เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้รีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ไปแล้วครับ แต่วันนี้ HUAWEI เขาเปิดตัวอีกรุ่น ซึ่งเป็นตัวย่อมเยากว่า นั่นก็คือ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ที่แม้หน้าจอจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ฟีเจอร์ที่ให้มานั้น ไม่น้อยหน้าไปกว่ากันเลย และเมื่อขนาดตัวเครื่องเล็กลง สิ่งที่ได้กลับคืนมาก็คือ ใช้งานในฐานะแท็บเล็ตได้พอเหมาะพอมือขึ้น และน้ำหนักที่เบาทีเดียว
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
แท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ตัวที่รีวิวครั้งนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อจาก HUAWEI ส่งมาให้ใช้งานเพื่อจะได้เอาฟีเจอร์ต่างๆ มาเล่าสู่กันอ่านได้ และชอบไม่ชอบตรงไหน อย่างไร ก็จะบอกเล่าเก้าสิบกันอย่างตรงไปตรงมาเช่นเคย
แพ็กเกจของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ก็จะมีตัวแท็บเล็ต ที่ชาร์จรองรับ HUAWEI SuperCharge จ่ายไฟสูงสุด 22.5 วัตต์ (10V 2.25A) สายชาร์จแบบ USB-A to USB-C ความยาว 1 เมตร กับ ตัวจิ้มถอดถาดใส่เมมโมรีการ์ด

ตามชื่อรุ่นเลย ตัวแท็บเล็ตมีขนาดหน้าจอ 10.8 นิ้ว แต่หน้าจอแสดงผลจะแตกต่าง HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch ตรงที่หน้าจอแแสดงผลเป็นแบบ IPS LCD แทน แต่ยังคงมีความละเอียด 2.5K 2,560×1,600 พิกเซล สัดส่วนการแสดงผลแบบ 16:10 และขอบจอที่บาง เนื้อที่ของจอแสดงผล 90% เหมือนกัน โดยมีกล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.0 แบบ Fixed focus ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p เป็นแบบเจาะรูอยู่บนหน้าจอครับ

ด้านหลังของตัวแท็บเล็ต ก็เรียบๆ ครับ สีของตัวเครื่องเป็นสีเทาดำ Midnight Grey มีกล้องดิจิทัลด้านหลัง 1 ตัว ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.8 แบบออโต้โฟกัส ตัวเครื่องหนาแค่ 7.2 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 460 กรัมเท่านั้นเอง
รอบๆ ตัวเครื่อง ก็มีลำโพง 4 ตัว รองรับระบบเสียงแบบสเตริโอ โดย harman/kardon มีไมโครโฟนรอบตัวเครื่อง 5 ตัว เพื่อช่วยในเรื่องการบันทึกเสียง และตัดเสียงรบกวนด้วย พอร์ตการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C และก็มีปุ่ม เปิดปิดเครื่อง ปรับระดับเสียง และถาดใส่ซิมการ์ดตามมาตรฐานทั่วๆ ไป

ข้อสังเกตอย่างนึงคือ การเพิ่มความจุของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch นี่เขาใช้ NM memory card (NM ย่อมาจาก Nano memory card) ซึ่งเป็นการ์ดหน่วยความจำรูปแบบใหม่จากค่าย HUAWEI ที่ใช้กับอุปกรณ์ของ HUAWEI หลายรุ่นเลยครับ ขนาดมันจะพอๆ กับนาโนซิมครับ เลยอาจทำให้สับสน คิดว่าแท็บเล็ตตัวนี้สามารถใส่ซิมได้ แต่จริงๆ มันเป็นรุ่น WiFi-only นะครับ
ประสบการณ์ในการใช้งานในฐานะแท็บเล็ต: Ecosystem ของ HUAWEI + 3rd party app store + บริการของ Microsoft ช่วยชดเชยการหายไปของ Google Mobile Services ได้ดี
HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ตัวนี้ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Qualcomm® Snapdragon™ 870 Mobile Platform และ GPU Adreno 650 โดยมีความจุมาให้ 256GB และมีความเร็วค่อนข้างจะเน้นไปที่การอ่านข้อมูลครับ คือ อ่านได้เร็ว 1.3GB/s และเขียนได้เร็ว 511MB/s รองรับ WiFi6 (802.11 a/b/g/n/ac/ax ทั้งย่าน 2.4GHz และ 5GHz) และมีบลูทูธ 5.1 ด้วย
แม้จอแสดงผลจะเป็นแบบ IPS LCD แต่ในแง่ของคุณภาพของภาพที่ได้ ก็ยังถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว ทั้งในแง่ของความชัด ซึ่งเป็นอานิสงส์จากความละเอียดในการแสดงผลที่สูงถึง 2.5K และหน้าจอที่ให้ความสว่างได้สูง 540-nit แสดงผลสีได้ 16.7 ล้านสี พร้อมกับค่าขอบเขตของสี DCI-P3 (เป็นมาตรฐานสีของการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัล) ซึ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่าเอา HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch มาดูหนังแล้ว ได้สีสันที่ดี ผมลองเปิดแอป หรือดูรูปที่เป็นสีดำ หรือไล่เฉดสี ก็พบว่ามีคอนทราสต์ที่ค่อนข้างโอเคเลยนะ

