ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ผมเคยซื้อ BOOX Nova Pro มาใช้แล้วก็รีวิวเอาไว้ แล้วอยู่ๆ ทีมงานของ บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด เขาก็อินบ็อกซ์เข้ามาถามว่า สนใจจะรีวิว BOOX POKE 2 ไหม แหม่ เรื่องอะไรจะปฏิเสธละครับ แม้ผมจะมี BOOX Nova Pro อยู่แล้ว คงไม่ได้ซื้อของใหม่ไปอีกพักใหญ่ แต่คนอื่นๆ เขาก็คงอยากอ่านรีวิว จริงไหมล่ะ
ออกตัวล้อฟรี…
BOOX POKE 2 ตัวที่รีวิวนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อจาก บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด ให้ยืมมาลองประมาณ 3 สัปดาห์ ผมก็ขอรีวิวในฐานะคนที่อ่านอีบุ๊ก และใช้มาแล้วทั้ง Amazon Kindle (2-3 รุ่น) กับ BOOX Nova Pro ของผมเอง แน่นอน ความเห็นทั้งหมดในการรีวิวครั้งนี้ มาจากความเห็นส่วนตัวของผมล้วนๆ
BOOK POKE 2 ที่ได้มา เป็นแบบที่เขาติดเคสมาให้แล้ว (เพื่อป้องกันความเสียหายตอนจัดส่งและตอนรีวิว) แต่ของที่ขายจริง เคสเป็นออปชันเสริมนะครับ ราคา 690 บาท
BOOX POKE 2 ที่ผมได้ยืมมารีวิวนี้ ไม่ได้มาแบบกล่องเต็มๆ นะ เขาให้มาเฉพาะตัวเครื่องมาลองเท่านั้น แต่ของที่ขายจริงผมเดาเอาว่า มันจะมีสายชาร์จ Micro USB มาให้ด้วย และอาจจะมีฟิล์มกันรอยมาให้ด้วย (มั้ง) ก็จะคล้ายๆ กับของ BOOX Nova Pro ครับ
ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดมาก คือ หน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว แต่เป็นสไตล์ เตี้ย ป้อม มีสัดส่วนการแสดงผลแอบประหลาดพอสมควรคือ 1448×1072 พิกเซล (300dpi) หรือพอคำนวณเป็นสัดส่วนการแสดงผลแล้วก็คือ 27:20 (ประมาณ 1.35:1 ซึ่งถ้าเป็น BOOX Nova Pro จะมีสัดส่วนการแสดงผลที่ 4:3)
ทั้งตัวเครื่อง ไม่มีอะไรมากไปกว่าปุ่ม Power ที่มีรูเล็กๆ เป็นไฟ LED แสดงสถานะตอนกำลังชาร์จแบตเตอรี่ อยู่ตรงมุมบนด้านขวาของตัวเครื่อง และพอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ อยู่ตรงกลาง ด้านล่างของเครื่อง
เคสของ BOOK POKE 2 เป็นแบบติดเครื่อง แกะออกไม่ได้นะครับ ฉะนั้นอย่าซน มันทำให้เจ้านี่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนสมุดพกเล่มเล็กๆ ทีเดียว

วัสดุที่ใช้ทำเคส เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ทำเคสของ BOOX Nova Pro แต่สวยกว่าอะ เพราะโลโก้ BOOX ทำเป็นโลหะ เงาวาวเลย แอบชอบมากกว่าเคสของ BOOX Nova Pro และจากประสบการณ์ในการใช้งาน BOOX Nova Pro ก็ต้องบอกว่าเคสมันทนดี สามารถทำความสะอาดโดยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดๆ ได้

เบื้องต้น ข้อจำกัดหลักที่เห็นคือ มันไม่มีปุ่ม Back บนตัวเครื่อง เลยทำให้ต้องพึ่งพาปุ่ม Navigation Ball ซึ่งให้เราได้ทั้ง Back, ปรับเสียง, ตั้งค่าหน้าจอ, ดู Recent apps และสั่งปิดเครื่องหรือรีสตาร์ท ก็ได้ อยากได้ปุ่ม Home เพิ่มก็เข้าไปตั้งใน Apps > Navigation Ball ครับ
