เทียบ Ninebot Kickscooter F20A กับ Ninebot Kickscooter MAX แบบจุดต่อจุด จะได้รู้กันไปว่าชั้นควรซื้อตัวไหนถึงจะเหมาะ

ผมรีวิว Ninebot Kickscooter F20A ไปแล้ว ใครยังไม่ได้อ่าน ย้อนกับไปอ่านกันได้ และเพราะว่างวดนี้เขาออกแบบมาโดยใช้ดีไซน์สไตล์ Ninebot Kickscooter MAX เพียงแต่ลดสเปกลงบางส่วน ก็เลยเป็นที่น่าสนใจว่า ถ้าจะควักกระเป๋าจ่ายแล้ว ระหว่าง F20A ราคา 20,900 บาท กับ MAX ที่ราคา 29,900 บาท (และกำลังจะปรับราคาเป็น 33,900 บาท วันที่ 1 สิงหาคม 2564 นี้) ราคามันต่างกันเยอะทีเดียว เราควรจะซื้อตัวไหนดี เลยจะมาขอเปรียบเทียบแบบจุดต่อจุด เท่าที่รู้สึกถึงความแตกต่างให้อ่านกันครับ

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 1 รูปร่างโดยรวม และน้ำหนัก

ในภาพรวม Ninebot Kickscooter F20A และ MAX ขนาดพอๆ กันครับ คือจากล้อหน้าถึงล้อหลัง ราวๆ 110 เซ็นติเมตร และสูงจากพื้นถึงแฮนด์ราวๆ 120 เซ็นติเมตร (ผมวัดคร่าวๆ ด้วยตลับเมตรนะ) ใช้ล้อยางลม 10 นิ้วเท่าๆ กัน แต่ Ninebot Kickscooter F20A นี่หนัก 14.5 กิโลกรัม ส่วน MAX หนัก 18.5 กิโลกรัมครับ ความแตกต่าง 4 กิโลกรัมนี่คือ โคตรเยอะ

นอกจากนี้ F20A ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งผลให้น้ำหนักมันมาอยู่ตรงล้อหน้า เวลาขี่แล้วต้องยกรถขึ้นพวกฟุตบาธหรือพื้นที่ต่างระดับ โดยไม่กะจะพับรถเพื่อหิ้ว จะทำได้ง่ายกว่า MAX ที่มอเตอร์ถ่วงอยู่ที่ล้อหลังครับ

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 2 ล้อหน้าและล้อหลัง รวมถึงระบบเบรก

ทั้งรุ่น F20A และ MAX ต่างก็เป็นล้อยางลมทั้งคู่ มีดอกยางคล้ายๆ กัน จึงให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ได้ดีกว่าล้อยางตัน และดอกยางก็เกาะถนนได้ดี รีดน้ำได้ดี ทำให้การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น แต่ในขณะที่รุ่น MAX เขาเป็นแบบไม่มียางใน และมีระบบ Self-healing โดยการใส่ Sealant เข้ามาให้ เวลาที่โดนพวกตะปู น็อต ตำแตก หากแผลไม่เกิน 6 มม. ไม่ต้องไปปะให้เสียเวลา ดึงมันออก แล้วขี่ต่อได้เลย Ninebot Kickscooter MAX ของผมก็ยางหลังโดนตำแตกมาตั้งนานแล้ว นี่ก็ยังไม่ได้เอาล้อไปซ่อมเลย แต่ก็ยังขี่ได้ดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และผ่านมาเกือบ 1,000 กิโลเมตรแล้วด้วย รุ่น F20A เป็นยางลมแบบมียางในครับ ไม่มีระบบ Self-healing ฉะนั้นถ้าแตกก็ต้องซ่อม ขี่ต่อไม่ได้นะ ประสบการณ์ในการขับขี่จะสะดุด หากกำลังขี่ไปทำงานแบบผมนี่คือ นั่งแท็กซี่กลับบ้านได้เลย แต่ตอนซื้อมา ภายในกล่อง เขามียางในแถมมาให้ด้วยอีกเส้น หากแผลตำมันใหญ่ ก็เอาไปให้ศูนย์เปลี่ยนยางในได้

