มี Crowdfunding อันนึงเมื่อต้นปีที่แล้ว ที่ระดมทุนไปได้ราวๆ ร้อยล้านบาทบน Kicksctarter และ Indiegogo เป็นโปรเจ็กต์ทำสายชาร์จที่มีดีไซน์ติดแม่เหล็กเป็นจุดๆ เพื่อให้ช่วยม้วนเก็บสายได้สะดวกๆ แต่ด้วยความที่เดี๋ยวนี้มันไม่รู้ว่าพวกของที่เป็น Crowdfunding สายเทคโนโลยี จริงๆ แล้วมันคือเจ้าของโปรเจ็กต์ไปซื้อ OEM มาโม้บน Crowdfunding platform หรือ โรงงานที่รับผลิตของให้เจ้าของโปรเจ็กต์มันแอบเอาดีไซน์ไปทำเองก็ไม่รู้ เลยทำให้ยังไม่ทันอะไรเลย มีสายดีไซน์แม่เหล็กแบบนี้มาขายในไทยแล้วฮะ และที่เป็นแบรนด์เป็นตัวเป็นตนดีๆ เลยก็คือ Gizmo GU-035 Magnetic Sucker ที่ผมซื้อมาจาก 7-11 มารีวิวนี่แหละ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
สายชาร์จ USB-C Gizmo GU-035 Magnetic Sucker เส้นนี้ ผมซื้อมาเอง ใช้เอง รีวิวเอง เผื่อใครสนใจอยากได้สายแบบนี้ จะได้รู้ว่ามันดีไหม เวิร์กไหม

สายชาร์จแม่เหล็ก Gizmo magnetic sucker data cable เนี่ย มันมีให้เลือกสามรุ่น คือ GU-033 (Micro USB), GU-034 (Lightning) และ GU-035 (USB-C) ครับ ของผมเป็นรุ่น GU-035 เพราะพวก Android smartphone สมัยนี้ใช้พอร์ตนี้กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ลักษณะของสายชาร์จเนี่ย เป็นสายพลาสติก แต่มีการหุ้มยางอีกชั้นเพื่อป้องกันกรณี้เกิดกระแสไฟรั่ว (ตามที่ระบุไว้ในสเปก) มีหัวชาร์จเป็นอลูมิเนียม และตรงตัวสายเนี่ย จะมีการติดแม่เหล็กไว้เป็นระยะๆ ทุกๆ 10 เซ็นติเมตร

ตรงหัวของสายชาร์จทั้งฝั่งที่เป็น USB-A ที่เอาไว้เสียบกับคอมพิวเตอร์หรือพาวเวอร์แบงก์ และฝั่งที่เป็น USB-C ที่เอาไว้ชาร์จกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ต่างๆ มันมีดีไซน์ที่จับเป็นพลาสติกเอาไว้ให้เราสามารถจับแล้วดึงสายชาร์จออกมาได้สะดวกๆ ด้วย

ตัวแม่เหล็กที่อยู่บนสายเนี่ย มีไว้เพื่อช่วยให้สามารถม้วนเก็บได้อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งก็ช่วยให้เราสามารถม้วนสายได้สองแบบ คือ ขดเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เซ็นติเมตร หรือ 10 เซ็นติเมตร โดยที่จะยังเหลือสายในส่วนที่ต่อกับอุปกรณ์ และที่ต่อกับพาวเวอร์แบงก์ อยู่ข้างละ 10 เซ็นติเมตร ดูๆ

