สำหรับคนที่กำลังมองหา USB-C Hub แบบครบเครื่อง และพร้อมยอมจ่ายหน่อย ลองพิจารณาตัวนี้ดูครับ Orico USB-C 11-in-1 Multifunctional Adapter ที่ทาง Orico Thailand ให้ผมมารีวิว มันมีครบตั้งแต่พอร์ต USB-A ที่ให้มาตั้ง 4 พอร์ต อ่าน SD card และ MicroSD card ก็ได้ มีพอร์ต Gigabit LAN ต่อจอแสดงผลได้ทั้ง VGA และ HDMI และยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อีก ที่สำคัญ รองรับ USB-C PD 100 วัตต์ด้วย ทั้งหมดนี้ ในราคา 2,990 บาท
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
USB-C 11-in-1 Multifunctional Adapter ตัวที่รีวิวอยู่นี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อมาจาก Orico Thailand ในการให้มาลองใช้และรีวิว และเช่นเคย การรีวิวครั้งนี้ จะพูดถึงประสบการณ์ในการใช้งานแบบตรงไปตรงมาครับ
สำหรับคนที่สนใจจะซื้อ จะมีลิงก์ไว้ให้ตอนท้ายของบล็อก พร้อมกับรหัสส่วนลด 1,000 บาท จากราคาปกติ 2,990 บาท จะเหลือ 1,990 บาททันที มีแค่ 100 โค้ดเท่านั้น และหมดเขต 30 กันยายน 2563 นี้ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีจาก Orico Thailand มา ณ ที่นี้ด้วย
เช่นเดียวกับ Orico Type-C USB 3.0 Hub เจ้านี่ก็มาพร้อมกับ ตัว USB-C 11-in-1 Multifunctional Adapter คู่มือการใช้งาน และ Service card ในกล่อง ตัว Hub งวดนี้ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม ผสมกับบางส่วนที่เป็นพลาสติก ที่ใช้อลูมิเนียมนี่ไม่ใช่แค่เพราะว่าราคาของตัว Hub มันแพงหรอกนะ แต่ผมว่าเป็นเพราะมันออกแบบมาให้รองรับการชาร์จแบตเตอรี่กับโน้ตบุ๊กด้วย USB-C PD (Power Delivery) กำลังไฟถึง 100 วัตต์ นี่แหละ มันร้อนใช้ย่อยอยู่นะครับ

ดีไซน์ของตัว Hub ผมว่าทำออกมาดีอยู่ คือ แบ่งหมวดหมู่ของพอร์ตชัดเจน USB-A 4 พอร์ต อยู่ด้านนึง เว้นระยะห่างมากพอสำหรับให้เสียบพวก External HDD และ Flash drive พร้อมๆ กับทุกพอร์ตได้โดยไม่ไปกินพื้นที่กันและกัน (ยกเว้นตัวไดร์ฟมันจะใหญ่เกินมาตรฐาน)

ส่วนอีกด้านนึงก็จะเป็นพอร์ตที่ปกติจะอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง เช่น พอร์ต VGA HDMI LAN และพอร์ต USB-C PD ที่เอาไว้เสียบกับสายชาร์จที่เป็น USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับโน้ตบุ๊ก

ปลายด้านนึงก็เป็นสล็อตใส่ SD card และ MicroSD card และอีกด้านก็เป็นตัวสาย USB-C ที่เอาไว้เสียบกับโน้ตบุ๊ก และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อยู่ตรงนี้ด้วย โดยภาพรวมแล้ว ก็เรียกว่าเป็น USB-C Hub ที่มีพอร์ตครบเครื่อง พร้อมสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบเท่าที่พอจะนึกออกแล้ว
ในแง่ของการใช้งาน ผมพบว่าดีไซน์นี่ออกจะเหมาะกับการเอามาเสียบไว้ด้านซ้ายของตัวเครื่องมากกว่าด้านขวา หากต้องการให้พอร์ต USB-A หันเข้าหาตัว แต่จริงๆ ถึงจะเสียบด้านขวาของโน้ตบุ๊กก็ไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอกครับ เพราะสุดท้าย สาย USB-C มันยาวแค่ราวๆ 19 เซ็นติเมตรแบบนี้ การจะเอาพวกพอร์ตและอุปกรณ์ต่างๆ มาเสียบก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ แต่ผมก็รู้สึกว่าผมชอบเสียบด้านซ้ายมันถนัดกว่า และคนที่ถนัดขวา ใช้เมาส์ด้านขวา ก็จะชินกับการเสียบด้านซ้ายมากกว่าจริงๆ

สเปกไม่ได้บอกแบนด์วิธของอุปกรณ์ชัดเจนนัก มากไปกว่าที่บอกว่า USB-A ทั้ง 4 พอร์ต มีแบนด์วิธรวมคือ 5Gbps ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์จำพวก External HDD และ Flash drive แล้ว โดยผลการทดสอบของผม กับ WD Blue SSD พบว่า ได้ความเร็วประมาณ 440MB/s (แบนด์วิธ 5Gbps คิดเป็น MB/s จะอยู่ที่ 625MB/s) ซึ่งก็ถือว่าโอเคในแง่ของความเร็วในทางปฏิบัติ เพราะ 5Gbps มันเป็นความเร็วในทางทฤษฎีอะนะ
ผมเช็กไปทาง Orico Thailand แล้ว เขาบอกว่า USB-A 4 พอร์ต และสล็อต SD card/MicroSD card มันแชร์แบนด์วิธกันนะครับ แต่ก็อย่างที่บอก มันเหลือเฟืออะ เพราะพวก Flash driver และ SD card ส่วนใหญ่ ถ้าความเร็วในการอ่านและเขียนอยู่ที่ 200MB/s ก็เก่งแล้ว ไอ้ที่จะใช้แบนด์วิธคุ้มสุดก็คือเอา SSD มาต่อใช้งานนี่แหละ