ล้อหน้าของ F20A เป็นล้อที่มีมอเตอร์ไว้ขับเคลื่อน เห็นตามสเปกเขาว่าใช้ระบบเบรกเป็นดรัมเบรก (คล้ายๆ กับล้อหลังของรุ่น MAX) แต่ผมไม่ได้มีโอกาสเช็กนะ เพราะถ้าจะเช็ก คงต้องถอดล้อมันออกมา ขันน็อตเปิดฝาปิดออกอะครับ ผมไม่ว่างงานขนาดนั้น 555 ส่วน

ล้อหลังของ F20A เป็นแบบดิสก์เบรกเหมือนพวกมอเตอร์ไซค์ครับ ในขณะที่ล้อหลังของ MAX เป็นล้อที่มีมอเตอร์ ใช้ระบบเบรกไฟฟ้าซึ่งจะเบรกได้นิ่มนวลดี ข้อสังเกตอีกอย่างคือ ล้อหลังของ MAX มันจะกินเนื้อที่เข้าไปในฐานวางเท้า ในขณะที่ล้อหลังของ F20A เนี่ย จะอยู่ต่อจากฐานวางเท้าเลย

บังโคลนล้อหลังของ F20A มีการออกแบบให้มีตัวค้ำบังโคลนด้วย เวลาที่ไปเจอหลุมเจอบ่อใหญ่ๆ แล้วเผลอตก ล้อหลังกระแทก มันจะไม่มากระแทกใส่บังโคลนแรงๆ โอกาสที่บังโคลนจะหักคือแทบไม่มี แต่รุ่น MAX ถ้าเกิดโชคร้าย กระแทกแรงๆ แล้วล้อมันไปกระแทกบังโคลนเข้าจังๆ ละก็ บังโคลนอาจจะหักได้

อย่างไรก็ดี ระบบเบรกของ MAX ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเบรกไฟฟ้า (ล้อหลัง) กับดรัมเบรก (ล้อหน้า) จะเบรกได้นิ่มนวลกว่า และสามารถเบรกกะทันหันได้ดีกว่าของดีไซน์ผสมระหว่างดิสก์เบรก (ล้อหลัง) และดรัมเบรก (ล้อหน้า) ของ F20A คือ เบรกของ F20A อะ มันก็เบรกกะทันหันหยุดกึกเหมือนกันนะ แต่ไม่นิ่มนวล และเพราะขับเคลื่อนล้อหน้าด้วย เลยส่งผลให้อาจเบรกแล้วหน้าทิ่มได้ หากขี่มาด้วยความเร็วสูงสุด หรืออยู่ระหว่างการลงเนิน

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 3 ที่วางเท้า

ในขณะที่มิติความยาวของสกู๊ตเตอร์เท่ากันทั้งสองรุ่น แต่ที่วางเท้าของ F20A สั้นกว่า MAX ถึง 10 เซ็นติเมตรเลยทีเดียวครับ แต่ความกว้างเท่าๆ กัน สำหรับการขี่คนเดียว อาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมาก เพราะความยาวของที่วางเท้าของ F20A ก็ถือว่าเหลือเฟือสำหรับคนเดียวอยู่แล้ว ผมสูง 176 เซ็นติเมตร ก็สามารถวางเท้าได้สบายๆ ไม่รู้สึกอึดอัดใดๆ แต่หากจะขี่ซ้อนสองคน (ใช่ครับ มันขี่ซ้อนได้ ต่อให้สเปกมันบอกว่ารองรับน้ำหนักสูงสุด 100 กิโลกรัม ก็เหอะ แต่ผมเคยขี่รุ่น MAX ซ้อนกับภรรยาผม น้ำหนักรวม 140 กิโลกรัมมาแล้ว ก็ไม่มีปัญหา) พื้นที่มันจะเริ่มไม่พอยืนซักเท่าไหร่ ขี่ MAX จะสบายกว่าเยอะ

