สำหรับผู้ใช้งาน QNAP NAS ถ้าใช้ MacBook นี่หมดห่วงเรื่องการแบ็กอัพ เพราะเขารองรับการเซ็ตให้ NAS รองรับ Time Machine ได้อยู่แล้ว แต่สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows นั้น เขาก็มีการตั้งค่าสำหรับการแบ็กอัพเช่นกันนะ แต่มันมีข้อจำกัดตรงที่ เขาให้แบ็กอัพเฉพาะพวกไฟล์ต่างๆ ใน Libraries (โฟลเดอร์ Camera Roll, Documents, Music, Pictures, Saved Pictures และ Videos), Desktop, Contacts กับ Favourites เท่านั้น ค่อนข้างไม่ยืดหยุ่น ดังนั้น QNAP เขาเลยให้ฟีเจอร์ในการเชื่อมต่อกับโปรแกรมชื่อ NetBak เพื่อให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะแบ็กอัพอะไรจากเครื่อง Windows PC มาที่ QNAP NAS บ้าง ในบล็อกตอนนี้จะไปสอนวิธีการเซ็ตอัปขั้นพื้นฐานให้อ่านกันนะครับ
การเซ็ตที่ฝั่ง QNAP NAS: สร้าง Shared folder กำหนดสิทธิให้ User
ก่อนจะเซ็ตอัป NetBak คำแนะนำของผมคือ ณ ฝั่ง QNAP NAS ให้ไปสร้าง User สำหรับใช้งาน NetBak ก่อนฮะ จะตั้งเป็นอะไรก็ได้ กำหนดรหัสผ่านไว้ แล้วไปสร้าง Shared folder สำหรับเก็บข้อมูลที่เราจะแบ็กอัพขึ้นมา กำหนดให้ User ที่เราสร้างขึ้นมานั่น มาเป็นคนที่มีสิทธิในการเข้าถึง อ่านและเขียน ใน Shared folder นี้ซะ แค่นี้การเตรียมการฝั่ง QNAP NAS ก็เรียบร้อย
การติดตั้งโปรแกรม NetBak Replicator ที่ฝั่ง Windows PC
แรกสุดก็ไปดาวน์โหลดโปรแกรม NetBak Replicator มาจากเว็บไซต์ของ QNAP ก่อน ครับ ขนาดไฟล์ไม่ใหญ่มาก โหลดแป๊บเดียว

โหลดมาเสร็จแล้ว ก็เริ่มติดตั้งได้ ขั้นตอนการติดตั้งค่อนข้างตรงไปตรงมาครับ แทบจะเรียกว่ากด Next รัวๆ ก็จบ แต่ว่าจริงๆ มันก็จะมีการให้เลือกปรับแต่งได้นิดหน่อย แต่สามขั้นตอนแรก ก็แค่เลือกภาษาที่จะติดตั้ง ซึ่งแน่นอน เราควรเลือกภาษาอังกฤษ ยกเว้นคุณอยากได้พวกภาษารัสเซีย โปรตุเกส ฝรั่งเศส จีน อะไรพวกนี้ ภาษาไทยไม่มี ถัดจากนั้นก็แค่คลิก Next แล้วก็ติ๊กถูกตรง I accept the terms of the License Agreement แล้วคลิก Next ต่อไป เพื่อเริ่มการติดตั้ง
ถัดมาคือการเลือกว่าจะติดตั้งส่วนประกอบอะไรของโปรแกรมเข้าไปบ้าง ซึ่งตัวโปรแกรมอะ ต้องติดตั้งอยู่แล้ว แต่คุณจะเลือกที่จะติดตั้งให้มี Shortcuts อยู่บน Start Menu, Desktop Shortcut หรือ Quick Launch ก็ได้ ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็ติดตั้งไปเหอะครับ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ในส่วนของ QBack Driver เนี่ย ไม่จำเป็นเลยนะครับ เพราะมันคืออุปกรณ์จำพวกแบ็กอัพที่ QNAP เขาขายเมื่อซัก 13 ปีก่อน เขาคงยังเก็บออปชันนี้ไว้เพราะน่าจะยังมีคนใช้อยู่ละมั้ง

ถัดมาก็คือหน้าจอเลือกโฟลเดอร์ที่เราจะติดตั้ง จริงๆ ก็ไม่ต้องเลือกอะไรมากครับ กด Next ไปเลยก็ได้ แต่เผื่อใครอยากจะเลือกโฟลเดอร์อื่นก็ทำได้เช่นกัน

สองขั้นตอนสุดท้ายอันแรกคือ Start-up options ที่ให้เราเลือกว่าจะยอมให้คนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ของเรา ที่ไม่ได้มีสิทธิเป็นแอดมินมาเซ็ตการแบ็กอัพได้ไหม อันนี้แล้วแต่เลือกเลย ซึ่งปกติ ผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไป อาจจะไม่ได้มีการแบ่งใช้งานกับคนอื่น ฉะนั้นการติ๊กถูกตรงนี้หรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาอะไร และอีกอันคือ การอนุญาตให้ NetBak Replicator รันในฐานะแอดมินเสมอ ซึ่งควรทำฮะ เพราะจะได้มีสิทธิในการแบ็กอัพข้อมูลและกู้ข้อมูลคืนในบางจุดที่มีแต่แอดมินเข้าได้
แนะนำโปรแกรม NetBak Replicator แบบคร่าวๆ
พอเปิดโปรแกรม NetBak Replicator มาแล้ว ขั้นตอนแรกก็คือการเลือก Region ที่เราใช้งานก่อน ซึ่งมีให้เลือกระหว่าง Global กับ China เราอยู่ในประเทศไทย เราก็เลือก Global ไปครับ ถัดมาก็จะเป็นหน้าจอเริ่มการตั้งค่า เราก็คลิกไปตรงรูปโฟลเดอร์ในวงกลมสีเขียวเพื่อเริ่มได้
สำหรับคนที่ตั้งค่า Security บน Windows เอาไว้ตามปกติ มันควรจะมีหน้าจอ Windows Security Alert เด้งขึ้นมา ในการใช้โปรแกรม NetBak Replicator เพื่อแบ็กอัพข้อมูล เราก็เลือกแค่ติ๊กถูกตรง Private networks, such as my home or work network พอแล้วคลิก Allow access