การที่มีรูกล้องหน้าอยู่ตรงมุมของหน้าจอ หลายคนอาจจะนึกว่ามันเกะกะ แต่ในการใช้งานจริง ผมพบว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะจุดที่มันอยู่ จะเป็นตรงบริเวณ Notification bar ของแท็บเล็ตครับ ดีไซน์ของ UI ของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch เขาเลี่ยงการแสดงผลตรงที่เป็นกล้องหน้าอยู่แล้ว และการออกแบบให้สัดส่วนการแสดงผลอยู่ที่ 16:10 เลยทำให้แม้จะมีการเปิดวิดีโอแบบ 16:9 เต็มจอ มันก็จะเหลือแถบสีดำไว้บนล่าง ไม่ให้รูกล้องมารบกวน และเผื่อไว้สำหรับ Navigation button ด้วยนั่นเอง (ในกรณีที่เลือกใช้ Navigation แบบมีปุ่มบนหน้าจอ)
ตัว User Interface ที่เป็น Default ของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch นั้นทำออกมาเป็นสไตล์กึ่งแท็บเล็ตกึ่งเดสก์ท็อป คือ มีตัว Docking ที่ใช้วางไอคอนแอปที่เราใช้งานประจำอยู่ แต่หากแสดงผลใน Landscape mode แล้ว มันจะมีส่วนที่แสดงไอคอนของแอปที่เราเรียกใช้งานล่าสุด 3 ตัวด้วย เราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้งาน Navigation แบบไหน ระหว่างปุ่ม Back, Home, Recents แบบเดิมๆ ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือ การใช้ Gesture โดยการปาดจากขอบหน้าจอซ้าย-ขวา และด้านล่าง เพื่อใช้แทน Back, Home และ Recents อันนี้แล้วแต่คนชอบ

