็จะเป็นได้มากกว่าแค่แท็บเล็ตครับ คือ สามารถใช้เป็นจอแสดงผลภายนอกที่เชื่อมต่อกับพวกโน้ตบุ๊กหรือพีซีของ HUAWEI ได้ ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายเลย เพราะ HUAWEI เขาจะมีแอปให้ใช้สตรีมภาพมาจากคอมพิวเตอร์มาบนแท็บเล็ตนี้ โดยเลือกโหมดการแสดงผลได้ทั้งแบบ Duplicate และ Extended desktop ด้วย และในขณะที่ใช้งานเป็นจออยู่นั้น ตัว HUAWEI MatePad 11 จะทำหน้าที่เป็นจอสัมผัสครับ และเมื่อใช้คู่กับ M-Pencil 2 ก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็นกระดานวาดรูปได้ด้วย ดีงามมาก
ใส่อุปกรณ์เสริมเข้าไปซักหน่อย ทั้ง Smart magnetic keyboard และ M-Pencil 2
ถ้าเราซื้อ HUAWEI MatePad 11 ในช่วงเปิดตัว เขาจะแถม Smart magnetic keyboard มูลค่า 5,290 บาทมาให้ด้วย ส่วน M-Pencil 2 เนี่ย อยู่ที่ว่าเราจะซื้อรุ่นไหน ถ้าเป็นสี Isle Blue ก็จะเป็นแบบไม่มี M-Pencil 2 แต่ราคาจะ 15,990 บาท แต่หากซื้อสี Matte Grey มันจะมี M-Pencil 2 ใส่มาให้ในกล่องด้วย ก็ราคา 19,990 บาท (สรุปคือ ไม่ได้แถม M-Pencil 2 นั่นเอง)

แน่นอนว่าเมื่อใส่ Smart magnetic keyboard แล้ว ความรู้สึกก็จะเปลี่ยนไปเลยครับ น้ำหนักรวมจะเพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัด และความหนาก็เพิ่มขึ้นพอสมควรเช่นกัน แต่ก็แลกมาด้วยการที่เราได้แป้นพิมพ์แบบพิมพ์สะดวกๆ เลย สามารถวางแท็บเล็ตใช้งานในแบบโน้ตบุ๊กได้ หน้าจอทำมุมได้สองระดับ สำหรับวางใช้งานบนตักและวางบนโต๊ะนะผมว่า แป้นพิมพ์ไม่แน่ใจว่าจะมีสกรีนภาษาไทยไหม แต่ตัวที่ผมได้มารีวิวอะ เป็นแบบสกรีนภาษาอังกฤษอย่างเดียว เสียดายตรงที่มันก็ไม่มี TouchPad ให้ใช้ ด้วยข้อจำกัดของเนื้อที่ที่หายไปเพราะต้องเอาไว้ใช้วางตัวเครื่องแท็บเล็ต แนะนำให้ใช้รวมกับเมาส์ไร้สายขนาดกะทัดรัดพกสะดวกครับ อย่างของผม ผมลองกับ CheerPod ที่ผมแบ็กมาจาก Indiegogo เมื่อปีก่อนครับ ส่วนการใช้งานแป้นพิมพ์เนี่ย ผมคิดว่าโอเคนะ พิมพ์คล่องดี แต่อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับปุ่มเปลี่ยนภาษาของคีย์บอร์ด ที่ผมใช้ Gboard แล้ว มันให้ใช้ปุ่ม Ctrl + Space ครับ

ส่วน M-Pencil 2 นี่ ไม่ผิดหวัง ลองใช้กับหลายๆ รุ่นแล้ว ก็คุ้นเคยดีกับความสามารถในการตรวจจับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ถ้าใช้กับแอปที่รองรับนี่คือ วาดรูปได้แจ่มๆ เลยแหละครับ หรือจะเอาไปใช้จดโน้ตต่างๆ ก็ดีงามเช่นเดียวกัน และแน่นอน ออกแบบมาให้สามารถแปะ M-Pencil 2 ติดกับตัวเครื่องได้สบายๆ พกพาสะดวก

