รีวิว Huawei MatePad T 8.0 แท็บเล็ตไซส์เล็ก 8 นิ้ว พอเพียงในราคาไม่ถึง 5 พัน

Huawei ให้ผมยืมแท็บเล็ตมาสองตัว รีวิวพร้อมๆ กันเลย แต่ผมจะขอรีวิวตัวเล็กก่อนแล้วกัน ไม่งั้นเดี๋ยวรีวิวตัวใหญ่แล้ว จะมีอคติกับตัวเล็กไปเปล่าๆ เอาจริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับแท็บเล็ตราคาไม่ถึง 5 พันบาทหรอกนะ แต่พอแกะกล่องมาลองชิมลางดู มันก็โอเคอยู่เหมือนกันแฮะ ความประทับใจแรกถือว่าผ่านแล้ว แต่การใช้งานจริงจะเป็นยังไงบ้าง? คงต้องอ่านรีวิวกันต่อครับ

เข้าใจว่าคงผ่านการรีวิวมาหลายมือแล้ว ของที่อยู่ในกล่องมันก็ไม่ครบซะทีเดียว ผมเลยตอบไม่ได้ว่าในแพ็กเกจมันจะให้อะไรมาบ้าง แต่เท่าที่เห็นเนี่ยก็มีตัวเครื่อง Huawei MediaPad T 8.0 สาย Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูล ความยาว 1 เมตร 1 เส้น และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบปลั๊กหัวกลมแบบ 5 วัตต์ 1 อัน ก็ให้มาสมกับราคาเครื่องอยู่

ผมหยิบตัวเครื่องมาดูรอบๆ ถือว่าโอเคอยู่นะ วัสดุที่ใช้เป็นอลูมิเนียม งานประกอบดูแน่นหนาดี ไม่ก๊องแก๊งเลย ด้านบนของตัวเครื่องมีลำโพง และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ดีไซน์แปลกตาดี คือเพิ่งเคยเจอที่เวลามีลำโพงชุดเดียว ดันเอาไปไว้ด้านบน ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านล่างกัน ด้านขวามือก็ตามมาตรฐาน มีปุ่ม Power ปุ่ม Volume และรูไมโครโฟน ส่วนด้านซ้ายเป็นถาดใส่ซิม ซึ่งรองรับซิมเดียว แบบนาโนซิม และมีช่องสำหรับใส่ MicroSD card ด้วย

น้ำหนักตัวเครื่อง 310 กรัม ไม่หนักมาก ขนาดหน้าจอ 8 นิ้วก็ใหญ่กำลังดี สำหรับคนที่อยากได้แท็บเล็ตเอาไว้ดู YouTube ให้มีจอใหญ่ๆ ซักหน่อย อ่านเนื้อหาบนเว็บ อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านอีบุ๊ก ไซส์นี้ถือว่ากำลังดี

สเปกที่ให้มา ก็ตามราคา 4,690 บาท ครับ เป็น MediaTek MT8768 Octa-core 2.0GHz ให้แรมมา 2GB และความจุ 32GB โดยตัว Storage เนี่ย เลือกใช้ที่มีความเร็วในการอ่าน 230MB/s เขียน 82MB/s ซึ่งถือว่าเร็วดีประมาณนึงครับ ไม่น่าจะเจอปัญหาจำพวก ติดตั้งแอปแล้วต้องรอหน้าจอมันค้างอยู่พักนึง เหมือนพวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่เลือกใช้ Storage ความเร็วต่ำๆ

ในแง่ประสบการณ์ใช้งาน ต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ในฐานะแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่ดันไม่มี Google Mobile Services (GMS) ซึ่งผมได้มีการเขียนบล็อกอธิบายไปแล้วว่า ถ้าจะพยายามหน่อย มันก็พอมีวิธีใช้ที่ตอบโจทย์เราได้ซะส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีบางส่วนที่จะใช้ไม่ได้ เช่น แอปที่มันผูกพันกับ GMS แน่นหนามาก หรือแอปสำหรับนำทาง (ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ Google Maps กัน) ไปอ่านบล็อก “ความเห็นส่วนตัวของผมเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของ Huawei แบบที่ไม่มี Google Mobile Service มันเดือดร้อนแค่ไหน? แล้วมีทางเลือกอื่นอะไรช่วยได้บ้าง?” ของผมได้