และอย่างที่รู้กันว่าแม้ HUAWEI จะเรียกระบบปฏิบัติการที่ใช้บน HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ว่า HarmonyOS 2.0 แต่พื้นฐานของมันจริงๆ ก็ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ครับ ฉะนั้น มันก็สามารถติดตั้งแอปแบบเดียวกับที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มีได้สบายๆ ครับ ซึ่ง HUAWEI ได้สร้าง Ecosystem ของตัวเองขึ้นมา โดยมี HUAWEI AppGallery มาทำหน้าที่แทน Google Play Store และได้มีการพอร์ตเอาแอปยอดนิยมในประเทศไทยมาขึ้นบน AppGallery ไว้ค่อนข้างครบครันแล้ว ทั้งเกม, Mobile Banking จนถึงแอปที่พัฒนาในประเทศไทยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เป๋าตัง หมอพร้อม ฯลฯ นี่ก็มีหมด
ในฐานะของคนที่รีวิวแท็บเล็ตตระกูล MatePad มาหลายรุ่นมาก และใช้งานมานานพอสมควรแล้ว ตอนนี้บอกเลยว่าเริ่มชินกับการไม่มี Google Mobile Services บน HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch แล้วครับ เพราะการผสมผสานระหว่าง Ecosystem ของ HUAWEI เอง กับ 3rd party app store อย่าง APKPure และหันไปใช้บริการของ Microsoft ก็ช่วยชดเชยการหายไปของ Google Mobile Services ได้ค่อนข้างดีเลย ซึ่งในกรณีของผมเนี่ย ผมแนะนำแบบนี้ครับ
• ใช้ HUAWEI AppGallery ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปของ HUAWEI เอง และแอปที่เป็นของประเทศไทย ซึ่งมักจะไม่สามารถไปหาดาวน์โหลดได้จากพวก 3rd party app
• ถ้าจะต้องการใช้บริการแผนที่ ใช้ Petal Maps ได้ ซึ่งเท่าที่ผมได้ลองใช้มา (ตอนได้สมาร์ทโฟนมารีวิว) ถือว่าข้อมูลของ POI ค่อนข้างโอเคทีเดียว จะมีติดก็ตรงที่พวกร้านยิบย่อยที่อาจจะเจอได้บน Google Maps เพราะว่าร้านพวกนี้เขาสามารถเพิ่มร้านตัวเองเข้าไปในฐานะข้อมูลของ Google Maps ได้ แต่ร้านพวกนี้อาจจะไม่รู้จัก Petal Maps เป็นต้น และจะยังไม่ค่อยมีรีวิวให้อ่านกัน
• ใช้ 3rd party app store ในการดาวน์โหลดแอปใดๆ ที่ยังไม่มีให้โหลดบน AppGallery เช่น Twitter, Facebook ฯลฯ ที่หลายๆ อันมันไม่มีพอร์ตมาบน AppGallery อย่างน้อยก็ในขณะนี้
• ใช้บริการต่างๆ ของ Microsoft มาชดเชยบริการหรือแอปของ Google ที่หายไป เช่น ใช้ Outlook แทน Gmail ใช้ OneDrive แทน Google Drive เป็นต้น Microsoft Account ยังสามารถล็อกอินได้ตามปกติ แม้จะไม่มี Google Mobile Services ครับ
• ในกรณีที่จะใช้บริการ Single Sign-On ใดๆ แทนที่จะผูกกับบัญชีของ Google ก็ไปใช้ Facebook แทน หรือไม่ก็สมัครผ่านอีเมลไปตามปกติแทนไปเลยก็ได้
พอมาทำแบบนี้แล้ว ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาครับ เท่าที่ผมลองใช้งาน ในแง่ของการทำงานจะ Microsoft Office หรือประชุมออนไลน์ผ่าน Microsoft Teams หรือ Zoom ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ จะติดขัดก็แค่ ตอนที่รีวิวครั้งนี้มันต่างจากตอนรีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch คือผมไม่มีตัว HUAWEI Smart Magnetic Cover มาให้ เลยไม่มีคีย์บอร์ดใช้งาน แต่ก็แก้ขัดได้ด้วยการเอา Bluetooth keyboard มาใช้ร่วมกันแทน
ความไม่สะดวกของการใช้ 3rd party app store ก็จะเป็นเรื่องของการอัปเดตแอป เนื่องจากต้องมาคอยกดอนุมัติเพื่อติดตั้งแอปเป็นตัวๆ ไป (การไปตั้งค่าใน Security ให้ยอมติดตั้งแอปจากแหล่งภายนอกได้ มันไม่ได้ช่วยลัดขั้นตอนนี้ไปนะ)

พิจารณาจากดีไซน์และฟีเจอร์หลายๆ อย่างแล้ว HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch นี่ก็ออกแบบมาเน้นใช้ใช้งานใน Landscape mode เช่นกันครับ ซึ่งฟีเจอร์อย่าง Window lock ที่ให้เราเปิดแอปที่ถูกออกแบบมาให้ใช้แค่แนวตั้งอย่างเดียว อย่าง Lazada, Shopee, Agoda ที่รองรับฟีเจอร์นี้ สามารถแสดงผลแนวนอนได้ โดยจะแสดงเป็นหน้าจอแอปสองหน้าจอแทน หน้าจอซ้ายก็เอาไว้เปิดดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย แต่หน้าจอขวาจะเอาไว้แสดงผลรายละเอียดของไอเท็มที่เราเลือกได้

