หลังๆ พาวเวอร์แบงก์กลายเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆ คนพกติดตัว เพราะใช้งานสมาร์ทโฟนโหดๆ หน่อย แบตเตอรี่ใช้ไม่ทันข้ามวัน ก็ต้องพึ่งพาเจ้านี่แหละ และพัฒนาการของพาวเวอร์แบงก์ก็มีหลากหลายนะ ทั้งแบบเบาขึ้น แบตจุขึ้น มีชาร์จไร้สาย รองรับชาร์จไว ฯลฯ เรื่อยไปจนถึงเป็นเครื่องเล่นเกมยุค Famicom (ฝรั่งเรียก NES) มีเกมเป็นร้อยในตัวด้วย ราคาก็ไม่แพง แค่ราวๆ 500 บาท ซื้อได้บนทั้ง Lazada และ Shopee นี่ก็เลยเลือกมาซักอันที่ดูทรงแล้วน่าสนใจ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
ไอ้พาวเวอร์แบงก์ที่รีวิวในบล็อกตอนนี้ ชื่อยี่ห้อและรุ่นก็แกะๆ เอามาจากกล่องใส่ของมันนั่นแหละ ซื้อเอง ออกตังค์เอง ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากใครทั้งสิ้น ส่วนลิงก์ที่แนะนำร้าน ก็เป็นลิงก์ร้านที่ผมซื้อนั่นแหละ เผื่อใครอยากได้ ก็จะได้ซื้อจากร้านที่ค่อนข้างชัวร์หน่อย เพราะอย่างน้อยผมก็เป็นลูกค้ามันมาแล้ว แต่ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ จากร้านนี้ทั้งสิ้น (Affiliate ก็ไม่ได้เป็น)
เท่าที่ค้นๆ ทั้ง Lazada และ Shopee ดู ไอ้พาวเวอร์แบงก์ที่เล่นเกมได้มันจะมีสองทรง คือ ทรงเกมบอย ที่เป็นแนวตั้ง กับไอ้ทรงที่ผมซื้อมา ที่คล้ายๆ กับพวกเกมเกียร์ เกิดไม่ทันกันสินะ ดูรูปด้านล่าง ไม่เกี่ยวอะไรกับการรีวิวเท่าไหร่หรอก แค่อยากมารำลึกความหลัง
สรุปว่าผมซื้อจาก Shopee เพราะว่ามันมีรุ่นที่เป็นทรงเกมเกียร์ (เล่นแนวนอน) แล้วมีของในประเทศไทยพร้อมส่ง ร้านใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1 วัน เร็วมาก สั่งเที่ยงวันที่ 18 บ่ายวันที่ 19 ก็ได้ของแล้วครับ ของได้มาอยู่ในสภาพที่ดี ใช้งานได้ตามปกติ เดี๋ยวผมแปะลิงก์สำหรับซื้อไว้ด้านล่างให้ เผื่อใครอยากเล่นมั่ง
ตัวเครื่องทำจากพลาสติกครับ มีดีไซน์แบบทำลวดลายขรุขระแบบผ้า หน้าจอแสดงผลแบบสี ขนาด 2.8 นิ้ว มีติดฟิล์มกันรอยมาไว้ให้แล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะเรามักจะเอาพาวเวอร์แบงก์ไปเก็บไว้ในกระเป๋ารวมกับสิ่งของต่างๆ เยอะแยะ
ฝั่งซ้ายมือของจอ ก็จะเป็นลำโพงของตัวเครื่อง ซึ่งให้เสียงแบบโมโน ไม่น่าแปลกอะไร เพราะเกมที่บรรจุอยู่ในเครื่อง เป็นเกม Famicom ที่ยุคนั้นก็เป็นเสียงแบบโมโน ถัดมาก็คือปุ่มกากบาทสำหรับควบคุมการเล่นเกม และปุ่มรีเซ็ตที่เอาไว้กด เพื่อออกจากเกม แล้วกลับมาที่หน้าเมนูเลือกเกม กับปุ่ม Select
