รีวิวลำโพงไร้สาย Enyx EZ1 Beat Power

เมื่อเร็วๆ นี้ Enyx ส่งของมาให้ลองใช้ซะล็อตใหญ่ เป็นลังเลยแหละ แล้วพอเอามาจัดหมวดหมู่เพื่อลอง และเผื่อจะได้รีวิวให้ได้อ่านกัน (จริงๆ Enyx บอกว่าไม่ต้องรีวิวทุกตัวก็ได้ แต่เลือดบล็อกเกอร์มันแรง 555) ก็ได้ประมาณ 6 ชุดผลิตภัณฑ์ละมั้ง เลยขอเริ่มจากอันนี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ เพราะพกติดตัวมาทริปพาแม่เที่ยวด้วย นั่นคือ ลำโพงไร้สาย Enyx EZ1 Beat Power

แกะกล่องออกมา ในแพ็กเกจไม่มีอะไรมาก มีตัวลำโพง Enyx EZ1 Beat Power และมีสายชาร์จแบบ Micro USB มาให้ 1 เส้น ความยาวประมาณ 45-50 เซ็นติเมตร ตัวลำโพงเป็นดีไซน์ที่ทำให้นึกถึงลำโพงที่เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศา และสมกับที่เรียกว่าลำโพงพกพา เพราะมันน้ำหนักไม่มาก ตามสเปกก็ 255 กรัม และมีเชือกคล้องสำหรับเอาไว้ผูกหรือแขวนกับโน่นนี่นั่นมาให้ด้วย

ตามสไตล์ของลำโพงไร้สายแบบราคาประหยัด พวกนี้มันจะมีลูกเล่นในการเชื่อมต่อเพื่อเล่นเพลงเยอะครับ อย่างเจ้านี่ก็มีความสามารถในการเป็นวิทยุ FM ได้ในตัว มีสล็อตใส่ MicroSD card และพอร์ต USB เอาไว้เสียบพวกแฟลชไดร์ฟ มาให้ สามารถเล่นไฟล์เพลง MP3 จากพวกนี้ได้เลย โดยตัวลำโพงจะทำการสแกนไฟล์ให้โดยอัตโนมัติ อันนี้ผมลองแล้ว ใส่แฟลชไดร์ฟแบบมั่วๆ เข้าไป มันก็ไปหาไฟล์ MP3 มาเปิดได้เฉย แบบผมไม่รู้ตัวมาก่อนว่ามีไฟล์นี้อยู่ในแฟลชไดร์ฟ 555

การชาร์จแบตเตอรี่ ทำผ่านพอร์ต Micro USB นี่แหละ มันมีฝายางปิดพวกพอร์ตพวกนี้อยู่เพื่อกันน้ำ ซึ่งผมมองว่ามันกันพวกน้ำกระเซ็นพอไหว แต่ถ้าสาดน้ำใส่ หรือตกน้ำ ก็คงจบกัน ซึ่งก็เข้าใจได้ คุณจะเอาอะไรมากกับลำโพงไร้สายราคาประหยัด

ด้านใต้ของลำโพง เป็นพวกปุ่มกดต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วย

>> ปุ่ม เปิด-ปิด ที่กดค้างคือเปิด กดค้างอีกทีคือปิด แต่เวลาที่เล่นเพลงอยู่ กดทีเดียวจะเป็นการเล่นหรือหยุดเพลง แต่หากอยู่ในโหมดวิทยุ FM กดทีนึงจะเป็นการสแกนหาคลื่นวิทยุ และกดอีกทีคือหยุดสแกน

>> ปุ่ม M เอาไว้สลับโหมดใช้งาน ซึ่งปกติก็จะสลับระหว่างโหมดบลูทูธ และโหมดวิทยุ FM แต่ถ้ามีการเสียบ MicroSD card และ/หรือ แฟลชไดร์ฟเข้าไป มันก็จะสลับไปที่อุปกรณ์พวกนั้นด้วย

>> ปุ่ม + และ – ถ้าอยู่ในโหมดเล่นเพลง กดทีเดียวจะเป็นการไปเพลงก่อนหน้าหรือเพลงถัดไป แต่ถ้ากดค้างไว้ก็จะเป็นการเพิ่มหรือลดเสียง ซึ่งเป็นของลำโพงเอง ไม่เกี่ยวกับระดับเสียงที่ตั้งไว้บนอุปกรณ์ที่มาเชื่อมต่อ (เช่น สมาร์ทโฟน) แต่อย่างใด

แต่ด้วยการออกแบบช่องสำหรับเสียบแฟลชไดร์ฟที่ไม่ดีเท่าไหร่ มันทำให้พวกแฟลชไดร์ฟบางตัวที่ตัวแฟลชไดร์ฟมันมีความหนากว่าหัวพอร์ต USB มากๆ มันเอามาใช้กับเจ้าลำโพง Enyx EZ1 Beat Power นี่ไม่ได้ครับ ฉะนั้น หากจะหาแฟลชไดร์ฟมาใช้เล่นเพลงกับลำโพงตัวนี้ ต้องเลือกให้ดีๆ ด้วยนะ แต่ข่าวดีคือ พวกแฟลชไดร์ฟราคาไม่แพงของ SanDisk แบบตัวละร้อยต้นๆ หลายตัว ใช้กับเจ้านี่ได้สบาย

ทีนี้ลองเอามาฟังคุณภาพเสียงดูบ้าง เจ้าลำโพงนี่เขาบอกว่ามันมีซับวูเฟอร์ ซึ่งจากที่ผมลองจับๆ ดูตอนที่มันกำลังแสดงเสียงเบสดู เออ มันมีอะไรสั่นๆ อยู่ในตัวลำโพงจริงๆ นั่นแหละ แต่ว่าเสียงที่มันแสดงออกมาได้ มันไม่ตึบครับ เสียงมันออกมาย่านกลางมากกว่า ใครที่คาดหวังอยากได้เบสตึบๆ มองข้ามไปเลยนะ แต่เสียงย่านกลางและย่านสูงทำออกมาได้โอเค ฟังเพลงนี่เสียงนักร้องชัดดี เอามาฟังพวก Podcast หรือพวก YouTube รายการต่างๆ คือดีงามมาก กำลังขับ 3 วัตต์ แต่เสียงดังดีทีเดียว

โหมดวิทยุ FM ผมว่าไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าไหร่ ลำโพงมันไม่มีเสาอากาศดีๆ อะครับ พอไปอยู่ในที่อับสัญญาณหน่อย ก็ฟังวิทยุไม่ค่อยได้แล้ว และอีกอย่าง ถ้าจะฟังวิทยุ FM นะ ผมเลือกดาวน์โหลดแอปมาฟังออนไลน์ แล้วเอาเสียงออกทางลำโพงง่ายกว่า ส่วนเรื่องการฟังเพลงผ่านพวก MicroSD card หรือแฟลชไดร์ฟ ถ้าเราจัด Playlist ไว้ดีๆ แล้วเล่นเฉพาะเพลงในนั้น ไม่เน้นการสุ่มเล่นเพลง ก็โอเค แต่ถ้ากะว่าจะสุ่มเล่นเพลง หรือ อยากจะกดไปฟังเพลงที่อยากฟังเลย ทำได้ยากอยู่ครับ

ตัวลำโพงเขาบอกว่ามีไมโครโฟนในตัว สามารถใช้งานเป็นแฮนด์ฟรีได้ ผมก็ลองดูครับ ก็ได้เสียงดังประมาณนึง แต่ไม่ดังมาก คู่สายพอฟังไหว ถ้าอยู่ในห้องที่ไม่มีเสียงอึกทึก แต่ผมว่าถ้ากะจะเอาเจ้านี่มาใช้เป็นแฮนด์ฟรีเลย อย่าดีกว่า คือ ดีไซน์ที่เอาไมโครโฟนไปไว้ตรงด้านล่างของตัวลำโพง ทำให้เสียงมันเข้าได้ไม่เต็มที่อะผมว่า ใช้พวก Bluetooth headset ไปเลย เสียงพูดดังดีกว่าเยอะ

ตัวลำโพง เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการอย่าง iOS แล้ว มันสามารถแสดงระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ ถือว่าโอเค แบตเตอรี่ 400mAh เขาบอกว่าใช้งานได้ยาวต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง ก็ลองแล้ว ก็ได้น้อยกว่าสเปกหน่อย อันนี้ผมว่าอยู่ที่เราเปิด ดัง-ค่อย แค่ไหนด้วยละนะ

บทสรุปการรีวิวลำโพงไร้สาย Enyx EZ1 Beat Power

ผมพยายามเช็กว่าราคาเจ้านี่เท่าไหร่ก็พบว่า ถ้าซื้อแบบออฟไลน์จะอยู่ราวๆ 300-400 บาทซึ่งถือว่าราคาแอบแรง แต่พอไปเช็กแบบออนไลน์ ราคาอยู่ที่ 190-220 บาทเท่านั้น ซึ่งผมว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงที่ได้ นี่สงสัยเขากะดันยอดขายออนไลน์สินะ

ใครอยากได้ ผมแปะลิงก์ไปที่ร้านตัวแทนที่ผมรู้จัก บอกเลยว่าอาจจะไม่ใช่ถูกที่สุดที่หาได้ แต่ก็เป็นร้านที่ผมไว้วางใจอะครับ เขาขาย 219 บาท รับประกัน 1 ปี มีค่าส่งไหม ไม่รู้ดิ ไปถามร้านเอาเอง 555