ใครที่ตามอ่านรีวิว QNAP NAS ของผมจะสังเกตว่า QNAP เริ่มเพิ่มการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ 2.5GbE และ 10GbE เข้าไปใน NAS หลายรุ่นแล้ว เพราะในอนาคต ปริมาณข้อมูลที่จะถูกเก็บ และถูกรับส่งกันภายในระบบเครือข่ายจะเพิ่มขึ้นมาก ไม่ต้องคิดอะไรมาก มาตรฐาน WiFi 6 เนี่ย ก็จะวิ่งกันระดับกิกะบิตแล้ว ฉะนั้นสำหรับ NAS แล้ว ก็ต้องมีแบนด์วิธที่มากพอที่จะรองรับความต้องการนี้ให้ได้ และสวิตช์แบบ Manage switch รุ่น QSW-M2108-2S นี้ ก็จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานระดับ Power user ตามบ้าน หรือออฟฟิศขนาดเล็ก ในการอัปเกรดเน็ตเวิร์กภายในบ้านให้มีแบนด์วิธเพิ่มสูงขึ้นฮะ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
สวิตช์ QSW-M2108-2S ที่เขียนถึงในบล็อกตอนนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อมาจาก QNAP Thailand มาให้ลองใช้งานครับ แต่ก็น่าเสียดายที่ผมไม่มี QNAP NAS รุ่นที่รองรับ 2.5GbE หรือ 10GbE เลย (แต่ไม่เกินปีหน้าแหละ ต้องมีแล้ว เพราะ TS-453A ที่ผมใช้อยู่จะถึง End of Life (EOL) แล้ว ฉะนั้นผมอาจจะไม่ได้ทดสอบด้วยตนเอง เรื่องความเร็วในการใช้งานจริง แต่จะขอพูดถึงตามสเปกนะครับ (เลยเป็นที่มาที่ผมไม่เรียกบล็อกนี้ว่าเป็นการ “รีวิว”
ตัวสวิตช์นี่ออกแบบมาสีขาวสวยเชียว แถมผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมต้องทำให้บางส่วนของสวิตช์เป็นพื้นผิวมันวาว ให้มันเป็นคราบเป็นรอยง่ายๆ ด้วย ทำไมไม่ทำให้เป็นขาวด้านไปทั้งเครื่องก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู ตัวเครื่องมีการออกแบบให้มีระบบระบายความร้อนที่ดี เพราะเจ้านี่ต้องทำงานกับการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงครับ ตัวเครื่องมีพอร์ต 2.5GbE แบบ RJ45 อยู่ 8 พอร์ต (รองรับ 10/100/1000Mbps) และ พอร์ต 10GbE แบบ SFP+ อีก 2 พอร์ต (รองรับความเร็ว 1Gbps และ 10Gbps) รวมแล้วเป็น 10 พอร์ต แล้วก็มีพอร์ต RJ45 อีกพอร์ตสำหรับ Console

ดีไซน์ของปลั๊กอะแดปเตอร์ของสวิตช์ตัวนี้มันแปลกดีแฮะ คือ มีลักษณะเป็นปรับแบบ DC ที่หัวปลั๊กเป็นทรงกระบอก ออกแบบมาแบบนี้ เลยทำให้สามารถหมุนตัวปลั๊กไปมา ทำให้สะดวกเวลาจะเอาเจ้าสวิตช์ตัวนี้ไปวางตามที่ต่างๆ จะได้ขยับสายไฟหลบได้
การติดตั้งถือว่าง่ายมาก เพราะในตัวสวิตช์เนี่ยมี DHCP server ในตัว คือ ถ้ากะใช้มันเป็นสวิตช์ตัวหลัก มันก็พร้อมจะจ่าย IP address ให้กับอุปกรณ์ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับมันได้เลย หรือหากเราต้องการเอามันไปติดตั้งเพิ่มเข้าไปในเน็ตเวิร์ก และในเน็ตเวิร์กเราก็มี DHCP server อยู่แล้ว มันก็จะรับค่า IP address มาจาก DHCP server ได้เลย

และแน่นอน Qfinder Pro สามารถนำมาใช้ในการสแกนหาสวิตช์ในตระกูล QSW นี่ได้สบายๆ ครับ เผื่อใครขี้เกียจจำ IP address และในการตั้งค่าครั้งแรก มันต้องใช้รหัสผ่านเป็น MAC address ของตัวสวิตช์ครับ ซึ่งดูได้จาก Qfinder Pro นั่นเอง

การบริหารจัดการสวิตช์ตัวนี้ ทำผ่านระบบปฏิบัติการ QSS ของ QNAP ครับ ซึ่งมันจะแสดงข้อมูลของตัวสวิตช์ให้เราได้ดู โดยใน Overview มันก็จะแสดงรายละเอียดการตั้งค่าเบื้องต้นของตัวสวิตช์ และการทำงานของตัวสวิตช์ด้วย ซึ่งในหน้าจอ Overview คือแสดงทราฟฟิกของพอร์ตต่างๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง เราจะได้มอนิเตอร์แบนด์วิธได้

สวิตช์ QSW-M2018-2S ตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านที่เป็น Power user ที่ต้องการแบนด์วิธสูงๆ เช่น ตามบ้านใครก็ตามที่มีการใช้งาน QNAP NAS เพื่อเก็บข้อมูลจำพวกไฟล์หนังความละเอียดสูง มีการติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์จำพวก WiFi 6 แล้ว อะไรพวกนี้ บางคนที่ทำงานด้านวิดีโอ แล้วเก็บพวกไฟล์วิดีโอไว้บน QNAP NAS แล้วต้องดึงข้อมูลผ่าน NAS บ่อยๆ หรือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเพิ่มแบนด์วิธให้กับเน็ตเวิร์กของตนเอง
จากภาพด้านบน จะเห็นว่าเราสามารถวางแผนการใช้งานสวิตช์ QSW-M2018-2S ไว้เป็นตัวหลัก แล้วต่อกับ Wireless Access Point (ที่ผมก็แนะนำว่ารองรับ 2.5GbE) เพื่อจ่ายสัญญาณ WiFi ให้อุปกรณ์ต่างๆ ส่วนพอร์ต 2.5GbE อื่นๆ ก็เอามาต่อกับพวก QNAP NAS ที่รองรับ 2.5GbE กับพวกโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับ 2.5GbE เป็นต้น ส่วนพอร์ต 10GbE นี่ สามารถเอาไปเชื่อมต่อกับสวิตช์ตัวอื่นได้ หรือเอาไปต่อกับ QNAP NAS ที่อาจจะเป็นตัวหลักของออฟฟิศ ที่รองรับ 10GbE ก็ได้

และแน่นอน เจ้านี่เป็น Managed switch รองรับการทำ Link aggregation ตามมาตรฐาน IEEE 802.3ad LACP เพื่อเพิ่มแบนด์วิธด้วยการรวมแบนด์วิธของแต่ละพอร์ตเข้าด้วยกัน

ฟีเจอร์อื่นๆ ของสวิตช์ QSW-M2018-2S ตัวนี้ก็เช่น การจัดลำดับความสำคัญของการให้บริการทราฟฟิก หรือ QoS (Quality of Service), VLAN, IGMP Snooping ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการเครือข่ายไม่ว่าจะเป็น ACL (Access Control List), LLDP, RSTP และ Flow control
ตอนนี้ยังไม่ทราบราคาของเจ้าสวิตช์ตัวนี้นะครับ แต่แอบไปคุ้ยๆ ดูว่าที่เมืองนอกขายอยู่เท่าไหร่ ก็เห็นว่าอยู่ที่ราวๆ $300 (ราคาบนเว็บ Amazon.com) ก็ถือว่าเป็นข่าวดีนะ เพราะราคาไทยน่าจะบวกไปจากนี้ไม่เวอร์มาก อีก 1-2 ปี ผมก็คิดว่าอาจจะต้องถึงเวลาอัปเกรดเน็ตเวิร์กเพื่อเพิ่มแบนด์วิธให้กับระบบเครือข่ายที่บ้านแล้วเหมือนกัน เพราะอุปกรณ์ต่างๆ เริ่มกินแบนด์วิธเยอะขึ้นมากแล้ว
ภาพประกอบทำกราฟิกปกบล็อกตอนนี้โดย Background vector created by vector_corp – www.freepik.com