อีกอุปกรณ์นึงที่ซื้อมาด้วยเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า ต้องใช้ทำงาน เพราะต้องทำงานจากที่บ้าน (ฮา) และเผอิญว่าโน้ตบุ๊ก ASUS ROG Strix G G731GU-EV231T ของผมสเปกมันก็แรงพอที่จะต่อออกจอแสดงผลภายนอกได้ตั้งหลายตัว และมีพอร์ต USB-C ที่รองรับเป็น Display port อีก แต่ไม่อยากเสียเงินเยอะครับ เลยลองวัดดวงกับจอพกพาไร้ยี่ห้อ สัญชาติจีน ที่ราคาแค่ห้าพันเศษๆ มาดู มันเป็นรุ่น P15BT รู้แค่นี้จริงๆ มาดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
บล็อกตอนนี้ เช่นเคย ซื้อมาเอง ใช้เอง รีวิวเอง ทุกอย่างเป็นไปตามจริง จากประสบการณ์ในการใช้งานจริงล้วนๆ ครับ ไม่มีใครสนับสนุนใดๆ ทั้งสิ้น
อันนี้ต้องขอเริ่มรีวิวตั้งแต่ประสบการณ์ซื้อเลย
งวดนี้เป็น #พ่อบ้านใจกล้า ขั้นสุด ในบัญชี Lazada ของภรรยาในการสั่งซื้อสินค้า พยายามเลือกหาอยู่หลายร้าน เพราะจอพกพาอันนี้ ไร้ยี่ห้อ รู้แต่ว่ารุ่น P15BT เข้าใจว่าคือโรงงานจีนเขาทำขายเป็นล็อตใหญ่ ร้านรวงต่างๆ ก็แค่รับเข้ามาขายในประเทศไทยกัน แล้วก็ไปเจอร้านนี้ Hali Flagship Store เข้า เป็นร้าน LazMall ที่ในความหมายของ Lazada ก็คือ เป็นร้านที่เป็นผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้าโดยตรง จะได้รับการรับประกันทั้งจากทางร้าน และจากทาง Lazada แถมราคาห้าพันกว่าบาท ยังผ่อน 0% 10 เดือนได้อีก เหลือขำๆ เดือนละห้าร้อยกว่าบาท ชิลล์ๆ

ตัดสินใจง่ายเลย กดซื้อในบัดดล กดซื้อไปตอน 14 เมษายน 2563 แล้วมันก็เขียนว่าของจะถึงประมาณวันที่ 18-21 เมษายน 2563 ครับ อ่านจากรีวิว เขาบอกว่าร้านนี้ส่งของไว ระยะเวลาส่ง 5-7 วัน ก็ถือว่าโอเค
ในความเป็นจริงล่ะ? จนถึงวันที่ 18 เพิ่งจะเริ่มบรรจุและนำไปให้บริษัทขนส่ง จากนั้นก็เงียบหายไป ไม่มีการอัพเดตอีกเลย แชทถามไปทางร้าน ทางร้านตอบประโยคซ้ำๆ แค่ว่า “ยอดสั่งเข้ามาเยอะ จะเร่งดำเนินการให้” ซ้ำๆๆๆ จนถึงวันที่ 26 รู้สึกอดทนไม่ไหวแล้ว เพราะว่าเสียเวลารอมาก (คือ ล่าช้ากว่ากำหนดไปเกือบสัปดาห์แล้ว) เลยจะทำเรื่องขอคืนสินค้า และต้องย้ำๆๆๆ อยู่หลายรอบ กว่าร้านจะเข้าใจ และตอบว่าจะดำเนินการให้
แต่ทว่า พอวันที่ 28 ก็มีการอัพเดตมาว่า สินค้าจะถูกจัดส่งในวันถัดไป และของก็มาถคงตอนเช้าวันที่ 29 เมษายน 2563 แบบงงๆ ซะงั้น คือ ตอนผมไปรับของ ผมยังงงๆ อยู่เลย

