ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การประชุมออนไลน์นี่แพร่หลายมากทีเดียวครับ และด้วยความที่ดันไปซื้อเกมมิ่งโน้ตบุ๊กแบบที่ไม่มีกล้องเว็บแคมมา ผมก็ต้องทู่ซี้ใช้ iPhone ไม่ก็ iPad Pro ของผม เข้าประชุมออนไลน์ตลอด ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้แย่ แต่มันวุ่นวายตอนที่จะต้องพิมพ์แชทคุยไปด้วย ไอ้ครั้นจะหาซื้อกล้องเว็บแคมดีๆ มาใช้ ก็แพงจุง สุดท้ายเลยหาตัวเลือกแปลง iPhone หรือ Android smartphone เป็นเว็บแคมดีกว่า โชคดีที่ผมใช้ Windows ไง ตัวเลือกก็เลยมีเยอะอยู่ และ iVCam นี่คือตัวเลือกที่ผมใช้ฮะ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
บล็อกตอนนี้ไม่ได้มีใครมาสนับสนุนอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เป็นความซุกซนของผมเองที่อยากลองแอปเปลี่ยนกล้องสมาร์ทโฟนให้เป็นเว็บแคม เพื่อประโยชน์ในการใช้งานส่วนตัวล้วนๆ
iVCam นี่เป็นของ e2esoft ครับ การใช้งานก็ต้องไปดาวน์โหลดแอปมาติดตั้งทั้งบนสมาร์ทโฟนของเรา (iOS/Android) และบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา (Windows) ซะก่อน ซึ่งการติดตั้งแอปบนสมาร์ทโฟนผมไม่เจอปัญหาอะไรนะ แต่การดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งบน Windows ผมพบว่าลิงก์บางอันของเว็บมันมั่วๆ อยู่ ฉะนั้น หากดาวน์โหลดไม่ได้ ลองเปลี่ยนลิงก์ที่จะดาวน์โหลดดูนะครับ อย่างตอนผมดาวน์โหลดเนี่ย ผมต้องไปคลิกตรง Download #2 x64 (เพราะ CPU ของผมเป็น 64-bit)

พอติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เราจะเลือกได้ว่าจะให้มัน Run at startup หรือไม่ ซึ่งถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์คุณแรมเยอะ (16GB งี้) ก็ให้มันรันพร้อมกับการบูตเครื่องไปเลย สะดวกดี แต่ถ้าไม่อยากเปลืองแรมโดยใช่เหตุ ก็ไม่ต้องให้มัน Run at startup นะ
ณ ตรงนี้ คุณจะเห็นหน้าจอที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีโปรแกรม iVCam ติดตั้งอยู่ครับ

ที่คุณต้องทำต่อก็คือ เปิดแอป iVCam บนสมาร์ทโฟนขึ้นมา แล้วเดี๋ยวมันก็จะตรวจเจอกันเอง แล้วก็เชื่อมต่อให้เสร็จเลยแบบนี้ แต่ค่าเริ่มต้นอะ มันจะตั้งค่าความละเอียดของวิดีโอไว้ต่ำ และคุณภาพของวิดีโอก็จะแค่กลางๆ เท่านั้น

สิ่งที่ต้องทำก็คือ ถ้าไม่เลือกปิดกล้องด้วยการแตะปุ่ม X ตรงมุมบนด้านขวา (ซึ่งจะทำให้แอปตัดเข้าโฆษณา ซึ่งเราสามารถเอาโฆษณาออกได้ ด้วยการเสียเงินค่าแอป $9.99 หรือ 299 บาท) พอปิดกล้องแล้ว ก็แตะรูปฟันเฟืองตรงมุมบนด้านขวา เพื่อเข้าหน้าจอตั้งค่า

หรือบนเครื่องคอมพิวเตอร์อะ ก็คลิกตรง Hamburger menu (ไอ้ขีดสามขีดตรงมุมล่างด้านขวา) แล้วเลือก Settings เพื่อเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าคุณภาพของวิดีโอและเสียง
ซึ่งการตั้งค่าเนี่ย มันทำได้ทั้งการเลือกว่าวิดีโอจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน ความละเอียดของวิดีโอเป็นเท่าไหร่ กี่เฟรมต่อวินาที คุณภาพของวิดีโอเป็นยังไง ฟอร์แมตของวิดีโอเป็นยังไง จะให้สมาร์ทโฟนเป็นไมโครโฟนด้วยเลยไหม และคุณภาพเสียงเป็นยังไง
ตัวแอปและโปรแกรม สามารถใช้งานได้ฟรี โดยมีโฆษณานะ แต่หากต้องการกำจัดโฆษณา ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถทำได้สองทาง คือ จ่ายผ่าน In-app purchase บนสมาร์ทโฟน หรือบนโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ คลิกที่ Register แล้วมันจะมีลิงก์ Purchase license code ให้คลิก เพื่อไปที่หน้าเว็บซื้อไลเซ่นส์ พอซื้อแล้ว เราจะได้รหัสมากรอกครับ แต่การซื้อผ่านแอปง่ายสุดแล้ว

