งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งล่าสุดจาก Apple คราวนี้ ฮือฮากันอีกครั้งทั้ง iMac รุ่นใหม่ สีสันสดสวย จอที่บางโคตรๆ และใช้ชิป Apple M1 ด้วย แต่ที่ฮือฮาไม่แพ้กันก็คือ iPad Pro (2021) ที่แม้จะดีไซน์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่มีการยกเครื่องฮาร์ดแวร์ไม่น้อย ทั้งชิป Apple M1 กล้องหน้า Ultrawide พอร์ต USB-C รองรับ Thunderbolt และที่สำคัญที่สุดก็คือ รุ่นท็อป Cellular 5G ความจุ 2TB ที่ราคายังไม่รวม AppleCare+ (5,500 บาท) กับ Magic Keyboard (9,900 บาท) ก็ 81,400 บาทเข้าไปแล้ว ซึ่งพอเทียบกับ MacBook Pro 13 นิ้ว แรม 16GB ความจุ 2TB แล้ว ยังแค่ 77,900 บาทเท่านั้นเอง แบบนี้ซื้อ MacBook Pro จะคุ้มกว่าไหมฟะ?
การมาของ iPad Pro ที่ใช้ชิป Apple M1 นี่แบบว่า ทำให้คาดหวังถึงอนาคตได้เลยว่า อาจจะมีซักวันที่ iPad และ MacBook มันจะรวมร่างกัน หรือ อาจจะเกิดอุปกรณ์ประเภท 2-in-1 (เช่นพวก Detachable คล้ายๆ Microsoft Surface Pro) ในอนาคตได้ ถ้า Apple อยากจะทำ และแน่นอนว่า ทำได้ดีกว่า Microsoft แน่นอน ตามสไตล์ “เราไม่ใช่คนทำคนแรก แต่เราคนที่ทำได้ดีที่สุด” ตามที่ สตีฟ จ๊อบส์ เคยกล่าวเอาไว้
ยังไงก็ตาม แม้ว่าการมาของชิป Apple M1 จะทำให้ช่องว่างระหว่าง iPad Pro และ MacBook Pro ลดลง ตำแหน่งทางการตลาดของ iPad Pro และ MacBook Pro แม้จะเป็น Pro เหมือนกัน (หมายถึง ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ ที่เอาอุปกรณ์นี้ไปใช้ทำมาหากินได้) นั่นคือ
• iPad Pro เอาไว้สำหรับคนที่ต้องการอุปกรณ์ที่พกพาไปไหนมาไหนก็สะดวก หยิบฉวยมาใช้ก็สะดวก การใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องมีคีย์บอร์ดหรือเมาส์ ถ้าจำเป็นต้องขีดเขียนจดงาน หรือวาดรูป หรือตกแต่งภาพให้สะดวก ก็ซื้อหา Apple Pencil มาใช้คู่ด้วยได้อีก ถ้าต้องการความสะดวกในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบไม่ต้องง้อ WiFi หรือ การทำ Tethering กับสมาร์ทโฟน ก็ซื้อหารุ่น WiFi + Cellular ได้
• MacBook Pro คือ คนที่อยากได้โน้ตบุ๊กแบบที่เป็นโน้ตบุ๊กจริงๆ มีพอร์ตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เยอะหน่อย มีคีย์บอร์ด มีเมาส์ มีอุปกรณ์เสริมมากมาย มีโปรแกรมที่เป็นชุดเต็มมากกว่า โปรแกรมเดียวกันที่รันบนระบบปฏิบัติการ iPadOS

แต่ที่เมื่อกี้บอกว่าการเปิดตัว iPad Pro ใหม่งวดนี้ ช่องว่างของ iPad Pro กับ MacBook Pro มันลดลงอะ ก็เป็นเพราะว่า
• iPad Pro กับ MacBook Pro จะมีประสิทธิภาพในการประมวลผลไม่แตกต่างกันมาก เพราะหน่วยประมวลผลเป็น Apple M1 เท่ากันแล้ว ถ้าจะแตกต่างตอนนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องของจำนวนและชนิดของหน่วยความจำที่ใส่มาให้ และประสิทธิภาพของ Internal storage ที่เขาให้มาใน iPad Pro ก็เท่านั้น iPad Pro รุ่นความจุ 128/256/512GB จะได้แรม 8GB ส่วนรุ่น 1TB และ 2TB จะได้แรม 16GB
• MacBook Pro ก็ได้เรื่องแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด จนเรียกได้ว่าความรู้สึกที่ว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ iPad Pro เพราะ MacBook Pro ที่ใช้ชิป Apple M1 ก็พร้อมเปิดเครื่องทิ้งไว้ได้ทุกเมื่อ และสามารถนำไปทำงานนอกสถานที่ได้ทีทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จ กลับบ้านหรือเข้าออฟฟิศแล้วค่อยชาร์จก็ยังได้
น่าจับตามองว่าในอนาคต ทิศทางของ iPad Pro และ MacBook Pro มันจะเป็นยังไงต่อไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ ถ้าใครจะซื้อ แล้วลองกดสเปกไปแบบเต็มเหนี่ยวดู จะพบว่า iPad Pro 12.9 นิ้ว (ก็ประมาณ 13 นิ้วนี่แหละ) นี่ ถ้าเอาความจุสูงสุด เป็น WiFi + Cellular ก็ประเข้าไป 81,400 บาทเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่นับ AppleCar+ และ Magic Keyboard ที่จะช่วยต่ออายุประกันไปได้อีกหน่อย และทำให้ใช้งานได้คล้ายๆ โน้ตบุ๊กนะ ถ้าบวกสองตัวนี้เข้าไป ราคาก็จะกลายเป็น 96,800 บาท หรือ เฉียดแสน ขึ้นมาในบัดดล และถ้าเลือกเป็นรุ่น WiFi-only ราคาก็จะลดลงมาหน่อย เหลือ 91,800 บาท

