Samsung Galaxy Z Fold 2 นี่เป็นสมาร์ทโฟนจอพับตัวที่สองที่ผมใช้ (ตัวแรกของผมคือ ZTE Axon M) แต่ถือเป็นตระกูล Z รุ่นแรกที่ผมใช้เลยครับ ตอนนั้นคือกล่อมเมียอยู่พักใหญ่ๆ กว่าจะยอมให้ซื้อ 555 และเมื่อวานนี้ Samsung ก็เพิ่งเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold 3 ออกมา ในฐานะคนที่ใช้รุ่นก่อนหน้ามาเกือบปี ก็อยากจะคอมเมนต์ซักหน่อยครับว่าคิดเห็นยังไงบ้าง
สำหรับคนที่พลาดการเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked 2021 เมื่อคืน ไปดูอันนี้ได้ครับ เขาตัดมาให้เรียบร้อยแล้ว
อัปเกรดใหญ่สุดของ Samsung Galaxy Z Fold 3 คือ กันน้ำกันฝุ่น และรองรับ S Pen
งวดนี้สิ่งผมเห็นว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะสุดสำหรับ Samsung Galaxy Z Fold 3 ก็คือ การที่กันน้ำกันฝุ่นได้มาตรฐาน IPX8 กับรองรับ S Pen กะเขาซะทีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกันน้ำกันฝุ่น ที่เป็นจุดอ่อนสำคัญของสมาร์ทโฟนตระกูลพับเลยแหละ คนใช้แบบไม่ระวังก็จะรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น แต่สำหรับคนที่ใช้มาจะครบ 1 ปีอยู่รอมร่อแบบผมเนี่ย ก็ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟนเราไม่ได้ตกน้ำป๋อมแป๋มได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แต่ก็นั่นแหละ พอมันไม่กันน้ำกันฝุ่น เราก็ระวังตัวหน่อยไง
ส่วน S Pen เนี่ยถ้าเป็นเวอร์ชันปกติมันจะมีปัญหา เพราะหน้าจอแสดงผลแบบพับได้เนี่ย มันจะนิ่มๆ หน่อย ถ้าโดนอะไรขูดเข้าเป็นรอยง่ายมาก เขาก็ต้องออกแบบ S Pen มาใหม่ เป็นหัวยางแบบนิ่ม เพื่อให้สามารถใช้ขีดๆ เขียนๆ บนตัวหน้าจอได้โดยไม่เป็นรอย ความน่าสนใจคือ ประสบการณ์ในการเขียนมันจะแตกต่างจากการใช้ S Pen ปกติไหมนี่สิ เดี๋ยวรออ่านรีวิวจากบล็อกเกอร์คนอื่นๆ แล้วกันนะฮะ (Samsung ไม่น่าจะส่งมาให้ผมรีวิวอะ เพราะผมไม่ใช่บล็อกเกอร์อาชีพแล้ว)
แต่ที่แน่ๆ การเก็บ S Pen ไม่ได้ง่ายเหมือนการใช้ตระกูล Note ที่มันจะมีช่องเก็บในตัว และก็ไม่น่าจะมีระบบแม่เหล็กให้ดูดติดกับตัวสมาร์ทโฟนแบบพวกตระกูล Tab S เพราะจะไม่เหมาะกับการเก็บสมาร์ทโฟนลงกระเป๋ากางเกง ต้องพกแยก เสี่ยงหายหน่อย แต่ก็แลกมาด้วยขนาดของ S Pen ที่น่าจะจับถนัดมือดีแท้
ข่าวร้าย… S Pen เขาขายแยกนะจ๊ะ
สเปกของ Samsung Galaxy Z Fold 3 ถือว่าเป็น Minor change
ส่วนสเปกอื่นๆ ของ Samsung Galaxy Z Fold 3 เมื่อเทียบกับ Z Fold 2 แล้ว ความเห็นส่วนตัวของผมคือ เป็น Minor change ครับ
| สเปก | Samsung Galaxy Z Fold 3 | Samsung Galaxy Z Fold 2 |
|---|---|---|
| หน้าจอแสดงผล | • ด้านนอก 6.2 นิ้ว 25:9 832×2268 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X (120Hz) • ด้านใน 7.6 นิ้ว 3.2:4 1768×2208 พิกเซล Foldable dynamic AMPLED 2X (120Hz) | • ด้านนอก 6.23 นิ้ว 25:9 816×2260 พิกเซล Super AMOLED (60Hz), Corning Gorilla Glass Victus • ด้านใน 7.6 นิ้ว 3.2:4 1768×2208 พิกเซล Foldable dynamic AMOLED 2X (120Hz) |
| หน่วยประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 888 5G (สถาปัตยกรรม 5nm) | Qualcomm Snapdragon 865 5G (สถาปัตยกรรม 7nm) |
| หน่วยความจำ และความจุ | 12GB/256GB หรือ 16GB/512GB | 12GB/256GB หรือ 12GB/512GB |
| กล้องหน้า | 10 ล้านพิกเซล แบบ Infinity-O | 10 ล้านพิกเซล แบบ Infinity-O |
| กล้องใน | 4 ล้านพิกเซล แบบ Under display | 10 ล้านพิกเซล แบบ Infinity-O |
| กล้องหลัง | 12 ล้านพิกเซล f/1.8 เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/2.4 เลนส์เทเล 2x 12 ล้านพิกเซล f/2.2 เลนส์ Ultrawide | 12 ล้านพิกเซล f/1.8 เลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล f/2.4 เลนส์เทเล 2x 12 ล้านพิกเซล f/2.2 เลนส์ Ultrawide |