และแน่นอนว่า ฟีเจอร์ในการแสดงผลแอปสองตัวพร้อมกันในแบบ Split screen ก็ยังคงมีอยู่ เพียงแต่ว่าด้วยขนาดหน้าจอ 10.8 นิ้ว ก็จะมีขนาดในการแสดงผลที่เล็กลงไปหน่อย แต่จากที่ได้ลองใช้ดู ก็ไม่ถึงกับใช้งานยากเย็นแต่อย่างใด ตรงนี้อาจจะเพราะว่าแอปบนอุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ตเนี่ย เขาก็ออกแบบ UI ต่างๆ เพื่อรองรับหน้าจอแสดงผลขนาดไม่ใหญ่เท่าพวกโน้ตบุ๊ก หรือ จอคอมพิวเตอร์ใหญ่ๆ อยู่แล้ว
ลำโพง 4 ตัวเรียกว่าเสียงทั้งดีและดังเลยทีเดียวครับ ถ้าเราอยู่ในสถานที่ที่เราไม่ต้องเกรงใจใครเรื่องเสียง เราจะดูหนังฟังเพลง สามารถเปิดจาก HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch นี่ได้เลย ไม่ต้องมาหาลำโพงหรือหูฟังมาเสียบเพิ่มเลย และนี่คงเป็นเหตุผลที่ HUAWEI ไม่ได้แถมหัวแปลงจาก USB-C มาเป็น 3.5 มม. มาให้ อีกอย่าง เขาคงมองว่าเดี๋ยวนี้คงใช้หูฟังไร้สายเก๋ๆ กันแล้ว (เช่น HUAWEI FreeBuds 4i หรือ HUAWEI FreeBuds 4 เป็นต้น)
ไมโครโฟน 5 ตัวของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ช่วยให้ตอบสนองต่อการรับเสียงได้ดีครับ เหมาะแก่การนำมาใช้ประชุมอย่างยิ่ง เราสามารถใช้แท็บเล็ตตัวนี้ประชุมออนไลน์แบบหมู่คณะได้เลยด้วย แบบนั่งกัน 3-4 คน ล้อมวง แล้วคุยกับคู่สนทนาในการประชุมออนไลน์ได้ อย่างไรก็ดี ผมตั้งข้อสังเกตว่าฟีเจอร์ AI noise cancellation ที่เอาไว้ช่วยให้ มันแอบตัดเสียงรบกวนโหดไปหน่อย ส่งผลให้เสียงพูดของเราฟังดูเป็นหุ่นยนต์ไปหน่อย เวลาประชุมออนไลน์ (อันนี้ประสบการณ์ตรงจากการประชุมออนไลน์)

แม้ว่าผมจะไม่ได้ตัว HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มารีวิวครบเซ็ตด้วย แต่จากประสบการณ์ในการรีวิว HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch แล้ว ก็ต้องบอกว่าใช้คู่กันแล้วก็น่าจะได้น้องๆ โน้ตบุ๊กเลยละครับ จะติดก็ตรงแค่ว่าไม่มี TrackPad มาให้ และแม้ว่าตัวที่ผมได้มารีวิวก่อนหน้านี้ จะไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยมาให้ แต่ผมเดาว่าในของที่วางจำหน่ายจริง ตัวคีย์บอร์ดจะมีสกรีนภาษาไทยมาให้นะครับ
แต่เพราะตอนรีวิว MatePad Pro 12.6-inch ผมได้ HUAWEI M-Pencil 2 มาด้วย ผมก็เลยถือวิสาสะ ไม่คืนฮะ ยืมมาลองเล่นต่อกับ MatePad Pro 10.8-inch นี่ต่อเลย ก็ต้องบอกว่าใช้ได้ดีไม่แพ้กันเลยครับ ถ้าเทียบกับหน้าจอ 12.6 นิ้วแล้ว พื้นที่ในการวาดอาจจะลดลง แต่ในทางกลับกัน ขนาดมันดูพอเหมาะมากขึ้น สำหรับคนไม่อยากได้อะไรเทอะทะมากเกินไป และเช่นเคย มันยังก็ยังสามารถแปะติดกับตัวเครื่อง และชาร์จแบบไร้สายได้ในเวลาเดียวกัน

รวมๆ แล้ว พก HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch พร้อม Smart Magnetic Keyboard และ M-Pencil 2 ไปด้วย คือ ครบเครื่องสำหรับทำงานแบบไม่ซับซ้อนแล้ว จะเช็กอีเมล ท่องเว็บ แก้เอกสาร ทำ PowerPoint บ้าง จดโน้ต ดูหนัง คือครบจบในตัวเดียวจริงๆ และที่สำคัญ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบากว่าแบกโน้ตบุ๊กไปเยอะ ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล Snapdragon 870 ก็แรงพอจะเอามาทำงานตกแต่งภาพหรือตัดต่อวิดีโอแบบพื้นฐานได้ด้วยนะ