ส่วนด้านขวามือของจอ เป็นไฟ LED 4 ดวง ที่แสดงระดับแบตเตอรี่ของพาวเวอร์แบงก์ ปุ่ม A B X Y ซึ่งน่าแปลกใจว่าเขามีตั้งสี่ปุ่มไปทำไม เพราะเกมส่วนใหญ่มันเป็นเกม Famicom ที่ยุคนั้นมีแค่ปุ่ม A กับ B เฉยๆ จากนั้นก็เป็นปุ่ม Sound ที่เอาไว้ปรับระดับเสียง ได้ 4 รอดับ คือ ปิด – เบา – กลาง -ดัง และปุ่ม SIP ที่จริงๆ ก็คือปุ่ม Start นั่นแหละ
ตรงฝั่งขวาของพาวเวอร์แบงก์ ด้านบนจะเป็นปุ่มสำหรับเช็กระดับแบตเตอรี่ กดแล้วไฟ LED จะติด บอกระดับแบตเตอรี่ แต่ละดวงเทียบเท่ากับ แบตเตอรี่ 25% ส่วนด้านล่างเป็นสวิตช์เปิดปิดเครื่องเกม แบบเลื่อนเพื่อเปิดหรือปิด
ด้านขวาสุด เป็นพอร์ต USB-A พอร์ตแรกอยู่ติดกับฝั่งสวิตช์เปิดปิดเครื่องเกมอันนี้จ่ายไฟสูงสุด 5V 2.1A อีกพอร์ตที่ติดอยู่กับฝั่งสวิตช์เช็กระดับแบตเตอรี่จ่ายไฟสูงสุด 5V 1A แต่สองพอร์ตรวมกัน ตามสเปก จ่ายไฟรวมสูงสุด 5V 2.1A ส่วนตรงกลางระหว่างพอร์ต USB-A ทั้งสองพอร์ตนี้ เป็นพอร์ต Micro USB เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่กลับคืนให้พาวเวอร์แบงก์
ในฐานะพาวเวอร์แบงก์ USB-A ทั้งสองพอร์ต จ่ายไฟรวมกันสูงสุด 2.1A ตามสเปกเลยครับ ถ้าต่อชาร์จอุปกรณ์พร้อมๆ กันสองพอร์ต จะเหลือไฟจ่ายกันไปคนละ 1A โดยประมาณ (ทั้งนี้อยู่ที่ว่าอุปกรณ์มันเป็นอะไร และกินไฟขนาดไหนด้วย) แต่ถ้าต่อพอร์ตเดียว ผมว่ามันแปลกๆ นิดนึง คือ พอร์ตที่สเปกระบุว่าจ่ายไฟ 1A นั้น ไฟออกมาจริงๆ 1.2A ครับ ส่วนพอร์ตที่สเปกบอกว่าจ่ายไฟ 2.1A นั้น จ่ายไฟจริงๆ ได้สูงสุด 1.56A โดยประมาณ พูดง่ายๆ คือ จ่ายไฟได้ไม่ค่อยตรงสเปกเท่าไหร่ แต่ก็ยังได้ไฟเพียงพอสำหรับชาร์จพวกสมาร์ทโฟนอยู่
ลองเอามาเล่นเกมบ้าง โดยภาพรวมต้องถือว่าปุ่มต่างๆ ใช้งานได้ดีทีเดียว ผมพบว่าปุ่ม A และ B ก็คือปุ่ม A และ B ของ Famicom นั่นแหละ แต่ปุ่ม X และ Y คือปุ่ม Turbo ครับ คือกดค้างไว้มีค่าเท่ากับกดปุ่ม A หรือ B รัวๆ โดยปุ่ม X คือ Turbo ของ B และ Y คือ Turbo ของ A นั่นเอง แต่เท่าที่ลอง ปุ่ม Select เหมือนจะไม่ทำงานแฮะ แปลกใจ คือ จริงๆ ก็ไม่เดือดร้อนอะไรหรอกนะครับ เพราะส่วนใหญ่ เกม Famicom ไม่ค่อยได้ใช้ปุ่ม Select อยู่แล้ว นอกจากจะใช้เลือกโหมดเป็นผู้เล่นสองคน แต่ในบางเกมเช่น Battle City มันจะมีโหมด Construction ซึ่งพอกด Select เพื่อเปลี่ยนโหมดไม่ได้ มันก็เลยมีปัญหา อดเล่น Construction ไป แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก ซึ่งอันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะเครื่องนี้ หรือทุกเครื่องเป็นเหมือนกันหมด