ทำไมถึงมาล่าช้าซะขนาดนี้? อันนี้เป็นการคาดเดาของผมล้วนๆ นะครับ ผมคิดว่าอาจจะเป็นได้จากสองสาเหตุ
>> สาเหตุแรก: พิจารณาจากการอัพเดตของแอป ที่แสดงให้เห็นว่าต้นทางของสินค้ามาจากแถวๆ สุวรรณภูมิ ประกอบกับการที่ภาพกราฟิกอธิบายสินค้ามันสะกดภาษาไทยผิด และมีการแปลผิดหลายจุด และชื่อร้านก็ดูเป็นจีนๆ ชอบกล ผมคิดว่าร้านน่าจะเป็นของคนจีน ที่อาจจะมีการเก็บสต็อกบางส่วนไว้ในประเทศไทย (ถึงได้สามารถส่งของได้รวดเร็วในเวลาปกติ) แต่เผอิญว่าช่วงโควิด-19 คนสั่งของเยอะมาก ก็เลยทำให้สต็อกหมด และต้องรอของเดินทางมาจากจีน
>> สาเหตุสอง: ได้ยินมาจากลูกค้า Lazada หลายคนเลย ว่า LEX TH ตอนนี้ขาดคนทำงาน ส่งผลให้การจัดส่งล่าช้า
ก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุไหนล่ะ แต่บอกเลยว่าร้าน Hali Flagship Store นี่ แม้จะยังเชื่อใจได้ในฐานะ LazMall ว่าได้ของแน่นอน ไม่โดนหลอก แต่ต้องพัฒนาการให้บริการตอบแชทปัญหาลูกค้าอย่างมากจริงๆ
อ่ะ ทีนี้มารีวิวของบ้าง
แกะแพ็กเกจออกมา ก็อย่างที่บอกครับ มันเป็นจอพกพา (Portable monitor) แบบไร้ยี่ห้อ ควรไปเหอะ ทั้งกล่อง ไม่มียี่ห้อโผล่มาให้เห็น แต่มันมีสติกเกอร์แปะบอกเอาไว้ว่าเป็นรุ่น P15BT เฉยๆ (ซึ่งร้าน Hali ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ไว้)
ในกล่องก็แพ็กของมาดี กล่องมีบุบบ้างนิดหน่อย แต่ของข้างในไม่เสียหาย ทางร้านมีการแปะสติกเกอร์บอกไว้ว่าระวังแตก ห้ามโยน ตัวสินค้ามีให้เลือกสองสี คือ สีดำ และ สีแดง และมีให้เลือกระหว่างแบบที่เป็นจอสัมผัสและมีแบตเตอรี่ในตัว (ราคาห้าพันเศษๆ) กับแบบไม่มีแบตเตอรี่ (ราคาสี่พันกว่าๆ) ผมเลือกเป็น สีแดง แบบที่เป็นจอสัมผัสและมีแบตเตอรี่ในตัว

ภายในกล่องเนี่ย มีตัวจอแสดงผล ที่มีการติดเคสมาให้ในตัวแล้ว สีแดงไม่ถึงกับสด แต่ก็ไม่ได้จืดหรือหม่นอะไร สวยดี ผมชอบ ตัวจอแสดงผลเนี่ย สีแดงมันจะเข้มกว่าเคสอยู่นิดหน่อย ผมว่าดีนะ สีจะได้ไม่ดูกลืนจนเกินไป
เขาให้สายเชื่อมต่อมาครบถ้วนดีครับ ประกอบไปด้วย สาย USB-C to USB-C เอาไว้สำหรับต่อกับโน้ตบุ๊ก ในกรณีที่โน้ตบุ๊กมีพอร์ต USB-C ที่รองนับ Display Port (ตัว ASUS ZenBook S UX391UA และ ASUS ROG Strix G G731GU-EV231T ของผมรองรับทั้งคู่) สาย HDMI to Mini HDMI เอาไว้สำหรับต่อกับโน้ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์อื่นๆ (เช่น Sony PS4, Nintendo Switch ฯลฯ) ที่มีพอร์ต HDMI แล้วก็มีอะแดปเตอร์แบบ USB-C จ่ายไฟ 5V 3A กับสาย USB-A to USB-C ที่เอาไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวจอพกพา ซึ่งผมถือว่าครบเครื่อง เพราะไม่จำเป็นต้องจงใจพกอะแดปเตอร์ไปเลย ไปหาอะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟ 5V 3A ได้มาใช้ก็โอเคแล้ว

