Home>>รีวิว>>บอกเล่าประสบการณ์การขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot Kickscooter MAX ฝ่าฝนและการจราจรไปทำงาน
ภาพจากระนาบเดียวกับแฮนด์ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot Kickscooter MAX ที่กำลังจอดรอไฟแดงอยู่บนถนน ด้านหน้าเป็นศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
รีวิว

บอกเล่าประสบการณ์การขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot Kickscooter MAX ฝ่าฝนและการจราจรไปทำงาน

วันนี้ฟ้าครึ้มฝนตกซู่แต่เช้าเลย แต่ด้วยความที่มีประชุมหลายนัดมาก โดยเฉพาะต้องคุยกับทีมงานประจำสัปดาห์อีก ก็เลยต้องตัดสินใจคว้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และเสื้อกันฝนตัวเก่ง มาขี่ตะลุยฝนและฝ่าการจราจรไปทำงานครับ เลยขอถือโอกาสมาเล่าประสบการณ์ให้ได้อ่านกันตรงนี้ ว่าขี่ฝ่าฝนเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร มันเป็นยังไง ต้องระวังอะไรบ้าง

Ninebot Kickscooter MAX กันน้ำ IPX5 ลุยฝนลุยน้ำได้สบายอยู่ แต่ต้องระวังนะ

IPX5 หมายความว่า เจ้านี่กันน้ำที่ฉีดเข้ามาด้วยแรงดันต่ำได้ ฉะนั้นแค่ฝนตกนะเหรอ สบายครับ และในกรณีที่ต้องลุยน้ำขัง ด้วยล้อยางลมขนาด 10 นิ้ว ทำให้แม้ว่าดีไซน์ของเจ้านี่ที่ท้องรถมันจะค่อนข้างต่ำ แต่มันก็ยังลอยอยู่เหนือพื้นผิวถนนได้ประมาณ 2-3 นิ้ว ฉะนั้น หากน้ำขังไม่เกิน 2 นิ้ว ก็ยังลุยได้สบายๆ อยู่และเพราะบังโคลนออกแบบมาดีกว่าตอนเป็น Ninebot Kickscooter ES2 ตอนขี่ตะลุยพื้นเปียกๆ ก็ไม่ต้องห่วงว่าน้ำจะกระเซ็นมาโดนหลัง

ภาพถ่ายระดับต่ำ มองเห็นล้อหน้าของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และถนนที่เปียกแฉะ มีน้ำขังอยู่ข้างทาง

ถ้าเทียบกับ Ninebot Kickscooter ES2 และ ES4 แล้ว ล้อของ Ninebot Kickscooter MAX เกาะถนนดีกว่ามาก และแม้ว่ามอเตอร์จะแรงดีไม่มีตก แต่น่าจะเพราะว่าขนาดของล้อมันใหญ่กว่าเยอะ ก็เลยทำให้ล้อไม่ฟรี เวลาขี่ด้วยความเร็วในโหมด S (ความเร็วสูงสุด 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ฉะนั้น ตอนพื้นเปียกๆ หรือมีน้ำขัง หมดห่วงเรื่องล้อปัด หรือ ลื่นล้มไปได้มากกว่า ES2 และ ES4 เยอะมาก

แต่สิ่งที่ต้องระวังจริงๆ ก็จะเหมือนกับพวกจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์มากกว่า คือ น้ำขังมันทำให้เราไม่รู้ว่าถนนมันเป็นหลุมเป็นบ่อมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้น หากไปในเส้นทางที่ไม่คุ้น แบบ จำไม่ได้ว่าจะมีหลุมมีบ่อตรงไหนบ้างเนี่ย ควรจะเลี่ยงจุดน้ำขังจะดีที่สุด หรือหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ควรขี่แบบชะลอสุดๆ ครับ

ถ้าออกถนนใหญ่ พวกจุดน้ำขังจะเยอะหน่อยครับ และอาจจะกินเนื้อที่เยอะมาก จนอาจทำให้เราต้องขี่มาแถวๆ ขวาสุดของเลนซ้ายสุด เวลาจะเปลี่ยนเลนออกมา บอกก่อนเลยนะครับว่าอย่าเร็ว และมองรถให้ดีๆ ก่อนนะครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ ขี่ชะลอให้ช้ามากๆ ค่อยๆ ตะลุยน้ำไปเรื่อยๆ แต่ต้องระวังเรื่องหลุมบ่อ

ใส่เสื้อกันฝนดีๆ ก็ตะลุยฝนได้อยู่ แต่ถ้าใส่แบบมีฮู้ดต้องระวัง

ฝนตกอยู่ แล้วจะขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาฝ่าฝน มันจะไม่เปียกเหรอ? เอ๋า! ก็ใส่เสื้อกันฝนสิครับ ลองหาเสื้อกันฝนที่เหมาะกับตัวมาใส่ครับ ผมนี่สั่งแบบ 3XL มาจาก Shopee เลย (ร้านเขาเหมือนจะของหมด ไม่ขายแล้ว เลยไม่ขอลงลิงก์นะ) สภาพหลังจากขี่ฝ่าฝนมาก็อย่างที่เห็นเลย แต่ครึ่งตัวบนไม่เปียกนะ แต่ครึ่งล่างไม่รอด ไม่ใช่อะไร ตอนขี่อะ ไอ้เสื้อกันฝนมันดันแหวกออก เพราะครึ่งล่างมันไม่มีกระดุมติดไว้ เดี๋ยวต้องทำ Preventive action ด้วยการหาพวกตีนตุ๊กแกมาเย็บติด จะได้ทำให้เสื้อกันฝนปิดมิดชิดกว่านี้