และแน่นอน ฟีเจอร์เด่นสำหรับผู้ใช้ Ecosystem ของ HUAWEI ขั้นสุดอย่าง HUAWEI Share ที่ช่วยให้เราสามารถสตรีมหน้าจอจากโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ของ HUAWEI มายัง HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch แบบไร้สายก็ยังคงมีให้ใช้ครับ และแน่นอน เราก็สามารถใช้เจ้านี่เป็นเหมือนกระดานเมาส์ปากกาในการวาดรูปได้ด้วยเช่นกัน แต่เช่นเคย ผมคิดว่าฟีเจอร์นี้จะดีมาก หากสามารถเปิดให้ใช้กับคอมพิวเตอร์ยี่ห้ออื่นๆ ได้ด้วยจะดีมากเลย
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิทัลด้านหลัง 13 ล้านพิกเซลของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch
ในแง่ของฟีเจอร์กล้อง HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ก็มีฟีเจอร์คล้ายกับกล้องบนสมาร์ทโฟนเลยครับ เพียงแต่ในแง่ของสเปกกล้องนั้นต้องบอกว่ายังสู้พวกสมาร์ทโฟนเรือธงไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะส่วนใหญ่ อุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ตนี่กล้องถ่ายออกมาคุณภาพสู้พวกสมาร์ทโฟนไม่ได้อยู่แล้ว
กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (Beauty)
แต่คุณภาพของกล้องที่ได้ หากสภาพแสงเพียงพอ ก็ถือว่าแก้ขัดได้อยู่นะครับ คือเอามาใช้ทำงาน โพสต์บนโซเชียลมีเดียได้ ไม่ตะขิดตะขวงใดๆ และกล้องหน้านี่อยากบอกว่าโหมดบิวตี้ช่วยให้เราหน้าตาดูดีขึ้นได้อีกพอสมควรเลย นี่ขนาดผมถ่ายตอนหน้ามัน และบอกตรงๆ ช่วงนี้ค่อนข้างอ้วนด้วยนะเออ

ที่น่าสนใจคือ กล้องหน้าของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch นี่ แม้จะเอามาประชุมออนไลน์ มันก็ยังทำให้หน้าดูเนียนได้ประมาณนึงอยู่ดีนะ แต่ภาพอะ ออกมาชัดกว่าเว็บแคมทั่วไปมาก เพราะความละเอียดของเซ็นเซอร์กล้องมันสูงกว่าเยอะเลย (กล้องเว็บแคมรุ่นล่างๆ จะความละเอียดแค่ 1-2 ล้านพิกเซลเท่านั้น)
แบตเตอรี่ของ HUAWEI MatePad 10.8-inch
แบตเตอรี่ของ HUAWEI MatePad 10.8-inch มีความจุ 7,250mAh ผมลองเอามาใช้งานแบบปกติทั่วไป หยิบมาเช็กอีเมล ดู YouTube เล่นโซเชียลมีเดีย ท่องเว็บ แบตเตอรี่อยู่ได้ทั้งวันสบายๆ ครับ ตกกลางคืนเลือกชาร์จได้เลย เริ่มตั้งแต่อะแดปเตอร์ 22.5 วัตต์ที่แถมมา หรือใครอยากชาร์จไว ไปหาซื้ออะแดปเตอร์ที่รองรับ HUAWEI SuperCharge 40 วัตต์ (ที่ใช้กับ MatePad Pro 12.6-inch) มาก็ได้ การชาร์จแบบไร้สาย รองรับสูงสุดถึง 27 วัตต์ และตัวมันเองก็ทำ Reverse charging ได้สูงสุด 10 วัตต์ด้วย
ใครมีสมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH 3 ที่เพิ่งเปิดตัวไป สามารถเอามาแปะที่ด้านหลังของแท็บเล็ตบริเวณโลโก้ HUAWEI เพื่อชาร์จแบบไร้สายได้เลยครับ
สรุปการรีวิว HUAWEI MatePad 10.8-inch
ผมมองว่า HUAWEI MatePad 10.8-inch เป็นแท็บเล็ตไซส์เหมาะมือที่มีประสิทธิภาพดี และหากเราใช้อุปกรณ์ภายใต้ Ecosystem ของ HUAWEI แล้ว มันจะมีฟีเจอร์เสริมการทำงานของกันและกันได้ดีทีเดียว และเชื่อมต่อระหว่างกันง่ายมาก ใครที่อยากได้แท็บเล็ตมาพกพาไว้ใช้แบบง่ายๆ สะดวกๆ ไม่อยากพกโน้ตบุ๊กให้หนัก ตัวนี้ก็อาจจะเป็นคำตอบตัวนึง ถ้าเราไม่ได้ติดว่าต้องใช้ Google Mobile Services ครับ
พิเศษตอนนี้ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch สี Midnight Gray ราคา 26,990 บาท รับฟรีเพียบ ตั้งแต่ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI M-Pencil, HUAWEI Cloud, HUAWEI Video, WPS VIP และ FilmoraGO VIP รวมมูลค่าของสมนาคุณ 10,717 บาท โดยสามารถเป็นเจ้าของ HUAWEI MatePad Pro 10.8-inch ได้เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ที่ HUAWEI Store, และร้านค้าอย่างเป็นทางการของ HUAWEI ที่ Lazada , Shopee และ JD Central
สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้และติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2Up35Q2