ด้วยความที่ราคามันถูกเอาเรื่อง แค่ห้าพันเศษ ไม่แปลกใจที่วัสดุจะเป็นพลาสติกที่ดูง่อยๆ หน่อย คือ มันง่อยกว่าจอโน้ตบุ๊กที่เป็นพลาสติกอีกนะผมว่า บางจุดของจอเนี่ย กดๆ ตรงพลาสติกยังรู้สึกว่างานประกอบไม่เรียบร้อยดีนัก แต่ไม่ได้ถึงกับทำให้เป็นปัญหา พอที่จะมองข้ามไปได้
ที่ผมชอบคือ ขอบจอมันบางมาก บางในระดับของโน้ตบุ๊กไฮเอนด์บางตัวเลย และขนาดก็บางเอาเรื่องทีเดียว เลยทำให้ขนาดมันไม่ใหญ่โตเวอร์วังมาก แม้จะเป็นจอ 15.6 นิ้ว และน้ำหนักก็ไม่ได้โหดร้าย

เผื่อใครจะคิดว่าตัวจอกับเคสจะถอดแยกกันได้ง่ายๆ บอกก่อนเลย แม้จะไม่ยากมาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะมันยึดเอาไว้ด้วยน็อตเลยครับ แต่เราไม่ต้องไปหาไขควงมาขันหรอกนะ เอานิ้วบีบแน่นๆ แล้วออกแรงหมุนหน่อยก็ออกแล้ว ถามว่าทำไมต้องถอดน็อตออก? ก็เพราะว่าในฐานะจอพกพา มันใช้งานได้สะดวกกว่าจอปกตินิดนึง ตรงที่เราจะตั้งก็ได้ นอนก็ได้ไง

เนี่ยๆ ในกรณีของการอ่านงานเอกสาร หน้าเว็บไซต์ หรืออะไรก็ตามแต่ ที่ข้อมูลมันเป็นในแนวยาวมากกว่าแนวกว้าง จับเอาจอพกพามาตั้งเลย จะทำให้แสดงผลได้เหมาะสมกว่ามาก เสียดายแค่ว่าจอมันไม่ได้มี Accelerometer ที่คอยตะแคงหน้าจอให้โดยอัตโนมัติเท่านั้นแหละ ต้องไปตั้งค่าเอาเองใน Display settings ของ Windows เอาเอง
สำหรับการวางจอ สามารถวางได้สองวิธี คือ ใช้ตัว Stopper ที่เย็บไว้บนเคส เป็นตัวกำหนดการเอียงของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งาน (มี Stopper 3 อัน ทำให้จอเอียงในระดับที่ต่างกัน) กับเอาปากกาไปเสียบในรูตรงมุมด้านล่างขวามือของจอ ขยับความยาวของปากกาที่โผล่ไปทางด้านหลัง เพราะปรับการเอียงของจอ