ถ้าไม่เสียเงิน ใช้ได้ไหม? ใช้ได้นะครับ ฟีเจอร์ก็ครบเครื่องอยู่ มันแค่จะมีลายน้ำเขียนว่า iVCam อยู่ตรงมุมบนซ้ายมือของเฟรมภาพ และแอปมันจะมีโฆษณามาคั่นก็เท่านั้นแหละ
ตัวแอปบนสมาร์ทโฟน เวลาที่เปิดทิ้งไว้ซักพักใหญ่ๆ มันจะทำการดับภาพบนหน้าจอ เพื่อประหยัดพลังงาน (และลดความร้อน) ให้เองนะ ถ้าอยากให้จอติด ก็แค่ไปแตะบนหน้าจอนิดหน่อย เดี๋ยวภาพก็มา

นอกเหนือจากการปรับคุณภาพของวิดีโอแล้ว มันยังมีส่วนของ Camera Settings ที่ให้เราปรับ Exposure และ ISO ได้อีก เราสามารถเลือกให้โปรแกรมปรับ Exposure และ โฟกัสออโต้ได้ ทำ White balance แบบออโต้ได้อีก นี่ยังไม่นับเรื่องการเปิดแฟลช (ถ้ามี) โหมดแต่งภาพอัตโนมัติทำหน้าเนียนได้ประมาณนึง สะท้อนภาพแบบกระจก (ในกรณีที่ใช้กล้องหน้า)
ตัวแอปรองรับการสลับไปมาระหว่างกล้องหลังและกล้องหน้า ถ้ากล้องหลังมีหลายตัว มันก็จะสลับไปที่กล้องหลักนะครับ
ลองเอามาใช้กับโปรแกรมอย่าง Zoom Meeting หรือแม้แต่ทำ LINE Video Call ผมก็พบว่ามันนำภาพวิดีโอจาก iVCam ไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องไปเสียเวลาตั้งค่า Video source แต่อย่างใด เรียกว่าพร้อมใช้จริงๆ ครับ ถ้าเป็น Zoom Meeting นี่ กล้องมันสเปกไฮโซ และถ้าโน้ตบุ๊กสเปกก็ดีอยู่แล้ว สามารถทำ Virtual background แบบไม่ต้องใช้ Green screen เลยด้วย
และข้อดีของการใช้กล้องสมาร์ทโฟนมาทำเว็บแคมก็คือ คุณภาพของภาพอะ เพราะเซ็นเซอร์ภาพของกล้องสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะกล้องหลังเนี่ย มันไปไกลเกินกล้องเว็บแคมทั่วไปมากแล้ว ขั้นต่ำๆ ก็ 12 ล้านพิกเซล พร้อมสำหรับวิดีโอแบบ 4K สบายๆ เลย ซึ่งกล้องเว็บแคมสเปกประมาณนี้ ถ้าจะซื้อมาใช้ ก็จ่ายไปสิอีกเกือบหมื่นบาทครับ
จริงอยู่ สมาร์ทโฟนกล้องดีๆ ก็ไม่ได้ถูกๆ แต่มันคือสิ่งที่เราซื้อมาใช้กันอยู่ติดตัวอยู่แล้วไง มันจะมีข้อเสียก็ตรงที่ ถ้าใช้เป็นเว็บแคมอยู่ดีๆ ดันทะลึ่งมีคนโทรหา กล้องก็หลุดนะครับ ได้อย่างก็เสียอย่าง แต่ใครมีสมาร์ทโฟนสองเครื่อง หรือมากกว่า (แบบผม) นี่สบายเลยอะ
โดยพื้นฐานแล้ว การเชื่อมต่อของตัวแอป iVCam บนสมาร์ทโฟนกับโปรแกรม iVCam บน Windows จะต้องทำผ่าน WiFi หรือพูดง่ายๆ ทั้งโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนจะต้องอยู่บน WiFi เดียวกัน ซึ่งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป นี่น่าจะเป็นสถานการณ์มาตรฐานครับ แต่ถ้าเกิดเป็นผู้ใช้งานที่เป็นพนักงานออฟฟิศ บางที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณต่อกับสาย LAN ส่วน WiFi จะมีการแยกวงออกมาต่างหาก แบบนี้ ก็ต้องไปเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB ครับ ซึ่งถ้าเป็น iPhone ก็ต้องติดตั้งโปรแกรม iTunes ก่อน จากนั้นถึงจะใช้งาน iVCam ผ่านพอร์ต USB ได้ แต่ถ้าคุณใช้ Android smartphone คุณต้องดูก่อนว่า พอเสียบสมาร์ทโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้ว Windows มันตรวจเจออุปกรณ์ไหม เพราะถ้าไม่เจอ ก็อาจจะต้องไปดาวน์โหลด Driver มาติดตั้งก่อน จากนั้นค่อยไปตั้งค่า USB Debugging ครับ (ดูรายละเอียดการตั้งค่าที่เว็บไซต์ของ e2esoft)