มาดูที่ MacBook Pro 13 นิ้ว ชิป Apple M1 กันบ้าง เลือกสเปกท็อปไปเลยฮะ แรม 16GB (ซึ่งจริงๆ แรม 8GB ก็น่าจะเยอะกว่า iPad Pro 12.9 นิ้วอยู่แล้วนะผมว่า) และใส่ความจุไปเลย 2TB ราคาจะอยู่ที่ 77,900 บาทครับ พอใส่ AppleCare+ เข้าไปอีก ก็บวกไป 9,500 บาท (ถ้าได้ข้อมูลมาไม่ผิดนะ) กลายเป็น 87,400 บาท ถูกกว่าซื้อ iPad Pro 12.9 นิ้ว บวก AppleCare+ บวก Magic Keyboard อยู่ 4,400 บาท … เฮ้ย! คิดหนักเลย ว่าถ้าจะซื้อ iPad Pro 12.9 นิ้วตัวท็อปสุดติ่งนี่ ซื้อ MacBook Pro 13 นิ้ว ตัวท็อปเลยดีกว่าไหม?

แต่ผมมองว่า การคิดแบบนี้ มันแอบ Extreme ไปนิดครับ โดยส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่า มันอยู่ที่พฤติกรรมการใช้งาน และความจำเป็นในการใช้งานของเรา และงบประมาณที่เรามีมากกว่า คือ
• ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา จะซื้อมาทั้งสองตัว รุ่นท็อปทั้งคู่ ก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน จริงปะ
• แต่ถ้าเลือกได้แค่ตัวใดตัวหนึ่ง แล้วจำเป็นต้องไปให้สุดทั้งคู่ แบบ ความจุ 2TB อะไรแบบนี้ ต้องมีคีย์บอร์ดด้วย และอยากได้ประกันเอาไว้กันเหนียว (ซื้อ AppleCare+ คุ้ม บอกเลย) ราคาที่แพงกว่าของ iPad Pro 12.9 นิ้ว พร้อม AppleCare+ และ Magic Keyboard มันคือราคาที่ต้องจ่าย หากคุณจำเป็นต้องใช้มัน
• แต่ในทางปฏิบัติจริง เราอาจจะไม่ได้มีความจำเป็นต้องไปถึงขั้นนั้นเลย คุณอาจจะจำเป็นต้องมี MacBook Pro 13 นิ้ว Apple M1 ไว้ใช้ แต่แค่แรม 8GB ความจุ 256GB ก็พอ อะไรแบบเนี้ย ค่าตัวมันก็ลงไปเหลือ 42,900 บาทแล้ว จากนั้น ก็มองไปว่า เราก็มีสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว สามารถแชร์เน็ตผ่าน WiFi Hotspot ได้ ก็จัดมาแค่ iPad Pro 12 นิ้ว ไม่ต้องเอา Magic Keyboard ไหม ราคาก็เริ่มที่ 37,900 บาท ที่ความจุ 128GB ซื้อทุกตัวรวมกัน พร้อม AppleCare+ แล้ว ก็อยู่ที่แถวๆ 96,200 บาท ด้วยสเปกแล้ว ทั้งแรมและความจุอาจจะไม่เท่ากับซื้อตัวเดียวแต่สเปกไปให้สุด แต่อย่างน้อย เราก็จะมีอุปกรณ์ให้เลือกสองชิ้น ใช้งานตามความเหมาะสมไหม? หรือจริงๆ คุณก็อาจจะไม่ได้ต้องการสเปกสุดขนาดนั้น และไม่ได้ต้องการใช้พร้อมกันสองตัวขนาดนั้นไหม?
เออ มันก็น่าคิดปะ? ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกยังไงอะ?