Skip to content
  • กว่าจะมาเป็น … นายกาฝาก
  • รู้จักนายกาฝาก
  • ติดต่อนายกาฝาก
บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

  • ข่าว
  • รีวิว
  • แบ่งปันความรู้
    • บทวิเคราะห์
  • บทความ How-to
    • QNAP User Guide
    • QNAP NAS 101
    • How-to อื่นๆ
  • Living with Ubuntu
  • บ่นเรื่อยเปื่อย
  • เที่ยวไปทั่ว
    • ไทย
    • เอเชีย
    • ยุโรป
  • ข่าว
  • รีวิว
  • แบ่งปันความรู้
    • บทวิเคราะห์
  • บทความ How-to
    • QNAP User Guide
    • QNAP NAS 101
    • How-to อื่นๆ
  • Living with Ubuntu
  • บ่นเรื่อยเปื่อย
  • เที่ยวไปทั่ว
    • ไทย
    • เอเชีย
    • ยุโรป
ข่าวเขาฝากมา
  • เวสเทิร์น ดิจิตอล ยกทัพ SSD แบบพกพาความจุเต็มพิกัดทุกแบรนด์ในตระกูลออกจำหน่าย พร้อมนำเสนอทางเลือก SSD แบบพกพาความจุสูงถึง 4TB ที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งานทั่วไปและระดับโปรเฟสชันนัลในยุคที่สตอเรจจำเป็นต้องเร็วและมีความทนทาน
  • realme จัดแคมเปญ ‘Empower The Next Gen’ เสริมพลังขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่โชว์ 4 ศักยภาพอย่างไร้ขีดจำกัด
  • ชี้เป้าสมาร์ทโฟน 5G สุดคุ้ม “Galaxy A42 5G” จากซัมซุง เร็วแรงพร้อมลุยทุกการใช้งาน ในราคาหมื่นต้น!
  • ดีแทคจับมือยารา เปิดตัว Kaset Go เครือข่ายดิจิทัลชุมชนเพื่อเกษตรกรแห่งแรกในประเทศไทย
  • อาร์ทีบีฯ ส่งแพ็กคอนเทนต์ครีเอเตอร์!!! ชุดหูฟัง ATH-M40x พร้อมไมโครโฟน ATR2500X-USB ของ Audio-Technica ราคาสุดคุ้มเอาใจผู้ผลิตคอนเทนต์
  • เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัว WD_BLACK SN850 NVMe SSD มอบอีกขั้นของความเร็วแรงบนเทคโนโลยี PCIe® GEN4 รุ่นใหม่
Home>>รีวิว>>รีวิว QNAP TS-251D NAS รุ่นเล็ก ราคาเบา แต่ฟีเจอร์ครบเครื่องมาก
อุปกรณ์ในการทดสอบ QNAP TS-251D ในครั้งนี้ พร้อมฮาร์ดดิสก์ Seagate IronWolf 2TB อีกสองลูก
รีวิว

รีวิว QNAP TS-251D NAS รุ่นเล็ก ราคาเบา แต่ฟีเจอร์ครบเครื่องมาก

นายกาฝาก
กุมภาพันธ์ 15, 2020 5062 Views2

QNAP TS-251D เป็น NAS ขนาด 2-bay ตัวล่าสุดจากค่าย QNAP ที่ดูจากเลขรุ่นก็รู้เลยว่ามันจะมาแทนที่ตัว TS-251 รุ่นก่อนหน้าทั้งหลาย ด้วยดีไซน์แนวใหม่ คล้ายๆ ตระกูล TS-x53B แต่ตัวเครื่องเป็นสีสดใส ขาวสลับฟ้า และเพิ่มฟีเจอร์การขยายขีดความสามารถด้วยสล็อต PCIe ตามรอยรุ่นพี่ไปอีกด้วย และทั้งหมดนี้ในราคาที่แว่วๆ ว่าเริ่มต้นที่หมื่นต้นๆ เท่านั้น

คือต้องออกตัวแบบนี้ก่อนว่าปกติแล้วตระกูล TS-x51 เนี่ย มันจะเป็นแนว Home High-end หรือเหมาะสำหรับเอาไว้ใช้งานตามบ้าน หรือพวก SOHO (Small Office Home Office) ซะมากกว่า แต่สำหรับภาคธุรกิจ ควรไปใช้ตระกูล TS-x53 ซึ่งเป็นแนว Middle-range business แต่ผมว่าการมาของ QNAP TS-251D นี่จะทำให้ภาคธุรกิจขนาดเล็กมีตัวเลือกมากขึ้น เพราะจากที่ผมเช็กข้อมูลมา ความสามารถของ TS-251D ตัวนี้ ไม่แพ้ตัว TS-253Be ที่เป็น Middle-range business เลย

เช่นเคย แพ็กเกจที่ได้มาภายในกล่อง ประกอบไปด้วยตัว QNAP NAS TS-251D ตัวอะแดปเตอร์ไฟ DC สายไฟสำหรับเสียบกับอะแดปเตอร์ และสาย LAN แบบ Gigabit ให้มาอีกเส้นนึง

QNAP TS-251D ที่เปิดฝาด้านหน้าออกมา เผยให้เห็นถาดใส่ฮาร์ดดิสก์สองถาดด้านใน สีดำ
ถาดใส่ฮาร์ดดิสก์ของ QNAP TS-251D ใส่ฮาร์ดดิสก์ Seagate IronWolf 2TB อยู่ ตัวถาดดีไซน์แบบไม่ต้องใช้เครื่องมือประกอบ

การออกแบบของ QNAP TS-251D เป็นแบบ Tooless เวลาจะถอดหรือใส่ฮาร์ดดิสก์ในถาด ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ทั้งสิ้น น็อตก็ไม่ต้องใช้ สะดวกอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยังยึดฮาร์ดดิสก์ได้ค่อนข้างแน่นหนา เหมือนกับการยึดด้วยน็อตเลย

ด้านหลังของ QNAP TS-251D

ตามแบบฉบับของ QNAP NAS ตระกูล TS-x51 คือ ด้วยความที่มันเป็นรุ่นสำหรับใช้งานตามบ้าน มันเลยมีพอร์ต Gigabit LAN มาให้แค่พอร์ตเดียว แต่สำหรับผู้ใช้งานในออฟฟิศเล็กๆ แบนด์วิธระดับ 1Gbps ก็เพียงพอสำหรับหลายๆ คนแล้ว นอกจากนี้ก็มีพอร์ต USB 2.0 มาให้สามพอร์ต เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้เชื่อมต่อกับพวกอุปกรณ์เสริมที่ไม่ต้องการแบนด์วิธสูงๆ อย่าง คีย์บอร์ด เมาส์ และพริ้นเตอร์ได้ แต่หากต้องการถ่ายโอนข้อมูลจาก External HDD ละก็ มันมีพอร์ต USB 3.0 มาให้ 2 พอร์ต อันนึงอยู่ด้านหน้า อีกอันอยู่ด้านหลัง แล้วก็มีพอร์ต HDMI 2.0 มาให้พอร์ตนึง เอาไว้ใช้งานต่อกับจอแสดงผลภายนอก พวกจอคอมพิวเตอร์หรือจอทีวี ใช้ QNAP NAS ได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนึงเลย

หน้าจอเริ่มต้นของ QNAP Smart Installation

การเริ่มใช้งาน QNAP NAS ก็ยังง่ายๆ เหมือนเดิม คือ พอเปิดเครื่องมาปุ๊บ ใส่ฮาร์ดดิสก์เข้าไปปั๊บ มันก็จะเริ่ม Smart Installation Guide ขึ้นมา ซึ่งขั้นตอนมันง่ายๆ เลย แค่ตั้งชื่อ NAS ของเรา กำหนดรหัสผ่าน ซึ่งเดี๋ยวนี้เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีเพ่งเล็ง QNAP NAS มากขึ้น (เพราะเป็นที่นิยมใช้แพร่หลาย) ก็เลยมีการกำหนดเงื่อนไขในการตั้งรหัสผ่านเอาไว้เพิ่ม ทำให้ไม่มีอีกแล้วนะ ที่จะตั้งรหัสเป็น Username = admin, Password = admin อะไรแบบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณจะตั้งรหัสผ่านได้ปลอดภัยแค่ไหน ก็อยู่ที่ตัวคุณเองแล้ว

หน้าจอตั้งค่าการรองรับบริการถ่ายโอนข้อมูลแบบข้ามแพลตฟอร์ม

ที่เหลือก็แค่เรื่องการตั้งค่า IP address ซึ่งหลายๆ ที่รวมถึงในบ้านคนทั่วไป เขาใช้ DHCP server มาช่วย ขั้นตอนนี้ก็เลยง่ายๆ แค่คลิกๆ ไปก็จบ และเราก็สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ QNAP NAS รองรับระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่จะเข้ามาเชื่อมต่ออะไรบ้าง ซึ่งครอบคลุม Windows, macOS และ Linux ครบ เลือกเปิดได้ตามต้องการ … ส่วนผมเปิดหมด เพราะที่บ้านมีใช้ครบทุก OS เลย

มีอะไรใหม่บ้างใน QNAP TS-251D ตัวนี้?

บอกตรงๆ ว่า ถ้าดูแค่จากรูปลักษณ์ภายนอก และตัวซอฟต์แวร์ที่อยู่ภายใน เราจะไม่ได้เห็นความแตกต่างอะไรมาก ในตัวเจ้า QNAP TS-251D ตัวนี้ เพราะ QNAP NAS ตระกูลที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel นี่ มันประสิทธิภาพสูงพอที่จะใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอะไรสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านอย่าง Multimedia server ผ่านแอป VideoStation หรือ Plex Media Server (ผมใช้อันหลังทำ Media server ที่บ้านอยู่) หรือสำหรับภาคธุรกิจเช่น VPN server (ซึ่ง QNAP รองรับมาตรฐานทั้ง L2TP/IPsec, PPTP, OpenVPN และมี QVPN เป็นของตัวเองอีก), Web server, Database server, Virtual Station ฯลฯ

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเลยน่ะ มันอยู่ที่ตัวฮาร์ดแวร์ ที่เราต้องไปไล่ดูสเปกถึงจะได้เห็นกันครับ เช่น

  • รองรับการเพิ่มการ์ดอุปกรณ์เสริมด้วยสล็อต PCIe ทำให้เพิ่ม SSD M.2 ได้ หรือจะใช้เป็น Wireless LAN จะใช้ 10GbE ก็ได้ อุปกรณ์เสริมพวกนี้ QNAP มาให้ใช้หมด เลือกใช้ได้ตามความต้องการของเรา และที่สำคัญ PCIe ที่ใช้บน QNAP TS-251D นี่เป็นแบบ Gen 2×4 ซึ่งมีแบนด์วิธ 16Gbps รองรับ 10GbE ได้เต็มประสิทธิภาพกว่า (QNAP TS-253Be มีสล็อต PCIe เช่นกัน แต่เป็น Gen 2×2 ที่มีแบนด์วิธ 8Gbps ทำให้แม้จะใช้ 10GbE ได้ แต่แบนด์วิธจะมีคอขวดที่ ตัว PCIe เอง)
  • หน่วยประมวลผล Intel® Celeron® J4005 dual-core 2.0 GHz processor (burst up to 2.7 GHz) รุ่นใหม่ขึ้นอีกนิด และ Intel Graphics 600 ซึ่งทั้งคู่ประสิทธิภาพดีขึ้นมาอีกประมาณนึง
  • หน่วยความจำเป็นแบบ DDR4 แล้ว หาซื้อแรมมาอัพเกรดเองได้ง่ายขึ้นมา อันนี้บอกเลยว่าสำคัญมาก เพราะ QNAP TS-251D มีจำหน่ายเป็นรุ่น 2G (แรม 2GB) และ 4G (แรม 4GB) หากต้องการอัพเกรดไปให้ไกลกว่านี้ ต้องหาแรมมาอัพเกรด ซึ่ง QNAP NAS รุ่นก่อนหน้า เกือบทั้งหมดใช้แรม DDR3L ซึ่งเดี๋ยวนี้หาได้ยากมากในตลาด ผมเองก็ต้องไปสั่ง Lazada เอา แต่ถ้าเป็น DDR4 นี่ยังหาได้ไม่ยาก
  • HDMI ก็ได้รับการอัพเกรดมาเป็น HDMI 2.0 แล้ว ซึ่งนั่นทำให้แบนด์วิธเพิ่มขึ้นจาก 10Gb/s (ใน HDMI 1.4) มาเป็น 18Gbps เลย รองรับการแสดงผลที่ 4K@60Hz แล้ว แต่ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ พิจารณาจากสเปกของหน่วยประมวลผลแล้ว เจ้านี่ก็น่าจะยังไปไหวแค่ 4K@30Hz ครับ
  • มี Power consumption หรือ อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่ำกว่ารุ่น TS-253Be พอสมควร HDD sleep mode กินไฟแค่ราวๆ 8 วัตต์ (TS-253Be กิน 13 วัตต) ส่วนตอนทำงานปกติ กินไฟแค่ 15.25 วัตต์ (TS-253Be กิน 20 วัตต์) เท่านั้นเอง
หน้าจอโปรแกรม AppCenter ของ QNAP กำลังแสดงแอปในหมวด QTS Essentials

นั่นทำให้เราเอา QNAP TS-251D ไปใช้งานได้หลากหลายมากๆ ดาวน์โหลดแอปมาเพิ่มเติมความสามารถ ผ่าน QNAP AppCenter ได้ แน่นอนว่าผู้ใช้งานตามบ้านก็สามารถฟินกับการใช้ QNAP TS-251D มาเป็นระบบ Media server ย่อมๆ ภายในบ้าน ยัดฮาร์ดดิสก์ 10TB ไปซักสองลูก ทำ RAID0 เอาไว้ ได้เนื้อที่ร่วมๆ 20TB ใส่หนัง 4K ได้เกือบพันเรื่องเลยมั้งนั่น

หน้าจอโปรแกรม Plex Media แสดงรายการหนังต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ

หรือถ้ากะว่าจะเอา QNAP TS-251D มาใช้เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูลในบ้าน ให้คนในบ้านทุกคนได้ใช้ร่วมกัน ก็สามารถทำได้ไม่ยาก และการเข้าถึงผ่านพวกคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS หรือ Linux ก็สามารถเข้าได้ผ่านโปรแกรมอย่าง Windows Explorer หรือ Finder อะไรพวกนี้อยู่แล้ว ส่วนพวกสมาร์ทโฟน ทั้ง iOS และ Android ก็สามารถดาวน์โหลดแอป Qfile มาติดตั้ง และใช้งานได้

ส่วนภาคธุรกิจ ถ้าเกิดแบนด์วิธ 1Gbps ของ Gigabit LAN มันไม่พอ ก็สามารถอัพเกรดเป็น 10Gbps ได้ด้วยการ์ด 10GbE เสียบกับสล็อต PCIe ไป แต่ก็ต้องซื้อพวกสวิตช์ 10GbE มาใช้ด้วยนะครับ QNAP TS-251D มีฟีเจอร์ที่ครบเครื่องพอจะรองรับความต้องการของภาคธุรกิจขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะใช้เป็น File server ซะมาก อาจจะมีบางที่อยากจะใช้เป็น Web server, Database server ด้วย ทั้งใช้ภายในกันเอง หรือจะเอามาวางเว็บของบริษัทเอง (แต่ในกรณีนี้ ควรจะได้ IP จริงแบบ Fixed มาจากผู้ให้บริการ เพื่อความสะดวกในการจดทะเบียนโดเมนนะครับ ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย (ยกตัวอย่างราคาจาก True Business)

ฟีเจอร์สำหรับภาคธุรกิจ ที่ QNAP TS-251D รองรับ

นอกจากนี้ QNAP TS-251D ยังพร้อมรองรับกรณีที่ภาคธุรกิจเกิดต้องการขยายเนื้อที่การเก็บข้อมูลผ่านฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ได้แก่

  • Online RAID Migration ในกรณีที่เราจำเป็นต้องอัพเกรดฮาร์ดดิสก์ภายในเครื่องให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเก็บข้อมูลได้มากขึ้น หรือ System Migration ที่สามารถย้ายฮาร์ดดิสก์จาก QNAP NAS เครื่องนึงไปอีกเครื่องได้เลย (เช็ก Compatibility ก่อนดำเนินการนะครับ เพราะบางรุ่นมันไม่รองรับกัน เนื่องจากมีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์แตกต่างกัน)
  • VJBOD ซึ่งสามารถทำให้ QNAP TS-251D มองเนื้อที่บน QNAP NAS เครื่องอื่นๆ เป็นเหมือนฮาร์ดดิสก์ของมันเอง ซึ่งทำได้สูงสุด 8 เครื่อง
  • หรือถ้าเกิดว่าต้องการเพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลจริงๆ และต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูง ก็เพิ่มได้ด้วย Expansion enclosure

