Home>>บทความ How-to>>QNAP User Guide>>QNAP NAS 101 EP38: อธิบาย RAID configuration ต่างๆ ที่ QNAP NAS มีให้ใช้
QNAP User Guideบทความ How-to

QNAP NAS 101 EP38: อธิบาย RAID configuration ต่างๆ ที่ QNAP NAS มีให้ใช้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ผมพบว่าผู้ใช้งาน QNAP NAS จำนวนไม่น้อยไม่มีความเข้าใจว่า RAID คืออะไร ฉะนั้น เลยคิดว่าต้องเอามาเขียนลง QNAP NAS 101 เก็บไว้ให้เป็นข้อมูลอ้างอิงซะหน่อยครับ

Disk configurationจำนวนฮาร์ดดิสก์ขั้นต่ำจำนวนฮาร์ดดิสก์ที่เสียได้ความจุที่จะได้คำอธิบาย Disk configuration
Single disk10เท่ากับความจุฮาร์ดดิสก์• ใช้ฮาร์ดดิสก์ลูกเดียวในการเก็บข้อมูล
• ไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ เผื่อในกรณีฮาร์ดดิสก์เสีย
• ใช้เฉพาะตอนมีฮาร์ดดิสก์ใส่ลูกเดียว และมีการวางแผนแบ็กอัพอื่นๆ ไว้แล้ว
JBOD1 ลูกขึ้นไป0เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกรวมกัน• เป็นการเอาความจุของฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกมาผสมรวมกัน ข้อมูลจะถูกเขียนลงไปในฮาร์ดดิสก์ทีละลูกจนกว่าจะเต็ม เมื่อเต็มแล้วก็จะเขียนข้อมูลลงฮาร์ดดิสก์ลูกถัดไป
• ฮาร์ดดิสก์แต่ละลูก ไม่จำเป็นต้องมีขนาดเท่ากัน
• ไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ เผื่อในกรณีฮาร์ดดิสก์เสีย แต่หากเกิดเสียหาย ข้อมูลก็จะหายไปเฉพาะที่มีอยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกนั้น
• QNAP ไม่แนะนำให้ทำ JBOD แต่แนะนำให้ทำ RAID 0 ดีกว่า ยกเว้นจะไม่ซีเรียสเรื่องข้อมูลหายเมื่อฮาร์ดดิสก์เสีย และต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดแตกต่างกันผสมกัน
RAID 02 ลูกขึ้นไป0เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกรวมกัน• มีการเขียนข้อมูลแบบ Striping ส่งผลให้การเขียนและอ่านข้อมูลมีความรวดเร็ว
• ไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ เผื่อกรณีฮาร์ดดิสก์เสีย และไม่ว่าใน RAID group จะมีฮาร์ดดิสก์กี่ลูก ความเสียหายของฮาร์ดดิสก์เพียงลูกเดียวก็ทำให้ข้อมูลสูญหายหมดได้ จึงควรมีการวางแผนแบ็กอัพอื่นๆ ไว้ด้วย
RAID 121เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ลูกที่เล็กสุดลูกเดียว• แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่ากันสองลูก แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด
• เวลาเขียนข้อมูลจะถูกเขียนลงไปในฮาร์ดดิสก์ทั้งสองลูกเหมือนๆ กัน ดังนั้นแม้ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งจะเสีย ข้อมูลจะไม่สูญหาย สามารถเอาฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่มาเปลี่ยนได้เลย
RAID 53 ลูกขึ้นไป1เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ลูกที่เล็กที่สุด คูณด้วย (จำนวนของฮาร์ดดิสก์ – 1)• แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่ากัน แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด
• มีการเขียนข้อมูลแบบ Striping with parity bit ส่งผลให้มีการเขียนและอ่านข้อมูลมีความรวดเร็ว แต่เพราะมี parity bit จึงช้ากว่า RAID 0 อยู่บ้าง
• สามารถใช้ข้อมูลจาก Parity bit ในการกู้ข้อมูลได้ ในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเกิดเสียหาย ข้อมูลจะไม่สูญหาย สามารถเอาฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่มาเปลี่ยนได้