นอกจากนี้ ด้วยความที่แบตเตอรี่ของ F20A มีน้อยกว่า MAX พอสมควร ทำให้ท้องสกู๊ตเตอร์มันไม่ย้อยมาก ลองวัดแล้วสูงจากพื้น 9 เซ็นติเมตร ส่วน MAX จะสูงจากพื้นแค่ 7 เซ็นติเมตร เวลาขี่ไปเจอพวกลูกระนาดลูกนูนๆ โอกาสที่จะโดนครูดใต้ท้องให้เสียงบาดใจมันจะน้อยกว่าเยอะเลยครับ เวลาขี่ขึ้นทางต่างระดับเล็กๆ น้อยๆ ถ้าล้อมันไต่ไหว ก็ขี่ไต่ขึ้นได้เลย ไม่ต้องกังวลมาก แต่ถ้าเป็น MAX ก็ต้องเกรงใจท้องรถหน่อยนึง และแน่นอน รวมถึงตอนจะขี่ลุยน้ำขังด้วย

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 4 คอ แฮนด์ และกระดิ่ง

มิติของแฮนด์ของ F20A และ MAX ไม่ต่างกันครับ ความยาวของแฮนด์ก็เท่ากัน และตัวเบรกก็เป็นเบรกแบบจักรยาน อยู่ข้างซ้ายเหมือนกัน แต่ความต่างคือ แฮนด์ของ F20A จะมีพื้นที่ให้ติดอุปกรณ์เสริมนั่นนี่ได้ดีกว่า MAX เยอะเลย ทั้งแฮนด์ข้างซ้ายและข้างขวา เรียกว่าถ้าจะติดตัวจับมือถือ และไฟหน้าเสริมหรือกล้อง GoPro นี่ไม่ต้องซื้อบาร์จับมาเสริมแบบรุ่น MAX ของผมเลย (รูปขวามือ)

กระดิ่งของรุ่น F20A คือใช้งานได้ดีจริงจังกว่ารุ่น MAX ที่บางทีหมุนแล้วก็ไม่ดัง และด้วยความที่ดีไซน์ให้ตัวดีดกระดิ่งเป็นห่วงสำหรับเกี่ยวกับตัวล็อกที่ล้อหลังเวลาพับ ก็ส่งผลให้ไม่ต้องเสียพื้นที่ของแฮนด์ไปกับตัวเกี่ยว เหมือนรุ่น MAX ดีงามจะตาย (ทำไมไม่คิดได้แบบนี้ตั้งกะรุ่น MAX ฟะ)

สลักล็อกคอของรุ่น F20A จะอยู่หันมาทางด้านหลัง ส่วนของรุ่น MAX จะหันไปทางด้านหน้า ในแง่ของความมั่นคงในการล็อก ผมไม่เห็นความแตกต่างมากนัก แต่ในแง่ของความปลอดภัย ผมว่าดีไซน์ของรุ่น F20A จะดีกว่านิดหน่อย เพราะจากที่ผมลองปลดล็อกดู ของ MAX เนี่ย ถ้าปลดล็อกแล้วคอจะพับเลยครับ เกิดพลาดท่าล็อกหลุดระหว่างขับขี่นี่บรรลัย

แต่ของรุ่น F20A เนี่ย สลักมันจะปลดล็อกสองสเต็ป คือ สเต็ปแรกมันจะปลดล็อกเฉยๆ แต่คอจะยังไม่พับลงมาง่ายๆ ต้องดันออกอีกนิดหน่อย มันถึงจะคอพับลงมา ก็จะรู้สึกปลอดภัยได้อีกนิด แต่ในทางปฏิบัติ เอาจริงๆ คือ มันไม่ควรปลดล็อกเองแต่อย่างใดเลยนะ เคสที่ผมเคยเจอปลดล็อกเองได้ คือ สลักแตกจ้า (ส่งซ่อมทั้งคอเลยนะครับ)

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 5 พับแล้วหน้าตาเป็นยังไง จุดศูนย์ถ่วงล่ะ?

ทั้ง F20A และ MAX ตอนพับก็เป็นแบบสามเหลี่ยมทั้งคู่ และด้วยความที่มิติของตัวรถนี่พอๆ กัน พอพับแล้วก็หน้าตาออกมาคล้ายๆ กันเลยครับ แต่คอมันจะเอียงไปล็อกกับล้อหลังคนละข้างเท่านั้นเอง ทำให้เวลาหิ้วเนี่ย รุ่น MAX หิ้วด้วยมือซ้ายจะถนัดถนี่กว่า แต่ F20A หิ้วด้วยมือขวาจะถนัดถนี่กว่า (ในความเห็นของผม)

น้ำหนักของ MAX หนักกว่า F20A ถึง 4 กิโลกรัม แถมมอเตอร์ดันอยู่ล้อหลังอีก น้ำหนักมันไม่ได้ลงมาอยู่ที่แขนข้างที่ถือตรงๆ ส่งผลให้เรารู้สึกว่ารถมันหนัก ในขณะที่ F20A มอเตอร์อยู่ตรงล้อหน้า ใกล้กับบริเวณที่เราหิ้ว ส่งผลให้การหิ้ว F20A ทำได้ง่ายกว่ามากๆ รู้สึกว่ารถน้ำหนักเบากว่า MAX ขึ้นไปอีกเยอะ มันเป็นเรื่องของหลักการโมเมนต์

คืองี้ครับ โมเมนต์ คือ ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุเพื่อให้วัตถุหมุนไปรอบจุดหมุน ครับ มันเกิดจากแรงคูณด้วยระยะตั้งฉากจากแนวแรงถึงจุดหมุน หากโมเมนต์ฝั่งซ้ายและโมเมนต์ฝั่งขวามันสมดุลกัน เราก็จะไม่รู้สึกว่ามันถ่วงมากเวลาหิ้ว ก็จะหิ้วสะดวก และรู้สึกเบาขึ้น ทีนี้ปกติรุ่น MAX ล้อหลัง (F2) มันจะหนักกว่าล้อหน้า (F1) ส่งผลให้ F2×L2 มีค่ามากกว่า F1×L1 มากๆ (เพราะ L2 มันก็มากกว่า L1 อยู่แล้ว) เวลาหิ้วเลยรู้สึกถ่วงๆ หิ้วไม่สะดวก หนักกว่าความเป็นจริง

แต่พอรุ่น F20A มอเตอร์มาอยู่ล้อหน้า (F1) แทน ก็จะส่งผลให้ F1×L1 มันใกล้เคียงกับ F2×L2 เพราะน้ำหนักของ F1 มันชดเชยระยะ L1 ที่สั้นกว่า ก่อให้เกิดความสมดุลมากกว่านั่นเอง … โคตรฟิสิกส์ 555

ขนาดตอนผมลองยก Ninebot Kickscooter F40 ที่หนัก 15.8 กิโลกรัม ผมยังรู้สึกว่าเบากว่า MAX เยอะมากครับ

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 6 แบตเตอรี่และการชาร์จแบตเตอรี่

Ninebot Kickscooter F20A มีแบตเตอรี่ให้มา 5,100mAh ส่วน MAX ให้มา 15,300mAh คงไม่ต้องถามว่าใครมีความจุแบตเตอรี่มากกว่ากันเนอะ และเพราะเหตุนี้ MAX เลยวิ่งได้ไกลมากๆ คือราวๆ 45-48 กิโลเมตร ถ้าวิ่งในโหมด D และสามารถวิ่งได้เกือบๆ 35 กิโลเมตรสบายๆ ถ้าวิ่งโหมด S แบบต่อเนื่อง ในขณะที่รุ่น F20A นี่ตามสเปกคือวิ่งได้สูงสุด 20 กิโลเมตร ผมลองเอาไปวิ่งจริงๆ ก็ประเมินว่าน่าจะได้ซัก 17 กิโลเมตรครับ

ตัวรุ่น F20A ยังใช้ที่ชาร์จ 71 วัตต์ เหมือนของรุ่น ES2/ES4/E25 อยู่ครับ ใครมีรุ่นเหล่านี้อยู่แล้ว ซื้อ F20A มาเพิ่ม ก็เสมือนหนึ่งได้ที่ชาร์จเพิ่มมาอีกอัน ส่วนเรื่องระยะเวลาในการชาร์จก็ไม่นานมาก นั่นเพราะว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ MAX นี่จะชาร์จได้ทั้งจากที่ชาร์จแบบเดียวกะ F20A เอง และแบบที่ใช้สายชาร์จแบบที่อะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเขาใช้กัน ซึ่งจะชาร์จได้ถึง 121 วัตต์เลย และสะดวกกว่าด้วย เพราะไม่ต้องพกอะแดปเตอร์ทั้งอัน พกสายไปเส้นเดียวพอ และแม้ว่าแบตเตอรี่จะใหญ่กว่ามาก แต่ก็ชาร์จเต็มได้ไวทีเดียวเชียวละครับ

Ninebot Kickscooter F20A vs MAX: จุดที่ 7 ประสิทธิภาพและราคาของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และการรับประกัน

จุดต่างสำคัญอีกอย่างของสองรุ่นนี้ก็คือเรื่องของประสิทธิภาพและการรับประกันครับ และผมว่ามันจะเป็นจุดแตกหักในการพิจารณาเลือกซื้อระหว่าง F20A หรือ MAX เลยด้วย กล่าวคือ

• F20A จะวิ่งได้ไกลสุดราวๆ 17 กิโลเมตร (พิจารณาแบบเซฟๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องเข็นกลับบ้านเพราะแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง) ความเร็วสูงสุดคือ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการใช้งานไป-กลับในระยะทางไม่ไกลมาก และไม่ต้องเจอทางชันๆ เยอะ เพราะแรงบิดของมอเตอร์ไม่สูงมาก ถ้าเจอทางชันๆ ก็อาจจะไม่รอดเอา ยกเว้นจะมีระยะทางให้วิ่งทำความเร็วประมาณนึง แล้ววิ่งยิงยาวขึ้นไปเลย การซ้อนสองคนทำได้ แต่จะยิ่งทำให้หมดสิทธิ์ขึ้นทางชันเข้าไปอีกครับ แต่ข้อดีคือ F20A (และ F30/F40) นี่ประกัน 2 ปีจ้า

• MAX จะวิ่งได้ไกลสุด แม้จะเป็นโหมด S (ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ก็ยังอยู่แถวๆ 30 กว่ากิโลเมตร ชิลๆ ถ้าเกิดว่าวิ่งโหมด D (ความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ก็จะได้แถวๆ 45-50 กิโลเมตรเลย ถ้าฟิตพอ สามารถใช้เป็นยานพาหนะสำหรับเดินทางไปทำงานได้ แม้ระยะทางจากบ้านถึงที่ทำงานจะไกลระดับ 20 กิโลเมตรก็ตาม และบอกตรงๆ สภาพรถติดใน กทม เนี่ย ขับรถยนต์เฉลี่ยก็วิ่งได้ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอๆ กับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแหละ ผมถึงเลือกขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปทำงานไง และแรงบิดของมอเตอร์ของ MAX ค่อนข้างดี ขึ้นทางชันๆ ได้ดีกว่า F20A เยอะครับ และต่อให้ขี่ซ้อนก็ยังพอขึ้นทางชันได้ประมาณนึง แต่ไม่ดีเท่าขี่คนเดียว) แต่ MAX เขาประกันปีเดียวนะ