ด้านซ้ายมือของจอ มันมีพอร์ตการเชื่อมต่อเยอะแยะเลยครับ ไล่จากบนลงล่างก็เป็น
>> พอร์ต Mini HDMI เอาไว้ใช้ต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ HDMI ซึ่งทำให้เจ้านี่สามารถใช้งานกับโน้ตบุ๊กหรือเครื่องเล่นเกมส่วนใหญ่ได้เลย
>> พอร์ต USB-C เอาไว้สำหรับเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊กที่มีพอร์ต USB-C ที่รองรับ Display Port (ต้องไปเช็กสเปกของโน้ตบุ๊กเอาเองนะครับ)
>> พอร์ต USB-C เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับไฟ 5V 3A จ้า
>> ไฟ LED สองดวง ดวงบนเอาไว้บอกสถานะของแบตเตอรี่ ถ้าเสียบชาร์จแบตเตอรี่อยู่ ไฟมันจะเป็นสีแดงติดค้าง พอดับแสดงว่าชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว แต่ถ้าเกิดใช้งานอยู่โดยไม่ได้เสียบชาร์จ แล้วไฟมันกระพริบ แสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมด ส่วนดวงล่างไฟสีฟ้า เอาไว้แสดงสถานะว่าได้รับสัญญาณภาพหรือไม่
>> พอร์ต Micro USB เอาไว้สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติม เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด หรือแฟลชไดร์ฟ ซึ่งโดยส่วนตัว ผมไม่รู้สึกว่ามันจะได้ใช้อ่ะ แต่สำหรับคนที่จะเอาสมาร์ทโฟนมาต่อกับจอเพื่อเล่นเกม หรือเพื่อใช้เป็นคอมพิวเตอร์ เอามาเสียบกับ Micro USB to USB-A dongle แล้วเสียบพวกเซ็ต Wireless keyboard + mouse มันน่าจะดีงาม

ลองเอามาใช้งาน ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าตัวห้าพันกว่าบาทอยู่นะ โน้ตบุ๊กจอ 17.3 นิ้วของผมว่าพื้นที่ใช้งานเยอะแล้ว แต่บางทีก็อยากจะอ่านเอกสารไปพร้อมๆ กับพิมพ์งานไปด้วย บนจอใหญ่ๆ อะไรแบบนี้ มีจอเสริมมาช่วย ก็สะดวกขึ้นพอสมควร
ตามสเปก เขาบอกว่าจอมันรองรับการสัมผัส และผมลองไปเช็กสเปกรุ่นเดียวกันนี้บนเว็บอื่นอย่าง Aliexpress มันก็บอกว่ารองรับการสัมผัส แต่ผมเสียบกับโน้ตบุ๊กแล้ว มันกลับไม่เป็นจอสัมผัสอะ ตัวเลือก Pen and Touch บน Windows ที่ปกติจะขึ้นมาถ้าจอแสดงผลเป็นจอสัมผัส มันก็ไม่ขึ้น พยายามทุกวิถีทางแล้ว ก็ไม่รอด แต่เท่าที่ลองสัมผัสหน้าจอดูอะ ก็รู้สึกได้ว่าหน้าจอมันออกแบบมาให้เป็นจอสัมผัส แต่มันจะสัมผัสได้ยังไงนี่สิอีกเรื่อง
ปกติแล้ว Windows 10 เนี่ย ถ้าเจอจอสัมผัส มันจะต้องมีการเชื่อมต่อกับจอผ่านพอร์ต USB เพื่อจะรับอินพุตจากจอ ซึ่งการเชื่อมต่อผ่าน USB-C เนี่ยก็น่าจะตอบโจทย์แล้ว แต่ผมคิดว่าน่าจะติดที่เรื่องของไดรเวอร์ละมั้ง แต่ไปเช็กที่ Device manager แล้ว ก็ไม่พบว่ามีอุปกรณ์แปลกประหลาดที่ไม่มีไดรเวอร์โผล่มา พอไปไล่อ่าน Q&A ของร้านดู อ้าว ร้านบอกว่ารุ่นปัจจุบันไม่สัมผัสซะงั้น แล้วทำไมตอนเลือกซื้อมันบอกว่า มีจอสัมผัสวะครับ