ถ้าจะให้ผมติ ก็น่าจะเป็นเรื่องของการรองรับรุ่นแท็บเล็ตที่ใช้งานได้นี่แหละ คือ จากที่เห็น HUAWEI มีการออกรุ่นยิบย่อยออกมาเยอะไปหน่อย 12.6 นิ้ว 10.8 นิ้ว และนี่ 10.95 นิ้ว (หรือจะเรียก 11 นิ้วก็ได้) ก็เป็นห่วงเรื่องอนาคตรุ่นถัดๆ ไป ว่าจะสามารถเอาอุปกรณ์เสริมอย่าง Smart magnetic keyboard ไปใช้ได้ไหม
กล้องหน้าและกล้องหลังของ HUAWEI MatePad 11
พิจารณาจากสเปก ก็เรียกว่าไม่แตกต่างกันแล้วกัน ด้วยข้อจำกัดด้านขนาดตัวเครื่อง ผมไม่คิดว่าจะมีใครเอาเจ้านี่มาถ่ายเซลฟี่หรอกนะ ยกสมาร์ทโฟนมาถ่ายง่ายกว่า แต่สำหรับคนที่อยากทำ Live แบบง่ายๆ หรือทำวิดีโอคอลล์ ประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์ กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล f/2.0 ก็ถือว่าคุณภาพใช้ได้อยู่ แต่ภาพที่ได้ ผมสังเกตว่าจะออกแนวฟุ้งๆ หน่อยครับ ไม่ได้คมชัดมาก หลายๆ คนอาจจะชอบก็ได้
ฟีเจอร์กล้อง แม้ว่าจะไม่ได้มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากเท่ากับพวกกล้องบนสมาร์ทโฟน แต่ก็มีโหมดบิวตี้ไว้ให้ถ่ายด้วยนะ แค่รู้สึกว่าจะเอาจังหวะไหนไปใช้ถ่าย 555 ส่วนคุณภาพของกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/1.8 ก็บอกได้เลยว่าเทียบไม่ได้กับพวกกล้องบนสมาร์ทโฟน แต่ภาพที่ได้ หากสภาพแสงอำนวย มันก็ออกมาไม่ได้แย่ครับ

แต่ถ้าแสงน้อย เราจะเห็นได้เลยว่ารายละเอียดของภาพหายไปเยอะมากทีเดียวเมื่อเทียบกับภาพถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนในช่วงราคาใกล้ๆ กัน ที่วางจำหน่ายในปีนี้ อย่างที่บอกครับ ถ้าจะถ่ายรูปจริงจัง ใช้กล้องสมาร์ทโฟนจะดีกว่า
สรุปแล้ว ชอบไหม HUAWEI MatePad 11
จะว่าไป HUAWEI MatePad 11 นี่เรียกว่ามีสเปกใกล้เคียงกับ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch แบบสุดๆ เลยครับ แต่ราคากลับแตกต่างกันอย่างเวอร์วังมาก คือ รุ่น Pro 10.8-inch นี่ราคา 26,990 บาท เลยทีเดียว ถามว่าสิ่งที่ MatePad 11 ขาดหายไปจากที่ MatePad Pro 10.8-inch เขามีคืออะไร ก็จะเป็นพวกหน่วยประมวลผลที่ประสิทธิภาพลดหลั่นลงมานิดหน่อย แต่ไม่ได้ถือว่าเยอะมาก แรมที่ให้มีน้อยกว่า ความจุที่น้อยกว่า ไมโครโฟนที่น้อยกว่า การไม่รองรับ Wireless reverse charging (หมายถึงเอาตัวแท็บเล็ตไปชาร์จให้อุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย)
มันเลยทำให้ผมไม่แน่ใจว่า HUAWEI คิดอะไรอยู่ เพราะปกติแล้ว รุ่น Pro มันมักจะใส่ฟีเจอร์แบบโปรๆ เช่น รองรับปากกา Stylus ลำโพงคุณภาพดีกว่า จอคุณภาพดีกว่า กล้องดีกว่า ฯลฯ แต่ผมลองเทียบ HUAWEI MatePad 11 กับ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch แล้ว อะไรที่รุ่น Pro มันดีกว่า ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ “ดีกว่าชัดเจน” หรือ เป็นฟีเจอร์โปรๆ เลยฮะ ถ้าต้องเทียบระหว่างสองรุ่นนี้ จะซื้อตัวไหน ผมว่า HUAWEI MatePad 11 น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด