ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนี่ย สังเกตได้เลยว่าหลายคนถ้าไม่ซื้ออุปกรณ์สำหรับทำงานจากที่บ้าน (Work from Home – WFH) ก็อาจถือโอกาสจัดบ้านหรือรีโนเวทบ้านพร้อมรับ WFH กันยาวๆ เลย ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ปีที่แล้วนี่ซื้อโน้ตบุ๊กทำงานใหม่ ซื้อโต๊ะทำงาน ซื้อเก้าอี้ ปีนี้ดันต้องทำงานจากบ้านยาวไปอีก เลยถือโอกาส ทำโปรเจ็กต์กระชับพื้นที่ระเบียงมาเป็นห้องย่อยๆ เพิ่ม เอาไว้ทำงานซะเลยฮะ
บ่อยครั้งที่บ้านในหมู่บ้านจัดสรรที่เป็นแบบ 2 ชั้นขึ้นไปจะออกแบบให้ห้องนอนชั้นบนสุดมีระเบียงฮะ มันดูสวย แล้วก็เอาไว้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปลูกต้นไม้ ตากผ้า นั่งเล่น ฯลฯ แล้วแต่จะพิจารณา แต่ในทางปฏิบัติจริง สำหรับคนที่ไม่ได้เอาไว้ใช้งานพวกนี้ ก็กลายเป็นว่าพื้นที่ตรงระเบียงกลายเป็นพื้นที่ไม่ก่อประโยชน์ มีไว้ให้สกปรกจากแดดฝนเฉยๆ เลยฮะ ฉะนั้นก็จะไม่แปลกอะไรหากหลายคนอาจจะอยากรีโนเวทมาเป็นส่วนขยายของห้องเพิ่มครับ
เราสามารถต่อเติมระเบียงชั้น 2 ให้กลายเป็นห้องได้ไหม?
เมื่อเราต่อเติมระเบียงชั้น 2 ให้กลายเป็นห้องแล้ว แน่นอนว่าเราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องวางของโน่นนี่นั่นใช่ไหมครับ บางคอาจจะอยากวางเตียง ทำเป็นห้องนอนเล็กๆ บางคนอยากวางโต๊ะทำงาน พร้อมอุปกรณ์ทำงานครบเซ็ต อะไรพวกนี้ คำถามคือมันจะทำได้ไหมอะ ระเบียงจะรับน้ำหนักไหวไหม?
คำตอบคือทำได้ครับ เพราะกฎหมายมีกำหนดเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนักบรรทุกจร (Live load) หรือ น้ำหนักหน่วยเป็นกิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตรเอาไว้ครับ ซึ่งที่พักอาศัยหรือพูดง่ายๆ ก็บ้านคนทั่วไปเนี่ย ก็คือ 150 กิโลกรัมต่อ 1 ตารางเมตรครับ ฉะนั้น ถ้าเรากะว่าจะเอามาวางแค่เตียง โต๊ะทำงาน อะไรพวกเนี่ย น้ำหนักโดยรวมก็จะไม่น่าถึงครับ
แต่ถ้าจะเอามาทำห้องเก็บของ แล้วยัดของเข้าไปเยอะๆ อะ หรือ เอาไว้วางของที่มีน้ำหนักมากๆ อันนี้จะไม่เหมาะ
นอกจากนี้การทำเป็นห้องขึ้นมาเพิ่มเนี่ย จะมีข้อจำกัดเรื่องโครงสร้างด้วยครับ เราไม่สามารถใช้โครงสร้างอลังการงานสร้าง หนักหน่วงได้ เพราะส่วนของระเบียงที่ยื่นมาเนี่ย มักจะไม่มีเสามาค้ำเพื่อรับน้ำหนักนะครับ ดังนั้นปกติก็จะทำเป็นห้องกระจก มีโครงอลูมิเนียมเป็นหลักครับ
ค่าใช้จ่ายในการกระชับพื้นที่ระเบียงมีอะไรบ้าง?
สำหรับคนที่กำลังคิดอยากจะรีโนเวทพื้นที่ระเบียง ก็คงอยากจะรู้ว่ามีงบประมาณราวๆ เท่าไหร่ถูกไหมครับ งบประมาณจะมากหรือน้อย ก็อยู่ที่ว่าเราอยากได้ไฮโซมากน้อยแค่ไหนด้วย แต่หลักๆ มันก็จะประกอบไปด้วย
• ค่าทำระเบียงโดยรวม ก็จะมีการทำหลังคา ติดฉนวนกันความร้อน โครงอลูมิเนียม
• ค่าเดินไฟ และหลอดไฟ ในกรณีที่เราอยากจะให้มีปลั๊กไฟและไฟส่องสว่าง คือจะมี หรือไม่มีก็ได้ แต่ผมแนะนำว่าให้มีครับ เพราะการลากสายไฟมาจากในห้องนอนไม่สะดวกแน่ๆ และถ้าเราจะใช้งานห้องนี้ตอนกลางคืน เราก็ต้องมีไฟส่องสว่างอะ
• ค่าทำกระจก จะมากจะน้อย อยู่ที่ว่าเราอยากใช้กระจกอะไร ถ้ากระจกธรรมดาก็ไม่แพง แต่ถ้าเป็นกระจกเทมเปอร์ (ไอ้ที่เวลาแตกแล้วจะเป็นเม็ดข้าวโพด) ก็จะแพงหน่อย
• ค่าปูกระเบื้อง เพราะบ่อยครั้งเราอาจจะไม่ถูกใจพื้นระเบียงหรือกระเบื้องที่ปูอยู่ในปัจจุบัน เราก็อยากจะปูซะใหม่ เราก็ต้องเลือกด้วยว่าอยากจะรื้อออกก่อนค่อยปู หรือปูทับไปเลย (แต่ไม่ควรเทพื้นระเบียงใหม่ เพราะน้ำหนักจะมากเกินไป)
• ค่าติดฟิล์มกันความร้อน ซึ่งก็จะเป็นพวกฟิล์มติดรถยนต์นั่นแหละครับ ควรติดเป็นอย่างยิ่ง จะช่วยกันความร้อนไปได้ประมาณนึงเลย แต่ฟิล์มนี่แอบแพงนะบอกก่อนเลย
• ค่าทำมุ้งลวด เผื่อใครวางแผนว่าอยากจะเปิดหน้าต่าง ประตูทิ้งไว้ระบายอากาศ ก็จะหมดห่วงเรื่องแมลงเข้ามา
• ค่าอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ม่านบังแดด เพราะเวลาเราติดฟิล์มแล้ว ถ้าเรายังอยากจะเห็นภายนอกได้ ก็จะต้องยอมให้แสงผ่านมาได้ซัก 20% ผลก็คือ แสงมันก็ยังส่องเข้ามาได้ และบางทีเราก็ไม่อยากให้แสงแยงตา ก็ปิดม่านลงได้
ในกรณีของผมเนี่ย งบประมาณโดนไปราวๆ 100,000 บาทครับ ครบคลุมทั้งการทำระเบียง ติดตั้งระบบไฟ (ไฟ LED แบบ Down light 2 ดวง และปลั๊กไฟมีรูปลั๊ก 2 รู) มีมุ้งลวดที่หน้าต่างและประตู ปูกระเบื้องทับของเดิมเรียบร้อย ติดฟิล์มเซรามิก Hi-Kool แบบ 80% ครับ
บทเรียนจากการรีโนเวทระเบียง อะไรที่ต้องเคลียร์ ไม่งั้นอาจเสียเงินเก้อ
เอาจริงๆ รีโนเวทระเบียงนี่ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรเยอะมากเลยนะ แต่ถ้าไม่เคลียร์ให้ชัดเจนเนี่ย หรือคาดการณ์ไม่ถึง โอกาสผิดพลาด แล้วเสียเงินเก้อโดยไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่มันก็มีครับ มีอะไรหลายๆ อย่างที่เราจะต้องใส่ใจดังนี้ครับ
➊ พื้นที่ที่เราจะได้คืนมาจากระเบียงจะไม่ได้เยอะอย่างที่คุณคิดนะ อย่างกรณีของบ้านผมเนี่ย ได้พื้นที่มาแค่ราวๆ 3.63 ตารางเมตรเท่านั้นเอง และอยู่ที่การดีไซน์ของระเบียงโดยรวมด้วย บางจุดคุณอาจจะใช้สอยประโยชน์อะไรจากมันไม่ได้มากไปกว่าการเอาไว้เก็บของจุกจิก เช่น เอาลู่วิ่งแบบพับได้ไปเก็บตรงนั้น หรือเอาไว้เก็บพวกเครื่องดูดฝุ่น กระเป๋าเดินทาง ไรงี้ ฉะนั้น วัดพื้นที่และวางแผนการใช้สอยประโยชน์จากพื้นที่ให้ดีก่อนจะทำ
➋ ฟิล์มกรองแสงเนี่ย ตอนกลางวันคนข้างนอกจะมองคนข้างในไม่เห็น เพราะข้างนอกจะสว่างกว่าข้างใน แต่เวลากลางคืนเนี่ย พอเราเปิดไฟในห้องแล้ว ข้างในจะมองข้างนอกไม่เห็น แต่ข้างนอกนี่มองข้างในเห็นชัดแจ๋วเลยนะครับ ฉะนั้น ควรติดม่านบังแดดเอาไว้ครับ มันจะมีประโยชน์ทั้งในเรื่องบังแดดตอนกลางวัน และกันไม่ให้คนข้างนอกเห็นข้างในเวลากลางคืน
➌ ตำแหน่งปลั๊กไฟสำคัญมาก และมันมักจะถูกจำกัดด้วยตำแหน่งสายไฟเดิม (ซึ่งมักจะเป็นไฟกิ่งสำหรับให้ความสว่างแบบสลัวๆ ตรงระเบียง) ถ้าเรามีดีไซน์ห้องในใจไว้แล้ว ก็บอกผู้รับเหมาให้ดีล่ะ ว่าอยากจะได้ปลั๊กไฟไว้ตรงไหน สวิตช์ไฟห้องอยู่ตรงไหน
➍ ถ้าคิดว่าจะใช้กระจกฝ้า กระจกขุ่น หรือพวกกระจกลายผ้า เพื่อที่ว่าจะได้มองคนด้านในไม่เห็น คุณคิดผิดครับ เพราะถ้ามาอยู่ใกล้ๆ กับตัวกระจกก็จะยังคงมองเห็นได้ลางๆ อยู่ครับ และยิ่งถ้าเป็นกลางคืนนี่ยิ่งมองทะลุเห็นได้ง่ายด้วยถ้าเปิดไฟที่ห้อง แนะนำให้แบ่งโครงสร้างของผนังห้องเป็นสองส่วน ด้านบนเป็นกระจกติดฟิล์มกรองแสง แล้วติดม่านบัง ส่วนด้านล่างติดสติกเกอร์สีดำไปเลยจบ
➎ ถ้าระเบียงหันไปทางทิศตะวันออก ช่วงเช้าก็จะอุ่นๆ ร้อนๆ หน่อย แต่พอถึงเที่ยงไปจนถึงค่ำ ห้องจะเย็นสบาย แต่ถ้าเจอแบบผม ระเบียงหันไปทางทิศเหนือ คุณจะเจอพระอาทิตย์ตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยครับ ต้องวางแผนติดม่านสำหรับบังแสงให้ดีๆ ครับ ไม่งั้นแสงแดดส่อง แม้จะไม่ร้อน แต่แยงตาน่ารำคาญมาก แล้วกระจกบางช่วงคือ มันติดม่านได้ไม่สะดวก เพราะขนาดไม่ได้เป็นมาตรฐาน (นี่กำลังสั่งซื้อม่านแบบจุกดูดมาลองติดเพิ่ม)
➏ รีโนเวทระเบียงแบบนี้ ทำนานไหม? ถ้าผู้รับเหมามาทำให้แบบต่อเนื่องเลย ไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ นี่คือรวมทุกอย่างยันติดฟิล์มติดสติกเกอร์แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ อยู่ที่ว่าผู้รับเหมาเขาวุ่นแค่ไหน เขาอาจจะไม่ได้เข้ามาต่อเนื่องเพราะรับงานหลายที่ ก็จะดีเลย์ไปบางส่วน แต่รวมๆ ก็ไม่เกิน 2 สัปดาห์ครับ
