จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่ค่อยมีที่เที่ยวเท่าไหร่ ที่เด่นๆ ก็จะเป็นพวกอุทยานแห่งชาติ หรือวนอุทยาน และเขื่อนสิริกิติ์ครับ แต่มันเป็นจังหวัดที่ไม่พลุกพล่าน และเป็นจุดแวะพักที่โอเคสำหรับคนที่จะทำ Road trip ขึ้นเหนือต่อไป เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณหกชั่วโมงครึ่ง ขับมาชิลล์ๆ ออกจากกรุงเทพซัก 10 โมงเช้า มาถึงเย็นๆ พอดี ในทริปนี้ผมก็ได้แวะพักที่โรงแรม Friday ที่เขาเรียกว่าเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์เลย มันมีห้องพักตั้งแต่ประมาณ 4-5 ร้อยบาท (แล้วแต่ช่วง) ไปจนถึงสองพันกว่าบาท (ซึ่งดูรูปรีวิวแล้วดูดีมาก) ผมก็อยากรู้ว่า ถ้าจะมาแบบใช้เป็นที่ซุกหัวนอน ที่พัก 4-5 ร้อยบาทจะเป็นยังไงบ้าง เลยจัดไปหนึ่งคืน แล้วเอามาเล่าสู่กันอ่านครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน..
การมาพักที่โรงแรม Friday นี่เป็นการเลือกของผมเอง ผมไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากโรงแรม หรือใครก็ตามเลยแม้แต่น้อย ในวันที่ผมมาพัก ประเทศไทยเพิ่งมีการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ทำให้มีการนำมาตรการเข้มงวดกลับมาใช้ (แต่ไม่ถึงกับล็อกดาวน์) และจังหวัดอุตรดิตถ์ถูกจัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง เพราะพบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่
ในแง่ของทำเลที่ตั้ง โรงแรม Friday ถือว่าได้เปรียบ หากผู้มาพักต้องการความสะดวกสบาย เพราะชั้น 1 และ 2 ของโรงแรม เป็นห้างสรรพสินค้า ดังนั้นขาดเหลืออะไรก็สามารถมาซื้อหากันที่นี่ได้ และที่นี่ก็มีฟู้ดคอร์ตด้วย (แต่อย่าคาดหวังว่าจะมีพวก MK สุกี้, KFC, McDonald’s อะไรพวกนี้นะ) ที่จอดรถเยอะแยะมากมายเลย ทั้งนอกอาคารและในอาคาร เพียงแต่ว่าไม่ว่าจะจอดไว้ที่ไหน มันก็ไม่มีหนทางให้เราขนกระเป๋าและสัมภาระมาจากที่จอดรถได้ง่ายๆ เลย ดังนั้น เราจะมีทางเลือกสองทางคือ ขนของไปไม่เยอะ หรือไม่ก็ถ้าต้องขนของเยอะ แล้วไปกันหลายคน ก็ให้จอดหน้าโรงแรม คนนึงก็ขนของลงก่อน แล้วอีกคนก็ค่อยขับรถไปจอด
โรงแรมค่อนข้างจะเก่าแก่ ฉะนั้นทำใจเรื่องสภาพกันนิดนึงนะครับ (โดยส่วนตัว ผมทำใจล่วงหน้าเอาไว้แล้ว) แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ ก็ถือว่าเรียกว่าเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งของจังหวัดได้อยู่นะเออ ห้องระดับ 4-500 บาท ที่ผมได้พัก ห้อง 602 อยู่ตรงชั้น 6 เวลาขึ้นไปก็คือขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 5 ที่จะเป็นโซนร้านอาหารก่อน ถือว่าไม่แย่นะครับ กว้างขวาง และมีร้านอาหารให้เลือกเป็นแบบอาหารไทย หรืออาหารญี่ปุ่น ซึ่งผมแอบไปดูเมนูอาหารไทยมาแล้วก็ดูดีนะ ราคาก็ไม่แพงด้วย (อาหารญี่ปุ่นนี่ไม่แน่ใจ)

ห้องพักจะต้องเดินไปขึ้นลิฟต์อีกตัว ที่จะพาเราไปชั้น 6-7 ที่เป็นโซนห้องพักครับ ลิฟต์ขนาดไม่ใหญ่มาก ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี่ ต้องเข้ากันเป็นแบบ ห้องใครห้องมัน ไม่ปนกันดีที่สุดจริงๆ เปิดเข้ามาในห้อง ถือว่ากว้างขวางอยู่ครับ สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าพร้อม มีทีวี ตู้เย็น แอร์เป็นแบบส่วนกลาง ปลั๊กไฟมีสองจุด ตรงข้างทีวี และข้างๆ ตู้เสื้อผ้า ไม่มีปลั๊กตรงหัวเตียง ไม่ดีเลยอะ ชาร์จแบตเตอรี่ไป เล่นมือถือไปไม่ได้ แถมไอ้ปลั๊กตรงข้างตู้เสื้อผ้าเนี่ย มันจะมีสวิตช์ที่ใช้เปิดปิดหลอดไฟตรงกระจก แต่ถ้าปิดไฟ ปลั๊กก็จะไม่จ่ายไฟด้วย เนี่ย ชาร์จแบตเตอรี่มือถือทิ้งไว้ทั้งคืน ไม่ได้ชาร์จอะไรเข้าไปเลย ฮ่วย! ใครมันเดินไฟกันแบนี้ฟะ