ผมพยายามแกะเลขรุ่นมันก็พบว่าแบบนี้ครับ P15 คือจอพกพา ขนาด 15.6 นิ้ว ส่วน B คือ แบตเตอรี่ และ T คือ จอสัมผัส (Touchscreen) นั่นหมายความว่า P15BT มันก็ควรจะเป็นจอที่มีแบตเตอรี่ และมีทัชสกรีนเสะ ทำไมมันไม่มี (บนกล่องก็บอกว่ารุ่นที่ส่งมาคือ P15BT ด้วยนะ)
ฉะนั้น อยากให้ผู้ที่อ่านรีวิวของผม เข้าใจไว้ด้วยว่า จอพกพาจากร้าน Hali นี่ แม้จะเขียนว่าเป็นจอสัมผัส แต่ของที่ได้จริง ไม่ใช่จอสัมผัสนะครับ แต่ก็ไม่รู้จะเรียกว่าโดนหลอกลวงหรือไม่ เพราะกล่องอะ มันส่งเลขรุ่นมาตรง และร้านมันก็บอกไว้ด้วยว่าจอไม่สัมผัสใน Q&A แต่มันไม่ไปบอกในสเปกตอนสั่ง
ตัวจอพกพา มีความครบเครื่องอยู่นะ คือ มันมีลำโพงในตัวด้วย เป็นแบบสเตริโอ ฝังอยู่ด้านหลังของจอ มีเคสบังอยู่ ต้องไปแง้มๆ ดูถึงจะเห็น แต่คุณภาพเสียงนี่เป็นแบบงั้นๆ นะ และความดังก็ค่อนข้างจำกัดมาก ขนาดเปิดดังสุดๆ แล้ว ก็ยังไม่เท่าไหร่เลย ฉะนั้นอย่าไปหวังพึ่งพาให้มากครับ หาโซลูชันในเรื่องระบบเสียงเองดีกว่า

การตั้งค่าต่างๆ บนจอพกพา ทำได้จากปุ่มสามปุ่ม คือ Menu + และ – บนมุมด้านล่างซ้ายมือของหน้าจอนี่แหละ
>> ปุ่ม Menu คือ เข้าสู่เมนูการปรับตั้งค่า และเป็นปุ่ม Enter ไปในตัว
>> โดยปกติแล้ว + กับ – เอาไว้สำหรับเพิ่มหรือลดเสียงของลำโพง (ต้องกด + ก่อน ถึงจะปรับเสียงได้) แต่ถ้าใช้ควบคู่กับปุ่ม Menu มันก็คือปุ่ม ซ้าย และ ขวา ครับ ส่วนการกดปุ่ม – ค้างไว้ตอนอยู่ในเมนู คือ Back/Exit

