สำหรับคนที่มีหูฟังหรือลำโพงรุ่นเก่าๆ แต่อยากใช้งานแบบไร้สาย เพราะต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ๆ อย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ที่รองรับบลูทูธ ตัวแปลงจำพวก Bluetooth receiver เป็นสิ่งจำเป็น วันก่อนผมรีวิวเวอร์ชันถูกไปแล้ว (KN-320 ไร้ยี่ห้อ สั่งจากจีน) วันนี้มาดูกันแบบมียี่ห้อ ของ UGreen กันบ้าง ว่ามันจะดีกว่ากันยังไง
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
เช่นเคย บล็อกตอนนี้ ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวเองอย่างแท้ทรู ความเห็นทั้งหมดในรีวิวครั้งนี้ จึงเป็นความเห็นของผมแต่เพียงผู้เดียวล้วนๆ
ตอนผมเห็นเจ้านี่บนเว็บขาย (Lazada) ครั้งแรก ผมนึกว่ามันจะใหญ่แต่จริงๆ แล้ว เล็กกว่าที่คิดไว้พอสมควร แต่ก็ไม่ได้เล็กมากนะ ภายในกล่อง มีคู่มือภาษาอังกฤษมาให้ มีสาย USB-A to Micro USB เอาไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และสายออดิโอ 3.5 มม. มาให้

ตัว Bluetooth receiver ของ UGreen นี่ ด้านบนก็จะเป็นปุ่มสำหรับเปิดปิด (ต้องกดค้าง 3 วินาที) และเอาไว้ควบคุมการเล่นเพลง (เล่น-หยุด) ได้ด้วย ส่วนด้านล่างเนี่ย มียางกันลื่นติดเอาไว้ เพื่อให้เวลาวางบนพื้นโต๊ะ มันจะได้ไม่ลื่นง่ายๆ
ด้านหลังของกล่อง UGreen Bluetooth receiver รุ่น 40759E ก็จะเป็นพวกพอร์ตต่างๆ สำหรับอุปกรณ์เชื่อมต่อ ซึ่งรองรับทั้งออดิโอ 3.5 มม. ที่เป็นสาย Aux สำหรับอุปกรณ์ทั่วไป ใครๆ ก็ใช้กัน แต่สำหรับลำโพงรุ่นเก่าๆ ที่มีการแยกสาย ซ้าย-ขวา ด้วยสาย RCA สีขาวและสีแดง เจ้านี่ก็รองรับด้วย ฉะนั้นมันเลยใช้งานได้หลากหลายกว่า

นอกจากนี้ก็มีพอร์ต Micro USB สำหรับใช้จ่ายไฟ 5V มาให้ด้วย ใช้ไฟจากพาวเวอร์แบงก์ก็ได้สบายๆ แต่มันไม่มีหัว Wall charger มาให้ ต้องไปหาเอาเองนะฮะ
การใช้งานไม่ยุ่งยาก ก็แค่เสียบไฟปุ๊บ เครื่องเปิดพร้อมใช้ แล้วเข้าสู่โหมดจับคู่อุปกรณ์เลย เปิดสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์มาสแกนหา ก็จะเจอ UGreen-40759E แล้วก็จับคู่ได้ง่ายๆ เลย ตามสเปก เจ้านี่เป็น Bluetooth 5.0 รองรับการเข้ารหัส aptX, aptX LL ของ Qualcomm ด้วย และ AAC ของ Apple รองรับโปรโตคอลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AVRCP, A2DP, HFP และ HSP เรียกว่าครบเครื่องมาก
ทดสอบเอามาใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้ง Android และ iOS ก็ทำได้ไม่ยาก ง่ายๆ เหมือนกับการเชื่อมต่อกับหูฟังไร้สายทั่วๆ ไปเลย จากนั้นที่ต้องทำก็แค่เอาสายออดิโอไปเสียบกะหูฟังหรือลำโพงทั่วๆ ไปแล้วใช้งาน ในแง่ของคุณภาพเสียง ก็ถือว่าทำได้ดี ถ้าเราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั่วไปก็จะเป็นการเข้ารหัสแบบ SBC แต่ถ้าเป็นการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Qualcomm หรือพวก iPhone/iPad หรืออุปกรณ์ของ Apple มันก็จะรองรับการเข้ารหัส aptX หรือ AAC ด้วย
ตามสเปกแล้ว เจ้านี่ความหน่วงต่ำ ถ้าเชื่อมต่อโดยใช้ aptX LL เพราะโฆษณาเอาไว้ว่าเป็น Low latency ซึ่งตามสเปกเขาบอกว่าลดลงมาได้เหลือ 32ms เท่านั้น แต่ข้อจำกัดคือ อุปกรณ์ที่จะใช้ส่งข้อมูลให้ มันก็ต้องรองรับ aptX LL ด้วย และบอกตรงๆ นะ สำหรับคนทั่วๆ ไป ที่จะใช้แค่ดูหนังฟังเพลง มันไม่ได้หน่วงจนถึงขนาดที่เรารู้สึกว่ามันแปลกๆ แน่นอน แม้ว่าจะเชื่อมต่อด้วยการเข้ารหัสแบบ SBC ก็ตาม
บทสรุปการรีวิว UGreen Bluetooth 5.0 Receiver
ถ้าคิดว่าจะใช้กับอุปกรณ์หลากหลาย แต่ไม่มีอันไหนที่ต้องใช้สาย RCA เลย และไม่อยากเสียเงินเยอะ ผมแนะนำว่า ไอ้ Bluetooth receiver KN-320 ที่ผมรีวิวไปเมื่อวานคุ้มกว่าเยอะ (และจริงๆ แล้ว หากซื้อสาย RCA to Aux มาแปลง ก็ไม่แพงเท่าไหร่ด้วยนะ) เพราะของ UGreen นี่ห้าร้อยกว่าบาทเลยนะ
แต่ถ้าหมกมุ่นในเรื่องที่ว่าจะต้องรองรับ aptX, aptX LL หรือ AAC ด้วย UGreen Bluetooth receiver ตัวนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ครับ