➐ ผู้รับเหมาไม่ได้ทำเองทั้งหมด ต้องคุยรายละเอียดให้ดี ไม่งั้นอาจมีบางอย่างผิดพลาดแบบแก้ไม่ได้ เช่น กรณีของผม การติดมุ้งลวดเนี่ยคุยกันเรียบร้อยดีฮะ แต่ปัญหาคือ ผู้รับเหมาเขาทำสองบ้านติดกันคือบ้านผมกับข้างบ้าน แล้วประตูเซอร์วิสของห้องอะ ข้างบ้านผมเป็นแบบผลักออก แต่บ้านผมดันเป็นแบบผลักเข้า พอติดมุ้งลวดเลยมีปัญหา เพราะของข้างบ้านที่เป็นผลักออก มันติดมุ้งลวดได้ ไม่มีปัญหา แต่ของผมเป็นแบบผลักเข้า ติดมุ้งลวดคือไม่มีประโยชน์ เพราะตอนเปิดประตูอยู่ ก็ปิดมุ้งลวดไม่ได้อยู่ดี แต่ก็ยังดันทุรังติดมุ้งลวดให้ ดีนะ ค่าทำไม่แพงมาก (มุ้งลวดหน้าต่างประตูรวมกัน 1,800 บาท) เลยขี้เกียจวุ่นวายฮะ หยวนๆ ไป เก็บไว้เป็นบทเรียน
ฟิล์มกรองแสง ช่วยลดอุณหภูมิห้องได้แค่ไหน?
ออกตัวก่อนว่าฟิล์มกรองแสงช่วยเรื่องลดความร้อนภายในห้องได้ครับ เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้ทำให้คูลสุดใจอย่างที่คิดเท่านั้นเอง คือเขามักจะโฆษณาว่าช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้ราวๆ 60%-70% แต่เท่าที่ผมลองวัดอุณหภูมิห้องแบบไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดพัดลมช่วยใดๆ แต่ปิดกระจกไว้นะ มันแอบโหดครับ ตอนเที่ยงวัดอุณหูมิดูคือราวๆ 35 องศาเซลเซียสครับ นี่คือได้ฟิล์มกรองแสงช่วยลดความร้อนแล้วนะ ลองไปแตะดูที่ตรงกระจกได้ รู้สึกเลยว่าระอุ อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก อยากรู้ว่ามันระอุแค่ไหน ลองติดฟิล์มรถแบบ 80% แล้วจอดรถตากแดดยามเที่ยงไว้ซัก 2 ชั่วโมง แล้วลองไปนั่งดูโดยไม่เปิดแอร์ฮะ มันร้อนประมาณนั้นแหละ อาจจะฟังดูเหมือนไม่ช่วยอะไร แต่ลองคิดว่าถ้าไม่มีฟิล์มจะโหดกว่านี้ขนาดไหนนะครับ
ฉะนั้น คุณต้องวางแผนเรื่องการสร้างความเย็นในห้องครับ ที่ดีที่สุดคือการเปิดแอร์ในห้องหลัก แล้วใช้พัดลมช่วยดูดอากาศเย็นเข้ามาภายในห้องระเบียงนี้ครับ ผมลองเปิดแอร์ห้อง (30,000BTU เพราะห้องนอนผมเป็นแบบสตูดิโอ พื้นที่ 35 ตารางเมตร) ตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศาเซลเซียสดูแล้วสามารถช่วยลดอุณหภูมิลงจาก 35 องศาเซลเซียสไปเหลือราวๆ 28-30 องศาเซลเซียสได้ ส่วนตอนเย็นๆ ค่ำๆ ปรับมาที่ 27 องศาเซลเซียสก็พอ อาจจะดูเหมือนไม่เย็น แต่ความรู้สึกมันก็เย็นดีอยู่นะ เพราะได้ลมจากพัดลมมานี่แหละ (อ้อ! วันที่และเวลาที่ปรากฏในเครื่องวัดของผมไม่ตรงนะครับ เพราะผมไม่ได้ใช้งานมานาน วันที่และเวลาเลยโดนรีเซ็ตไป เวลามันอาจจะขึ้นว่า 14:21 แต่เวลาที่ผมวัดจริงๆ คือ 19:17 นะครับ)