อย่างไรก็ดี QNAP TS-251D มันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ในบางด้าน ที่สู้รุ่นสำหรับ Business อย่าง TS-253Be ไม่ได้ เช่น ในส่วนของ Virtual Station นั้น ไม่รองรับ Citrix, VMWare หรือ Microsoft Hyper V เป็นต้น ฉะนั้น ภาคธุรกิจที่อยากจะมองหาตัวเลือกที่ต้นทุนต่ำ แต่ยังอยากใช้ฟีเจอร์พวกนี้ อาจต้องมองข้ามเจ้านี่ไปนะครับ

บทสรุปการรีวิว QNAP TS-251D

สนนราคาของ QNAP TS-251D สองรุ่น คือ 2G (แรม 2GB) ราคา 13,050 บาท และ 4G (แรม 4GB) ราคา 14,800 บาท ถือว่าเป็น NAS ที่ราคาไม่แพงมากจนเกินไป (แต่ก็ไม่ใช่ราคาถูก เพราะต้องไม่ลืมว่าคุณยังต้องหาฮาร์ดดิสก์มาใส่อีกนะ) ด้วยความที่เป็นรุ่นระดับ Home High-end มันเลยสามารถตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจจำพวก SOHO หรือแม้แต่ SMEs หลายๆ รายได้สบายๆ เลยครับ หรือบรรดา Developer ทั้งหลาย ที่ต้องการเซิร์ฟเวอร์สำหรับช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์จำพวก IoT หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ Container Station หรือ Virtualization Station ในการทำงานได้

QNAP TS-251D ก็นับเป็นตัวเลือกของ NAS อีกตัว สำหรับทั้งภายในบ้าน บริษัทเล็กๆ ตลอดไปจนถึงฟรีแลนซ์ ไม่ว่าจะเป็น Software developer หรือแม้แต่ช่างภาพครับ

แชร์โลด:

  • Tweet
  • Print

โพสต์อื่นๆ ที่อาจสนใจ

Related tags : QNAPQNAP NASTS-251D
Share:

Previous Post

Altron จับมือ บีอีซี-เทโร บุกตลาดการศึกษา ส่งมอบ “กระดานอัจฉริยะ” ให้ ม.ศรีปทุม ส่งเสริมห้องเรียนเปียโนอัจฉริยะแห่งแรกในไทย

ผู้ชายใส่สูทสีเข้มสองคน คนซ้ายถือป้าย SPU & BEC TERO Music Innovation Project ส่วนคนขวาถือป้าย Altron Business Solution กำลังยืนอยู่ในห้องปฏิบัติการดนตรี

Next Post

รีวิว Wiko View 4 Lite แค่ 2,999 บาท แต่กล้องดีกว่าที่คิดเยอะ เหมาะที่จะซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ใช้มาก

กราฟิกประชาสัมพันธ์ สมาร์ทโฟน Wiko View 4 Lite

Related Articles

ภาพของจักรยานไฟฟ้า DYU D2F รีวิว

รีวิวจักรยานไฟฟ้า DYU D2F ปั่นก็ได้ ไม่ปั่นก็ชิลล์ – ลองใช้วันแรกก็จัดเต็มจนแบตเกลี้ยงเลย

ภาพกล่องช็อกโกแลตชานมไข่มุก Boba Chocolate จากไต้หวัน รีวิว

รีวิวช็อกโกแลตชานมไข่มุก Boba Chocolate Taiwan จากไต้หวัน

bebird M9 Pro รีวิว

รีวิว bebird M9 Pro Smart Visual Ear Cleaning Pod ไม้แคะหูติดกล้อง ราคา 1,390 บาท มีดียังไง?