ส่วนพอร์ต VGA HDMI และ Gigabit LAN เนี่ย เขาบอกว่ามันมีชิปเซ็ตอีกตัวมาคอยบริหารจัดการ ผมลองเอาโน้ตบุ๊กไปต่อออกจอทีวีแบบ 4K แล้วก็ลองเปิดทั้งวิดีโอ 4K บน YouTube และวิดีโอ 4K แบบไฟล์ MKV จากโน้ตบุ๊ก พร้อมๆ กับทดสอบความเร็วของ External SSD (WD Blue SSD) ก็พบว่า มันก็สามารถแสดงภาพความละเอียดระดับ 4K ที่ 30Hz ได้ตามสเปก และแบนด์วิธของ USB-A ก็ยังวิ่งได้ฉิวๆ อยู่
ผมลองใช้งานรัวๆ ไปพร้อมๆ กับเสียบสายชาร์จเพื่อชาร์จโน้ตบุ๊กไปด้วย เสียดายว่าแม้ผมจะมีอะแดปเตอร์แบบ 100 วัตต์ (ก็ Choetech USB-C PD GaN 100 วัตต์ ที่รีวิวไปก่อนหน้านี้นั่นแหละ) แต่ผมไม่มีโน้ตบุ๊กที่กินไฟ 100 วัตต์แฮะ คือ ที่ผมมีมันใช้ไฟ 65 วัตต์ เท่านั้นเอง แต่ก็ได้ลองเท่าที่ลองได้ละนะ ที่ผมอยากรู้คือ พอใช้ไปนานๆ แล้วมันจะร้อนแค่ไหน ซึ่งผลก็คือ มันก็ร้อนขึ้นมาประมาณนึงแหละ แต่ไม่ถึงกับร้อนจัดชนิดจับหรือแตะไม่ได้ บอกตรงๆ ว่า ร้อนน้อยกว่า SanDisk Extreme Pro SSD 256GB ที่ผมใช้ทดสอบอีก (พวก SSD นี่ก็แปลกนะ เสียบไฟไปนานๆ มันก็ร้อน ตอนผมใช้ SSD NVMe เสียบในกล่อง External ก็ร้อนแบบเดียวกันเลย) ในตรงนี้ถือว่าผมให้ผ่าน เพราะไม่ร้อนมาก เวลาใช้งานเสร็จ ก็พอจะเก็บได้ ไม่ต้องรอให้มันเย็น
ถามว่าเอามาใช้กับสมาร์ทโฟนได้ไหม? ได้ครับ โดยเฉพาะช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. นี่สำหรับโน้ตบุ๊กมันก็ไม่จำเป็นอะไรหรอก แต่สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่มีพอร์ต USB-C และรองรับการต่ออุปกรณ์จำพวก USB-C Hub และก็ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. แล้ว เจ้านี่คือช่วยเพิ่มช่องเสียบหูฟังให้ครับ แต่มันเหมาะกับการวางไว้บนโต๊ะ หรือบนเตียงแล้วเสียบหูฟังมากกว่านะ เพราะถ้าพกไปใช้เนี่ย มันเกะกะน่าดู 555
แน่นอน ถ้าเกิดสมาร์ทโฟนรองรับ OTG มันก็จะทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากพอร์ต USB-A เพื่อเสียบพวก Flash drive ได้ แต่ว่าตัว VGA หรือ HDMI นี่ ผมเข้าใจว่าต้องเอาไปใช้กับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่รองรับการแสดงผลออกจอภายนอกผ่านพอร์ต USB-C นะ แต่ผมฟันธงให้ไม่ได้ เพราะว่าผมไม่มีเครื่องทดสอบครับ พอดีไม่มีพวก Huawei หรือ Samsung ตัวเรือธงรุ่นใหม่ๆ มาใช้ทดสอบง่ะ
บทสรุปการรีวิว Orico USB-C 11-in-1 Multifunctional Adapter
ตัว USB-C Adapter ที่มีพอร์ตให้ใช้หลากหลายเนี่ย ปกติก็จะแพงครับ ตัวละพันกลางๆ ไปจนถึงสองพันปลายๆ แบบนี้แหละ จะใช้ก็อาจจะต้องกัดฟันหน่อย แต่มันเจ็บทีเดียวจบเลยครับ พอร์ตครบเครื่อง พร้อมใช้ในทุกสถานการณ์ แถมมันรองรับการชาร์จด้วย USB-C PD ถึง 100 วัตต์ นั่นหมายความว่าโน้ตบุ๊กอะไรก็ตามที่ชาร์จด้วย USB-C PD ได้ ใช้กับเจ้านี่ได้หมดเลย เพราะตอนนี้กินไฟเยอะสุดก็ 100 วัตต์นี่แหละ
อ้อ! แต่ที่มันเรียกว่า 11-in-1 นั่นหมายความว่ามันมีพอร์ต 11 พอร์ตนะครับ แต่ถ้าจัดเป็นหมวดหมู่แล้ว มันก็จะเหลือแค่ 8 แหละ คือ USB-A, HDMI, VGA, Audio, SD card, MicroSD card, USB-C PD และ Gigabit LAN เพียงแต่มันเป็น 11 เพราะ USB-A มันมี 4 พอร์ต
ใครจะซื้อ ลิงก์อยู่ด้านล่างนี่ ตอนจะซื้อ ใส่โค้ด BACKKFK01 เข้าไปด้วย 100 คนแรกที่ซื้อ จะได้ส่งลด 1,000 บาท จากราคาเต็ม 2,990 บาท ก็จะเหลือ 1,990 บาท โคตรคุ้ม