แต่มันมีพัฒนาการขึ้นตรงที่มันจะมีการเว้นพื้นที่การแสดงผลด้านบนนิดหน่อย เพื่อเอาไว้ให้เราแตะ แล้วมันจะเรียก Toolbar ขึ้นมา ซึ่งตรงนั้น มันจะมีปุ่ม Back, Home และ Recent apps ให้แตะใช้ เหมือนพวกอุปกรณ์ Android ทั่วๆ ไปเลย
ในแง่ของซอฟต์แวร์ BOOX POKE 2 ดูดีกว่า BOOX Nova Pro ที่เป็นรุ่นเก่าครับ เพราะเขาเปลี่ยนมาใช้ Android 9 แล้ว และฮาร์ดแวร์ก็มีการปรับมาเป็น Octa-core 2.0GHz ด้วย และแม้ว่าจะเป็นแรม 2GB DDR3 กับความจุ 32GB ผมพบว่าการใช้งานลื่นไหลกว่า BOOX Nova Pro มาก สังเกตได้จากตอนเลื่อนหน้าจอขึ้น-ลง มันตอบสนองเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมเข้าใจว่าส่วนนึงมาจากการที่เขาเลือกใช้ Storage ที่มีความเร็วสูงขึ้น คือ ผมทดสอบได้ความเร็ว อ่าน 223MB/s และเขียน 114MB/s คือ เร็วกว่า BOOX Nova Pro แบบเกือบสิบเท่า! (และผมก็คิดว่า BOOX Nova 2 ก็น่าจะสเปกเดียวกันเลย แถมได้แรม 3GB อีก กรี๊ด ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ ครับ ขอเทรดเครื่องคืนได้ไหม ฮือๆ)

เช่นเคย การตั้งค่าการแสดงผล สามารถเลือกโหมดการรีเฟรชได้ 4 แบบ คือ
>> Normal Mode เอาไว้ใช้งานยามปกติ เน้นการอ่านหนังสือ
>> Speed Mode เอาไว้ใช้เวลาอ่านอีบุ๊กที่มีข้อความและรูปประกอบ มันจะรีเฟรชเร็วขึ้นอีกนิด จะมีภาพเงาเบลอๆ อยู่บ้างเวลาเลื่อนหน้าจอไวๆ
>> A2 Mode เอาไว้ใช้เวลาท่องเว็บไซต์ ที่มีข้อความหรือรูปประกอบเยอะๆ หน่อย แล้วเราอยากเลื่อนหน้าจอไวๆ
>> X Mode เอาไว้ท่องเว็บไซต์ที่มีข้อความหรือรูปประกอบเยอะๆ แล้วเราอยากเลื่อนหน้าจอได้รวดเร็วเหมือนใช้พวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเลย
แต่จากที่ผมลองใช้ ด้วยสเปกปรับใหม่ของ BOOX POKE 2 แล้ว บอกเลยว่า ถ้าแค่ท่องเว็บทั่วๆ ไป เพื่ออ่านข้อความ ดูรูปบ้าง ใช้แค่ Normal Mode ก็พอแล้วครับ นี่แทบจะส่ง BOOX Nova Pro คืนเข้า แล้วขอเก็บ BOOX POKE 2 ไว้แทนแล้ว (ราคาจะต่างกันก็ช่างมัน ประสบการณ์ในการใช้งานสำคัญกว่าจริงๆ)

แน่นอน เจ้านี่ยังให้เราสามารถโยนไฟล์พวกอีบุ๊กต่างๆ เข้าไปไว้ในเครื่องเพื่ออ่านได้เหมือนเดิม แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องอัตราส่วนการแสดงผลแปลกๆ ของหน้าจอจะส่งผลต่อการอ่านอีบุ๊กที่สแกนเป็นภาพมาบันทึกเป็น PDF นะครับ เพราะกระดาษ A4 มันมีอัตราส่วนการแสดงผลที่ 2:3 ซึ่งก็ใกล้ๆ กับ 1:1.35 อยู่ เวลาเปิดดูก็เลยไม่รู้สึกแปลกๆ อะไรมาก ก็แค่ หน้าจอ 6″ แอบเล็กไปสำหรับการอ่าน PDF ที่ตัวอักษรเล็กๆ ก็เท่านั้น
ลองดูแบบอื่นๆ บ้างครับ เริ่มจากซื้อการ์ตูนหงสาจอมราชันย์บน MEB มาอ่าน แล้วก็ลองใช้แอป Wuxia World อ่านนิยายจีนแปลภาษาอังกฤษ ก็บอกได้เลยว่าค่อนข้างโอเค ติดแค่ว่าหน้าจอ 6 นิ้วแบบนี้ ไม่ได้แตกต่างไปจากการอ่านบนสมาร์ทโฟนเท่าไหร่ ยกเว้นแค่เรื่องหน้าจอแสดงผลที่เป็น E-Ink ที่สามารถอ่านกลางแดดได้สบายๆ เลย แต่ตอนกลางคืนก็ไม่มีปัญหา เพราะมันเปิดไฟหน้าจอแบบ Built-in ได้ ไม่ต้องไปหาอุปกรณ์มาเสริม และสามารถเลือกปรับแสงได้ทั้ง Warm และ Cold เพื่อให้เหมาะกับสายตาของเรา