ลองพยายามหาอุปกรณ์ต่างๆ มาเสียบดูนะ คือ ผมเสียดายตรงที่ผมไม่มีพวกเครื่องเล่นเกม แต่ผมมีโน้ตบุ๊กหลายตัว (ฮา) ก็เลยลองเสียบๆ ดู ส่วนใหญ่ผมลองเสียบผ่าน USB-C ครับ พบว่าเวิร์กดี และสะดวกมาก แล้วไอ้พอร์ต USB-C ของตัวจอพกพา มันเป็น Reverse charging ได้ด้วย คือ เอาไฟจากแบตเตอรี่มาชาร์จอุปกรณ์ได้ ซึ่งเป็นเรื่องดี ถ้าเกิดว่าเราเสียบปลั๊กชาร์จจอไปตลอด มันก็จะชาร์จอุปกรณ์เราไปด้วยในตัว แต่มันจะกลายเป็นข้อจำกัดในทันที หากเราเอาไปใช้งานข้างนอก ไม่ได้เสียบปลั๊ก เพราะมันจะสูบแบตเตอรี่ของจอออกไป
ถามว่าแบตเตอรี่อยู่ได้นานแค่ไหน ตามสเปกมันใส่มา 6,000mAh ครับ ผมไม่ได้ลองใช้จนแบตหมดนะ แต่ว่าใช้มาราวๆ 3 ชั่วโมงแล้ว แบตเตอรี่ก็ยังดูดีอยู่ ผมก็คิดว่าคงใช้ได้สบายๆ ละมั้ง 3-4 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้เอาไปชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์ไหนซะก่อน
ในแง่ของการทำงานหลายจอ บอกเลยว่าจอ 15.6 นิ้ว ไม่ได้เล็ก แต่ก็ไม่ได้ใหญ่ ฉะนั้นถ้าใครที่จะนั่งอยู่กับโต๊ะตลอด และอยากได้จอเพิ่ม นี่ไม่ใช่คำตอบแน่นอน แต่สำหรับผม ที่อยากได้จอเพิ่มเวลาใช้งานโน้ตบุ๊ก และผมก็มีโน้ตบุ๊กที่ห้องนอน กับห้องรับแขกคนละตัว อยากเอาไปใช้นอกสถานที่ด้วย จอพกพามันคือคำตอบที่ดี และสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมคอนโซล และอยากเอาไปใช้นอกสถานที่ จอพกพาก็ตอบโจทย์เช่นกันครับ
บทสรุปการรีวิว จอพกพา P15BT
ในแง่ของประสิทธิภาพของจอ ผมว่าโอเคในฐานะจอพกพา แต่น้ำหนักของมันก็ใช่ย่อยอยู่นะ ในหน้าร้านบอกหนัก 750 กรัม แต่ผมชั่งน้ำหนักจริงๆ พร้อมติดเคสแล้วน่ะ 1.15 กิโลกรัมนะครับ ฉะนั้น คิดให้ดีๆ ก่อนจะตัดสินใจพก แต่สำหรับผม ผมถือว่าซื้อมารีวิวครั้งนี้ก็ไม่เสียเปล่า
ที่ผมไม่ชอบคือ ตัวรุ่นมันก็ระบุชัดเจนว่าเป็นรุ่นที่มีแบตเตอรี่ และรองรับการสัมผัสด้วย แต่ของจริงที่ได้ มันมีแบตเตอรี่ แต่ไม่รองรับการสัมผัส แสดงว่าเป็นรุ่น P15B เฉยๆ ซึ่งหากเราพยายามหาร้านอื่น หรือสั่งจาก Aliexpress มา (แต่ตอนนี้น่าจะส่งช้ามากอยู่) เราอาจจะได้รุ่น P15BT จริงๆ ที่รองรับการสัมผัสครับ
ผมกลับมาลบลิงก์ซื้อออก เพราะพบว่าร้านไม่ขายสินค้าตัวนี้แล้วครับ ใครมาอ่านเจอบล็อกตอนนี้ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะไม่มีสินค้าตัวเดียวกันนี้ขายในร้านที่ผมเคยซื้อมาแล้วฮะ
หากต่ออุปกรณ์แล้ว (อุปกรณ์เป็นมือถือ หรือไอแพด) แต่อยากให้เสียงออกลำโพงอื่นต้องเลือกอย่างไร พอทราบมั้ยคะ ลำโพงเบาจริงค่ะ
โดยหลักแล้ว ต่อลำโพงบลูทูธแล้ว มันน่าจะให้เราเลือกใน Control Center ได้ว่าอยากให้เสียงออกลำโพงบลูทูธนะครับ
ปัจจุบันยังใช้จอนี้อยู่ป่าวคะ
ยังใช้อยู่ครับ แต่น้อยลง เพราะผมเปลี่ยนมาใช้จอ HUAWEI MateView GT 34″ แทน จอเดียวมันทำงานแทนสองจอได้ฮะ เลยไม่ต้องใช้จอโน้ตบุ๊ก + จอพกพานี่แล้วอะ