คนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows มาอย่างยาวนาน ไม่ได้รักชอบระบบปฏิบัติการนี้ซะ 100% หรอกนะครับ หลายคนมีแซะด้วยซ้ำ ถึงเรื่องวัฏจักร ดี-ห่วย ของตัวระบบปฏิบัติการ เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่า Microsoft เนี่ย เขาพัฒนาระบบปฏิบัติการมาดีและห่วยสลับกันแบบเวอร์ชันเว้นเวอร์ชันกัน บล็อกตอนนี้เลยขอเขียนถึงซักหน่อยครับ ว่าวัฏจักรมันเป็นยังไง แบบคร่าวๆ
Windows 3.1 และเวอร์ชันก่อนหน้าไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ
ตัว Windows เวอร์ชัน 1.0-3.11 นั้นไม่ใช่ระบบปฏิบัติการครับ เพราะมันยังต้องอาศัยระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System) อยู่ ตัว Windows เวอร์ชัน 1.0-3.11 นั้น จะเรียกว่าเป็น Graphic User Interface (GUI) ให้กับตัวระบบปฏิบัติการ
ถ้าเรานับเฉพาะที่เป็นตัวระบบปฏิบัติการเลย มันเริ่มจาก Windows 95 ครับ ซึ่งมีการรวมเอา DOS มาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 95 แล้ว มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ Microsoft แต่มันก็ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่เสถียรเท่าไหร่ และได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นใน Windows 98 และ Windows 98SE (โดยเฉพาะในเวอร์ชัน SE) ครับ แต่แล้ว Microsoft ก็ออก Windows me มาสำหรับฉลองปี ค.ศ. 2000 ที่เขาเรียกว่า Millenium (เขาเลยเรียก Windows me ว่าเป็น Millenium edition) ซึ่งเวอร์ชันนี้ ได้รับการขนานนามว่า เป็น Windows เวอร์ชันห่วยสุด นับตั้งแต่ Microsoft เปิดตัว Windows มาทุกรุ่น
Microsoft กลับมาแก้มือได้ตอนปล่อย Windows XP ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ผมว่ามีคนใช้นานต่อเนื่องที่สุดในประวัติศาสตร์แล้วล่ะ ส่วนหนึ่งเพราะตอนที่ Windows Vista ออกมา มันก็กลับมาคล้ายๆ กับ Windows me อีกรอบ เพราะต้องการทรัพยากรของระบบสูงมากแต่ไม่ได้ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า Windows XP ซักเท่าไหร่เลย และตามสไตล์ของ Microsoft คือ ค่อนข้างเน้นพวก Backward compatibility มาก ส่งผลให้ผู้ใช้งานไม่มีความจำเป็นต้องอัปเกรดมา Windows Vista มากนัก หลายคนที่ซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ แล้วได้ Windows Vista มาด้วยนี่ถึงกับยอมดาวน์เกรดไปเป็น Windows XP ด้วยซ้ำ
Windows XP นี่เลยถูกใช้เรื่อยมานานมาก ขนาดที่ว่า พอ Windows 7 ออกมาแล้ว (ซึ่งออกมาหลังจาก Windows XP เปิดตัวถึง 12 ปี) ผู้คนก็ยังใช้ Windows XP กันอยู่ ไม่ยอมอัปเกรดไป Windows 7 ซะที แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับคนที่ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ๆ เขาก็โอเคกับการใช้ Windows 7 นะ เพราะว่า Windows 7 นี่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี
แต่วัฏจักรของ Windows มันก็มาถึงรอบที่ห่วยครับ Microsoft พยายามพลิกโฉมระบบปฏิบัติการ Windows ด้วยการออก Windows 8 เพื่อเป็นเวอร์ชันที่จะใช้งานบนอุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ตด้วย มีการออก Windows 8 เวอร์ชันสำหรับหน่วยประมวลผลที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM และออก Microsoft Surface รุ่นแรกออกมา แต่แน่นอน ก็มันเป็นวัฏจักร “ห่วย” นี่นะ ผลก็เลยออกมาเละตามคาด และแม้จะพยายามออก Windows 8.1 มาขัดตาทัพ มันก็ไม่เวิร์กอยู่ดี เช่นเคย ผู้คนก็ไม่อัปเกรดมากันครับ ยังคงเกาะอยู่บน Windows 7 อย่างเหนียวแน่น
จนกระทั่ง Microsoft หาทางออกแบบที่ลงตัวได้ใน Windows 10 และทำให้มันเป็นระบบปฏิบัติการที่จะมีการอัปเดตต่อไปเรื่อยๆ แบบที่ผู้ใช้งานไม่ต้องมาเสียตังค์อัปเกรดแล้วนี่แหละ ผู้คนส่วนใหญ่เลยหันมาใช้ Windows 10 กันแล้ว โดยข้อมูลจากเว็บ Statista.com เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ชี้ว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Windows 10 อยู่ที่ 75.68% เมื่อเทียบกับ Windows เวอร์ชันอื่นๆ
และอาจจะเพราะ Microsoft เองก็ห่วงเรื่องวัฏจักร ดี-ห่วย ของระบบปฏิบัติการของตัวเองละมั้ง เลยตัดสินใจให้ Windows 10 นี่เป็นเวอร์ชันสุดท้ายไปซะเลย แล้วใช้รหัส Build ในการระบุว่าเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันไหนโดยละเอียดอีกที แต่ผมว่า ในอนาคต Microsoft อาจจะมีการออก Windows เวอร์ชันใหม่ หรือ อาจจะมีการรีแบรนด์ตัวระบบปฏิบัติการอีกทีก็ได้ เมื่อเทคโนโลยีมันพัฒนาไปถึงจุดที่ตัวระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นมา มันต้องมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดขึ้นไปอีก จนไม่อาจเรียกว่าเป็นเวอร์ชันที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อีก … รอดูกันไป