อยากทำอะไรได้มากกว่านี้ ก็มี Google Play Store ติดตั้งมาให้ เราสามารถดาวน์โหลดแอปต่างๆ มาติดตั้งเพิ่มความสามารถได้ แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำ ผมว่าเลือกติดตั้งแบบพอดีก็พอ เพราะความจุมันมีแค่ 32GB นะ แล้วแอปสมัยใหม่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่เล็กๆ แถม ส่วนใหญ่ก็ถูกออกแบบมาสำหรับจอ LCD หรือ OLED กว่า E-Ink ครับ
และแม้ว่าจะไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ แต่มันก็มี Bluetooth 4.1 ไว้เชื่อมต่อกับหูฟังไร้สาย เผื่อใครอยากจะอ่านพวกหนังสือเสียง ก็สามารถทำได้สบายๆ ครับ แต่สำหรับผม ฟีเจอร์หลายๆ อย่าง เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือเสียง หรือ อัดเสียง อะไรพวกเนี้ย ผมเลือกใช้สมาร์ทโฟนทำหน้าที่นี้มากกว่านะ
บทสรุปการรีวิว BOOX POKE 2
ผมก็ไม่แน่ใจว่าจอ E-Ink นี่ต้นทุนการผลิตมันสูงมากเลยใช่ไหมอ่ะ แต่ที่แน่ๆ พวกอุปกรณ์อ่านอีบุ๊กนี่แพงๆ ทุกตัวเลย เมื่อเทียบกับพวกสเปกที่ได้ เลยไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ คน เลือกไปใช้พวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในการอ่านอีบุ๊กมากกว่า เพราะสเปกแรงกว่า ทำอะไรได้หลากหลายกว่า BOOX POKE 2 นี่ 7,990 บาทเลยนะครับ และแม้ว่าประสบการณ์ในการใช้งานจะดีขึ้นกว่า BOOX Nova Pro ที่ผมซื้อมาเมื่อต้นปีแล้วก็เหอะ แต่ถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟน แม้จะระดับราคา 4-5 พันบาท ก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อยนะ ในแง่ของการตอบสนองต่อการสัมผัส แล้วพวกแอปอ่านอีบุ๊กก็ไม่ใช่จะมีเฉพาะบนอุปกรณ์ที่เป็น E-Ink ซะหน่อย
แต่ทำไมถึงควรซื้อ BOOX POKE 2 มาอ่านอีบุ๊กมากกว่าใช้สมาร์ทโฟนล่ะ? คำตอบก็คงจะเป็นเรื่องของสายตาล้วนๆ จริงๆ เพราะจอ E-Ink มันถนอมสายตากว่ามาก เวลาใช้งาน มันให้ประสบการณ์คล้ายกับการอ่านบนกระดาษที่สุดแล้ว (เสียดายแค่มันไม่ถึงกับ Paper white) แล้วก็เวลาออกนอกสถานที่ แสงสว่างมากๆ มันก็อ่านได้สะดวกกว่าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาก แต่ในประเทศไทย คงไม่มีใครไปอ่านกลางแดดเท่าไหร่หรอก มันร้อน 555
ถ้าใครจะซื้อเครื่องอ่านอีบุ๊กซักเครื่อง ผมว่าตอนนี้ BOOX POKE 2 (หรือ BOOX Nova 2 ด้วย หากพิจารณาจากสเปก) น่าจะตอบโจทย์แล้ว ประสบการณ์ในการใช้งานดีขึ้นมาก แล้วก็ได้ประโยชน์จากการเป็นระบบปฏิบัติการ Android ด้วย นี่แอบหวังว่า ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ เขาจะมีข้อเสนอให้เทิร์นเครื่องเปลี่ยนเป็น Nova 2 นะ 555