ถัดมา โปรแกรมมันจะสแกน แล้วหา QNAP NAS ที่อยู่ในเน็ตเวิร์กของเราให้ครับ มันจะแสดงรายชื่อ QNAP NAS ที่เรามีออกมาให้ดูเลย เราอยากจะแบ็กอัพไปที่เครื่องไหนก็เลือกเอา แล้วคลิกปุ่ม Next

เมื่อเลือก QNAP NAS ได้แล้ว มันจะพยายามแสดงรายชื่อของ Shared folder ให้เราเลือกสำหรับเป็นที่เก็บข้อมูลที่สำรอง ในขั้นตอนนี้ เราก็จะต้องใส่ Username กับ Password เพื่อล็อกอินให้สิทธิโปรแกรมไปลิสต์รายชื่อโฟลเดอร์มาก่อน เมื่อเรียบร้อย มันจะแสดงรายชื่อโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้งานคนนี้มีสิทธิเข้าถึงมาครับ เราก็เลือกไปที่โฟลเดอร์ที่เราสร้างเอาไว้นั่นแหละ แล้วคลิก Next
ถัดมาคือการใส่ Username และ Password เพื่อเชื่อมต่อโปรแรกมกับโฟลเดอร์ที่เราเลือก เรียบร้อยแล้วก็กด OK ไป
แค่นี้ก็พร้อมเริ่มต้นใช้งานครับ พอเปิดใช้งานมา เราจะเห็นว่าโปรแกรมมันดูง่ายๆ เลยนะ มีปุ่ม Instant Backup กับ Instant Restore ครับ โดย Instant Backup คือการแบ็กอัพข้อมูลตามที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ กดทีเดียวแบ็กอัพตามนั้นเข้า NAS เลย ในทางกลับกัน Instant Restore ก็เช่นกัน เราจะตั้งค่าเอาไว้ก่อน ว่าจะเอาข้อมูลจากตรงไหนบน NAS ไปวางไว้ตรงไหน

ส่วนการตั้งค่าโดยละเอียด ให้คลิก Advanced Mode ครับ ซึ่งจะมีการตั้งค่าขั้น Advanced 4 ส่วน คือ
• Auto-Backup จะคล้ายๆ กับการซิงก์ข้อมูลทางเดียว คือ อะไรที่มีอยู่บนโฟลเดอร์ที่เรากำหนดไว้ มันก็จะโดนแบ็กอัพไปไว้บน QNAP NAS ด้วย แล้วเราก็สามารถเลือกได้ว่าถ้าเราลบข้อมูลในเครื่องแล้ว จะไปลบบน QNAP NAS ด้วยไหม ซึ่งมันจะทำงานแบบตลอดเวลา
• Schedule Backup ก็จะคล้ายๆ Auto-Backup นั่นแหละ กำหนดไปเลยว่าอยากแบ็กอัพอะไรบ้าง แต่ความแตกต่างกันคือ อันนี้จะไม่รันตลอดเวลา มันจะรันตามเวลาที่เรากำหนดแทน
• Instant Backup เอาไว้กำหนดว่าเราจะแบ็กอัพอะไรบ้าง เพื่อที่เวลาเราคลิกปุ่ม Instant Backup มันก็จะทำการสำรองข้อมูลไปเลย ทำงานคล้ายๆ กับ Manual backup นั่นแหละ อยากแบ็กอัพเมื่อไหร่ค่อยกด แค่ไม่ต้องไปคอยตั้งค่าทุกรอบ
• Instant Restore ก็เป็นอะไรที่ตรงข้ามกับ Instant Backup แต่ว่ามันเป็นการกู้ข้อมูลจากที่แบ็กอัพเอาไว้กลับมาแทน
ทีนี้เราจะใช้ NetBak Replicator แบบไหน ยังไง ก็อยู่ที่การวางแผนแบ็กอัพของเราเองครับ


ความง่ายของ NetBak Replicator คือ การแบ็กอัพของมันจะเป็นแค่การก็อปปี้ไฟล์จากคอมพิวเตอร์ไปไว้บน QNAP NAS เฉยๆ เลยครับ ฉะนั้นเราจะสามารถเข้าไปที่ File Station บน QNAP NAS เพื่อดูไฟล์ที่แบ็กอัพได้เลย ค่อนข้างสะดวก แต่นั่นก็เท่ากับว่าเราใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลเท่าๆ กับข้อมูลที่เราเก็บนั่นแหละครับ มันไม่ได้มีฟีเจอร์ในการ DeDup ข้อมูลเพื่อเซฟเนื้อที่ด้วยนะ ต้องเผื่อเนื้อที่เอาไว้ด้วย