แม้จะมีเกม 416-in-1 แต่เอาจริงๆ เกมมันก็ซ้ำไปซ้ำมานะ เกมอย่าง Battle City นี่ก็เห็นซ้ำอยู่ ส่วนบางเกม บอกตรงๆ ก็ไม่เคยเห็นว่ามีบน Famicom มาก่อน แต่น่าจะมีคนทำเกมมาให้ทีหลัง เช่น Plants vs Zombies หรือ Angry Birds ซึ่งเป็นเกมยุคสมาร์ทโฟนแล้ว Famicom ไม่น่ามีแน่นอน โดยรวมๆ แล้ว มีเกมเล่นได้จริงๆ กี่เกม ผมก็ไม่แน่ใจ ไม่มีเวลาไปลองทั้ง 416 เกมครับ แต่อยากบอกว่า ให้ลองเล่นๆ ไป แล้วจำไว้เฉพาะอันที่เราสนใจ เราชอบ เอาไว้เล่นฆ่าเวลาได้เพลินๆ ดีนะ เกมบางเกมที่มีสูตร มันก็กดสูตรได้จริงๆ นะ เช่นเกม Contra ภาคแรก กด ขึ้นขึ้นลงลงซ้ายขวาซ้ายขวา บีเอ หรือ Contra 2 กด ขวาซ้ายล่างบนเอบี สูตร 30 ตัวนี่ก็ยังใช้ได้
แต่เกมบางเกมนี่ก็แบบว่า ทำให้นึกถึงความหลังตอนเด็กๆ จริงนะ เช่น เกม Circus ในภาพด้านบนนี่แบบว่า เล่นตั้งแต่สมัยประถมอะ เล่นก่อนได้เล่น Super Mario Bros อีกเหอะ
บทสรุปการลองใช้พาวเวอร์แบงก์เล่นเกมได้
ราคาไม่แพง 500 บาท ได้พาวเวอร์แบงก์ระดับ 8,000mAh ซึ่งจริงๆ เดี๋ยวนี้มันก็ถูกกว่านี้เยอะแล้ว หากซื้ออะไรโนเนมแบบนี้ แต่มันได้เครื่องเล่นเกมแบบขำๆ มาด้วยก็แปลกดี เอาไว้เล่นฆ่าเวลาได้ ให้เด็กเล่นเกมได้ชิลๆ ด้วยอะนะ การจ่ายไฟ ตามสเปกมันควรจะออกเป็น 2A ข้างนึง 1A ข้างนึง แต่เวลาใช้จริงมันกลับเป็น 1.2-1.6A ทั้งสองข้างแทน (ต่อให้ชาร์จแค่พอร์ตใดพอร์ตนึงก็ตาม) ที่สำคัญ พอใช้ไปนานๆ เข้า ผมกลับพบว่ากระแสไฟที่เจ้านี่จ่ายได้ มันไม่ได้นิ่งมากมายนัก ผมไม่ค่อยอยากแนะนำให้เอามาใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อะไรซักเท่าไหร่
น้ำหนักไม่ถือว่าหนักมากมายนัก 188 กรัม แต่ถือว่าแอบใหญ่สำหรับความจุระดับนี้ แต่นั่นก็เพราะมันต้องมีพื้นที่สำหรับหน้าจอและปุ่มต่างๆ สำหรับเล่นเกมไง ข้อเสียคือ มันไม่มีช่องเสียบหูฟังเลย ต่อออกจอทีวีก็ไม่ได้ (ผมเห็นพวกเครื่องเล่นเกมแบบคล้ายๆ กันนี้ มันมีพอร์ต HDMI ให้ต่อออกจอได้ด้วยนะ) ถ้าไม่ได้คิดจะซื้อมาเล่นเกมขำๆ ผมว่าไปหาพาวเวอร์แบงก์แบบอื่นดีกว่า
แต่ใครอยากซื้อมาเล่น คลิกลิงก์ด้านล่างได้