| การเชื่อมต่ออื่นๆ | WiFi 802.11/a/b/g/n/ac/6e Bluetooth 5.2 | WiFi 802.11/a/b/g/n/ac/6 Bluetooth 5 |
ดูแบบคร่าวๆ แล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสเปกมันก็มีการอัปเกรดขึ้นมาจริงๆ นั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นจอด้านนอกที่รองรับรีเฟรชเรตเป็น 120Hz แล้ว มีหน่วยประมวลผลตัวใหม่ล่าสุด แถมใช้สถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตรอีก รองรับ WiFi และ Bluetooth ที่ใหม่กว่า อะไรแบบนี้ กล้องเซลฟี่สำหรับจอด้านใน ก็เป็นแบบ Under display camera แล้วด้วย ไม่ต้องมาเห็นรูให้กวนใจเวลาเล่นเกม หรือดูหนัง
แต่มันก็แอบแลกมาด้วยการที่จำนวนพิกเซลหดลงไปเหลือ 4 ล้านพิกเซลเฉยเลย ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการสแกนหน้าเพื่อปลดล็อกหน้าจอ ทำวิดีโอคอลล์ อะไรพวกนี้ มากกว่าการนำมาใช้ถ่ายเซลฟี่อะ แต่ก็นะ จากประสบการณ์ใช้งานของผม ก็ไม่ได้เอากล้องเซลฟี่ด้านในมาใช้ถ่ายเซลฟี่ตัวเองหรอกนะ
แต่ Minor change ก็เป็น Minor change อะ ผมเนี่ย คาดหวังกับการอัปเกรดกล้องหลัง 3 ตัวอย่างมาก คือ อย่างน้อยก็ให้เท่าทันพวก Galaxy S21 หรือ Note 20 ได้ไหมอะ ที่กล้องหลังเทเลเป็น 64 ล้านพิกเซล f/2.0 อะไรแบบนี้ หรือจริงๆ แล้ว ควรจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำอะ เพราะค่าตัวก็ครึ่งแสนกว่า แถมตอนนี้ก็ผ่านจากตอน Note 20 มาได้ตั้งปีนึงแล้ว มันควรจะอัปเกรดกล้องบ้างเสะ
ทำงานแบบ Multi-tasking เปิดหลายแอปพร้อมกัน … แล้วแต่คนจะชอบ
จุดขายอีกอย่างของอุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ต และพวกจอพับแบบกางให้ใหญ่ได้เนี่ย คือ การเปิดหลายๆ แอปพร้อมๆ กัน เพื่อบอกว่าทำงานแบบ Multi-tasking ได้ ซึ่งอันนี้เป็นอะไรที่ทำได้ตั้งกะตอน Samsung Galaxy Z Fold 2 แล้ว เปิดสามแอปพร้่อมกันได้ (เฉพาะแอปที่รองรับนะ)
ถามว่าใช้ได้จริงไหม? อันนี้ผมว่าแล้วแต่คนจะคิด แล้วแต่จะชอบ คือ มันก็สะดวกดีในหลายๆ กรณีครับ แบบเวลาที่ผมจะทวีตแล้วผมก็อยากอ้างอิงข้อมูลจากเว็บ แทนที่ผมจะต้องสลับแอปไปมา ก็เปิดมันทั้งคู่เลย ก็โอเคดี ถ้าใช้แอปของ Microsoft กับ Samsung มันออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้ดีเลย เพราะ Samsung เขาจับมือกับ Microsoft ช่วยกันพัฒนา
แต่การมี S Pen เข้ามา ผมว่าจะทำให้การใช้งานหลายๆ แอปมันสะดวกขึ้นนะ หรือว่าไง?
แต่สำหรับคนอยากได้สมาร์ทโฟน+แท็บเล็ตในตัวเดียว Samsung Galaxy Z Fold 3 นี่คือคำตอบเลยนะ
ในฐานะคนใช้ Samsung Galaxy Z Fold 2 มาเกือบปี ก็ตอบได้ว่าตัดสินใจไม่ผิดครับ เพราะผมอยากได้สมาร์ทโฟนแบบพกเครื่องเดียว ได้ทั้งจอเล็กแบบสมาร์ทโฟน จอใหญ่แบบแท็บเล็ตจบในตัวเดียว มันเวิร์กจริงครับ ถ้าจะให้ติก็น่าจะเป็นแค่จอด้านนอกอะ แอบแคบ ไม่รู้มันจะทำสัดส่วน 25:9 มาทำไม ขยายให้กว้างอีกนิดเป็น 21:9 จะดีมาก (เหมาะกับการดูหนังด้วยเลย) แล้วด้านในจะได้จอใหญ่ขึ้นอีกนิดด้วย
ที่สำคัญ ราคาขายของ Samsung Galaxy Z Fold 3 ถึงแม้ว่าจะยังโคตรไฮเอนด์ราคาเกินครึ่งแสนอยู่ แต่ราคาก็ถือว่าลงมาเยอะพอสมควรแล้วนะ รุ่น 12GB/256GB ราคาลงมาเหลือ 57,900 บาท ส่วนรุ่น 16GB/256GB อยู่ที่ 61,900 บาท เทียบกับ Galaxy Z Fold 2 12GB/256GB เปิดตัว 69,900 บาท แล้ว ถือว่าเป็นข่าวดีที่ได้เห็นราคาลงมาประมาณนึงแล้วนะ และนั่นก็คงเป็นสาเหตุที่มันเป็น Minor change ละมั้ง
อยากได้ไปที่เว็บ Samsung เลยฮะ เปิดจำหน่ายรอบพิเศษ Galaxy Z Fold3 5G | พร้อมข้อเสนอโปรโมชั่น ราคาพิเศษ | Samsung Thailand