เอาเหอะ แต่ห้องหับมันก็สะอาดดี แต่ตู้เย็นนี่ท่าทางจะอายุพอๆ กับผมวุ้ย เพราะดูยี่ห้อมันแล้วคือ Sanyo อะ (ใครเกิดทันใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อนี้แมะ) และเป็นไปตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไป มีน้ำดื่มให้ฟรีสองขวดเป็นแบบขวดแก้ว แต่ก็จะมีมินิบาร์เป็นเบียร์ น้ำแร่ และโค้กกระป๋องให้เลือกดื่มด้วย แต่เราจะใช้มินิบาร์ทำไม ในเมื่อโซนห้างก็มีซูเปอร์มาร์เก็ต หรือใครถนัด 7-Eleven ก็อยู่ฝั่งตรงข้าม เดินไปไม่ไกล

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็น “ที่เดียวในโลก” ได้ไหม แต่ในขณะที่โรงแรมอื่นๆ จะต้องเอาคีย์การ์ด หรือ พวงกุญแจไปเสียบ เพื่อเปิดระบบไฟในห้อง ที่นี่ใช้ระบบไขกุญแจครับ ประหลาดมาก อะเมซิ่งสุดๆ ข้อดีของมันคือ ไขแล้ว ไม่ต้องเสียบกุญแจคาไว้ ก็เท่ากับเปิดระบบไฟค้างไว้ได้เลย ถือว่าโอเค

ห้องน้ำก็ไม่แย่ครับ ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้เล็กจนอุดอู้ แค่สิ่งต่างๆ มันดูเก่าก็เท่านั้น แต่สะอาดเลยนะ อ่างอาบน้ำนี่แช่น้ำได้ สะดืออ่างยังทำงานได้ดีอยู่ ของที่มีมาให้ในห้องน้ำก็เป็น สบู่ก้อนเล็กๆ ก้อนนึง เจลอาบน้ำขวดเล็กๆ แชมพูขวดเล็กๆ แล้วก็แก้วเปล่าสองใบ อะไรพวกนี้เท่านั้นเอง ระบบน้ำอุ่นของโรงแรมทำงานได้ดีมาก ขอชม
และอย่างที่บอก เบื่อๆ มาเดินเล่นที่ห้างได้ครับ มีโซนขายของ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดคอร์ต โซนเด็กเล่น มีพวกเกมตู้ให้เล่นด้วย ขาดเหลืออะไรในการออกทริป มาซื้อหาที่นี่ได้ ผมเองก็มาซื้อน้ำดื่มที่นี่ เพราะขี้เกียจเดินไป 7-Eleven
ตัวโรงแรมและห้าง มันติดกับถนน เป็นชุมชนที่มีคนพลุกพล่านประมาณนึง ของกินเพียบเลยครับ อยากจะหาซื้ออะไรกินไม่แพง เดินออกมาด้านนอกนี่แหละสบาย ผมก็ไปกินร้านผัดไทยอุตรดิตถ์ อร่อยดี ไม่แพง วุ้นเส้นผัดไทย 30 บาทเอง ไม่อิ่มก็กินโจ๊กต่อได้อีก ฉะนั้นนอกจากค่าที่พักไม่แพงแล้ว ค่ากินก็ไม่แพงด้วย ดีงาม
ตอนเช้า ไลน์อาหารเล็กเอาเรื่อง มีแค่ข้าวต้มหมู ขนมปังปิ้ง และชากับกาแฟ ให้เลือกทานครับ แต่ก็เรียกว่าสมกับราคาอยู่นะ

ข้าวต้มหมูรสชาติก็ใช้ได้ครับ ก็มีไช้โป้ว กระเทียมเจียว ต้นหอมซอย ไว้ให้ใส่เป็นท็อปปิ้ง แล้วก็มีเครื่องปรุงจำพวก น้ำตาล พริก พริกน้ำส้มให้เติม หากไม่อยากทานจืดๆ ขนมปังปิ้ง ก็เลือกกินได้ระหว่างแยมส้มกับเนยออร์คิด ใครอยากกินขนมปังกับนมข้นหวาน ไปหาซื้อนมข้นหวานเอาเองนะฮะ

ก็ถ้าจะนอนพักซักคืน เพื่อเดินทางต่อไปขึ้นเหนืออะไรพวกนี้ ที่นี่ก็ถือว่าค่าที่พักไม่แพง อยู่ใจกลางอำเภอเมือง มาถึงห้องแล้วไม่ต้องออกไปหาอะไรทานไกลๆ จะเลือกทานในร้านอาหารของโรงแรมก็ได้ หรือจะออกไปทางริมถนนใกล้ๆ กับโรงแรมก็มีตัวเลือกเยอะแยะ อร่อย ไม่แพงอีกด้วย เป็นตัวเลือกที่ดีครับ