ภาพกราฟิกของสมาร์ทโฟน OPPO Reno Series รีวิวเที่ยวไปทั่วไทย

หยิบ OPPO Reno 10x Zoom เที่ยวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ชมหุ่นดินเผาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้

ภาพตัวอย่างการใช้ UGREEN Universal Holder with Flexible Long Arm ในการยึดกับหัวเตียง เพื่อใช้ดูเนื้อหาบนสามาร์ทโฟนโดยไม่ต้องใช้มือจับ รีวิว

รีวิว UGREEN Universal Holder with Flexible Long Arm แขนย้าว-ยาว เอาไว้จับสมาร์ทโฟนแบบหนีบติดโต๊ะก็ได้ หัวเตียงก็ดี

2 Comments

  1. kaikubpom พูดว่า:
    มิถุนายน 28, 2020 เวลา 11:00

    รุ่นนี้สามารถใช้ต่อจอคอมผ่านhdmi เเล้วติดตั้งระบบwindow10หรือ unbuntu หรือ linux ผ่านqnap app centerได้ไหมครับเพื่อใช้งานเหมือนพีซีเครื่องหนึ่ง ผมเคยใช้ qnap 251ตัวที่เป็นซีพียูintel เเล้วเอาจอคอมมาต่อดูหนัง.mkv4gเเล้วกระตุกครับ เเต่รุ่นนั้นน่าจะเป็นซีพียู intel j1800ถ้าตําไม่ผิดครับ

    ตอบกลับ
    1. นายกาฝาก พูดว่า:
      มิถุนายน 28, 2020 เวลา 19:27

      ทำได้ครับ แต่จะหน่วงๆ แน่นอน เพราะหน่วยประมวลผลก็คือ Intel Celeron ครับ แม้จะเป็นรุ่นที่ดีขึ้นก็ตาม เพราะคุณกำลังเอามันมาทำ Virtual machine นะครับ ลองคิดว่าต้องแบ่ง CPU กับ RAM ไปจำลองระบบที่รัน Windows ได้ มันไม่มีทางลื่นเหมือนกับใช้คอมพิวเตอร์ตรงๆ แน่อยู่แล้ว ถ้าอยากให้ลื่นหน่อย ก็ต้องซื้อรุ่นแพงๆ ที่ใช้พวก Core-i เลยครับ (ซึ่งแพงมาก)

      TS-251 ตัวเก่า น่าจะรองรับแค่ Full HD 1080p ครับ เปิด 4K กระตุกนี่ไม่แปลกอยู่แล้ว ตัวตัว TS-251D ใช้ Intel Celeron J4005 ชิปกราฟิกเป็น Intel HD Graphic 600 แล้ว ตัวนี้สเปกพอจะถอดรหัส 4K ได้แล้วครับ ถ้าเอามาต่อดูหนัง 4K ตรงไม่น่าจะมีปัญหา (ตัว HDMI ก็เป็น HDMI 2.0 ที่รองรับ 4K 60Hz)

      ตอบกลับ

Leave a Reply Cancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Translate this blog

อย่าลืมกดไลค์

อย่าลืมกดไลค์

ล่าสุดบ่นอะไรไป?

My Tweets

สับตะไคร้ติดตามบล็อกของผม

ใส่อีเมลของคุณที่เพื่อสมัครเป็นสมาชิกของบล็อกนี้ และรับการแจ้งโพสใหม่ผ่านทางอีเมล

© 2001-2020 kafaak.blog | Theme By WPOperation
ประกาศเรื่องการใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้
เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลการเยี่ยมชม หากยอมรับกรุณาคลิกปุ่มยอมรับด้านล่าง เพื่อยืนยันการเยี่ยมชมต่อ หากคุณไม่ยอมรับคุกกี้ ให้คลิกปุ่มปฏิเสธ แล้วเราจะนำคุณไปที่ Google.com แทน หากสงสัยว่าเราใช้คุกกี้ทำอะไร อ่าน นโยบายคุกกี้ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม

ยอมรับ ปฏิเสธ
คำประกาศการใช้คุกกี้

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these cookies, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may have an effect on your browsing experience.
Necessary
Always Enabled

Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. This category only includes cookies that ensures basic functionalities and security features of the website. These cookies do not store any personal information.

Non-necessary

Any cookies that may not be particularly necessary for the website to function and is used specifically to collect user personal data via analytics, ads, other embedded contents are termed as non-necessary cookies. It is mandatory to procure user consent prior to running these cookies on your website.

SAVE & ACCEPT