อีกส่วนนึงคือ ในแง่การใช้งานจริงๆ โดยไม่ไปสนเรื่องการมีหรือไม่มี GMS ครับ ซึ่งในเรื่องนี้ผมมองว่างี้

• หน้าจอแสดงผล ความละเอียด HD 1,280×800 พิกเซล แม้จะไม่ได้คมกริบ แต่ก็ไม่ได้แย่ คือ สายตาของเรา ถ้ามองกับหน้าจอ 8 นิ้วแบบนี้ เรายังรู้สึกได้ว่าขอบของพวกตัวอักษรมันยังไม่คมอยู่บ้าง แต่ถ้าเราไม่ได้เอามันไปเทียบกับพวกจอคุณภาพแบบ Full HD เลย ก็ไม่น่ารู้สึกแย่อะไร หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD มุมมองกว้าง สีภาพไม่เพี้ยนเลย ถือว่าดูดี

• ปลดล็อกได้ด้วยการสแกนใบหน้า ตั้งค่าง่ายดี แถมสแกนได้ค่อนข้างแม่นยำ แม้ในสภาพแสงน้อยๆ เข้าใจว่าเพราะเวลาที่แสงมันน้อย ตอนยกเครื่องขึ้นมาให้มันจำ แล้วตั้งค่าไว้ว่ายกเครื่องแล้วให้มันสแกนใบหน้าเลย มันจะเปิดหน้าจอ เพื่อให้ได้แสงของหน้าจอมาส่องหน้าเราหน่อย การมีฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า ทำให้สะดวกในการหยิบมาใช้งานพอสมควร ในกรณีที่เราต้องการเพิ่มความปลอดภัยด้วยการตั้ง PIN ล็อกหน้าจอ

• ความลื่นไหลในการใช้งาน อาจต้องทำใจนิดๆ เพราะแม้จะใช้ Storage ที่มีความเร็วโอเคแล้ว แต่ด้วยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล และแรมที่ไม่เยอะ มันทำให้มีการหน่วงแบบที่สังเกตได้อยู่ เช่น ผมเปิดเบราวเซอร์ขึ้นมาแล้ว แตะไปที่ Address bar เตรียมจะพิมพ์ URL ปรากฏว่า มันยังแตะไม่ได้ ต้องรอประมาณเกือบๆ 1 วินาที ถึงจะแตะได้ แล้วกว่าคีย์บอร์ดจะเด้งขึ้นมาให้พิมพ์ ก็รออีกเกือบๆ 1 วินาที เช่นกัน แต่ในแง่ของการเลื่อนหน้าจอเว็บ หรืออะไรพวกเนี้ย ไม่ได้หน่วงอะไรมากมาย ที่ผมยังห่วงคือ เวลาเปิดใช้แอปเยอะๆ แล้วทิ้งมันไว้เป็นแบ็กกราวด์

• ปกติเวลาผมรีวิวผมจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่ผมว่าคงต้องหันมาสนใจมากขึ้นแล้วล่ะ เพราะสังเกตว่าผู้ใช้งานชาวไทยจำนวนไม่น้อย เลือกใช้เมนูภาษาไทย (ผมชอบใช้เมนูภาษาอังกฤษมากกว่า เพราะมันต้นฉบับ ไม่ต้องกลัวเรื่องแปลผิด) สำหรับ Huawei MediaPad T 8.0 นี่ ซัก 95% แปลได้โอเคอยู่นะ แต่บางตัวแปลออกมาแล้วงงๆ เช่น Digital balance ที่ควรจะแปลว่า สมดุลย์ด้านดิจิทัล (หมายถึง สมดุลย์ของระยะเวลาที่ใช้งานอุปกรณ์ และระยะเวลาที่เราพักไม่ใช้อุปกรณ์) ก็ดันแปลเป็น ยอดคงเหลือดิจิทัล ซะงั้น (คือ Balance ก็แปลว่า ยอดคงเหลือ ได้อะนะ) หรือ Sleep ก็เรียกตรงๆ ว่า สลีป ซะงั้น ทั้งๆ ที่ผมว่า ปิดหน้าจออัตโนมัติ จะเหมาะสมกว่า เข้าใจได้ง่ายกว่า เป็นต้น (อ้อ! Huawei ครับ คำว่า ล็อก สะกดด้วย ก.ไก่ นะครับ ไม่ใช่ ค.ควาย)

ผมลองเอามาใช้ท่องเว็บ อ่านการ์ตูนออนไลน์ หรืออ่านนิยายออนไลน์ หน้าจอขนาด 8 นิ้ว ตัวนี้ ขนาดมันช่างกำลังดีจริงๆ ถ้าใหญ่กว่านี้ผมก็ว่าใหญ่ไปสำหรับการพกพา หรือถือไว้ในมือเพื่อใช้อ่านแบบชิลล์ๆ และหาก ใครซื้อแท็บเล็ตไว้อ่านนิยาย Dek-D อ่านอีบุ๊กจาก Meb อะไรพวกนี้ ก็มีแอปให้ดาวน์โหลดจาก Huawei AppGallery อยู่

พอได้เอามาใช้จริง ถึงได้รู้สึกว่าดีไซน์ที่เอาลำโพงไว้ด้านบนของหน้าจอมันก็โอเคไปอีกแบบนะ มิติของเสียงที่ได้ จากการที่ลำโพงอยู่ด้านบนกับด้านล่าง มันไม่เหมือนกัน ชอบแบบไหนมากกว่ากัน อันนี้แล้วแต่คนชอบ ลำโพงให้เสียงย่านกลางและสูงค่อนข้างชัดดี ส่วนย่านต่ำก็ตามคาด คือ ไม่สามารถแสดงได้ แต่เหมาะกับการเปิดที่ระดับเสียงซัก 80%-85% ดังกว่านั้นเสียงจะเริ่มแตก ไม่เพราะแล้ว

ตัวนี้มีขายทั้งรุ่น WiFi-only (3,690 บาท แต่ได้ความจุแค่ 16GB) กับ 4G LTE (4,690 บาท) ที่ผมได้มารีวิว ผมก็อยากแนะนำว่า ห่างกันพันเดียว จัดรุ่น 4G LTE เหอะถ้าจะซื้ออะนะ เพราะได้ความจุเยอะกว่า และได้รองรับ 4G LTE ด้วย คุ้มกว่า เอามาใส่ซิมเทพซักหน่อย ก็เล่นเน็ตได้ตลอดเวลาแล้ว

กล้องดิจิทัล กล้องหน้ามันความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เอาไว้ทำประชุมออนไลน์แล้วกัน แต่ก็จะเลือกใช้ได้แค่เฉพาะพวกแอปที่ไม่ได้ผูกติดกับ GMS นะ และต้องไปดาวน์โหลดจาก 3rd party app store ด้วย แต่อย่าคิดพึ่งพาใช้มันถ่ายรูปเซลฟี่เลย

กล้องหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f2.0 คุณภาพก็ … กล้อง 5 ล้านพิกเซลอะนะ เรียกว่ามีไว้ใช้ในยามฉุกเฉินบ้างพอได้ แต่จะให้ใช้เป็นกล้องหลักนะเหรอ เสียเวลาหยิบสมาร์ทโฟนมาจะคุ้มกว่าครับ นี่พูดจริงๆ แต่ก็ต้องเข้าใจว่า นี่มันแท็บเล็ตราคาไม่ถึง 5 พันบาทอะนะ แต่ถ้าใช้ในสภาพแสงดีๆ มันก็พอถูไถได้อยู่บ้าง

บทสรุปการรีวิว Huawei MediaPad T 8.0

ถ้ากำลังมองหาซื้อแท็บเล็ตให้พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ไว้ใช้ แบบงานทั่วๆ ไป ท่องเว็บ ดู YouTube เล่นเกมนิดหน่อย แชท LINE บ้าง แล้วเราเป็นคนเซ็ตทุกอย่างให้พร้อมไว้สำหรับเขาเลย คอยหมั่นไปดูแลบ้าง Huawei MediaPad T 8.0 ก็เป็นตัวเลือกได้ตัวนึงละ แต่ถ้าไม่ติดเรื่องเวอร์ชันของ Android ละก็ ให้ผมแนะนำ ผมคงให้เพิ่มอีก 300 บาท แล้วไปจัด Samsung Galaxy Tab A 8.0 สเปกพอกัน กล้องหลังดีกว่าหน่อย แต่ที่สำคัญที่สุด ยังได้ใช้ Google Mobile Services อะ จะติดก็แค่มันเป็นรุ่นวางจำหน่ายปีที่แล้ว (พ.ศ. 2562) ก็เท่านั้น