เพียงแต่ถ้าใครคิดว่ามันจะทำได้เจ๋งๆ แบบ Supercalla สายชาร์จดีไซน์เดียวกัน ที่ระดมทุนได้ไปร้อยล้านบาทที่ผมพูดถึงไปในตอนแรก ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่ามันทำได้ดีในระดับนึง แต่ไม่เทียบเท่าครับ นั่นเป็นเพราะว่าจำนวนของตัวแม่เหล็กที่เอาไว้มันน้อยกว่าของ Supercalla นั่นเอง คือ ของ Supercalla มี 16 อัน ส่วน Gizmo มีแค่ 10 อัน แต่ก็อย่างที่บอก มันอาจจะทำได้ไม่เจ๋งเท่า แต่ถ้าแค่ต้องการให้เก็บสายได้สะดวก มันก็ยังถือว่าตอบโจทย์
ตามสเปกของสาย มันสามารถรองรับกระแสไฟได้สูงสุด 3.2A ฉะนั้น มันก็สามารถรองรับพวกเทคโนโลยี QuickCharge, Fast Charge หรือ Super Charge ทั้งหลายทั้งมวลได้ประมาณนึง (เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่เร็วยุคหลังๆ ที่จ่ายไฟได้ 100 วัตต์ จะจ่ายกระแสไฟ 5V ซึ่งสายชาร์จนี้มันไม่รองรับนะครับ)

ลองเอามาทดสอบการชาร์จด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ดู ซึ่งเท่าที่ลองดูคือ มันรองรับกระแสไฟ 3.2A ได้ตามสเปกจริงๆ ครับ เพียงแต่เวลาใช้งานจริง กระแสไฟอาจจะไม่ได้วิ่งเต็มขนาดนั้น ทั้งนี้เพราะอยู่ที่ว่าสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์นั้นๆ รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบไหน ตัวหัวชาร์จนี่รองรับเทคโนโลยีอะไร และแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ในสมาร์ทโฟนนั้นมีเท่าไหร่ด้วยอะนะ

ตามสเปกของสาย เป็น Data cable นั่นหมายความว่าก็จะสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วย ผมก็เลยลองเอามาจิ้มกับ Samsung Galaxy Z Fold 2 แล้วลองถ่ายโอนข้อมูลขนาด 3GB มาไว้บนคอมพิวเตอร์ดูฮะ ก็ได้ความเร็วแถวๆ 46-48MB/s หรือราวๆ 368-384MB/s หรือประมาณ USB 2.0 ครับ ซึ่งถือว่าแอบช้า ซึ่งผมก็แปลกใจว่า เอ๊ะ มันเป็นเพราะตัวสมาร์ทโฟน หรือเป็นเพราะสาย ผมก็เลยไปลองเสียบกับ WD My Passport SSD ที่ตามสเปก มันรองรับ USB 3.2 Gen 2 เลย ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ความเร็วก็ถูกจำกัดไว้ที่ 42-45MB/s เช่นกัน ก็เลยได้ข้อสรุปว่าเจ้าสายนี้มันสเปก USB 2.0 ครับ
สรุปการรีวิวสายชาร์จ Gizo GU-035 USB-C
ก็ถือว่าเป็นสายชาร์จที่ทำได้ตามสเปก คือ ชาร์จได้ด้วยกระแสไฟ 3.2A ส่วนฟีเจอร์ตัวแม่เหล็กที่เอาไว้ช่วยในการเก็บสายได้อย่างสะดวก แม้จะทำได้ไม่ดีเท่ากับต้นฉบับที่ทำมาระดมทุนผ่าน Kickstarter และ Indiegogo แต่ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างโอเคอยู่ ส่วนที่ผมชอบจริงๆ น่าจะเป็นการออกแบบให้มีตัวจับพลาสติก เพื่อให้สามารถจับและดึงหัวชาร์จออกมาได้สะดวกๆ นี่แหละครับ ตัวสายก็มีการรับประกัน 1 ปีด้วย (รายละเอียด สอบถามได้ที่เบอร์โทรที่อยู่ข้างกล่อง) ส่วนข้อจำกัด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่สายมันเป็นมาตรฐานการถ่ายโอนข้อมูลเป็น USB 2.0 นั่นแหละครับ
ผมแนะนำว่าลองไปดูๆ ที่ 7-11 ดีกว่า ว่ามีสาขาไหนขายบ้าง ราคา 199 บาท หรือจะลองซื้อออนไลน์จากร้าน Official บนเว็บก็ได้ที่ลิงก์ด้านล่างครับ