ตัวผมในชุดเสื้อกันฝนสีดำ สวมหมวกกันน็อกจักรยานสีฟ้า ที่เปียกเพราะเพิ่งขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าฝ่าฝนมา ยืนอยู่ในออฟฟิศ

แต่แน่นอนว่า หมวกกันน็อกยังต้องใส่นะจ๊ะ โดยเฉพาะตอนฝนตกถนนลื่นเนี่ย ยิ่งควรอย่างมาก และรองเท้า อย่าใส่รองเท้าผ้าใบฮะ รองเท้าบู๊ตกันน้ำได้ยิ่งดี หรือให้ดี รองเท้าแตะไปเลย กางเกงขาสั้นยิ่งหมดห่วง อันนี้ผมเก็บไว้เป็นบทเรียนจริงจัง

แต่ผมพบว่า ถ้าใส่เสื้อกันฝาแบบมีฮู้ด แล้วเราสวมหมวกกันน็อกทับ มันจะทำให้การหันซ้าย-ขวาลำบากหน่อย ฉะนั้นเวลาขับขี่ จะขยับเขยื้อนรถไปทางซ้ายทางขวา หรือจะเลี้ยวอะไรพวกเนี้ย ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป มองให้ดีๆ ก่อน ให้แน่ใจว่าปลอดรถ ค่อยไปนะครับ

ขี่ลงถนนช่วงฝนตก ต้องระวังอะไรอีก?

ข่าวดีคือคำพูดที่ว่า ฝนตกรถติด เป็นเรื่องจริง ฉะนั้นรถราที่วิ่งบนท้องถนนเนี่ย จะค่อนข้างไปอย่างช้าๆ ครับ นั่นก็ทำให้เราต้องค่อยๆ ไปอย่างช้าๆ ด้วยเช่นกัน หากเป็นไปได้ แนะนำให้ขี่โหมด D (ความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ไปเลย ไม่ต้องห่วงครับ รถมันติดขนาดที่ว่า ทำความเร็วได้ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมงก็บุญแล้ว

ภาพจากระนาบเดียวกับแฮนด์ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot Kickscooter MAX ขณะ

หากเป็นไปได้ ขี่ให้ชิดริมซ้ายของถนนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่ารถมันจะวิ่งกันช้าแค่ไหนก็ตาม อย่าไปทำให้ใครหัวร้อนเข้าให้ล่ะ ตอนฝนตก รถติดเนี่ย คนหัวร้อนที่สุดแล้วผมว่า เพราะมันติดจนน่ารำคาญครับ แต่จากประสบการณ์การขี่ของผม ระยะทาง 15 กิโลเมตร จากแถวๆ ปากทางเข้าวัดกก ถนนพระรามสอง ไปถึง สน.พระราชวัง (แถวๆ MRT สนามไชยนั่นแหละ) ปกติใช้เวลา 45 นาที ก็กลายเป็น 52 นาทีครับ จะเห็นได้ว่า แม้จะขี่ได้ช้าลง และรถค่อนข้างติด แต่ก็ช้ากว่าปกติไม่ถึง 10 นาทีนะเออ

ผมลองอีกครั้งตอนเย็น ซึ่งฝนก็ตกปรอยๆ แต่ดีกว่าตอนเช้าเยอะมาก งวดนี้ขี่ยิงยาว 18 กิโลเมตรกลับบ้านเลยใช้เวลาประมาณ 59 นาทีครับ จากปกติที่จะใช้เวลาประมาณ 55 นาที ก็ช้ากว่าเดิมนิดหน่อยเอง

อ้อ! ที่เห็นความเร็วมันไปสูงสุดตั้ง 27.4 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือ 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง นั่นเพราะมันมีจังหวะขี่ลงเนินนะครับ แรงโน้มถ่วงมันช่วยเพิ่มความเร็ว แต่หลักๆ น่ะ ผมขี่โหมด D ซึ่งก็จะวิ่งแถวๆ 28 กิโลเมตร/ชั่วโมง ครับ (คือ ตามสเปกมันควรจะ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ของจริงเวลาวิ่ง มันไปถึง 28)

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot Kickscooter MAX จอดอยู่ในร่ม บริเวณที่เป็นโซนร้านอาหารใกล้ๆ สน.พระราชวัง

ใครที่ขี่แล้ว จะเอาเจ้า Ninebot Kickscooter MAX ไปจอดข้างโต๊ะทำงานแบบผม ต้องระวังนิดนึงนะครับ น้ำที่กระเซ็นเข้าเกาะตรงใต้ตัวรถ และตรงบังโคลน และที่ยังเปียกๆ อยู่ตรงล้ออะ มันจะหยดมาลงพื้น ถ้าออฟฟิศคุณมีพื้นพรมนี่ มีอับชื้นแน่ ไม่ควรเอามาจอดบนพื้นพรมเลยนะครับ พอดีออฟฟิศผมพื้นไม่ได้ปูพรม รอดไป แต่ก็ต้องบอกแม่บ้านว่ามาช่วยเช็ดพวกคราบน้ำที่หยดไว้หน่อยนะ ตอนเย็น อะไรแบบนี้

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ผมใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์ผมกี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน ผมก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของผมกี่คน กี่ครั้ง
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า