ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ผมพบว่าผู้ใช้งาน QNAP NAS จำนวนไม่น้อยไม่มีความเข้าใจว่า RAID คืออะไร ฉะนั้น เลยคิดว่าต้องเอามาเขียนลง QNAP NAS 101 เก็บไว้ให้เป็นข้อมูลอ้างอิงซะหน่อยครับ
Disk configuration | จำนวนฮาร์ดดิสก์ขั้นต่ำ | จำนวนฮาร์ดดิสก์ที่เสียได้ | ความจุที่จะได้ | คำอธิบาย Disk configuration |
---|---|---|---|---|
Single disk | 1 | 0 | เท่ากับความจุฮาร์ดดิสก์ | • ใช้ฮาร์ดดิสก์ลูกเดียวในการเก็บข้อมูล • ไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ เผื่อในกรณีฮาร์ดดิสก์เสีย • ใช้เฉพาะตอนมีฮาร์ดดิสก์ใส่ลูกเดียว และมีการวางแผนแบ็กอัพอื่นๆ ไว้แล้ว |
JBOD | 1 ลูกขึ้นไป | 0 | เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกรวมกัน | • เป็นการเอาความจุของฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกมาผสมรวมกัน ข้อมูลจะถูกเขียนลงไปในฮาร์ดดิสก์ทีละลูกจนกว่าจะเต็ม เมื่อเต็มแล้วก็จะเขียนข้อมูลลงฮาร์ดดิสก์ลูกถัดไป • ฮาร์ดดิสก์แต่ละลูก ไม่จำเป็นต้องมีขนาดเท่ากัน • ไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ เผื่อในกรณีฮาร์ดดิสก์เสีย แต่หากเกิดเสียหาย ข้อมูลก็จะหายไปเฉพาะที่มีอยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกนั้น • QNAP ไม่แนะนำให้ทำ JBOD แต่แนะนำให้ทำ RAID 0 ดีกว่า ยกเว้นจะไม่ซีเรียสเรื่องข้อมูลหายเมื่อฮาร์ดดิสก์เสีย และต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดแตกต่างกันผสมกัน |
RAID 0 | 2 ลูกขึ้นไป | 0 | เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกรวมกัน | • มีการเขียนข้อมูลแบบ Striping ส่งผลให้การเขียนและอ่านข้อมูลมีความรวดเร็ว • ไม่มีการสำรองข้อมูลใดๆ เผื่อกรณีฮาร์ดดิสก์เสีย และไม่ว่าใน RAID group จะมีฮาร์ดดิสก์กี่ลูก ความเสียหายของฮาร์ดดิสก์เพียงลูกเดียวก็ทำให้ข้อมูลสูญหายหมดได้ จึงควรมีการวางแผนแบ็กอัพอื่นๆ ไว้ด้วย |
RAID 1 | 2 | 1 | เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ลูกที่เล็กสุดลูกเดียว | • แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่ากันสองลูก แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด • เวลาเขียนข้อมูลจะถูกเขียนลงไปในฮาร์ดดิสก์ทั้งสองลูกเหมือนๆ กัน ดังนั้นแม้ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งจะเสีย ข้อมูลจะไม่สูญหาย สามารถเอาฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่มาเปลี่ยนได้เลย |
RAID 5 | 3 ลูกขึ้นไป | 1 | เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ลูกที่เล็กที่สุด คูณด้วย (จำนวนของฮาร์ดดิสก์ – 1) | • แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่ากัน แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด • มีการเขียนข้อมูลแบบ Striping with parity bit ส่งผลให้มีการเขียนและอ่านข้อมูลมีความรวดเร็ว แต่เพราะมี parity bit จึงช้ากว่า RAID 0 อยู่บ้าง • สามารถใช้ข้อมูลจาก Parity bit ในการกู้ข้อมูลได้ ในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเกิดเสียหาย ข้อมูลจะไม่สูญหาย สามารถเอาฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่มาเปลี่ยนได้ • เป็นชนิดของ RAID ที่แนะนำให้ใช้เพราะมีสมดุลทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ และความสามารถในการปกป้องข้อมูล |