• เป็นชนิดของ RAID ที่แนะนำให้ใช้เพราะมีสมดุลทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ และความสามารถในการปกป้องข้อมูล
RAID 64 ลูกขึ้นไป2 เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ลูกที่เล็กที่สุด คูณด้วย (จำนวนของฮาร์ดดิสก์ – 2) • แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่ากัน แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด
• มีการเขียนข้อมูลแบบ Striping with parity bit ส่งผลให้มัการเขียนและอ่านข้อมูลที่รวดเร็ว แต่เพราะเขียน Parity bit แบบ double ก็เลยจะเขียนช้ากว่า RAID 5
• Double parity bit ทำให้ทนต่อความเสียหายของฮาร์ดดิสก์ที่เกิดขึ้นได้สูงสุด 2 ลูก สร้างความอุ่นใจในการปกป้องข้อมูลได้มากกว่า (อ่านบล็อกของผม ที่เปรียบเทียบ RAID 5 vs RAID 6)
• QNAP แนะนำให้ใช้งานเป็นพวก File server หรือ Storage ทั่วไป ที่ต้องการความเร็วในการอ่านสูง (ไม่สนใจเรื่องความเร็วในการเขียนมาก) และต้องการประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูลกรณีฮาร์ดดิสก์เสียหายที่ดี
RAID 104 ลูกขึ้นไป โดยจำนวนฮาร์ดดิสก์ต้องเป็นเลขคู่1 ลูกต่อฮาร์ดดิสก์ 1 คู่เท่ากับความจุรวมของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด หารด้วย 2• แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์แต่ละคู่ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด
• ฮาร์ดดิสก์แต่ละคู่ จะถูกสำรองข้อมูลไว้ด้วย RAID 1 จากนั้นแต่ละคู่จะถูกเชื่อมรวมกันด้วย RAID 0
• เป็น RAID ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนดี เพราะ RAID 0 และก็มีความสามารถในการป้องกันกรณีฮาร์ดดิสก์เสียหายได้สูง เพราะ RAID 1
• ฮาร์ดดิสก์เสียหลายลูกพร้อมกันได้นะ แค่อย่าเสียเป็นคู่ก็พอ
• QNAP แนะนำให้ใช้สำหรับการทำเป็น Storage สำหรับพวกแอปพลิเคชัน หรือ ข้อมูลต่างๆ
RAID 506 ลูกขึ้นไป1 ลูกต่อ RAID Group ย่อยเท่ากับความจุรวมของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด ลบออก 1 ลูก ต่อ RAID group ย่อย• เป็นการเอา RAID 5 หลายๆ ชุด มาเชื่อมรวมกันด้วย RAID 0
• ประสิทธิภาพในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากฮาร์ดดิสก์มีปัญหาเพิ่มขึ้น เพราะตราบเท่าที่ใน RAID 5 แต่ละกลุ่มมีฮาร์ดดิสก์เสียไม่เกิน 1 ลูก ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้
• ความเร็วในการ Rebuild RAID ก็ทำได้เร็วกว่า RAID 5 เฉยๆ
• ได้เนื้อที่ความจุมากกว่า RAID 10
• QNAP แนะนำให้ใช้สำหรับ Enterprise backup และมีฮาร์ดดิสก์ 10 ลูกขึ้นไปจะเหมาะกว่า
RAID 608 ลูกขึ้นไป 2 ลูกต่อ RAID Group ย่อย เท่ากับความจุรวมของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด ลบออก 2 ลูก ต่อ RAID group ย่อย • เป็นการเอา RAID 6 หลายๆ ชุด มาเชื่อมรวมกันด้วย RAID 0
• ประสิทธิภาพในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากฮาร์ดดิสก์มีปัญหาเพิ่มขึ้น เพราะตราบเท่าที่ใน RAID 6 แต่ละกลุ่มมีฮาร์ดดิสก์เสียไม่เกิน 2 ลูก ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้
• ความเร็วในการ Rebuild RAID ก็ทำได้เร็วกว่า RAID 6 เฉยๆ
• QNAP แนะนำให้ใช้สำหรับ Enterprise backup และ Online video editing และมีฮาร์ดดิสก์ 12 ลูกขึ้นไปจะเหมาะกว่า

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า