RAID 6 | 4 ลูกขึ้นไป | 2 | เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ลูกที่เล็กที่สุด คูณด้วย (จำนวนของฮาร์ดดิสก์ – 2) | • แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาดเท่ากัน แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด • มีการเขียนข้อมูลแบบ Striping with parity bit ส่งผลให้มัการเขียนและอ่านข้อมูลที่รวดเร็ว แต่เพราะเขียน Parity bit แบบ double ก็เลยจะเขียนช้ากว่า RAID 5 • Double parity bit ทำให้ทนต่อความเสียหายของฮาร์ดดิสก์ที่เกิดขึ้นได้สูงสุด 2 ลูก สร้างความอุ่นใจในการปกป้องข้อมูลได้มากกว่า (อ่านบล็อกของผม ที่เปรียบเทียบ RAID 5 vs RAID 6) • QNAP แนะนำให้ใช้งานเป็นพวก File server หรือ Storage ทั่วไป ที่ต้องการความเร็วในการอ่านสูง (ไม่สนใจเรื่องความเร็วในการเขียนมาก) และต้องการประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูลกรณีฮาร์ดดิสก์เสียหายที่ดี |
RAID 10 | 4 ลูกขึ้นไป โดยจำนวนฮาร์ดดิสก์ต้องเป็นเลขคู่ | 1 ลูกต่อฮาร์ดดิสก์ 1 คู่ | เท่ากับความจุรวมของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด หารด้วย 2 | • แนะนำให้ใช้ฮาร์ดดิสก์แต่ละคู่ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ถ้าใช้ฮาร์ดดิสก์ที่ขนาดไม่เท่ากัน ระบบจะใช้ได้แค่เท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กสุด • ฮาร์ดดิสก์แต่ละคู่ จะถูกสำรองข้อมูลไว้ด้วย RAID 1 จากนั้นแต่ละคู่จะถูกเชื่อมรวมกันด้วย RAID 0 • เป็น RAID ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนดี เพราะ RAID 0 และก็มีความสามารถในการป้องกันกรณีฮาร์ดดิสก์เสียหายได้สูง เพราะ RAID 1 • ฮาร์ดดิสก์เสียหลายลูกพร้อมกันได้นะ แค่อย่าเสียเป็นคู่ก็พอ • QNAP แนะนำให้ใช้สำหรับการทำเป็น Storage สำหรับพวกแอปพลิเคชัน หรือ ข้อมูลต่างๆ |
RAID 50 | 6 ลูกขึ้นไป | 1 ลูกต่อ RAID Group ย่อย | เท่ากับความจุรวมของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด ลบออก 1 ลูก ต่อ RAID group ย่อย | • เป็นการเอา RAID 5 หลายๆ ชุด มาเชื่อมรวมกันด้วย RAID 0 • ประสิทธิภาพในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากฮาร์ดดิสก์มีปัญหาเพิ่มขึ้น เพราะตราบเท่าที่ใน RAID 5 แต่ละกลุ่มมีฮาร์ดดิสก์เสียไม่เกิน 1 ลูก ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ • ความเร็วในการ Rebuild RAID ก็ทำได้เร็วกว่า RAID 5 เฉยๆ • ได้เนื้อที่ความจุมากกว่า RAID 10 • QNAP แนะนำให้ใช้สำหรับ Enterprise backup และมีฮาร์ดดิสก์ 10 ลูกขึ้นไปจะเหมาะกว่า |
RAID 60 | 8 ลูกขึ้นไป | 2 ลูกต่อ RAID Group ย่อย | เท่ากับความจุรวมของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด ลบออก 2 ลูก ต่อ RAID group ย่อย | • เป็นการเอา RAID 6 หลายๆ ชุด มาเชื่อมรวมกันด้วย RAID 0 • ประสิทธิภาพในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากฮาร์ดดิสก์มีปัญหาเพิ่มขึ้น เพราะตราบเท่าที่ใน RAID 6 แต่ละกลุ่มมีฮาร์ดดิสก์เสียไม่เกิน 2 ลูก ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ • ความเร็วในการ Rebuild RAID ก็ทำได้เร็วกว่า RAID 6 เฉยๆ • QNAP แนะนำให้ใช้สำหรับ Enterprise backup และ Online video editing และมีฮาร์ดดิสก์ 12 ลูกขึ้นไปจะเหมาะกว่า |